ตอนที่ 278 ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่
หากรถคันข้างหน้าเบียดมาจนทำให้คุณเปลี่ยนเลนแล้วละก็ ถ้ารถของเขาไม่ได้ขับข้ามเส้นมาทั้งคันและดันชนเข้า ก็เป็นความรับผิดชอบของเขา แต่ถ้ามันข้ามเส้นมาทั้งคันแล้วคุณดันชนเข้า นั่นก็จะกลายเป็นคุณที่ชนท้าย
ตอนที่โจวเจ๋อในชาติก่อนพบเจอเรื่องแบบนี้นั้น อยากจะสั่งสอนพวกโง่ประเภทนี้มาก ในความเป็นจริงแล้วผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จะประสบกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันและมีความคิดที่คล้ายกันอยู่ในใจ แต่ก็ยังกลัวว่าจะมีปัญหาตามมา กลัวว่าจะเสียเวลาและเปลืองแรง ดังนั้นจึงทำได้เพียงอดทนอดกลั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
เป็นเพราะความอดทนอดกลั้นของผู้คน ถึงได้ทำให้พวกโง่เง่าโลดแล่นไปตามถนนอย่างโง่ๆ และขับรถตามใจตัวเองอยู่เรื่อยไป
ชาตินี้ เขาเป็นผีตนหนึ่งไปแล้ว อีกทั้งรถก็เป็นของเพื่อน หนำซ้ำยังเป็นเพื่อนที่มีห้องชุดยี่สิบกว่าห้องอีกด้วย คงไม่สนใจรถนิสสันคันนี้สักเท่าไร ประกอบกับการที่อีกฝ่ายยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า โจวเจ๋อก็เลยจัดให้เขาสักดอก
ในเมื่อพ่อแม่ไม่ได้อบรมสั่งสอนเขาอย่างดี โจวเจ๋อจึงไม่รังเกียจที่จะช่วยพวกเขาอีกแรง
อิงอิงวิ่งเอาป้ายสัญญาณเตือนไปวางไว้เรียบร้อยแล้วก็วิ่งกลับมา ส่วนโจวเจ๋อลงจากรถมามองดูเจ้าบ้านั่นคลานออกมาจากหน้าต่างรถ
“หึ ตายยากจริงๆ”
โจวเจ๋อเขี่ยบุหรี่ เจ้านั่นยังครบสามสิบสองดี นอกจากผิวถลอกนิดหน่อย เลือดที่ดูเหมือนอาบไปทั่วหน้าอย่างนี้ จริงๆ แล้วเป็นแค่บาดแผลบริเวณผิวหนังภายนอกบางส่วนเท่านั้น อาการไม่หนักเลยสักนิด
โจวเจ๋อที่เป็นแพทย์ในชาติที่แล้วยังพอมีสายตาเฉียบแหลมอยู่บ้าง
“แม่ง…” อีกฝ่ายชี้นิ้วใส่โจวเจ๋อ “ฉันเอานายตายแน่”
โจวเจ๋อส่ายหัว กระทั่งคร้านจะสนใจเจ้าบ้านี่ คนประเภทนี้น่ารังเกียจที่สุด ในโลกทัศน์ของเขาเอง เขาเป็นฝ่ายถูกเสมอ
คนอื่นเป็นพ่อเป็นแม่ของเขา ล้วนต้องเอาอกเอาใจและยอมเขา และเขาเองจะไม่ทนทุกข์กับความน้อยเนื้อต่ำใจเด็ดขาด
ไม่นานตำรวจและตำรวจจราจรก็มาถึงแล้ว โจวเจ๋อมีท่าทีให้ความร่วมมือในการสอบสวนดีมาก
มีกล้องวงจรปิดอยู่ด้านบน และมีกล้องติดรถยนต์อยู่ในรถของตัวเองอีกด้วย หลังจากดำเนินการตามกระบวนการทั้งหมด โดยพื้นฐานแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร
อีกทั้งโจวเจ๋อก็ไม่กังวลกับภูมิหลังของอีกฝ่ายว่าจะใช้วิธีการสกปรกเป็นการภายในด้วย
หลังการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 19 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน สังคมและอุตสาหกรรมทั้งหมดกำลังศึกษาจิตวิญญาณของแนวคิดใหม่ๆ ในยุคใหม่อย่างลึกซึ้ง ระบบของตำรวจและตำรวจจราจรก็ดำเนินมาตรการตามแนวคิดการบริการประชาชนและการบังคับใช้กฎหมายเพื่อประชาชน เสริมสร้างระดับแนวคิดทางการเมืองของผู้บังคับใช้กฎหมาย กลายเป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลังที่แข็งแกร่งในการปกป้องทรัพย์สิน ชีวิต และความปลอดภัยของประชาชน และปกป้องความสำเร็จของการปฏิรูปและการเปิดประเทศอย่างแท้จริง!!!
ผลการสอบสวนของตำรวจและตำรวจจราจรล้วนเป็นไปตามที่โจวเจ๋อคาดไว้
สำหรับเรื่องการเหยียบคันเร่งของโจวเจ๋อในตอนสุดท้ายนั้น ใครจะแน่ใจได้ว่าโจวเจ๋อจงใจทำอย่างนั้น
‘ผมกลัว ตอนนั้นจู่ๆ มันก็โผล่ออกมา จึงเหยียบคันเร่งไปโดยไม่รู้ตัว ไม่เกี่ยวกับผมนะ’
ในฐานะพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย เถ้าแก่โจวมั่นใจว่าไม่มีอะไรต้องกลัว!
แต่ทว่า ในตอนท้ายที่สุดตำรวจจราจรเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเดินมาหาโจวเจ๋อ ทำความเคารพและเอ่ยขึ้นว่า “รบกวนแสดงใบอนุญาตขับขี่ของคุณหน่อยครับ”
“…” โจวเจ๋อ
ฉิบหาย!
ในใจของเถ้าแก่โจวในขณะนั้น เหมือนมีตัวเหี้ยหมื่นตัววิ่งผ่านไป
เขาลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปเรื่องหนึ่ง เขาไม่มีใบขับขี่!
ครั้งที่แล้วนักพรตเฒ่าขับรถไปเหยียนเฉิงถูกตำรวจจราจรขวางไว้และถูกจับเข้าไป ต่อมาโจวเจ๋อบอกกับนักพรตเฒ่าว่าจะไปสอบใบขับขี่ด้วยกัน แต่หลังจากนั้นก็ล่าช้าเพราะเรื่องราวต่างๆ โจวเจ๋อเองก็ตกอยู่ในอาการโคม่าอยู่สองครั้ง มีเวลาที่ว่าที่ไหนกันล่ะ
สวีเล่อ ไอ้ชั่ว แกมันไม่ใช่คน ก่อนหน้านี้แกเจียดเวลาไปสอบใบขับขี่มาสักหน่อยมันจะตายหรือไงฮะไอ้นี่!
“ผมไม่ได้พกใบขับขี่มาด้วย” โจวเจ๋อพูด
“ไม่ได้เอามางั้นเหรอ” ตำรวจจราจรชะงักไปครู่หนึ่ง
การขับรถโดยไม่พกใบขับขี่แตกต่างจากการขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หลังจากถูกตำรวจจราจรจับได้ โดยทั่วไปแล้วจะถูกอายัดรถไว้ก่อน หลังจากเขาได้ใบขับขี่มาแล้วถึงจะสามารถไปรับรถได้ ถ้าโชคไม่ดีหน่อยละก็ จะถูกปรับอีกสองร้อยหยวน
“ผมจะให้เพื่อนของผมส่งมาให้ตอนนี้เลย บ้านผมอยู่ไม่ไกลจากที่นี่” โจวเจ๋อพูด
ตำรวจจราจรพยักหน้า ขณะเดียวกันก็เหลือบมองโจวเจ๋ออย่างสงสัย
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว รถเบนซ์จะต้องรับผิดชอบเต็มๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะสามารถเห็นได้จากวิดีโอกล้องวงจรปิดที่ได้รับมาว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุรถเบนซ์คันนี้ขับรถตามใจตัวเองขนาดไหน
แต่ถึงอย่างไร หากโจวเจ๋อขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ละก็ ลักษณะของปัญหามันจะแตกต่างออกไปทันที
“เถ้าแก่ โทรบอกให้นักพรตเฒ่าเผาเงินกระดาษมาให้ไหมเจ้าคะ”
อิงอิงขยับพิงหลังโจวเจ๋อและถามเสียงเบา
“เผาเงินกระดาษมาตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร”
โจวเจ๋อจนปัญญาแล้ว การเผาเงินกระดาษทำได้แค่ลบล้างผลกระทบและปัญหาที่เกิดจากสิ่งที่คุณไม่ได้ทำและสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับคุณเท่านั้น
แต่เถ้าแก่โจวขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่จริงๆ
คุณจะบอกตำรวจจราจรไปว่าผมไม่ได้ชื่อสวีเล่อ ผมชื่อโจวเจ๋อไม่ได้หรอกใช่ไหมล่ะ
‘คุณอาตำรวจจราจรครับ ผมยืมซากศพคืนชีพมา พวกคุณสามารถตรวจสอบได้ว่าภายใต้ชื่อโจวเจ๋อนี้มีใบขับขี่อย่างแน่นอน’
ถ้าอธิบายอย่างนี้ไปแล้ว ผลที่ตามมาไม่เพียงแต่เป็นการขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่และทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เท่านั้น กระทั่งโจวเจ๋ออาจจะถูกจับส่งโรงพยาบาลจิตเวชไปด้วย
“คุณรีบโทรบอกให้เพื่อนของคุณส่งมาเร็วๆ” ตำรวจจราจรพูดขึ้น “ที่จริงเราสามารถตรวจสอบมันได้ที่นี่เลยนะ หรือว่าให้ผมช่วยตรวจสอบตอนนี้…”
“ไม่ต้องๆ อีกเดี๋ยวก็ได้แล้ว”
โจวเจ๋อหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดโทรหาจางเยี่ยนเฟิง
“ฮัลโหล…”
จางเยี่ยนเฟิงที่อยู่ปลายสายดูเหมือนจะเพิ่งตื่น กลางวันแสกๆ ยังนอนหลับอยู่ คาดว่าคงจะโต้รุ่งเพื่อทำคดีอะไรบางอย่างละมั้ง
“ผมเอง”
“อ้อ มีอะไร”
“ผมเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์น่ะ คุณช่วยส่งใบขับขี่ของผมมาให้หน่อยสิ” โจวเจ๋อพูดพลางมองตำรวจจราจรไปด้วย
“ใบขับขี่เหรอ มาถามหาใบขับขี่ของคุณกับผมทำไม…” จางเยี่ยนเฟิงได้สติทันใด ในฐานะตำรวจอาชญากรรมอาวุโส ปฏิกิริยาตอบสนองของเขายังคงเฉียบคมมาก “คุณขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ใช่ไหม”
“ใช่แล้ว มันอยู่ในลิ้นชักที่สองใต้โต๊ะคอมผม คุณรีบเอามาเร็วๆ หน่อย”
“คุณประสบอุบัติเหตุขณะขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่งั้นเหรอ”
“อ้อ หาเจอแล้วใช่ไหม ผมจะบอกให้นะ เป็นอีกฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ส่วนผมน่ะซวยเอง”
“คุณโทรหาผมหมายความว่ายังไงน่ะ อยากให้ผมใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตนเหรอ ผมบอกคุณให้นะ หลังจากการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 19 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หน่วยงานความมั่นคงทั้งหมด…”
“อ้อ ใช่สิ กระเป๋าเอกสารที่คุณให้ผมครั้งที่แล้วก็อยู่ในลิ้นชักนั้นด้วย ผมดูมันแล้วนะ ไม่มีปัญหา คุณเอาใบขับขี่มาส่งให้ผม ผมจะไปดูบ้านหลังนั้นกับคุณ และจะช่วยแนะนำคุณเรื่องการซื้อบ้านด้วย”
“…” จางเยี่ยนเฟิง
ปลายสายโทรศัพท์เงียบไปพักหนึ่ง จากเยี่ยนเฟิงถอนหายใจและพูดขึ้น
“เอาโทรศัพท์ให้ตำรวจจราจรที่อยู่ข้างๆ คุณหน่อยสิ”
“ครับ”
โจวเจ๋อยื่นโทรศัพท์ส่งให้ตำรวจจราจรตรงหน้า “ขอสายคุณน่ะ”
ตำรวจจราจรอึ้งไปครู่หนึ่ง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ข้อร้องละ นี่มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณ จำเป็นต้องใช้เส้นสายด้วยเหรอ
ตำรวจจราจรปฏิเสธที่จะรับสายทันที ขณะเดียวกันก็เอ่ยขึ้นอย่างเฉียบขาด “นี่คุณหมายความว่ายังไงน่ะ ผมจะบอกคุณให้นะ หน้าที่ก็คือหน้าที่ คุณจะหาใคร จะหาเส้นสายอะไรก็ไม่มีประโยชน์! โดยเฉพาะหลังจากการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 19 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน…”
“ผมคือจางเยี่ยนเฟิง!” โจวเจ๋อเปิดลำโพง
ตำรวจจราจรลังเลอยู่พักหนึ่ง และรับสายโทรศัพท์ไป
“หัวหน้าจาง คุณหมายความ…ครับผม ผมทราบแล้ว ผมเข้าใจแล้ว ผมรู้ ครับ ครับผม”
ตำรวจจราจรยื่นโทรศัพท์คืนให้โจวเจ๋อ ขณะเดียวกันก็ทำความเคารพโจวเจ๋อ จากนั้นเดินจากไป
โจวเจ๋อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง “ฮัลโหล พวกคุณอยู่กันคนละสังกัดแต่ก็ยังตกลงคุยกันได้ด้วยสินะ”
“ผมบอกเขาไปว่าคุณเป็นสายลับของสถานีตำรวจของเรา ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของคุณได้ในขณะนี้ รออีกหน่อยผมค่อยทำเอกสารย้อนหลังส่งไปให้”
“ทางการขนาดนี้เลยเหรอ”
“คุณอยู่ในที่เกิดเหตุรถชนใช่ไหม ผมจะรีบขับรถไปเดี๋ยวนี้”
“คุณแน่ใจนะว่าจะไม่นอนต่ออีกหน่อย”
ร้อนใจขนาดนี้เลยเหรอ
“คดีนี้มันค้างคาอยู่ในใจของผมมานานเกินไปแล้ว!” จางเยี่ยนเฟิงพูดขึ้น
“เมื่อวานคุณน่าจะไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ การขับรถตอนนี้จัดเป็นการขับรถขณะไม่พร้อม คุณต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน”
“สิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบเป็นอันดับแรกก็คือคดีของผม!”
จางเยี่ยนเฟิงที่อยู่ปลายสายกระแทกเสียงขึ้นมา
“ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ หากพบว่าคุณไม่ได้อยู่ที่นั่นละก็ เรื่องที่คุณขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่จนก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็จะโดนตั้งข้อกล่าวหาทันที!”
“คุณขู่ผมเหรอ”
“คุณสามารถกำจัดตำรวจและตำรวจจราจรที่อยู่ใกล้ๆ และหนีไปใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนตัวตนได้ ผมรู้ความสามารถข้อนี้ของคุณดี”
“ทงเฉิงเป็นบ้านเกิดของผม ผมรักมัน และตัดใจจากมันไปไม่ได้หรอก”
‘ตู๊ดๆๆ…’
ฝั่งนั้นตัดสายไปแล้ว
“เถ้าแก่ เป็นยังไงบ้างเจ้าคะ”
“เถ้าแก่ของคุณต้องไปเป็นโคนันแล้ว อ้อ ใช่ คุณโบกแท็กซี่พาเหล่าสวี่กลับร้านหนังสือนะ ตำรวจจราจรจะลากรถคันนี้ไปก่อนน่ะ จากนั้นเรียกนักพรตเฒ่าไปที่บ้านหลังใหม่ที่คุณซื้อซะ…”
“หืม”
“เรียกนักพรตเฒ่าออกมาแล้วโทรหาผม”
“เจ้าค่ะ เถ้าแก่”
เหตุผลที่โจวเจ๋อเลือกที่จะพานักพรตเฒ่าไปแทนไป๋อิงอิง เป็นเพราะว่าถ้าสืบสวนคดีละก็ให้นักพรตเฒ่าวิ่งเต้นธุระให้จะคล่องตัวมากกว่าไป๋อิงอิง อีกทั้งนักพรตเฒ่าคนนี้เหมือนแมวตาบอดเจอหนูตายมักจะพบอะไรบางอย่างอยู่เสมอ
อิงอิงอุ้มสวี่ชิงหล่างพาดบ่าอย่างเชื่อฟังและนั่งแท็กซี่ออกไป ส่วนโจวเจ๋อยังอยู่ต่อ ยืนพิงรั้วกั้นรออยู่ในที่เกิดเหตุ
เจ้าโง่คนขับรถเบนซ์คันนั้นถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว ก่อนที่อีกฝ่ายจะถูกเข็นขึ้นรถฉุกเฉินไปยังไม่วายถลึงตาใส่โจวเจ๋ออีก คล้ายกับบอกให้คอยดูแล้วกัน
โจวเจ๋อเมินเฉยต่อการคุกคามงี่เง่าปัญญาอ่อนแบบนี้ หากอีกฝ่ายอยากจะแก้แค้นกลับละก็ โจวเจ๋อก็ไม่รังเกียจที่จะโต้ตอบกลับไป
ร้านหนังสือผีดิบไม่ใช่ชื่อที่ไร้ประโยชน์หรอกนะ
จางเยี่ยนเฟิงมาไวมากจริงๆ เขาจอดรถอยู่ริมถนนและส่งสัญญาณให้โจวเจ๋อขึ้นรถ ตำรวจสองสามนายที่ยังอยู่บริเวณใกล้เคียงทำความเคารพและทักทายเขา
“ตาคุณแดงขนาดนี้ ให้ผมขับรถให้ดีกว่านะ”
“คุณไม่มีใบขับขี่”
“อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของผมซะหน่อย”
“คุณไม่มีใบขับขี่ ผมให้คุณขับรถไม่ได้”
จางเยี่ยนเฟิงพูดแล้วก็สตาร์ทรถทันที
ชุมชนเล็กๆ ที่บ้านหลังนั้นตั้งอยู่ยังคงเป็นที่นิยมมาก อัตราเข้าพักอาศัยยังสูงมาก จางเยี่ยนเฟิงใช้ใบรับรองของเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านด่านรักษาความปลอดภัย และขับตรงไปข้างใน ท่าทางชำนาญลู่ทางเป็นอย่างดีหมายความว่าปกติแล้วเขาน่าจะมาที่นี่เป็นประจำ
รถแล่นตรงไปจอดที่หน้าประตูบ้าน
สวนเล็กๆ หน้าบ้านหลังอื่นได้รับการดูแลตกแต่งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก มีเพียงหลังนี้เท่านั้นที่ดูทรุดโทรมและมีหญ้าขึ้นรก
หลังจากผลักรั้วและเดินเข้าไป จางเยี่ยนเฟิงก็หยิบคีย์การ์ดออกมาเปิดประตู
“เหอะๆ ถ้าไม่รู้นี่นึกว่าเป็นบ้านของคุณเองเลยนะเนี่ย ผมได้ยินมาว่าผู้เสียชีวิตที่นี่ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลูกน้อยสองคนใช่ไหมนะ”
จางเยี่ยนเฟิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ยืนหยุดอยู่ที่โถงทางเข้าและเอ่ยขึ้นอย่างเคร่งขรึม
“ใช่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องสาวของผม น้องสาวแท้ๆ เด็กสองคนนั้น เป็นหลานชายและหลานสาวแท้ๆ ของผม”
“ขอโทษครับ” โจวเจ๋อเม้มริมฝีปาก “ถ้าคุณบอกผมเร็วกว่านี้ ผมคงไม่โอ้เอ้ทำเสียเวลานานขนาดนี้หรอก”
“ขอบคุณ”
“เจอตัวฆาตกรหรือยัง”
“ผู้ต้องสงสัยคือน้องเขยของผม”
…………………………………………………………………….
