ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 233 ช้าก่อน!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 233 ช้าก่อน!

เถ้าแก่โจวอยากจะลุกขึ้นมาด่าคน อะไรคือยมทูตไร้ความปรานี ที่นี่เป็นบ้านของฉัน ฉันนั่งอยู่ในบ้านของตัวเองไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็นับรวมฉันด้วยเหรอ

แน่นอนว่าเถ้าแก่โจวก็ไม่ได้หุนหันพลันแล่นกระโดดออกมาฉีกหน้าเขา เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายแรกของเขาคือหลิวฉูอวี่ยมทูตคนใหม่แห่งฉางโจวคนนี้ และผู้ชายที่เก็กทำเป็นเท่คนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับผู้หญิงคนนั้นอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับการฝึกจิตที่มีอยู่จริงแบบนี้ โจวเจ๋อยังไม่ชินและไม่ค่อยเข้าใจมากเท่าไร พระขี้เรื้อนมาพร้อมกับความบ้าและปัญญาอ่อน นักพรตเฒ่ากับแม่นางสวี่ก็ไม่ได้สืบเชื้อสายด้านนี้โดยตรง

เมื่อมีหลิวฉู่อวี่เป็นผู้เบิกทางให้ตัวเอง โจวเจ๋อรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

‘ปัง!’ ผีผู้หญิงกระเด็นออกจากหลิวฉู่อวี่ในที่สุด ขณะเดียวกันกระจกของเขาก็หมุนกะทันหัน หมุนลงไปข้างล่าง แนบติดกับใบหน้าของผีผู้หญิงโดยตรง

นี่คือคิดจะทำให้ผีผู้หญิงดวงวิญญาณแตกสลาย บังคับให้เธอ ‘หลุดพ้น’

‘ตึก!’ ไม้ไผ่ของผู้ชายตัวผอมสูงยื่นเข้ามาจิ้มกระจกทันที จากนั้นกระจกได้ลอยออกไปร่วงลงบนเคาน์เตอร์

‘กึกๆๆ…’ หลังจากกระจกหมุนวนบนเคาน์เตอร์หนึ่งรอบ จึงร่วงบนพื้นตรงหน้านักพรตเฒ่ากับเจ้าลิง

ก่อนที่หลิวฉู่อวี่จะเคลื่อนไหว นักพรตเฒ่าใช้มือข้างหนึ่งจับเป้ากางเกง มืออีกข้างหนึ่งจับเคาน์เตอร์แล้วนั่งยองๆ อยู่ข้างหลัง เหมือนทหารที่กำลังหลบอยู่ในสนามเพาะ แต่ทหารรบคนนี้กลับตัวสั่นหงึกๆ ไปทั้งตัว

แต่ทันใดนั้น บุญได้หล่นทับ! นักพรตเฒ่าเห็นกระจกอยู่ตรงหน้า เบิกตาด้วยความดีใจ แน่นอนว่าเขาไม่โง่ถึงขั้นเก็บวัตถุนี้ขึ้นมาแล้วคืนให้ยมทูตที่มาจากฉางโจว แต่กลับยื่นมือไปตามสัญชาตญาณคิดจะเก็บแล้วซ่อนไว้ในอ้อมอกของตัวเอง

อย่างไรก็ตามเถ้าแก่ทั้งสองสมัยของเขาก็ฆ่ายมทูตไปไม่น้อย ทำให้ลูกน้องอย่างนักพรตเฒ่าที่ทำแค่ตะโกนบอกว่า ‘เยี่ยม’ อยู่ข้างๆ คนนี้ไม่ค่อยเคารพยำเกรงยมทูตพวกนี้เท่าไร

ทว่าตอนที่มือของนักพรตเฒ่ากำลังจะแตะกระจก ฝ่ามือกลับกลายเป็นสีแดง นักพรตเฒ่าแค่นเสียงฮึ่มเบาๆ รีบชักมือกลับทันที

‘ฟู่ๆๆๆ…’ เขาเป่าฝ่ามือที่โดนลวกจนร้อนไม่หยุด นักพรตเฒ่าแอบสบถด่าอยู่ในใจ

อันที่จริงนักพรตเฒ่าคิดง่ายเกินไป อาวุธวิเศษที่ยมทูตนำมาใช้งาน และเป็นอาวุธวิเศษที่เพิ่งใช้โจมตี ใช่ว่าคนทั่วไปจะแตะต้องได้อย่างง่ายดาย

เจ้าลิงที่อยู่ข้างๆ พุ่งไปข้างหน้าสองก้าว ยื่นกรงเล็บของตัวเองออกไปจับ

“เฮ้ย อย่า…” นักพรตเฒ่าตะโกนเมื่อรู้ตัว

“เจี๊ยกๆๆ!” แต่เจ้าลิงกลับหยิบกระจกขึ้นมาแล้วเล่นมัน

เขามองกรงเล็บของเจ้าลิงที่ยังอยู่ครบสมบูรณ์ แล้วมองอุ้งมือของตัวเองที่โดนลวกในเวลานี้ นักพรตเฒ่าพลันรู้สึกว่าตัวเองยังสู้สัตว์เดรัจฉานไม่ได้!

หลังจากเจ้าลิงลองเล่นสักพักหนึ่ง ก็ทำท่าเหมือนจะโยนให้นักพรตเฒ่า นักพรตเฒ่าโบกมือเป็นพัลวันด้วยความตกใจ เพื่อบอกมันว่าอย่าผลีผลาม

เจ้าลิง เจ้ามีใจกตัญญูข้ารู้ แต่ข้าจับไม่ได้ เจ้าลิงเกาหัวด้วยความฉงน จากนั้นจึงเอากระจกส่องตัวเอง ภายในกระจก ไม่ได้ปรากฏใบหน้าที่น่ารักของเจ้าลิง แต่เป็นใบหน้าที่ดุร้ายของวานรที่โตเต็มที่แล้ว ความดุดันบนใบหน้ายังเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาของพลังแห่งหยินที่อยู่ตรงกลางระหว่างคิ้วของมัน!

“เจี๊ยกๆๆ!!!!!” เจ้าลิงทุบกระจกลงบนพื้นด้วยความตกใจ แล้วทรุดนั่งอยู่บนพื้น นี่คืออะไร ข้าตกใจหมดเลย!

ส่วนผู้ชายตัวผอมสูงที่เก็กหล่อคนนั้นหลังจากใช้ไม้ไผ่พลิกอาวุธที่อยู่ในมือของยมทูตแล้ว ก็เก็กหล่อไม่ได้นาน อันที่จริง การต่อสู้กันแบบตาต่อตาฟันต่อฟันที่โจวเจ๋อคาดเดาก่อนหน้านั้น กระทั่งเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับคนที่มาทีหลังกลับไม่เกิดขึ้นเลย

หากดูจากการแต่งตัวของอีกฝ่ายรวมทั้งการใส่แว่นกันแดดตอนกลางคืน และโจวเจ๋อที่นั่งดูอยู่เงียบๆ ก็ถูกนับรวมเข้าไปอยู่ในลำดับของ ‘การเยาะหยัน’ ด้วย ก็สามารถมองออกว่า สติปัญญาของอีกฝ่ายขาดการพัฒนาจริงๆ และเรื่องจริงก็เป็นเช่นนี้

สถานการณ์ในตอนนี้คือ หลิวฉู่อวี่ที่กระจกโดนปัดตกไปไม่ได้รู้สึกถึงความอัปยศในฐานะยมทูต สูญเสียอาวุธไปหนึ่งชิ้นก็ไม่ได้ทำให้เขากลายเป็นไก่อ่อนเหมือนนักพรตเฒ่า แต่เขากลับใช้วิธีอื่นของตัวเองอย่างรวดเร็ว กดผู้ชายตัวผอมสูงคนนี้ลงไปบนพื้นอย่างแรงแล้วถูไถไปมา

ผู้ชายตัวผอมสูงคนนี้หน้าบวมแดง ตอนแรกกล้าพูดอวดดี แต่หลังจากนั้นกลับทำได้แค่กำหมัดหดตัวอยู่ตรงนั้นถูกซัดจนน่วมร้องโอดโอย

เหล่าผู้ชมที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวรู้สึกว่าเกมนี้หมดหวังแล้ว เถ้าแก่โจวกระทั่งเริ่มคำนวณว่าโต๊ะเสียหายไปกี่ตัว เก้าอี้มีตรงไหนสกปรกบ้าง หลังจากก่อเรื่องแล้วจะต้องชดใช้เงินจำนวนเท่าไร ทางที่ดีที่สุดควรคิดเป็นเงินกระดาษ

ส่วนผีผู้หญิงตนนั้นอาศัยจังหวะตอนที่หลิวฉู่อวี่กำลังซ้อมผู้ชายตัวผอมสูง ลากนักร้องผู้ชายเดินมาข้างๆ โจวเจ๋อ แล้วคุกเข่าลงต่อหน้าโจวเจ๋อ “ขอให้ท่านช่วยพวกเราให้สมปรารถนาด้วยค่ะ ส่งพวกเราสองคนลงไปนรกพร้อมกัน”

โจวเจ๋อยักไหล่ ไม่มีการตอบสนองใดๆ ผีร้ายส่งลงนรกไม่ได้อยู่แล้ว ต้องทำลายให้แตกดับ หากไม่กลัวความยุ่งยากละก็ สามารถ ‘พูดเกลี้ยกล่อม’ ให้เธอแตกดับด้วยตนเอง

ส่วนวิญญาณของนักร้องผู้ชายตนนี้ เมื่อวันก่อนเถ้าแก่โจวเพิ่งจะส่งดวงวิญญาณของนักเรียนกลุ่มหนึ่งตอนนี้จึงไม่อยากทำผลงานขนาดนั้น ไม่ว่าตัวเองจะได้กินเนื้อยุงชิ้นนี้หรือไม่ ควรรอหลิวฉู่อวี่จัดการธุระเสร็จแล้วค่อยตัดสินใจอีกที

ผีผู้หญิงโขกศีรษะให้โจวเจ๋อ ขอร้องอ้อนวอน โจวเจ๋อเริ่มจนปัญญา พูดจริงๆ นะ นรกไม่ใช่บ้านของเขา ผีร้ายไม่สามารถถูกยมทูตส่งผ่านประตูนรกเพื่อลงไปนรกได้นี่เป็นกฎ เถ้าแก่โจวไม่ใช่สาวๆ ที่เป็นติ่งละครรักร้องไห้ฟูมฟายพวกนั้น ต่อให้คุณร้องไห้น่าสงสารแค่ไหน ก็ช่วยอะไรไม่ได้เหมือนเดิม

“เถ้าแก่ มีปัญหาเจ้าค่ะ” ไป๋อิงอิงที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดโพล่งขึ้นมา พลางมองไปด้านนอกหน้าต่าง มีเมฆกลุ่มหนึ่งบนท้องฟ้าที่อยู่ไกลๆ กำลังเคลื่อนตัวคล้อยต่ำมาทางนี้อย่างช้าๆ

และผู้ชายตัวผอมสูงที่โดนหลิวฉู่อวี่ซัดจนเละพลันเงยหน้าขึ้น ปากที่มีเลือดไหลของเขาเหมือนกำลังท่องอะไรบางอย่าง

ร่างกายของหลิวฉู่อวี่ที่รังเกียจและปฏิเสธความเป็นชายพลันนิ่งทื่อ ก่อนหน้านี้ตอนที่อีกฝ่ายโดนเขาซ้อม ปากด่าไม่หยุด จากนั้นก็เริ่ม ‘พึมพำ’ เหมือนกำลังฮัมเพลงเป็นสำเนียงท้องถิ่น หลิวฉู่อวี่คิดว่าอีกฝ่ายถูกตัวเองอัดจนเสียสติไปแล้ว

แต่ตอนนี้หัวสมองของเขาเพิ่งถอยออกมาจากความตื่นเต้นที่ได้ซ้อมคน เมื่อรู้สึกสงบลงบ้างแล้ว จึงเพิ่งเข้าใจว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังท่องเมื่อครู่ แท้จริงแล้วเป็นคาถาของทางตะวันออกเฉียงเหนือ เขากำลังเชิญเทพเข้าร่าง!

“ทำไมไม่ฆ่าไปเลยตั้งแต่แรกล่ะ” ไป๋อิงอิงบ่นพึมพำ

“ถ้ายมทูตฆ่าคนเป็นโดยไม่มีสาเหตุ ราคาที่ต้องแลกหนักหนามาก” โจวเจ๋ออธิบาย

‘วิ้วๆๆ…วิ้วๆๆ…’ นอกประตูร้านหนังสือ มีลมหยินพัดแรงเป็นระลอก

“ที่บ้านวันนี้ คึกคักจริงๆ นะ” โจวเจ๋อใช้สองมือยันคางแล้วดูต่อ

ไป๋อิงอิงหมุนตัวเดินไปที่ตู้เย็น หยิบแตงโมแช่เย็นผ่าครึ่งลูกเดินเข้ามา ใช้ช้อนตักเป็นคำแล้วป้อนโจวเจ๋อ

“เย็นนิดหน่อย” โจวเจ๋อขมวดคิ้ว ไป๋อิงอิงเอาช้อนใส่ปากตัวเองครู่หนึ่ง จากนั้นหยิบออกมาแล้วตักใส่ปากของโจวเจ๋อต่อ โจวเจ๋ออ้าปากแล้วกิน ด้านนอกอุ่นด้านในเย็น รสชาติกำลังดี ทางนี้หนึ่งชายหนึ่งหญิงกินแตงโมอย่างตั้งใจ ส่วนทางนั้นสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป

“แม่ย่าแปด!” ผู้ชายตัวผอมสูงคำรามสียงต่ำ จากนั้นบุคลิกของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นเย็นชาและนิ่งขรึม โดยเฉพาะดวงตารูปทรงสามเหลี่ยม เวลานี้นัยน์ตาของเขาเริ่มแตกแยกออกจากกัน

เขาแลบลิ้นออกมา แม่ย่าแปดหัวเราะเหอะๆ “พ่อหนุ่ม ข้าขอคารวะ ไม่ว่าจะเข้าใจผิดกันยังไง ขอให้เห็นแก่หน้าของข้า จบกันแค่เท่านี้เถอะ พวกเราจะพาชุนเหมยกลับหมู่บ้านเอง รับรองว่าจะไม่ออกมาทำร้ายใครอีก ไม่ว่ายังไงตอนนี้เธอได้กลายเป็นผีร้ายไปแล้ว ไม่มีคุณค่าอะไรกับท่านยมทูต ส่วนคนนี้…”

แม่ย่าแปดชี้ไปที่วิญญาณของนักร้องผู้ชายที่ยังอยู่ในสภาพมึนงง “พวกท่านส่งเขาลงไปเถอะ เมื่อจบเรื่องนี้ พอข้ากลับไปแล้ว จะส่งสินค้าท้องถิ่นมาให้ท่านทั้งสอง”

โจวเจ๋อกินแตงโมอีกหนึ่งคำ เลียปากแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย ไม่สนุกเลยๆ

เดิมทีคิดว่าผู้ชายตัวผอมสูงคนนั้นหลังจากที่โดนซ้อมแล้ว เทพเจ้าที่เชิญมาจะต้องกลับมาแก้แค้นแน่นอน ที่ไหนได้เทพเจ้าตนนี้กลับออกมาพูดจาด้วยเหตุผล

ปัดโธ่ แตงโมนี้ไม่มีรสชาติเลย ทั้งๆ ที่เป็นร้านหนังสือของตัวเองแท้ๆ แต่คนอื่นกลับผลัดกันขึ้นไปแสดง และตัวเองที่เป็นเจ้าบ้านกลับได้แต่นั่งมองอยู่เฉยๆ เอ๊ะ ใช่แล้ว เทพเจ้า รอเดี๋ยว โจวเจ๋อแสดงสีหน้าครุ่นคิด จากนั้นเหมือนคิดอะไรออกแล้วจึงสั่งให้ไป๋อิงอิงออกไป

ไป๋อิงอิงพยักหน้า แล้วเดินออกไป หลิวฉู่อวี่ลังเลเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้า การรับมือกับคนทั่วไปและผีธรรมดา เขามีความได้เปรียบ ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัว แต่เมื่อเจอกับ ‘แม่ย่าแปด’ ที่โดนเชิญมาแบบไม่รู้สาเหตุ หลิวฉู่อวี่ไม่กล้ากำเริบเสิบสาน

แต่สำหรับโจวเจ๋อ หลิวฉู่อวี่เป็นแค่ยมทูตธรรมดา ในหัวของเขาเต็มไปด้วยการทำผลงาน และผีผู้หญิงตนนี้ก็น่าจะเป็นผู้ฝึกตน หากส่งเธอลงนรกจะสามารถทำคะแนนได้มากกว่าส่งผีลงไปสิบตนหรือมากกว่านั้น ดังนั้นเขาจึงสัญญากับผีผู้หญิงตนนี้ เพื่อที่จะได้ส่งเธอลงไปจึงยอมประนีประนอมและยอมถอย

แต่ใครจะรู้ว่าผีผู้หญิงตนนี้กลับไม่เดินตามแผน ฆ่าคนและทำให้ตัวเองกลายเป็นผีร้าย จึงหมดมูลค่าทันที เขาที่ต่อยผู้ชายตัวผอมสูงเมื่อครู่ เหมือนอยากจะระบายอารมณ์โกรธที่อยู่ในใจมากกว่า

และแม่ย่าแปดผู้ลึกลับตนนี้ น่าจะกังวลเบื้องหลังของยมทูต ไม่อยากฉีกหน้ายมทูตเพราะเรื่องนี้ ดังนั้นจึงยอมลดฐานะเพื่อไกล่เกลี่ย

ผีผู้หญิงกำลังร้องไห้ขอร้อง เดี๋ยวก็ร้องไห้ขอร้องโจวเจ๋อ เดี๋ยวก็ร้องไห้ขอร้องหลิวฉู่อวี่ แต่ไม่มีใครสนใจเธอ หลิวฉู่อวี่มองโจวเจ๋อแล้วถอนหายใจ

โจวเจ๋อกลับหัวเราะอย่างสบายใจ หลิวฉู่อวี่งงมาก

“ไปกันเถอะ กลับไปกับข้า กลับไปดูภูเขาแม่น้ำที่บ้าน คนแก่เฒ่าอย่างพวกเรา จะช่วยทำให้เจ้าหลุดพ้นเอง” แม่ย่าแปดคว้ามือของผีผู้หญิง เพื่อดึงเธอออกจากตัวของวิญญาณผู้ชาย

“ยายโง่ ผู้ชายแบบนี้ควรค่าให้เจ้าทุ่มเทขนาดนี้ กระทั่งตัดเส้นทางกลับไปเกิดของตัวเองเลยเหรอ” แม่ย่าแปดทำสีหน้าเสียใจอย่างยิ่ง จากนั้นเธอได้จูงมือของผีผู้หญิงเดินออกไปที่หน้าประตู แล้วพูดอย่างทอดถอนใจในขณะเดียวกัน “อยากจะถามว่าความรักนั้นเป็นฉันใด…”

สงสัยแม่ย่าแปดก็เป็นผู้หญิงที่มีเรื่องราวคนหนึ่ง…เอ่อ…เพศหญิงเหมือนกัน

เวลานี้ ไป๋อิงอิงหยิบกล่องไม้สวยงามจากข้างบนนำมาส่งถึงมือของโจวเจ๋อ โจวเจ๋อเปิดกล่องอย่างเร่งด่วน หยิบสมุดโน้ตสไตล์โบราณรูปแมวดำที่หน้าปกชำรุดเล็กน้อยออกมา

โจวเจ๋อชูสมุดโน้ตขึ้น แล้วมองแม่ย่าแปดที่เพิ่งเดินไปถึงหน้าประตูร้านหนังสือ เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกฝ่าย เขาจึงตะโกนทันที “ผมเรียกคุณว่าแม่ย่าแปด คุณกล้ารับไหม”

…………………………………………………………………………

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท