ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 223 คนซื่อสัตย์

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 223 คนซื่อสัตย์

‘บุ๋ง…บุ๋ง…’

โจวเจ๋อจำได้ว่าเขาจมลงไปในน้ำหลายครั้ง แต่ตอนนั้นไม่อยู่ในนรกก็อยู่ในฝัน โดยเฉพาะเมื่อเคยผ่านเหตุการณ์ที่เจอกับหญิงไร้หน้าที่สระน้ำ

แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ความรู้สึกหายใจไม่ออกและวิกฤตครั้งนี้รุนแรงมาก ตั้งแต่วินาทีที่เขาถูกดึงลงมา เขารู้ว่าชีวิตของเขาเริ่มนับถอยหลังแล้ว

ไม่เสียใจที่พุ่งไปช่วยถังซือในเวลานั้นเลย แม้ว่าทั้งสองคนจะเพิ่งทะเลาะกันไปก็ตาม ถึงเถ้าแก่โจวจะหมั่นไส้กับนิสัยของยัยป้าหน้าเหม็นถังซือ ที่ทำราวกับว่าในโลกใบนี้นอกจาก ‘คนตาบอด’ แล้ว ผู้ชายคนอื่นดูเหมือนจะขัดหูขัดตาไปเสียหมดเช่นกัน

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ถังซือตั้งใจมาจากเซี่ยงไฮ้เพื่อช่วยเขาโดยเฉพาะ ถ้าหากตอนนั้นเขายืนมองดูเฉยๆ มันก็คงจะใจร้ายไปหน่อยแล้ว

ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คล้ายกับตอนไฟไหม้โรงหนังในตอนแรก เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายตรงเข้าไปในกองไฟเพื่อช่วยชีวิตผู้คนเลยทันที

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แม้ว่าบางครั้งถังซือจะดูเข้มแข็งมาก แต่ร่างกายของเธอเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่มากอย่างหนึ่งอยู่ดี พอถูกเข้าประชิดตัว เธอก็ทำอะไรได้ยาก แต่ตัวเขาอย่างน้อยยังมีโอกาสสู้ดูสักยก

‘บุ๋ง…บุ๋ง…’

ฟองอากาศผุดออกมาจากปากกับปลายจมูกอย่างต่อเนื่อง อากาศในปอดเริ่มน้อยลงไปทุกที

แต่ร่างพังเละที่มีเพียงครึ่งหน้ายังเกาะเขาเอาไว้แน่น เถาวัลย์ที่ก่อตัวขึ้นจากต้นหญ้าถักทออย่างต่อเนื่อง ทำให้ใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งสมบูรณ์แบบ

ใบหน้าเดิมด้านซ้ายยังคงสงบนิ่ง แต่ใบหน้าสีเขียวด้านขวานั้นดูดุร้ายอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่ามีความแค้นอย่างท่วมท้น ดูไม่เหมือนคนเดียวกันเลยสักนิด มันเหมือนเป็นการแสดงอุดมการณ์อีกอย่างหนึ่งมากกว่า

อีกฝ่ายดูเหมือนจะเกลียดเขามาก เกลียดเขาที่ไม่ยอมให้จับถังซืองั้นเหรอ

จุดประสงค์ที่เขาอยากจะจับถังซือลงมา คืออะไรอีกล่ะ

‘พรวด…’

อีกฝ่ายกดเขาลงไปอย่างต่อเนื่อง ที่จริงมันก็ไม่ได้ลึกขนาดนั้น ความลึกจากปากโพรงถ้ำจนถึงก้นถ้ำเพียงสิบกว่าเมตร แต่เมื่ออยู่ด้านล่าง โจวเจ๋อมองเห็นรากไม้เก่าแก่ที่ครองพื้นที่ตรงนั้น รากไม้ไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิดไว้ ตรงกันข้ามมันกลับดู ‘อ้อนแอ้น’ มากกว่า แต่ก็ยังดูเหมือนจะงดงามและละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ ใบหน้าที่ดูเหมือนทั้งชายและหญิงบิดตัวไปมาอยู่กลางรากไม้

บนใบหน้านี้ โจวเจ๋อมองเห็นความเคียดแค้นอยู่เต็มเปี่ยม

ความรู้สึกแบบนี้ ยากที่จะจินตนาการได้ มันเหมือนกับชายวัยกลางคนวางยาปลุกเซ็กส์เขาในปริมาณมากและมัดมือมัดเท้าของเขา จากนั้นบังคับให้เขาดูหนังผู้ใหญ่ ทุกวินาทีคือความทรมานแสนสาหัส ยิ่งไปกว่านั้นเจ้านี่น่าจะถูกทรมานมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว

‘ปัง!’

โจวเจ๋อถูกกดทับไว้ข้างๆ รากไม้ ใบหน้าบนรากไม้นั้นมองโจวเจ๋อ ในตอนแรกใบหน้านั้นโกรธและดูแคลน แต่แล้วอารมณ์ใหม่ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้านั้นอย่างช้าๆ

ตกใจกลัว

หวาดกลัว

ตื่นตระหนก

จากนั้นก็สงสัย สุดท้ายกลายเป็นความปลาบปลื้ม!

งิ้วเปลี่ยนหน้าของเสฉวนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่สีหน้าท่าทางของเจ้ารากไม้นี้ถ่ายทอดออกมามากกว่างิ้วเปลี่ยนหน้าเสียอีก

“เป็น…เจ้า…”

มีเสียงพูดดังมาจากภายในรากไม้ มีเพียงพระเจ้าที่รู้ดีว่าเสียงนั้นส่งผ่านน้ำมาได้อย่างไร โจวเจ๋อกลับได้ยินมัน แต่ไม่ชัดเจนและมีเสียงดังแทรกเล็กน้อย

‘แกจำฉันได้แล้วเหรอ’ โจวเจ๋อนึกในใจ

จากนั้นโจวเจ๋อก็รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย

น่าละอายจริงๆ ดูสิ คนอื่นยังจำฉันได้เลย แต่ตัวฉันเองกลับจำตัวเองไม่ได้เลย

‘แซ่ดๆๆ…’

เถาวัลย์ที่รากไม้เริ่มสั่นสะท้านอย่างตื่นเต้น เห็นได้ชัดว่าตอนแรกมันจำโจวเจ๋อไม่ได้ ดังนั้นถึงได้เลือกที่จะจับถังซือก่อน สำหรับจุดประสงค์ที่มันจับถังซือนั้น ตอนนี้โจวเจ๋อดูเหมือนว่าจะสามารถเดาออกได้บางส่วนแล้ว มันอยากย้ายรัง!

มันถูกขังอยู่ที่นี่

แม้ว่าเถาวัลย์ของมันจะควบคุมร่างกายพังเละที่สูญเสียจิตวิญญาณไปเอาไว้ได้แล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลอะไร ถึงถูกตอกตะปูปิดตายอยู่ที่นี่ มันอาจจะอยากจับถังซือเพราะว่าหลังจากควบคุมถังซือแล้วมีโอกาสช่วยให้มันหลุดพ้นก็ได้

แต่ตอนนี้โจวเจ๋อรู้สึกได้ว่ารากไม้นี้เสียสติไปเล็กน้อย ในวรรณกรรม ภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ส่วนใหญ่ พวกเผ่าพันธุ์ต้นไม้ต่างดูสงบเรียบร้อยและฉลาดมาก โดยทั่วไปจะมองเห็นในลักษณะของคุณปู่ อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อนี้กลับดูเหมือนเสพยามาอย่างหนักจนดีดขึ้นมาเต้นเบรกแดนซ์

“เจ้า…ตายซะ…”

เสียงนั้นดังลอยมาอีกครั้ง แฝงไปด้วยความน่าสะพรึงและดุร้าย!

และในขณะเดียวกัน ร่างที่พังเละนั้นเริ่มฉีกกระชากร่างของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง คราวนี้เขาเอาจริงแล้ว!

ความรู้สึกถึงวิกฤตรุนแรงจู่โจมเข้ามา

ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายอาจมีความคิดที่จะเก็บแรงเอาไว้ จึงลากเขาลงมาใต้น้ำแล้วปล่อยให้เขาจมน้ำตายเอง แต่ในตอนนี้ อีกฝ่ายต้องการจะฆ่าเขาให้ตายด้วยน้ำมือของมันเอง สัมผัสความตื่นเต้นของการล้างแค้น

อันที่จริงก่อนหน้านี้โจวเจ๋อก็กะจะเฝ้ารอดูมากกว่านี้อีกหน่อย ถึงอย่างไรหากไม่ถึงวินาทีสุดท้ายที่จำเป็นอย่างแท้จริง เถ้าแก่โจวไม่อยากจะเข้าสู่สภาวะผีดิบจริงๆ เพราะนี่หมายความว่าหลังจากเขากลับไปก็ต้องนอนพักไปอีกครึ่งเดือน

แต่ครั้งนี้ไม่มีทางเลือกแล้ว เมื่อมองเจ้านั่นที่เกือบจะสัมผัสใบหน้าของเขา โจวเจ๋ออ้าปาก เขี้ยวสองซี่งอกออกมาอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันร่างกายของเขาก็เริ่มขาดน้ำอย่างรวดเร็วจนเริ่มแห้งเฉา เบ้าตาส่วนลึกถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียว อารมณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นบ้าบิ่นและเอาแต่ใจตัวเอง!

‘โฮก!’

‘โฮก!’

ทั้งสองคนอ้าปากพร้อมกันและส่งเสียงคำราม ราวกับเสือที่ได้รับการกระตุ้นกำลังประกาศศักดาของตัวเอง!

หากหน้าจอค้างอยู่ตรงนี้และสังเกตดีๆ ละก็ คุณจะพบว่าตอนที่ทั้งสองคำรามนั้นมีความคล้ายคลึงกันอย่างถึงที่สุด

‘ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!!!!!!!’

เสียงอันน่าหวาดกลัวระเบิดออกมาจากด้านล่างต่อเนื่องกันครั้งแล้วครั้งเล่า

โจวเจ๋อเหมือนหมาป่าหิวโซที่คลุ้มคลั่งตัวหนึ่ง ฉีกกระชากร่างที่พังเละแต่กลับแข็งแกร่งมากที่อยู่ตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย จะเห็นได้ว่า โจวเจ๋อนั้นได้เปรียบอย่างแน่นอน

ถึงอย่างไรร่างที่พังเละตรงหน้านี้ ก็ไม่ใช่คนที่ฆ่าสังหารหมู่ในวันนั้นเมื่อแปดสิบปีก่อนอีกต่อไปแล้ว มันเป็นเพียงแค่เปลือกที่เคยเป็นอยู่เท่านั้น ทั้งยังเป็นเปลือกที่แตกร้าวไปแล้ว แต่โจวเจ๋อในตอนนี้ กลับมีแก่นแท้ของอดีตอยู่ภายใน!

เมื่อร่างพังเละถูกเตะออกไป จู่ๆ รากเถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็เลื้อยไปทั่ว พวกมันบางราวกับเส้นผม เริ่มพันรอบตัวของโจวเจ๋อ

‘ปัง!’

ร่างของโจวเจ๋อสั่นสะท้าน รากไม้นั้นก็สั่นไหวเช่นกัน แต่กลับยังคงจำกัดควบคุมโจวเจ๋อเอาไว้ได้

ร่างพังเละที่เพิ่งถูกโจวเจ๋อเตะลอยออกไปกระโจนพุ่งกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับอ้าปากกัดเข้าตรงคอของโจวเจ๋ออย่างจัง ทั้งตัวของเขาทาบทับอยู่บนตัวของโจวเจ๋อ บ้าคลั่งสุดขีด

“เจ้า…ตายซะ…”

รากไม้สั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น

สถานการณ์นี้ ทำให้มันตื่นเต้นยิ่งกว่าที่จะทำให้ตัวมันหลุดพ้นออกไปเสียอีก กระทั่งมันยอมแลกการหลุดพ้นของตัวเองเพื่อทำลายจิตวิญญาณของคนผู้นี้ให้สิ้นซาก!

คนผู้นี้เคยหลอกลวงมันในตอนแรก ทำให้ตัวมันพลาดโอกาสในการเปลี่ยนร่าง ทำให้มันถูกจองจำอยู่ที่นี่มาโดยตลอด อยู่ได้แค่ภายในพื้นที่ตารางนิ้วนี้เท่านั้น

ความเกลียดชังนี้สูงยิ่งกว่าฟ้า ลึกยิ่งกว่าทะเล!

“ผลกรรม…ตามสนอง…”

อีกฝ่ายแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

ตัวของโจวเจ๋อสั่นอย่างต่อเนื่อง ราวกับพยายามต่อต้าน แต่เถาวัลย์บางๆ ที่พันธนาการไปทั่วร่างกายดูเหมือนจะเป็นโซ่เหล็กที่น่ากลัวที่สุดในโลก มัดทั้งร่างของโจวเจ๋อไว้อย่างแน่นหนา

รากไม้ใช้พลังของมันควบคุมโจวเจ๋อและกดโจวเจ๋อเอาไว้

นับตั้งแต่โจวเจ๋อสามารถใช้ ‘เคล็ดวิชาอู๋ซวง’ นี่เป็นครั้งแรกที่เจอกับสถานการณ์ที่ตัวเองถูกควบคุม ต้องรู้ว่าในอดีตเจอเทพสังหารเทพ เจอพระสังหารพระมาโดยตลอด ราบรื่นไปเสียทุกอย่าง

แน่นอนว่าโจวเจ๋อในตอนนี้ได้สูญเสียความสามารถในการตรึกตรองไปแล้ว ตอนนี้ในสมองเหลือเพียงอารมณ์ที่เรียกว่า ‘คลุ้มคลั่ง’ เท่านั้น

การจนมุมแบบนี้ดำเนินไปได้ประมาณสิบนาที

รากไม้เริ่มเหี่ยวเฉา เห็นได้ชัดว่ามันก็เริ่มจะหมดแรงแล้วเช่นกัน แต่ความอ่อนแอของลมหายใจโจวเจ๋อนั้นยิ่งชัดเจนมากขึ้น

ครั้งล่าสุดที่เขาเจียงจวิน เพราะเข้าสู่สภาวะผีดิบเป็นเวลานาน ร่างกายแทบจะพังทลาย ด้วยเหตุนี้ เวลาที่โจวเจ๋อเข้าสู่สภาวะผีดิบได้นั้นจึงสั้นมากจริงๆ คงอยู่ในสภาพนี้ได้ไม่นานนัก

เดิมทีก่อนหน้านี้กล้ามเนื้อตรงคอของโจวเจ๋อหดเกร็งไว้อย่างสมบูรณ์ แต่ตอนนี้ผ่อนคลายลงแล้ว เขี้ยวของร่างพังเละขบกัดเนื้อชิ้นหนึ่งออกจากคอของโจวเจ๋อทันที

‘พรวด…’

เลือดเริ่มไหลซึมออกมา

ตรงคอของโจวเจ๋อมีรูขนาดใหญ่ แทบจะเหลือเนื้อส่วนศีรษะที่ยังพันรัดรอบคออยู่เล็กน้อยเท่านั้น

แสงสีเขียวในดวงตาค่อยๆ มอดหรี่ลง พลังต้านทานในร่างกายก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ

รากไม้ยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีก กระทั่งมันสั่งให้ร่างพังเละออกห่างจากโจวเจ๋อ และเปลี่ยนไปใช้เถาวัลย์หนาทึบห่อหุ้มร่างของโจวเจ๋อเอาไว้เป็นตัวประกัน

มันขยับไม่ได้

แต่มันต้องการเชยชมฉากสุดท้ายของศัตรูตัวฉกาจนี้!

นี่คือช่วงเวลาที่มันมีความสุขที่สุดในรอบหกสิบปีมานี้!

นอกจากแผลที่คอแล้ว ส่วนอื่นๆ ในร่างกายของโจวเจ๋อก็เริ่มมีเลือดไหลซึมออกมา ทุกครั้งหลังจากที่เข้าสู่สภาวะผีดิบ ร่างกายจะแตก ผิวหนังจะฉีก เพราะทนแรงดันแบบนี้ไม่ไหว

ครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น

“เหอะๆ…ผลกรรม…ตามสนอง…สวรรค์ลงโทษ…”

ทุกครั้งที่รากไม้พูด มันสามารถพูดได้เพียงสองคำเท่านั้น ในตอนนี้เวลานี้ มันระบายความโกรธภายในใจและมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นอย่างย่ามใจ

ช่างเป็นเรื่องที่วิเศษอะไรอย่างนี้

ผู้ร้ายที่ขังมันเอาไว้ที่นี่เป็นเวลาหกสิบปี ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้แม้แต่ก้าวเดียว หกสิบปีต่อมาดันถูกส่งตัวมาให้มันจริงๆ แถมยังมีสภาพที่อ่อนแออย่างนี้อีกต่างหาก!

นี่คือพระประสงค์ของพระเจ้า

นี่คือสวรรค์เบิกเนตร!

ในฐานะสัตว์ประหลาดที่มีโอกาสเปลี่ยนร่างได้ มันถูกชายผู้นี้รังแกอย่างเจ็บแสบเหลือเกิน

ร่างที่พังเละลอยอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ไม่ขยับเขยื้อน ร่างเมื่อในอดีตตอนนี้ถูกรากไม้ควบคุมเอาไว้ทั้งหมดแล้ว กลายเป็นหุ่นเชิดและนักเลงที่จงรักภักดีที่สุด

“ผลกรรม…ตามสนอง…ครบรอบ…หกสิบปี…”

รากไม้มองโจวเจ่อที่สัญญาณชีพอ่อนแอลงเรื่อยๆ ขณะที่ลอยอยู่ตรงหน้ามัน และโบกสะบัดเถาวัลย์ของมัน ทั้งร้องรำทำเพลงไม่หยุด

มันกำลังเฝ้ามองดูเขาอย่างเงียบๆ

กำลังมองดูเขาอย่างใกล้ชิด

กำลังมองดูเขาตาย

มองดูเขาจนตายสนิท!

แต่ทว่า ในเวลานี้เอง

นัยน์ตาของโจวเจ๋อที่มอดหรี่ลงเป็นเวลานานพลันกลายเป็นแสงสีเขียวเปล่งประกายพร่างพราว

ก่อนหน้านี้ คอของโจวเจ๋อถูกร่างพังเละกัดเนื้อหลุดออกไปคำใหญ่ ตอนนี้เหลือเพียงเนื้อเล็กน้อยที่เชื่อมกับคอของเขาเท่านั้น แต่ในเวลานี้กลับสามารถส่ายหัวได้เกือบสองสามร้อยองศา และกระแทกเข้ากับใบหน้าของรากไม้โดยตรง

เขี้ยวทั้งสองแทงเข้าไปอย่างแม่นยำและเหี้ยมโหด

แยกผิวภายนอกของรากไม้ออก ก่อนจะอ้าปากกลืนผลไม้สีเขียวเรืองแสงที่อยู่ด้านใน และเคี้ยวช้าๆ

‘กรวบๆ…กรวบๆ…’

กรอบมาก!

ร่างของรากไม้เริ่มชักกระตุก มันไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตามันเลย

“รอเจ้ามา…หกสิบปี…ในที่สุดเจ้า…ก็สุกงอมแล้ว…”

โจวเจ๋อเคี้ยวสิ่งที่อยู่ในปากไปพลาง พูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่าอย่างช้าๆ ไปพลาง

“ก็นะ…ผ่านมาหกสิบปีแล้ว…เจ้ายังหลอกง่าย…เหมือนเดิม”

……………………………………………..

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท