ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 185 นักรบซามูไร!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 185 นักรบซามูไร!

“ข้างนอกมีลมแรงหรือ”

นักพรตเฒ่าเดินไปที่หน้าต่างบานสูงยาวจรดพื้นที่ห้องนั่งเล่นแล้วปิดหน้าต่างลง ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ลมก็พัดแรงขึ้นมา พัดเอาต้นไม้และเก้าอี้หวายในลานบ้านส่งเสียงดังกรอบแกรบ

สาวน้อยโลลิละสายตาจากรูปม้าทั้งแปด กระทั่งเดินไปเปิดหน้าต่างที่นักพรตเฒ่าเพิ่งปิดไปและโผล่หัวออกไปข้างนอก จากนั้นนางก็เดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเกินบรรยายทันที

เมื่อมองไปที่โจวเจ๋อที่ยังคงนอนหมดสติอยู่บนโซฟา ในแววตาของสาวน้อยโลลิแผ่รังสีอาฆาตครู่หนึ่ง

“เจ้าจะทำอะไร!”

ไป๋อิงอิงดุทันที

สาวน้อยโลลิชี้ไปที่โจวเจ๋อพร้อมกับก่นด่าออกมา “ไอ้บ้านี่มันปล่อยตัวอะไรออกมากันแน่ เขาพยายามจะขุดหลุมฝังข้าชัดๆ!”

“เกิดอะไรขึ้น” สวี่ชิงหล่างถาม

‘โครม!’

ทันใดนั้น ประตูถูกลมข้างนอกเปิดออก แม้แต่กระจกหน้าต่างที่สูงจรดพื้นก็ยังแตกกระจาย ทั้งห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยเศษกระจกแตก

นักพรตเฒ่าและสวี่ชิงหล่างรีบย่อตัวลงและใช้เสื้อคลุมป้องกันศีรษะตัวเองเอาไว้ ส่วนไป๋อิงอิงหมอบลงไปที่ร่างโจวเจ๋อเพื่อปกป้องเถ้าแก่ของนาง เศษกระจกที่กระจายโดนตัวของไป๋อิงอิงเหล่านั้นถูกดีดกระเด็นออกไปทันที เนื้อแท้ของร่างผีดิบสาวนั้นแข็งแกร่งจริงๆ

สาวน้อยโลลิยืนอยู่ท่ามกลางเศษกระจกที่เต็มไปทั่วท้องฟ้า อย่าให้พูดเลย นางเท่จริงๆ ประกอบกับสีหน้าจิ้มลิ้มและท่าทีที่แสนจะเย็นชาของนาง ช่างให้ความรู้สึกเหมือนถ่ายหนังฟอร์มยักษ์จริงๆ

สไปเดอร์แมนที่อยู่อีกด้านหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตั้งแต่เข้าประตูมา ดูเหมือนเขาคุ้นชินกับท่าทางแบบนี้มานานแล้ว ปกติแล้วหลังจากทำความสะอาดร้านหนังสือเสร็จเขาก็จะหาที่นั่ง จากนั้นก็ไม่ขยับอีกเลย แม้แต่คนบ้าอย่างนักพรตเฒ่าก็หลอกล่อให้เขาขยับไม่ได้ เพียงแค่รู้สึกว่าเจ้าคนนี้ไม่น่าสนใจเท่าเจ้าลิงค้อนทุบที่บ้านเลย

และในเวลานี้ สาวน้อยโลลิจ้องไปที่สไปเดอร์แมนตรงๆ

สไปเดอร์แมนยังคงนั่งต่อไปราวกับว่าเขาไม่รู้สึกอึดอัดกับสายตาจ้องมองของสาวน้อยโลลิเลยแม้แต่น้อย

สาวน้อยโลลิสูดหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยขึ้นทันที “ก่อนอื่น จัดการปัญหาที่นี่ก่อน”

สไปเดอร์แมนยังคงนิ่งอยู่

เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านหนังสือในตอนแรก เห็นชายคนนี้นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นก็นึกว่าเป็นหุ่นประติมากรรม คล้ายๆ กับหุ่นที่วางไว้ในโรงหนังตอนที่กำลังเตรียมจะฉายหนังสไปเดอร์แมน

“ก่อนหน้านี้ข้าสงสัยมาก จุดประสงค์ของการอยู่ทงเฉิงของเจ้าคืออะไรกันแน่ อัฐิของเจ้านั่นเป็นเพียงการค้นพบโดยบังเอิญใช่ไหม และไม่ใช่เหตุผลแท้จริงที่ว่าทำไมเจ้าถึงอยู่ทงเฉิงมาเป็นเวลานาน”

สไปเดอร์แมนยังคงนิ่งเฉย

“ข้าตรวจสอบมาแล้ว โรงแรมรีสอร์ตน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นทรัพย์สินของตระกูลสวี่”

ท้องฟ้าและโลกกว้างใหญ่ ถึงอย่างไรที่นี่ก็คือประเทศจีน ทงเฉิงเป็นเมืองระดับสอง แต่ในความเป็นจริงเป็นเพียงแค่สถานที่เล็กๆ แห่งหนึ่งเท่านั้นเอง อย่างไรเสียเมื่อข้ามแม่น้ำไปก็เป็นเมืองแห่งเวทมนตร์[1] ดังนั้นจึงมีชาวต่างชาติไม่มากนักในทงเฉิง เมื่อชาวบ้านเห็นชาวต่างชาติเดินอยู่บนถนนก็จะชำเลืองมองดูอย่างรู้สึกแปลกหูแปลกตา ไม่เหมือนชาวบ้านในเมืองใหญ่ๆ ที่เห็นคนผมบลอนด์หรือคนผิวดำจนชินตามาตั้งนานแล้ว

สาวน้อยโลลิรู้ดีว่า โจวเจ๋อเป็นคนแรกที่เห็นบาทหลวงในงานศพของครอบครัวหนึ่ง ในเวลานั้นบาทหลวงยืนอยู่ข้างๆ หญิงสาวหลายคนในตระกูลสวี่ ซึ่งคล้ายกับบาทหลวงประจำตระกูล

อีกทั้งเขาเจียงจวินยังเป็นทรัพย์สินของตระกูลสวี่อีก

และตอนนี้กลุ่มโจรสลัดญี่ปุ่นที่ถูกวิญญาณวีรบุรุษปราบปราม ก็คิดจะใช้ความรุนแรงก่อความเคลื่อนไหวอีกครั้งพอดี นี่จะเป็นเรื่องบังเอิญอย่างนั้นเหรอ

สไปเดอร์แมนยังคงมั่นคงดุจเขาไท่ซาน

ลมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังส่งเสียงดังหวีดหวิว สำหรับคนทั่วไปนี่เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของสภาพอากาศที่แสดงว่าฝนใกล้จะตกแล้ว แต่นี่แม้แต่สวี่ชิงหล่างยังมองออกว่า ในสายลมนี้แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความชั่วร้ายรุนแรง นี่เป็นสัญญาณว่ามีสิ่งชั่วร้ายกำลังออกมาจากภูเขา!

สาวน้อยโลลิสูดหายใจเข้าลึก นางโกรธมาก!

ทำไมต้องเป็นเจ้าบ้าโจวเจ๋อคอยสร้างเรื่องต่างๆ ให้ทุกครั้ง แล้วนางยังต้องมาตามล้างตามเช็ดอย่างเอาเป็นเอาตายให้เขาด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่ต้องตามล้างตามเช็ดในคราวนี้สาวน้อยโลลิไม่อยากทำก็จำเป็นจะต้องทำ เพราะนางก็เป็นยมทูตในทงเฉิง ซึ่งหมายความว่านางมีหน้าที่จัดการกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในทงเฉิงทั้งหมด เพียงแค่มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติส่งผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ถ้าเกิดมีความผิดพลาดนางต้องรับผิดชอบโดยตรง

ที่มันเทียบเท่ากับการนั่งอยู่ที่บ้านแล้วจู่ๆ ภัยพิบัติก็ร่วงลงมาจากสวรรค์ สาวน้อยโลลิรู้สึกแย่มาก ตั้งแต่นางได้พบกับคนไม่เอาถ่านคนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่เคยใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเลย

‘ปุด…ปุด…ปุด…’

บ่อน้ำพุร้อนเริ่มเดือดปุดๆ ที่จริงแล้วก๊อกน้ำไม่ได้เปิด แต่น้ำก็ไหลย้อนกลับจากรูระบายด้านล่างออกมา จากนั้นทั้งลานบ้านก็เริ่มพังทลาย พื้นหินกรวดก็ยุบถล่มลงมาทันที กระทั่งแม้แต่ห้องนั่งเล่นมากกว่าครึ่งก็ยุบพังทลายลงมาพร้อมๆ กัน

ไป๋อิงอิงรีบแบกร่างเถ้าแก่ของนางไว้บนหลัง แล้วหลบไปข้างหลังเพื่อกันไม่ให้เถ้าแก่กลิ้งตกลงไปพร้อมกัน

ภายในรีสอร์ตปรากฏหลุมขึ้น และภายใต้หลุมนั้นมีแผ่นป้ายโลหะชำรุดทรุดโทรมอยู่หนึ่งแผ่น บนแผ่นป้ายนั้นยังมีรูกระสุนอยู่จำนวนมาก

ว่ากันว่าหลังจากปีศาจบุกเข้ามาในทงเฉิง พอได้รู้ว่ามีสุสานวาโกะและวัดเจียงจวินอยู่ที่นี่ จึงตั้งใจเข้ามาทำลายทิ้ง รูกระสุนบนแผ่นป้ายโลหะน่าจะหลงเหลืออยู่ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

เมื่อดูก็รู้ว่ามันถูกคนจงใจย้ายมา และในขณะเดียวกันก็เรียกได้ว่า ‘ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด’ จงใจสร้างทั้งรีสอร์ตขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ด้านล่างแผ่นป้ายเป็นรูปปั้นหัวขาด สีของรูปปั้นได้รับความเสียหายไปนานแล้ว เป็นรูปปั้นชายถือดาบควบม้า บอกได้ถึงความวิเวกวังเวงอย่างหนึ่ง

มีกล่องอยู่ข้างๆ รูปปั้นสามกล่อง กล่องพังไปเกินกว่าครึ่งนานแล้ว จะเห็นได้จากข้างในว่าของที่เก็บเอาไว้น่าจะเป็นสิ่งของคล้ายๆ เกราะ

‘กึก! กุก! กัก!’

เสียงที่เกิดจากการสั่นไหวดังออกมาจากกล่องด้านล่างเป็นระยะๆ จากนั้น จู่ๆ เงาสีดำก็พุ่งขึ้นมาและผลุบลงไปในกล่องใบหนึ่งทันที จากนั้นกล่องที่ผุพังก็พลันระเบิดออกมา ชุดเกราะค่อยๆ ลุกขึ้นมาจนมีความสูงเท่ากับคน แต่เกาะก็ยังลอยอยู่อย่างนั้น และไม่มีใครสวมอยู่ด้านใน

“โอ้…”

เสียงของคนผ่านโลกมาโชกโชนดังออกมาจากชุดเกราะ

ราวกับถูกปลุกให้ตื่นจากการหลับใหลมานาน

“ไฮ…”

‘ปัง!’

ดาบซามูไรขึ้นสนิมโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ ตกลงไปอยู่มือของนักรบซามูไรในชั่วพริบตา

นักรบซามูไรมองชุดเกราะอีกสองชุดที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา ราวกับรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่าทำไมสหายอีกสองคนของเขาถึงไม่ตื่นขึ้นมาพร้อมกัน จากนั้นเขาก็มองไปยังรูปปั้นที่อยู่ด้านหลัง

เมื่อห้าร้อยปีก่อน ถูกเจ้าคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ขวางพวกเขาเอาไว้ แต่ห้าร้อยปีต่อมาถึงเวลาต้องจบเสียที!

สาวน้อยโลลิหรี่ตาลง อ้าปากกว้าง จากนั้นลิ้นก็ตวัดออกมาอย่างรวดเร็วและแปรเปลี่ยนเป็นแส้ฟาดฟันใส่นักรบซามูไรอย่างดุเดือด

ราวกับนักรบซามูไรมีตาอยู่ด้านหลังอย่างไรอย่างนั้น ใช้ดาบซามูไรฟันเข้ามาและจับลิ้นดึงเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็จับลิ้นสาวน้อยโลลิดึงถอยกลับ

ทั้งร่างของสาวน้อยโลลิลอยถลาขึ้นไปบนอากาศคล้ายกับว่าวถูกจูง แต่ก็ยังเกี่ยวรัดพันแน่นอย่างไม่ยอมแพ้ นางรู้ดีว่าไม่อาจปล่อยให้รูปปั้นพังลงมาได้ ไม่อย่างนั้นอีกสองตัวที่เหลือจะถูกปล่อยออกมา อีกทั้งพวกมันจะยิ่งไร้ขีดจำกัด

บางคนอาจจะถามว่าทำไมถึงไม่ทำลายรูปปั้นเสียก่อน

แต่ในความเป็นจริง ถ้ารูปปั้นถูกทำลายไปก่อนหน้านี้ สามตัวนั้นก็จะถูกทำลายไปพร้อมๆ กันด้วย คล้ายกันกับผลไม้ยังไม่สุกแต่ขุดรากมันออกมาก่อนเสียแล้ว

“งี่เง่า…”

ดาบในมือนักรบซามูไรฟันลงไป สาวน้อยโลลิตัวสั่นสะท้านและหดลิ้นกลับไปโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ยังกระโดดลงไปในหลุม นางไม่มีทางเลือก จำเป็นจะต้องหยุดมัน และจำเป็นจะต้องทำให้ถึงที่สุด

ในเวลานี้ไป๋อิงอิงได้สติกลับมาแล้ว ตะโกนเรียกนักพรตเฒ่า “ปกป้องเถ้าแก่ด้วย”

ทันใดนั้น นางก็มองสไปเดอร์แมนที่นั่งอยู่ข้างๆ “ไปกับข้า!” จากนั้นไป๋อิงอิงก็กระโดดลงไปในหลุมทันที สไปเดอร์แมนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยตอบสนองต่อคำพูดแสนเย็นชาของสาวน้อยโลลิ ก็รีบลุกขึ้นและกระโดดลงไปพร้อมกัน

นักพรตเฒ่ามองสวี่ชิงหล่างพลางเอ่ยขึ้น “ข้าจะปกป้องเถ้าแก่เอง เจ้าก็ลงไปเถอะ”

“…” สวี่ชิงหล่าง

สวี่ชิงหล่างสูดหายใจเข้าลึกแล้วร่ายเกราะหัวใจของเขาออกมา ยังไม่ทันจะกระโดดลงไป สาวน้อยโลลิก็ลอยย้อนกลับออกมา ทั้งตัวกระแทกเข้ากับร่างสวี่ชิงหล่างอย่างแรง พาสวี่ชิงหล่างล้มกลิ้งไปข้างหลังพร้อมๆ กัน

สาวน้อยโลลิลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เลือดไหลซิบออกมาจากมุมปาก แต่รีบพลิกลิ้นเลียเลือดกลับเข้าไปปากของนาง จากนั้นก็พุ่งเข้าไปอีกครั้ง

ต่อมาเป็นไป๋อิงอิง ไป๋อิงอิงถูกนักรบซามูไรฟันเข้ากลางลำตัวอย่างจัง แม้จะไม่ได้รับความเสียหายมากมาย แต่ตัวมีดกลับชะล้างปราณวิญญาณชั่วร้ายบนกายนางโดยตรง ทำให้ไป๋อิงอิงถอยหลังโซซัดโซเซอย่างต่อเนื่อง

ตรงกันข้ามกับสไปเดอร์แมนที่ต่อสู้ตอบโต้กับนักรบซามูไรอย่างต่อเนื่อง จนนักรบซามูไรส่งเสียงประหลาดใจออกมาไม่หยุด

เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักบาทหลวง แต่ในตอนนี้เขาไม่รู้ว่าทำไมชนรุ่นหลังที่มีเชื้อชาติเดียวกันกับเขาถึงได้สู้กลับในเวลานี้

โจวเจ๋อไม่รู้ว่าสถานการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงอันตรายแค่ไหน ตอนนี้เขาไม่มีเวลากลับไปที่ห้องเพื่อดูสถานการณ์ภายนอกผ่านกระจก

ตอนนี้เขาตกอยู่ท่ามกลางฝูงชน เฝ้าดูวิญญาณเดินเข้าไปในวงกลมที่ธงตั้งอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับแบตเตอรี่ก้อนแล้วก้อนเล่าถูกใส่เข้าไปข้างใน

และระหว่างธงกับชุดเกราะ มีผู้ชายสามคนในชุดเครื่องแบบทหารญี่ปุ่นถือดาบซามูไรวิ่งเป็นวงกลมพลางร้องเพลงทหารญี่ปุ่นไปด้วย

พวกเขาตายแล้ว แต่เหมือนไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว ยังคงคิดว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ และกำลังเพ้อฝันว่าพวกเขากลายเป็นคนญี่ปุ่นอยู่

อันที่จริงการกระทำของพวกเขาเป็นการดึงดูดวิญญาณที่ตายแล้วให้เข้ามาใกล้

ที่จริงแล้วด้านหลังธงนั้นสามารถมองเห็นภาพหลอนขนาดยักษ์ได้รางๆ ท่ามกลางภาพหลอนมีชายคนหนึ่งควบม้าอยู่ ดูสง่างามมาก แต่เงาของเขาบิดเบี้ยวและพร่ามัวอยู่ตลอดเวลา

“มันคืออะไรน่ะ ปีศาจที่ถูกปราบปรามเหรอ” สาวญี่ปุ่นหาโจวเจ๋อเจอแล้ว จึงมายืนถามอยู่ข้างๆ โจวเจ๋อ

ในทางกลับกันเธอไม่ได้มีความรู้สึกว่านักรบซามูไรคือกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกับเธอ อย่างไรเสียสาเหตุที่เธอถูกหั่นร่างก็เพื่อใช้เป็นของสังเวยให้กับเกราะสามชุดที่อยู่ตรงหน้านี้ในตอนแรก

ในสายตาของเธอ ของพวกนี้ไม่ใช่คนชาติพันธุ์เดียวกับเธอ แต่เป็นปีศาจที่โหดเหี้ยมตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ใช่” โจวเจ๋อพยักหน้า

“ทำไมปีศาจพวกนี้ถึงหลุดพ้นออกมาได้” สาวญี่ปุ่นถาม

โจวเจ๋อชี้ไปที่ชายสามคนในชุดเครื่องแบบทหารญี่ปุ่นที่ยังคงกระโดดโลดเต้นไปมาแล้วพูดขึ้น

“เพราะคนที่ปลดปล่อยพวกเขา เป็นคนจีนน่ะ”

………………………………………………….

[1] เมืองแห่งเวทมนตร์ หมายถึง เซี่ยงไฮ้ที่เติบโตและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท