ตอนที่ 248 ร้านหนังสือ!
กองไฟถูกจุดไฟอย่างช้าๆ ไม่ได้ลุกพึ่บขึ้นฟ้าเหมือนฉากที่เห็นในภาพยนตร์กับละครโทรทัศน์ แต่ค่อยๆ ถูกเผาไหม้อย่างช้าๆ
ตาชุยกอดหญิงชราที่เลือดท่วมตัวนอนอยู่บนกองฟืน หญิงชรายังคงดิ้นตลอด เพราะรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวและรู้ว่าไฟสามารถทำร้ายเธอได้ แต่ตาชุยกลับเหมือนแฟนหนุ่มที่กำลังปลอบใจแฟนสาวของตัวเอง ตบไหล่ของเธอไม่หยุด ฮัมเพลงให้เธอฟัง พูดคำปลอบขวัญเธออย่างใส่ใจ
เด็กผู้หญิงนอนอยู่ข้างๆ แต่เธอเป็นผี เธอจึงไม่กลัวไฟ เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องนอนที่นี่ และไม่รู้ว่าทำไมคุณปู่กับแม่ต้องนอนตรงนี้ คุณปู่เรียกเธอให้ไปนอน เธอจึงนอนลงไป โจวเจ๋อเป็นคนจุดไฟ ตาชุยทำตามสัญญา หลังจากจัดการเรื่องสำเร็จแล้ว เขาจะพาหญิงชราเข้า ‘กองไฟสังหาร’ ไปด้วยกัน
ความรักของชายหญิงควรถูกเผาไฟให้หมด โดยเฉพาะคู่รักคู่นี้ที่ถึงแม้จะนอนอยู่บนกองฟืนที่กำลังถูกเผาไฟก็ตาม แต่ยังไม่หยุดโชว์ความหวานที่เกินกว่าทุกระดับอายุ กระทั่งสามารถพูดได้ว่าเกินขอบเขตของสิ่งมีชีวิตไปแล้ว นี่คือภาพยนตร์เรื่องวิญญาณ ความรัก ความรู้สึกเวอร์ชันจีนชัดๆ
“นี่คือความรักใช่ไหม” สวี่ชิงหล่างพูดพลางถอนหายใจ
มนุษย์เรามักจะรู้สึกทอดถอนใจในสิ่งที่ตัวเองคาดไม่ถึง อย่างเช่นเรื่องราวความรักที่น่าประทับใจ เพราะสำหรับคนมากมายแล้ว สามีภรรยาเป็นเหมือนนกที่อยู่ในป่าเดียวกันเท่านั้น คู่ที่รักกันมั่นคงแม้ตายก็ไม่เปลี่ยนแปลง ถือว่ามีน้อยถึงน้อยมากจริงๆ และการสาบานว่าจะรักกันชั่วฟ้าดินสลายส่วนใหญ่จะอยู่ในสถานการณ์ที่โรแมนติกเท่านั้น คำพูดจริงใจในตอนนั้น หลังจากกาลเวลาผ่านไป จะสามารถทำตามที่พูดได้หรือไม่ อย่าไปจริงจังมากนัก แล้วก็คิดจริงจังไม่ได้ด้วย
“ถือโอกาสตอนที่ไฟยังเผาไม่หมด นายสามารถขึ้นไปถ่ายรูปเซลฟี่บนกองไฟทันอยู่นะ แล้วโพสต์ลงเวยป๋อหรือไม่ก็โมเมนต์ในวีแชต เขียนแคปชันว่า ‘ดีใจจัง คืนนี้ได้เป็นสักขีพยานของความรักที่แท้จริง’ หรือไม่ก็ ‘เมื่อไรฉันจะได้เจอผู้ชายที่รักฉันแบบนี้บ้าง’”
สวี่ชิงหล่างไม่สนใจคำเสียดสีของโจวเจ๋อ แต่โต้กลับไปว่า “ผมแปลกใจมาก ที่คุณยอมประนีประนอมด้วย”
“ไม่ประนีประนอม แล้วจะทำยังไง” โจวเจ๋อส่ายหน้า แล้วพูดต่อ “ถ้าหากประนีประนอมสามารถแลกกับตอนจบที่ดีที่สุดได้ ฉันยินดีที่จะทำ”
“ตอนจบที่ดีที่สุด?”
“นี่คือตอนจบที่ดีที่สุด สำหรับทุกคนต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกัน” โจวเจ๋อตอบ
“แลกเปลี่ยน?”
“ซุนเค่อวั่งฆ่าแม่ของตัวเอง โหดร้ายไม่อาจให้อภัยได้ แต่หญิงชราก็ฆ่าคนที่โทษไม่ถึงตายอยู่ไม่น้อย ถ้าหากตอนจบพวกเขาตายทั้งหมด อย่างน้อยก็ไม่มีคนที่จะไม่พอใจ ไม่ใช่เหรอ”
“ความคิดของคุณ…”
“ฉันไม่ใช่ผู้พิพากษาและไม่ใช่ตำรวจ หน้าที่ของฉันคือเผาหญิงชราที่กลายเป็นผีดิบ จัดการเธอไม่ให้ออกไปก่อเรื่องข้างนอกอีก ตอนจบแบบนี้ถือว่าจบบริบูรณ์แล้ว”
ไฟแรงขึ้นเรื่อยๆ กลืนกินตาชุยกับหญิงชราอย่างช้าๆ เสียงร้องโหยหวนน่าเวทนาดังมาจากข้างใน เงาร่างกำลังแดดิ้น จนคุณแยกไม่ออกว่าเป็นตาชุยหรือหญิงชราที่กำลังร้องโหยหวน
“ภรรยาของเขากับลูกชายของเขา ไม่น่าตายเลยจริงๆ” สวี่ชิงหล่างถอนหายใจ “บางทีนี่คือสิ่งที่น่าเสียใจมากที่สุดแล้วละมั้ง”
การแก้แค้นครั้งนี้เป็นผลกรรมตามสนอง แต่เป็นเพราะพัวพันไปถึงคนอื่นด้วย ดังนั้นจึงรู้สึกว่าจบไม่สมบูรณ์แบบเท่าไร ซึ่งเหมือนผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่แปดเปื้อนสิ่งสกปรก เป็นเหตุผลเดียวกับปัจจุบันนี้ภาพวาดที่มีชื่อเสียงหลังจากตกทอดมาสู่คนรุ่นหลัง หากมีคำวิจารณ์ที่จักรพรรดิเฉียนหลงคิดเอาเองว่าดีอยู่บนนั้น จะทำลายบรรยากาศเป็นอย่างมาก
ผู้คนมักจะคาดหวังว่านิสัยและชีวิตส่วนตัวของวีรบุรุษจะต้องบริสุทธิ์ไร้มลทินเด็ดขาด แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่ ด็อกเตอร์มาร์ติน ลูเทอร์ คิง จูเนียร์ที่กล่าวสุนทรพจน์ยังซื้อประเวณี ถึงขนาดที่ว่าเคยร่วมรักแบบชายหนึ่งหญิงสองมาแล้ว แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อการกล่าวสุนทรพจน์ของเขา
โจวเจ๋อรู้ดี ความคิดของสวี่ชิงหล่างแค่เหมือนชาวบ้านที่ติดตามข่าวลือเท่านั้น มักอยากให้ละครแสดงออกมาอย่างดีงามพร้อมสรรพ
“ผมต้องช่วยทำพิธีให้แม่ลูกคู่นี้ไหม” สวี่ชิงหล่างถาม
“ไม่ต้อง”
“แต่พวกเขาตายน่าสงสารมาก”
“อาจเป็นเพราะว่าตอนที่หญิงชรายังมีชีวิตอยู่พบว่าตัวเองท้อง จึงไม่กล้าพูดกับลูกชาย แต่พูดกับหลานชายหรือไม่ก็ลูกสะใภ้ จากนั้นพวกเขาก็ไปฟ้อง”
“คุณถามมาแล้วเหรอ”
“ไม่ได้ถาม”
“แล้วคุณถือสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้”
“พูดแบบนี้แล้วนายสบายใจไม่ใช่เหรอ”
ไฟเริ่มมอดดับอย่างช้าๆ โจวเจ๋อไม่พูดไร้สาระกับสวี่ชิงหล่างอีก เขาเดินเข้าไปตรวจสอบ ทุกอย่างเป็นผุยผงมาจากดินกลับสู่ดิน ตาชุยเกิดมามีเนตรหยินหยาง สุดท้ายกลับมีจุดจบเช่นนี้ ทำให้คนรู้สึกทอดถอนใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เด็กผู้หญิงนั่งอยู่ในขี้เถ้า ยังคงมองโจวเจ๋ออย่างงุนงง
“มา ฉันจะส่งเธอไปยังที่ที่ควรไป ไปหาพ่อ…ปู่กับแม่ของเธอ” ขณะพูดโจวเจ๋อได้เปิดประตูนรก ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ทุกอย่างต้องจบลงถึงจะถูกต้อง
เด็กผู้หญิงเดินเข้าหาประตูนรกอย่างมึนงงอยู่บ้าง สิ่งที่รอเธออยู่คือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผู้คนมักจะคิดว่ายมทูตคือปลายทางสุดท้าย แต่จริงๆ แล้วเสามารถมองพวกเขาเป็นบทนำของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เช่นกัน
“คุณอา คุณปู่บอกว่า ตอไม้ที่อยู่ใต้เตามีสมุดบันทึกของเขา ถ้าคุณอยากได้ ก็ไปหยิบนะคะ”
“โอเค” โจวเจ๋อยิ้มเพื่อบอกให้เธอเข้าไป
“คุณอาคะ คุณปู่ยังบอกอีกว่า ปกติแม่ไม่ได้เป็นแบบนี้ เขาบอกว่าเป็นเพราะเสียงขลุ่ย” เด็กผู้หญิงหลังจากพูดประโยคนี้จบแล้ว ก็เดินเข้าสู่ประตูนรก
โจวเจ๋อตบมือทั้งสองข้างประตูนรกจึงหายไป จากนั้นหมุนตัวมองไปที่สวี่ชิงหล่าง “เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ เสียงขลุ่ยเหรอ”
‘ฟุบ!’ สวี่ชิงหล่างไม่ตอบ แต่เป็นลมล้มนอนลงบนพื้น
“เฮ้ย เหล่าสวี่” โจวเจ๋อเดินมาข้างหน้าทันที พบว่าสวี่ชิงหล่างที่นอนกับพื้นหน้าซีดเขียว ปากเริ่มนูนขึ้นมาช้าๆ เขายื่นมือแหวกปากของสวี่ชิงหล่างออก โจวเจ๋อเห็นเขี้ยวเล็กแหลมคมสองข้างโผล่ออกมา!
“แม่งจริงๆ เลย” โจวเจ๋อลนลานอยู่บ้าง รีบเปิดผ้าพันแผลที่ปิดคอของสวี่ชิงหล่างอย่างมิดชิดออกทันที ก้อนเนื้อบริเวณคอแทบจะเละรวมกันแล้ว
…
สวี่ชิงหล่างไม่รู้ว่าตัวเองสลบไปนานแค่ไหน เขารู้ว่าอยู่ในฝันเท่านั้น เหมือนจะได้ยินเสียงขลุ่ยในคืนนั้น แต่อยู่ไกลๆ จนแยกไม่ออก
เขาเคยคิดว่า หญิงชราเป็นคนสร้างผีดิบออกมา และหญิงชราปลุกให้ผีดิบตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ตอนหลังเขานึกถึงจุดที่น่าสงสัยได้อย่างหนึ่ง นั่นก็คือตอนนั้นหญิงชรากับโจวเจ๋ออยู่ด้วยกันที่บ้านของซุนเค่อวั่ง เป็นไปไม่ได้ที่มือจะยาวมาถึงที่นี่ นอกจากนี้หญิงชราเป็นผีดิบที่มีไอคิวต่ำมาก จึงถูกตาชุยควบคุมได้นิดหน่อย ไม่มีความสามารถแบบนี้แน่
เขาคิดอยู่นานและฝันนานมาก สวี่ชิงหล่างฝันถึงตอนที่ตัวเองเป็นเด็ก ฝันว่าตัวเองเป็นนักเลงข้างถนน ฝันว่าตัวเองเจอหัวหน้าตำรวจเก่าจากนั้นถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนทำบะหมี่ ความฝันนี้ยาวนานมาก วนเวียนไม่หยุด เล่นซ้ำไปซ้ำมา วนไปวนมาจนเขาเหนื่อยประสาทอ่อนล้า สุดท้ายเขาฝันว่าตัวเองถูกใส่อยู่ในหม้อขนาดใหญ่
“นี่จะทำอะไร” สวี่ชิงหล่างถาม หม้อเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ น้ำก็เริ่มเดือดปุดๆ สวี่ชิงหล่างพยายามคลานออกมาจากในหม้อต้มอย่างสุดชีวิต แต่สุดท้ายก็คลานออกไปไม่ได้ และตอนนี้นักพรตเฒ่าก็วิ่งออกมาจากมุมมืด ถือโทรศัพท์แล้วถ่ายเขา “สหายทั้งหลาย ครั้งนี้เรามาถ่ายทอดสด ‘ตุ๋นตัวเองในหม้อเหล็ก’ กันเถอะ!”
“ฮู่ว…ฮู่ว…” สวี่ชิงหล่างเงยหน้าพึ่บ เขาพบว่าตัวเองกำลังนั่งโป๊เปลือยอยู่ในถังอาบน้ำ น้ำร้อนมีไอน้ำหมุนวนเป็นเกลียวขึ้นไปไม่หยุด ฝั่งตรงข้าม โจวเจ๋อกำลังนั่งแต่งเล็บของตัวเอง แต่งเล็บจริงจังมาก
“เถ้าแก่ ต้องเพิ่มน้ำอีกไหม” นักพรตเฒ่าถามจากที่ไม่ไกลมาก
“เพิ่ม เพิ่มต่อ”
“ได้เลย” นักพรตเฒ่ายกถังน้ำแล้วเทน้ำร้อนลงไป ไม่นานนัก ไป๋อิงอิงก็เดินเข้ามา ถือของสีดำปิ๊ดปี๋หนึ่งถุง ไป๋อิงอิงไม่ได้สังเกตว่าสวี่ชิงหล่างที่อยู่ในถังน้ำตื่นแล้ว จึงแกะถุงแล้วเทใส่ลงในถังอาบน้ำโดยตรง
“นี่คืออะไร!” มองดูสิ่งที่คล้ายกับโคลนสีดำปี๋ถูกเทเข้ามา สวี่ชิงหล่างที่รักอนามัยไม่น้อยไปกว่าโจวเจ๋อจึงร้องเรียกทันที
“เอ้า!” ไป๋อิงอิงอ้าปากกว้างแล้วพูดด้วยความดีใจ “แม่นางสวี่ เจ้าตื่นแล้วเหรอ”
“อะไร” สวี่ชิงหล่างไม่ค่อยเข้าใจ “ผมสลบไปนานแค่ไหน”
“สามวันสามคืนเจ้าค่ะ” ขณะที่พูด ไป๋อิงอิงเอามือป้องปากแล้วหัวเราะ ‘เหอะๆๆ’
“ข้าตกใจหมดเลย ตอนที่เถ้าแก่พาเจ้ากลับมา ข้าคิดว่าเจ้าตั้งใจให้ตัวเองกลายเป็นผีดิบแล้วจะมาแย่งความโปรดปรานกับข้า ฮือๆๆ”
“…” สวี่ชิงหล่าง
เวลานี้ถ้าไม่ได้ตัวโป๊เปลือย สวี่ชิงหล่างอยากจะหยิบค้อนมางัดสมองของไป๋อิงอิงจริงๆ ว่าใส่อะไรไว้ข้างในกันแน่ แน่นอนว่าถ้าหากอิงอิงเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาจริงๆ เขาก็กลัวเหมือนกัน
“ตื่นแล้วเหรอ” โจวเจ๋อวางกรรไกรตัดเล็บลงแล้วเดินเข้ามา จากนั้นยื่นมือลูบคางของสวี่ชิงหล่างหนึ่งที สวี่ชิงหล่างถอยหลังทันที แต่ถังไม้ใหญ่แค่นี้ เขาจะหลบไปที่ไหนได้
“ผมเป็นอะไรเหรอ”
“เป็นอะไร? นายถูกผีดิบกัด ทำไมถึงไม่บอกฉันแต่แรก นายคิดว่าเป็นผีดิบสนุกมากนักเหรอ ฉันจะบอกนายให้นะ ผีดิบส่วนใหญ่จะเหมือนกับเดดพูลที่อยู่ข้างล่าง”
“ตอนนั้นคุณก็แย่เหมือนกัน ผมไม่อยากเพิ่มปัญหาให้คุณ…”
“โอเค หยุดก่อนๆ” โจวเจ๋อกุมหน้าผาก
“เหล่าสวี่ ร้านของพวกเรามีผีดิบเยอะพอแล้ว ฉันไม่อยากเปลี่ยนชื่อร้านของเราว่า ‘ร้านหนังสือผีดิบ’ ในภายหลังทุกอย่างอึมครึมไปหมด คงจะประหยัดค่าแอร์ได้เยอะ”
“อย่างนั้นตอนนี้ผม” สวี่ชิงหล่างชี้ไปที่ตัวเอง
“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อิงอิงก็ไม่รู้ว่าโดนพิษผีดิบแล้วต้องแก้ยังไง พวกเราจึงได้แต่เดามั่ว เดิมทีอยากจะให้นักพรตเฒ่าดูดพิษของนาย แต่ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอม เพราะจะให้ฉันกับไป๋อิงอิงดูดพิษของนายก็คงทำไม่ได้ ฉันกลัวว่านายจะมีพิษเพิ่ม
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้กินได้นอนเพราะต้องหาข้อมูลต่างๆ หาตำรับยาสมุนไพรและวิธีรักษาได้ ก็เอามาใช้กับนายก่อน เมื่อกี้ที่เพิ่งเทลงไปคือฉี่และโคลนของเจ้าลิงน้อย ไม่ว่าวิธีไหนก็หยิบมาใช้ก่อน และในถังอาบน้ำใบนี้ยังมีข้าวเหนียวเก่า ยันต์กระดาษของนักพรตเฒ่า คางคก แล้วก็มีงูน้ำ อ้อใช่ ฉันกลัวว่ากลิ่นจะไม่ดี จึงใส่น้ำบ๊วยลงไปให้นายนิดหน่อย”
สวี่ชิงหล่างเพิ่งรู้สึกว่าข้างล่างของตัวเองคันเล็กน้อย เขารีบยื่นมือลงไปแล้วจับงูน้ำขึ้นมา
“พวกคุณหาตำรับยามาจากไหนกันแน่” สวี่ชิงหล่างกัดฟันถาม แม่งเอ๊ย ใส่งูเข้ามาจริงๆ ด้วย!
“หนังผีดิบของฮ่องกงไง และต้องยกความดีความชอบให้นายด้วย ช่วงนี้ฉันได้ดูซีรีส์ของหลินเจิ้งอิงอีกครั้ง เมื่อก่อนดูก็แค่สนุกเท่านั้น แต่ตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวละครในนั้นจริงๆ อิงอิงก็ชอบมากเหมือนกัน”
“…” สวี่ชิงหล่าง
…………………………………………………………………………