ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 186 อัญเชิญอะไรมาเนี่ย!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 186 อัญเชิญอะไรมาเนี่ย!

ที่จริงแล้ว ฝีมือการต่อสู้ของนักรบซามูไรไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น แต่ทักษะการเคลื่อนไหวและประสบการณ์ของเขานั้นสมบูรณ์แบบมากอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นมักจะได้เปรียบในการประมืออยู่บ่อยครั้ง แต่ความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีของเขานั้นกลับไม่ค่อยรุนแรงนัก

สาวน้อยโลลิยังเชื่อมั่นว่าสามารถรับมือกับเขาได้ ส่วนไป๋อิงอิงทุกครั้งหลังจากถูกโจมตี อาศัยว่าร่างกายของนางมีความอึดถึกทน นางยังสามารถทนต่ออาการบาดเจ็บเหล่านี้ได้ รีบลุกขึ้นมาใหม่เพื่อต่อสู้ต่อไป ส่วนสไปเดอร์แมนยังสามารถต่อสู้ต่อได้อย่างพอฟัดพอเหวี่ยง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทหารที่สวมชุดเกราะ ชุดเกราะนั้นเป็นเพียงชุดป้องกันของทหารเท่านั้น มันไม่มีอะไรมากไปกว่าประสิทธิภาพในการลดความบาดเจ็บบางส่วน อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีที่สามารถเลี่ยงชุดเกราะหรือแม้กระทั่งผ่านชุดเกราะไปโจมตีทหารโดยตรง

เพียงแต่

นักรบซามูไรตรงหน้า มันไม่มีแม้แต่เลือดเนื้อ ไม่มีตัวตนอยู่เลย

เหมือนมีมวลอากาศกลุ่มหนึ่งกำลังโอบอุ้มชุดเกราะซามูไรสีดำชุดนี้ในการต่อสู้ ดังนั้น ทุกครั้งที่พวกไป๋อิงอิงโจมตีล้วนแล้วแต่ตกลงไปบนเกราะเพียงเท่านั้น ประสิทธิภาพที่ได้นั้นน้อยยิ่งกว่าน้อยเสียอีก

เว้นแต่จะสามารถฉีกหรือทุบมันให้แตกหักทันที แต่เกราะนี้ในเมื่อห้าร้อยปีก่อนไม่น่าจะใช่ของธรรมดา ทั้งยังผ่านการดูแลบำรุงมาตั้งห้าร้อยปี มันเกินขอบเขตความหมายของคำว่าเกราะแกร่งทั่วไปมาตั้งนานแล้ว อยากจะทุบมันแตกทันที มันยากมาก ยากมากจริงๆ

และด้วยเหตุนี้ แม้ว่าในตอนนี้นักรบซามูไรผู้นี้จะสู้หนึ่งต่อสามก็ตาม แต่มันยังไม่พลาดท่าเลยแม้แต่น้อย

“ปิดผนึกมัน!”

สาวน้อยโลลิตะโกนบอกไป๋อิงอิงและสไปเดอร์แมน ตอนนี้ต้องถอยมาทำตามแผนสองไปก่อนชั่วคราว เพราะถ้านางไม่จงใจขวางทางข้างหลังเอาไว้ตลอดละก็ นักรบซามูไรผู้นี้อาจจะสบโอกาสทำลายรูปปั้นของแม่ทัพเฉาติ่งให้สิ้นซากไปแล้ว

ลำพังแค่หนึ่งก็กำจัดยากขนาดนี้แล้ว ถ้ามาอีกสองละก็ สถานการณ์ในที่นี้จะต้องพลิกผันอย่างแน่นอน

ไป๋อิงอิงพยักหน้าแล้วกระโจนพุ่งเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้ทั้งสไปเดอร์แมนและไป๋อิงอิงพุ่งขนาบเข้าหาด้วยความเร็วพอกันจากคนละฝั่ง

ดาบซามูไรถูกพลิกกลับ ปลายดาบแทงเข้าต้นขาของสไปเดอร์แมน จากนั้นก็ฟันฉับตามแนวขวางอย่างรวดเร็ว ทั้งกระบวนท่าปราดเปรียวและเรียบง่าย

ร่างของสไปเดอร์แมนถูกฟันเป็นแนวยาว และเริ่มรุดถอยหลังไปทั้งตัวจนสุดท้ายทรุดตัวลงกับพื้น ชุดของสไปเดอร์แมนก็ถูกฟันขาดกระจายร่วงลงบนพื้น บริเวณปากแผลมีน้ำหนองส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไหลนองออกมาอย่างต่อเนื่องจนน่าตกใจ

ไป๋อิงอิงหรี่ตาลง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นางสังเกตเห็นว่าเมื่อเทียบกับตอนที่เริ่มต่อสู้กัน ความแข็งแกร่งของนักรบซามูไรผู้นี้ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน!

เพียงไม่นานความรู้สึกนี้ก็ได้รับการยืนยัน

‘ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!’

นักรบซามูไรรัวหมัดใส่ไป๋อิงอิง ตัวมันนิ่งอยู่กับที่ กลับกันไป๋อิงอิงเริ่มรุดถอยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในวินาทีต่อมา นักรบซามูไรก็โผล่ขึ้นทางด้านหลังไป๋อิงอิงด้วยความรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ตามด้วยฟันเฉือนลงไป

‘ชิ้ง!’

เมื่อดาบสัมผัสเข้ากับไป๋อิงอิงจนเกิดเสียงเสียดสีแสบหูออกมา ไป๋อิงอิงถูกฟาดลอยกระเด็นออกไป ปราณวิญญาณชั่วร้ายบนร่างแผ่ซ่านออกมาไม่หยุด หลังจากไป๋อิงอิงล้มลงกับพื้นก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วได้เหมือนก่อนหน้านี้ ทำได้เพียงหมอบอยู่ที่พื้นและใช้สองมือพยุงร่างกายของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเจ็บปวดอย่างสาหัส

ราวกับว่าภายใต้หมวกเกราะมีดวงตาสีแดงก่ำคู่หนึ่งจ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ จากนั้นนักรบซามูไรก็เริ่มเร่งความเร็วพุ่งไปทางสาวน้อยโลลิที่อยู่ด้านหน้า

สาวน้อยโลลิกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นางสามารถหลบไปได้ แต่ด้านหลังของนางเป็นรูปปั้นของแม่ทัพเฉาติ่ง นางเกลียดความรู้สึกที่ไร้ทางออกแบบนี้มาก ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีความกล้าหาญและเต็มใจจะเป็นฮีโร่

แต่ในเวลานี้ นางก็ยังคงอ้าแขนกางออกและเขย่งปลายเท้าขึ้น หลังจากยื่นลิ้นขยายออกไป กระแสน้ำวนสีดำสายหนึ่งก็พัดออกมา

‘ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!’

ภายใต้การฟาดฟันดาบของนักรบซามูไรในแต่ละครั้ง ร่างของสาวน้อยโลลิจะสั่นสะท้านตามอยู่เสมอ แต่นางก็ยังไม่ยอมถอย

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ

ทันใดนั้นนางก็พบกับความประหลาดใจ ความแข็งแกร่งของนักรบซามูไรตรงหน้าราวกับการนั่งรถไฟเหาะ ในตอนแรกมันราบเรียบ แต่จู่ๆ มันก็เพิ่มสูงขึ้น และด้วยเหตุนี้จึงสามารถเอาชนะสไปเดอร์แมนและไป๋อิงอิงได้ทันที แต่ในเวลานี้ ความแข็งแกร่งของมันดูเหมือนจะลดลงอีกครั้ง

“สวรรค์และโลกไร้ขอบเขต ใจลึกล้ำคือธรรมะ!”

เมื่อเล็งเห็นโอกาสนี้ สวี่ชิงหล่างก็ปรากฏตัวพร้อมกับเกราะหัวใจของเขา เขารู้ดีว่าความแข็งแกร่งของเขามันเป็นเรื่องยากมากที่จะมีบทบาทในการเผชิญหน้าตัวต่อตัวอย่างชัดเจนจนเกินไป ดังนั้นก็แค่เลือกลงมือให้ถูกเวลาก็พอ

บอกเลยว่าเวลาที่สวี่ชิงหล่างเลือกนั้นดีมากจริงๆ

เกราะหัวใจติดอยู่บนชุดเกราะโดยตรง ทำให้ร่างของนักรบซามูไรเริ่มสั่นขึ้นมาราวกับถูกไฟฟ้าช็อต แต่แล้วจู่ๆ ดาบซามูไรก็หันกลับมาเองและเล็งไปที่สวี่ชิงหล่าง

แม้ว่าสวี่ชิงหล่างจะเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม หลังจากที่ลงมือสำเร็จก็เลือกที่จะถอยอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังถูกดาบฟาดฟันอยู่ดี ร่างของเขากระโจนโค้งสวยงามในอากาศและพุ่งตรงไปนอกหลุม โชคดีที่ตอนที่ตกลงมาดันตกลงบนโซฟาพอดิบพอดี ไม่อย่างนั้นอาจตกลงไปตายได้เลย

นักพรตเฒ่าปีนเข้ามาตรวจเช็กดูสถานการณ์ของสวี่ชิงหล่าง เมื่อเห็นว่าเขาหมดสติก็รีบใช้มือตบหน้าสวี่ชิงหล่างทันที

“ผมยังไม่ตาย…” สวี่ชิงหล่างพูดออกมาอย่างยากลำบาก

“แม่งเอ๊ย เจ้าบ้านี่มันแข็งแกร่งจริงๆ พวกเจ้ามีกันตั้งหลายคนยังเอาชนะมันไม่ได้”

นักพรตเฒ่าโผล่หัวไปดูแล้วพบว่า สาวน้อยโลลิยังยืนหยัดไม่ยอมอ่อนข้อให้กับนักรบซามูไรอยู่ และถ้าหากว่าสาวน้อยโลลิพ่ายแพ้ อย่างนั้นเกมนี้นับว่าจบเห่แล้วจริงๆ

“คุณ…ลงไปช่วย…”

สวี่ชิงหล่างก้มลงไปเหลือบมองหน้าท้องของตัวเอง มีบาดแผลอยู่ตรงนั้น ที่จริงมันอันตรายมากจริงๆ ถ้าเขาถอยออกไปช้าแค่นิดเดียวละก็ ทั้งตัวของเขาอาจจะถูกผ่าครึ่งไปแล้วก็ได้

“เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว อาการบาดเจ็บของเจ้าพูดมากไม่ได้” นักพรตเฒ่าพูดอย่างจริงจัง

สวี่ชิงหล่างใช้มือกดปิดบาดแผลของเขาเอาไว้เพื่อกันไม่ให้เลือดไหลเร็วจนเกินไป ส่วนมืออีกข้างหนึ่งคว้าต้นแขนนักพรตเฒ่าเอาไว้แน่นแล้วจ้องเขาเขม็ง

นักพรตเฒ่าถูกจ้องจนทำอะไรไม่ถูก

เชี่ยเอ๊ย พวกเจ้าไม่รู้ระดับฝีมือของข้ากันหรือไง ให้ข้าไปเนี่ยนะ

นักพรตเฒ่าไม่อยากเข้าไปร่วมจริงๆ

“อัญเชิญเทพเป็นไหม” สวี่ชิงหล่างเอ่ยปากถาม

“เอ่อ เคยเล่นมาก่อน แต่นั่นมันแค่ตบตาคนเฉยๆ นะ” ในเวลานี้นักพรตเฒ่าไม่ถือสาและเปิดเผยข้อบกพร่องของเขา

สวี่ชิงหล่างหยิบยันต์เล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา มันเล็กกว่ายันต์ของนักพรตเฒ่ามากทีเดียว

“แปะมันไว้บนหน้าผากตัวเอง แล้วลองอัญเชิญเทพประทับร่างดู!”

“จะได้ผลหรือ” นักพรตเฒ่าไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด

เครื่องมือง่ายๆ ใช้งานง่ายๆ ขั้นตอนง่ายๆ

อัญเชิญเทพมันง่ายขนาดนี้เลยหรือ

อย่างนั้นพวกแก๊งเทพปลอมๆ ริมถนนยังต้องหลอกคนอีกหรือ

“ที่นี่ในตอนนี้มีพลังหยินมาก ผีก็มาก คุณอัญเชิญเทพอะไรก็ได้ประทับร่าง อย่างน้อยก็ต่อสู้ได้ดีกว่าคุณในตอนนี้แหละน่า!”

หลังจากสวี่ชิงหล่างพูดเรื่องพวกนี้จบก็ไอหนักๆ สองสามครั้งจนกระอักเลือดออกมา

นักพรตเฒ่าอ้าปากเหมือนลังเลอยู่ นักพรตเฒ่ากลัวตาย กลัวตายจริงๆ อีกทั้งพิธีอัญเชิญเทพยังง่ายถึงขนาดนี้ หากพูดให้ไพเราะเรียกว่าอัญเชิญเทพ ถ้าพูดไม่ไพเราะละก็จะเป็นการยอมให้ผีเล็กผีน้อยที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงมาสิงร่างเขา เพื่อกระตุ้นศักยภาพของเขา ผลที่ตามมามันจะต้องน่ากลัวแน่ๆ

แต่ในเวลานี้ นักพรตเฒ่าเห็นสาวน้อยโลลิที่จู่ๆ ก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งอย่างชัดเจน พร้อมกับมีเลือดไหลซิบออกจากมุมปาก เห็นได้ชัดว่านางใกล้จะต้านมันไว้ไม่อยู่แล้ว

สิ่งที่นักพรตเฒ่ารู้ดียิ่งกว่านั้นคือ เมื่อไรที่สาวน้อยโลลิพ่ายแพ้ ไม่ว่านักรบซามูไรผู้นั้นจะทำลายรูปปั้นทิ้งหรือไม่ ตัวเขาเองที่อยู่ทางนี้ก็จะจบเห่ไปด้วย

เถ้าแก่ที่สามารถประมือได้ ยังนอนหลับสนิทอยู่!

ในใจของนักพรตเฒ่าสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของ ‘ลมโชยชายฝั่งแม่น้ำอี้อันหนาวเหน็บ’ ทันที แต่ยังคงนำยันต์ที่สวี่ชิงหล่างมอบให้ติดลงบนหน้าผากของตัวเอง

“อัญเชิญเทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่ประทับร่าง!”

นักพรตเฒ่าไม่ได้ร่ายคาถาอัญเชิญเทพของลัทธิเต๋า แต่กลับทำเหมือนระบำเทพของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเสียอย่างนั้น ทั้งยังกระโดดโลดเต้นไม่หยุด ท่าทางดูตลกขบขันมาก

ทันใดนั้นร่างของนักพรตเฒ่าสั่นสะท้าน จากนั้นใช้สองมือพยุงเข่าของตัวเองเอาไว้ ร่างกายท่อนบนก้มต่ำลงมา

สวี่ชิงหล่างกุมบาดแผลบนหน้าท้องของเขาด้วยความลำบาก ส่วนสายตาที่มองนักพรตเฒ่าแฝงไปด้วยความหวัง ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ที่ขอให้นักพรตเฒ่าอัญเชิญผีประทับร่างก็เพราะว่าอับจนหนทางแล้ว สามารถใช้พลังต่อสู้ได้ก็ต้องใช้แล้วละ ขายุงจะเล็กแค่ไหนก็ยังเป็นเนื้ออยู่ไม่ใช่หรือ

ยันต์แผ่นนั้น ไม่ใช่ยันต์ที่อัญเชิญเทพมาประทับร่างจริงจังอะไร ที่จริงมันเป็นกุญแจสำคัญที่สวี่ชิงหล่างใช้มันเข้าไปในหมู่บ้านซานเซียงได้ในตอนแรก หน้าที่ของยันต์คือการระงับพลังหยางของคนเป็นและปิดไฟสามดวงในร่างกาย เพื่อให้วิญญาณเข้าร่างได้ง่ายขึ้น

นักพรตเฒ่าค่อยๆ เงยหน้าขึ้น สายตาของเขาหันไปหาสวี่ชิงหล่างที่นอนอยู่บนพื้น แล้วยิ้มอย่างขมขื่น

“แม่งเอ๊ย มันไม่ได้ผล หรือเป็นเพราะพลังหยางของข้ามีมากเกินไปหรือเปล่า”

สวี่ชิงหล่างหันหน้ากลับอย่างหดหู่ เขาสิ้นหวังแล้ว

นักพรตเฒ่ายังแปะยันต์ไว้บนหัวอยู่ เมื่อครู่นี้เขากระโดดโลดเต้นจนเหนื่อยหอบ จากนั้นเอื้อมมือออกไปลูบเป้ากางเกงโดยไม่รู้ตัว แต่น่าเสียดาย ยันต์ถูกใช้ไปนานแล้ว

“โฮก!”

เสียงคำรามของวิญญาณดังลอยมาจากนักรบซามูไร

จากนั้นนักรบซามูไรก็เข้าโจมตีสาวน้อยโลลิทันที ถึงทำไม่ได้แต่ต้องพยายามแล้วละ เมื่อดาบสับฟันลงมา สาวน้อยโลลิยกมือขึ้นจับดาบซามูไรเอาไว้ ขณะเดียวกันลิ้นของนางก็แทงทะลุเกราะของนักรบซามูไร แต่นักรบซามูไรใช้เท้าเตะกลางลำตัวของสาวน้อยโลลิอย่างรุนแรงไปหนึ่งที

‘โครม!’

สาวน้อยโลลิลอยกระเด็นออกไปกระแทกลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง

เกราะของนักรบซามูไรเสียหายอย่างรุนแรง อีกทั้งยังร้าวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่ามันใกล้จะแบกรับภาระนี้ไม่ไหวแล้ว แต่มันก็ยังพยายามพุ่งไปที่รูปปั้นของแม่ทัพเฉาติ่งอย่างเต็มที่

“ฉิบหาย!”

นักพรตเฒ่าตบต้นขา ในเวลานี้กลิ่นอายของชายชาตรีปรากฏออกมา เขาหยิบก้อนปูนที่แตกหักอยู่ข้างๆ ขึ้นมาแล้วกระโดดลงไป พุ่งไปหานักรบซามูไรผู้นั้น

นักพรตเฒ่าสู้สุดใจ และไม่มีทางให้ถอยได้แล้ว

ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนกับว่ากองทัพประจำการที่ป้องกันเมืองถูกสังหารเรียบ เหลือเพียงคนชราที่อ่อนแอ สตรี และเด็กเท่านั้นที่สามารถลุกขึ้นไปต่อกรได้

ต้องบอกว่า นักพรตเฒ่ากำหนดตำแหน่งของตัวเองได้แม่นยำมาก

แม้ว่านักรบซามูไรจะถูกสาวน้อยโลลิทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่แมลงร้อยขาถึงตายก็ไม่ล้ม มันหันหน้ากลับมาทันทีและฟันฉับตามแนวขวาง นักพรตเฒ่าตัวสั่นไปด้วยความกลัว

แต่จะพูดว่าสายไปแล้วมันยังเร็วไป จู่ๆ ยันต์ที่แปะบนหัวของนักพรตเฒ่าฉีกขาดลง พร้อมกันนั้นอารมณ์ความรู้สึกทั้งร่างของนักพรตเฒ่าก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน หลบดาบได้ทันท่วงที ในขณะเดียวกันฝ่ามือของนักพรตเฒ่ากดลงไปด้านหลังดาบซามูไร คมดาบแทงลงพื้นตามแรงเฉื่อย ตัวนักพรตเฒ่ากลับเข้าใกล้นักรบซามูไรอย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวจนไหล่กระแทกเข้ากับหมวกเกราะของนักรบซามูไรอย่างแรง

‘ปัง!’ เสียงดังฟังชัด

เกราะบนร่างนักรบซามูไรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างอีกครั้ง ร่างนั้นโซซัดโซเซและเริ่มถอยหลังไปเรื่อยๆ เหมือนกับของเล่นพลาสติกที่กำลังจะแตกเป็นชิ้นๆ

แต่นักรบซามูไรไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของมัน ในเวลานี้ดวงตาสีแดงก่ำที่แฝงไปด้วยความแวววาวเป็นพิเศษคู่นั้นจ้องนักพรตเฒ่าตาเขม็ง

ในสายตาที่จ้องมองนี้แฝงไปด้วยความหวาดหวั่นและความเคร่งเครียด

กระทั่งยังมีบางสิ่งที่เรียกว่าความหวาดกลัวด้วย

นักพรตเฒ่าดึงดาบซามูไรออกจากพื้น กวัดแกว่งดาบอย่างชำนาญ ทันใดนั้นก็ยกดาบขึ้นชี้นักรบซามูไร พร้อมกับเปล่งเสียงแหบแห้งแต่ดังสนั่นออกจากปากสองคำ

“ฆ่าญี่ปุ่น!”

…………………………………………………..

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท