ตอนที่ 311 เลือดหยดจากหัวใจ
หลังจากตื่นขึ้นมา ไป๋อิงอิงบอกว่าจะไปชงน้ำชาให้โจวเจ๋อ แต่โจวเจ๋อปฏิเสธ แล้วหันมาสั่งไป๋อิงอิงให้เตรียมน้ำสะอาดสามแก้วใหญ่ให้ตัวอง หลังจากดื่มน้ำหมดแล้วจึงรู้สึกสบายใจไม่น้อย
ในฝันก่อนหน้านั้น ความรู้สึกร้อนเหมือนโดนอบทำให้คนรู้สึกทรมานทนไม่ไหวจริงๆ ถึงแม้ตอนนี้จะตื่นแล้วก็ตาม แต่เขายังรู้สึกกลัวเหมือนเดิม เหมือนเพิ่งออกมาจากสระว่ายน้ำหลังจากว่ายน้ำเล่นมาตลอดบ่าย คุณกระทั่งไม่สามารถควบคุมความสมดุลโน้มถ่วงของตัวเองได้เลย เวลาเดินยังรู้สึกตัวลอย
สาวน้อยโลลินั่งข้างเตียงของโจวเจ๋อ ไม่ได้ไปไหน เหมือนสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์ตัวหนึ่ง เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาโจวเจ๋อกระทั่งรู้สึกได้ถึงความโลภที่ไม่อาจปิดบังจากดวงตาของเธอ
“เจ้าดูสมุดยมทูตของเจ้าสิ” สาวน้อยโลลิพูดเตือน “บนนั้นน่าจะมีประกาศจับฉบับล่าสุด” โจวเจ๋อยื่นมือกุมหน้าผากของตัวเอง ลังเลเล็กน้อย แล้วจึงใช้มืออีกข้างหนึ่งเปิดสมุดยมทูต สองสามหน้าแรกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หน้าสุดท้ายกลับปรากฏประกาศจับขนาดเล็กสองใบ บนนั้นมีรูปของอีกฝ่ายรวมทั้งประวัติส่วนตัวและตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบัน
ผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงหนึ่งคน ผู้ชายอยู่ที่หรูเกา ผู้หญิงอยู่ที่ทงโจว ล้วนอยู่ในบริเวณของทงเฉิง อย่างไรก็ตามมีหกอำเภอที่อยู่ภายใต้การดูแลของทงเฉิง
โจวเจ๋อจุดบุหรี่หนึ่งมวน พูดตามจริง สิ่งที่อยู่บนประกาศเขาไม่ได้สนใจมากเท่าไร ตอนนี้เขายังรู้สึกหนักๆ มึนๆไปทั้งตัว ประเด็นสำคัญคือแส้เส้นนั้น ถึงแม้จะอยู่ในความฝันแต่กลับเหมือนจริงเป็นอย่างมาก นอกจากการทำร้ายครั้งสุดท้าย ฉากและเรื่องราวก่อนหน้านั้นล้วนสมจริง
“พวกเราเตรียมตัวออกไปจับพวกเขากันเถอะ นี่คือปลาตัวใหญ่เชียวนะ ผลงานถูกส่งมาหาถึงที่ ถ้าหากจับตายก็ตีวิญญาณของพวกเขาให้แตกดับไปเลย จับได้หนึ่งตัวสามารถทำผลงานได้ดีกว่าจับผีสิบตัวลงนรกก่อนหน้านั้นอีก ถ้าหากจับเป็นแล้วเปิดประตูแห่งความตายส่งพวกเขาไปนรก หนึ่งตัวสามารถหักล้างได้ยี่สิบตัว!
ตอนนี้ผลงานของเจ้าคือเศษสามร้อยส่วนหนึ่งพัน หมายความว่าเจ้าต้องจับนักโทษที่หลบหนีออกมาแบบนี้เจ็ดแปดตัว ผลงานก็จะมากพอให้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าผู้จับกุม ถึงตอนนั้นค่อยทำเหมือนตอนบังคับคนนั้นที่อยู่ฉางโจวอีกครั้ง ไปจับยมทูตสองสามตนอื่นมาเป็นลูกน้อง แล้วเจ้าจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าผู้จับกุมอย่างเป็นทางการ”
สาวน้อยโลลิเหมือนภรรยาแสนดีที่เป็นกังวลคอยวางแผนและกำหนดทิศทางความเจริญก้าวหน้าให้สามีที่ไม่ได้เรื่องของตัวเอง
แต่โจวเจ๋อไม่สนใจเรื่องผลงานเลยสักนิด อย่างน้อยสีหน้าท่าทางที่แสดงออกของเขาก็เป็นเช่นนี้ เขาได้แต่ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “นักโทษพวกนี้ หนีออกมาได้ยังไง” ใช่แล้ว โจวเจ๋อสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ทำไมนักโทษพวกนี้จึงหนีออกมาได้นรกมีพญายมราชทั้งสิบและพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ไม่ใช่เหรอ แล้วก็มีทหารยมโลกอีกมากมายนับไม่ถ้วนบวกกับการกำราบของยมโลกอย่างหนักหน่วง แล้วจะมีคนหนีออกมาได้อย่างไร
“เรื่องพวกนี้ พวกเราไม่จำเป็นต้องสนใจ และระดับของพวกเราในตอนนี้ ก็ไม่สามารถให้ความสนใจได้ แต่ถ้าหากเจ้าอยากรู้จริงๆ ข้าพอจะเล่าให้เจ้าฟังได้ ในนรกใช่ว่าจะซื่อตรงไปเสียทุกอย่าง ในนั้นก็มีอำนาจและอิทธิพลต่างๆ นานา สู้กันทั้งในที่ลับและที่แจ้ง จริงๆ แล้วทุกครั้งของการก่อการจลาจลกับผีร้ายที่หนีมาจากนรก ต้องมีอิทธิพลของใครบางคนที่อยู่เบื้องบนแทรกมือเข้ามาแน่นอน
หยินหยางแยกเป็นสองทาง มีหลักการเดียวกันกับฮ่องเต้ในโลกมนุษย์ที่ฝันมาตลอดว่าหลังจากตัวเองตายไปแล้วจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในนรก จึงสร้างสุสานใหญ่โตใช้รูปปั้นกระทั่งคนเป็นๆ ฝังลงไปพร้อมกับตัวเองเพื่อรอไปบุกเมืองผีด้วยกัน พวกผู้มีอิทธิพลในนรกแท้จริงแล้วไม่เคยยอมลดละที่จะแทรกเข้ามาในโลกมนุษย์ และวิญญาณร้ายเหล่านี้ กระทั่งมีอยู่หนึ่งหรือสองคนที่กลายเป็นเบี้ยอยู่ในมือของลูกพี่บางคน แต่พวกเขาจะปล่อยผีออกมาเฉยๆ คงจะดูน่าเกลียดเกินไป ดังนั้นมักจะก่อเหตุจลาจลประเภทนี้ เพื่อให้เบี้ยทั้งสองของตัวเองสามารถซ่อนตัวอยู่ในนั้น ส่งพวกเขากลับมาที่โลกมนุษย์
วิญญาณร้ายที่หนีออกมาส่วนใหญ่ล้วนเป็นเป้าหมายที่ยมทูตอย่างพวกเราต้องตามจับ ตัวประกอบคอยวิ่งในฉากจึงกลายเป็นของบำรุงยมทูตระดับพวกเรา แต่เจ้าก็รู้ว่า สองคนนั้นมีเกราะป้องกันไม่โดนจับได้ง่ายๆ หรอก พวกเขามีความสามารถที่น่ากลัวยิ่งกว่าพวกเราที่เป็นยมทูต แน่นอนว่า ถ้าหากจับส่งนรกได้ จะได้รางวัลใหญ่ขึ้น ถึงแม้จะทำลายเบี้ยของลูกพี่คนใดคนหนึ่ง แต่เมืองนรกก็มีกฎระเบียบที่เป็นของตัวเอง”
“ยากที่จะเข้าใจอยู่ดี”
“ยกตัวอย่างเช่น คนนั้นที่ฆ่ายมทูตอย่างพวกเราไปหลายคนตอนที่อยู่หรงเฉิงครั้งที่แล้ว” สาวน้อยโลลิมองโจวเจ๋อ “เหอะๆ ข้ารู้สึกว่าเขาอาจจะเป็นคนพิเศษคนหนึ่งในบรรดาผีร้ายที่หนีออกมาจากเหตุจลาจลเมื่อสองปีที่แล้ว ถ้าหากเจ้ามีโอกาสได้เห็นวิญญาณที่แท้จริงของเขา จะต้องอนาถน่าสมเพชเป็นอย่างมาก โดยพื้นฐานแล้วน่าจะโดนทรมานจนไม่เหลือรูปคน รวมไปถึงผู้หญิงที่ชื่อถังซือคนนั้น สภาพวิญญาณที่แท้จริงของเธอจะไม่สวยเหมือนร่างที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้แน่นอน แถมยังชอบใส่ถุงน่องกระโปรงสั้นอีก”
สาวน้อยโลลิพูดเน้นถึงสาวสวยที่อยู่ข้างกายโจวเจ๋อในเชิงลบเป็นนัยๆ โดยไม่รู้ตัว ลองคิดดูสิ มีผู้ชายไม่น้อยมักจะเสียงานเพราะความสวยของผู้หญิง ถ้าหากรู้ว่ามีวิญญาณที่โดนทรมานไม่เหลือแม้แต่เนื้อหนังซ่อนอยู่ภายใต้ร่างนี้ อุปสรรคนั้นจะใหญ่มากกว่าเดิม
สำหรับโจวเจ๋อแล้ว เท่ากับอุปสรรคซ้อนอุปสรรค
“แล้วผมล่ะ” โจวเจ๋อชี้ไปที่ตัวเอง
“เจ้าเป็นกรณีพิเศษ ตอนแรกไอ้บ้าคนนั้นอยากเล่นเกมยักย้ายถ่ายเท เพื่อให้พี่สาวของตัวเองมีความสุข แต่ตัวของเจ้าไม่ใช่อย่างนั้น สุดท้ายใครเล่นใครกันแน่ก็ยังไม่รู้ และเจ้าไม่ได้อยู่ในขอบเขตของผีร้าย เจ้าแค่เดินถูๆ ไถๆ อยู่ด้านนอกสุดเสร็จแล้วก็กลับมา ยังไม่ได้เข้าไป”
โจวเจ๋อยื่นมือลูบศีรษะของสาวน้อยโลลิ สาวน้อยโลลิยิ้มซื่อๆ ให้กับเขา ฉากในตอนนี้เหมือนพ่อกับลูกสาวจอมซื่อคู่หนึ่ง นั่งปลอบใจกันเมื่อเจอกับความลำบากของชีวิต
“ถ้าหากเจ้าอยากป้องกันการแทนที่ของคนผู้นั้นที่อยู่ในตัวเจ้า วิธีที่ดีที่สุด ก็คือปีนขึ้นไปข้างหน้าทีละก้าวได้รับการแต่งตั้งจากเมืองนรกอย่างต่อเนื่อง ใช้ประกาศิตของยมโลกรวมทั้งฐานะของเจ้าโต้กลับและกักขังเขา!” สาวน้อยโลลิรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริงๆ การกระตุ้นปลาเค็มตัวหนึ่งให้รู้จักคิดเอง ยากมากถึงมากจริงๆ
“อย่างเช่นสมุดยมทูตของเจ้า ที่แตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง ของเจ้ากับของข้าไม่สามารถเทียบกันได้ นี่จึงเป็นโอกาสของเจ้า!” สาวน้อยโลลิชี้ไปที่สมุดยมทูตของโจวเจ๋อแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม
หรือจะพูดง่ายๆ ความหมายของสาวน้อยโลลิก็คือ สิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ ไม่ใช่เส้นทางสว่างอะไร แต่เป็นสะพานไม้เดี่ยว ไม่มีทางถอย ต้องเดินไปบนเส้นทางข้างหน้าอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นระยะห่างจากวันที่คุณจะโดนแทนที่เหลืออีกไม่ไกลแล้วจริงๆ
โจวเจ๋อดื่มน้ำอีกหนึ่งอึก ก่อนจะลุกขึ้นยืดแขนบิดขี้เกียจแล้วพูดว่า “อย่างนั้นก็ไปจับคนที่อยู่ทงโจวก่อน เป็นผู้หญิงใช่ไหม ชาติที่แล้วเป็นคนค้ายา โดนยิงตาย ตอนนี้บนสมุดยมทูตระบุตำแหน่งของเธออยู่ที่หมู่บ้านสือกั่ง เขตทงโจว การระบุตำแหน่งมาได้ยังไง”
“ดวงตาของนรก ยากที่เจ้ากับข้าจะจินตนาการได้ ขอแค่เธอไม่มีวิธีที่พิเศษอะไรลบซ่อนร่องรอยของตัวเอง เธออยู่ที่ไหน พวกเราก็รู้ และพอพวกเราไปถึงหมู่บ้าน ยิ่งจะสัมผัสรายละเอียดได้มากขึ้น”
“งั้นก็ไปจับเธอก่อน” โจวเจ๋อคิดแล้วจึงพูดว่า “ผีร้ายเยอะขนาดนี้ ทงเฉิงมีแค่สองตัวเองเหรอ”
“เจ้าจับที่ทงเฉิงเสร็จแล้ว จะไปจับที่อื่นอีกก็ได้ เจ้ารับลูกน้องที่ฉางโจวเอาไว้คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ ให้เขาช่วยเจ้าได้พอดี อ้อใช่ การจับผีร้ายครั้งนี้ ถึงแม้เจ้าจะส่งลงไป แต่ถ้าข้าได้ช่วยเหลือก็จะได้รับการแบ่งคะแนนด้วย” สาวน้อยโลลิเพียงต้องการอธิบายว่าทำไมตัวเองถึงกระตือรือร้นเช่นนี้
ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินลงมาข้างล่าง แวบแรกที่โจวเจ๋อเห็นคือสวี่ชิงหล่างกำลังนอนมาส์กหน้าอยู่บนโซฟา โจวเจ๋อตกตะลึง จากนั้นจึงยิ้มมุมปาก เดินตรงไปชกหน้าอกของสวี่ชิงหล่างหนึ่งที
“จริงๆ เลย!” สวี่ชิงหล่างเอามือป้องหน้าอกของตัวเองแล้วตกลงมาจากโซฟา เปิดแผ่นมาส์กหน้าออกแล้วมองโจวเจ๋ออย่างไม่ค่อยเข้าใจ “ผมเพิ่งตื่น ร่างกายอ่อนแอ”
“นายตื่นแล้วก็ดี” โจวเจ๋อนั่งบนโซฟา “อีกสักพักจะออกไปข้างนอก ทำกับข้าวด้วย”
“…” สวี่ชิงหล่าง
ถึงแม้จะไม่พอใจกับการปฏิบัติเช่นนี้ แต่เหล่าสวี่ก็เดินขึ้นไปทำกับข้าวในห้องครัว สำหรับคนที่ถนัดทำอาหาร สามารถทำอาการรสเลิศให้คนข้างกายของตัวเองได้ชิม เป็นเรื่องที่น่าเพลิดเพลินมากอย่างหนึ่ง และในใจของสวี่ชิงหล่างก็รู้ดี ช่วงที่ตัวเองสลบไปได้สร้างความยุ่งยากให้คนรอบข้างไม่น้อย บางครั้งเขายังพอสัมผัสได้ว่าโจวเจ๋อคอยตรวจดูอาการของตัวเองอย่างละเอียดทุกวัน
เมื่อสวี่ชิงหล่างเดินขึ้นไป โจวเจ๋อจึงถามนักพรตเฒ่าที่อยู่ข้างๆ “เขาฟื้นได้ยังไง”
“ราคาห้องลด ตกใจตื่นมาอยากรีบขายทิ้ง”
“เหอะๆ” โจวเจ๋อส่ายหน้าด้วยท่าทางไม่เห็นด้วย เดี๋ยวนี้ห้องจะไปสำคัญอะไร
เวลานี้โทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ชั้นหนึ่งกำลังออกอากาศข่าว ฝรั่งเศสเอาชนะโครเอเชียในฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศและได้รับถ้วยฟุตบอลโลก จากนั้นหน้าจอข่าวได้เปลี่ยนไป เหมือนมีนักข่าวกำลังสัมภาษณ์หนึ่งในทีมนักขุดโบราณคดี น่าจะขุดพบเจอสุสานโบราณอะไรสักอย่าง และน่าจะมีวัตถุโบราณอยู่ในนั้นมากมาย มองจากการกลั้นยิ้มบนใบหน้าของทีมงานก็รู้แล้ว
“ขุดสุสานโบราณอีกแล้วเหรอ” โจวเจ๋อถาม
“ใช่แล้ว” นักพรตเฒ่าขมวดคิ้ว วางน้ำชาตรงหน้าโจวเจ๋อเมื่อรู้ตัวจากนั้นเว้นระยะห่างทันที
“เหอะๆ พูดถึงสุสาน อ้อใช่ นักพรตเฒ่า เงินของเจ้าที่คนนั้นคุณวางไว้ที่ไหน” โจวเจ๋อถามพลางยกถ้วยน้ำชาตรงหน้าขึ้นมา แล้วจิบเล็กน้อย ในที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องเงินอีก เหรียญเงินเหรียญทองเยอะแยะขนาดนั้น ถึงแม้ไม่ซื้อบ้านแต่มีเงินทองวางไว้ในบ้านมากมายแบบนี้ก็นับเป็นเงินที่แข็งค่า สามารถสู้เงินเฟ้อได้แน่นอนไม่มีปัญหา และที่สำคัญที่สุดคือ โจวเจ๋อฝันมาตลอดว่าอยากเป็นเหมือนกร็องเดต์ เวลาว่างไม่มีอะไรทำก็นอนอยู่บนกองเงินกองทองของตัวเองแล้วตัดสินความเหม็นความชั่วร้ายของพวกทุนนิยม
“เอ่อ…”
“เป็นอะไร”
“อยู่นี่ไง” นักพรตเฒ่าชี้ไปที่หน้าจออย่างหวาดกลัว “ตอนนั้นรีบหนีออกไปและคนอื่นก็มาแล้ว ข้าจึงเก็บไม่ทันตำรวจจางบอกว่าเป็นวัตถุโบราณ ต้องมอบให้ประเทศ”
‘เพล้ง!’ ยังคงมีรอยยิ้มจางๆ อยู่บนหน้าของโจวเจ๋อ แต่ถ้วยน้ำชาในมือกลับถูกเขาบีบแตกโดยตรง เลือดสดบนนิ้วมือไหลไปตามถ้วยน้ำชาที่แตกละเอียด ราวกับว่าหัวใจของตัวเองมีเลือดหยดตามไปด้วย…
…………………………………………………………………………