ตอนที่ 318 ฉางโจว
บนถนนของกินเล่นเล็กๆ แห่งหนึ่งในฉางโจว แสงไฟสองข้างทางที่สว่างเหมือนช่วงปกติมีไม่มากนัก แต่ร้านแผงลอยด้านล่างกับลูกค้ากลับเยอะแยะมากมาย เกิดบรรยากาศที่ร้อนดังไฟและเสียงดังโวยวาย ชายหนุ่มคนหนึ่งจูงมือสาวน้อยโลลิค่อยๆ เดินเข้าไปบนถนนสายนี้ กลิ่นหอมของอาหารกินเล่นมากมายสองข้างทางสามารถทำให้คนอื่นทั่วไปน้ำลายสอได้มากพอ แต่สำหรับเด็กและผู้ใหญ่สองคนนี้ พวกเขาทำได้แต่ขมวดคิ้ว
นอกจากตอนที่จำเป็นต้องกินอาหารสามมื้อต่อวัน พวกเขาถึงจะดื่มน้ำดอกพลับพลึงแดงนิดหน่อย โดยปกติแล้วสามารถประหยัดได้ก็จะประหยัด ในช่วงที่ไม่ได้ดื่มมัน สำหรับพวกเขาแล้วกลิ่นหอมของอาหารทำให้รู้สึกทรมานเหมือนเวลาที่คนทั่วไปเดินอยู่ในกองขยะ
ทั้งสองคนเดินได้ระยะหนึ่ง เมื่ออยู่ในซอยมืดตึ๊ดตื๋อที่อยู่ตรงทางเลี้ยวของถนนของกินเล่นแล้ว ทั้งสองคนจึงหยุดเดิน สถานที่ที่คึกคักแค่ไหนต้องมีมุมสงบทั้งสิ้น ที่นี่ก็เช่นกัน รถสามล้อที่พนักงานทำความสะอาดต้องใช้เมื่อมาทำงานในวันพรุ่งนี้ถูกล็อกไว้ตรงนี้ ข้างๆ ยังมีกองขยะขนาดใหญ่ มีขยะทิ้งอยู่ในนั้นมากมาย
ด้วยเหตุนี้ ร้านแผงลอยในถนนของกินเล่นจึงอยู่ห่างจากตรงนี้ไกลพอสวมควร อย่างไรก็ตามสิ่งที่ขายตามร้านแผงลอยไม่ค่อยสะอาดเท่าไร ถึงแม้จะไม่สะอาดกินแล้วไม่ป่วย แต่ถ้าปล่อยให้ลูกค้านั่งกินข้างกองขยะแบบนี้ คาดว่าคงจะมีลูกค้าไม่กี่คนที่ยินยอม
เพราะฉะนั้นบนถนนสายนี้ มีสถานที่นี้เท่านั้นที่ไม่มีกลิ่นควันและน้ำมัน และยิ่งไม่มีกลิ่นอาหารโชยมา ถึงแม้ขยะที่ทิ้งรวมกันจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว แต่กลับทำให้โจวเจ๋อและสาวน้อยโลลิถอนหายใจโล่งอก
พวกเขารู้สึกว่าที่นี่สามารถทำให้หายใจได้ปกตินิดหน่อย โจวเจ๋อมองสาวน้อยโลลิแล้วบุ้ยปากส่งสัญญาณ สาวน้อยโลลิหันหน้าหนี “คืนนี้ดาวสวยจัง”
“วันนี้เป็นข้างแรม”
สาวน้อยโลลิตกตะลึง เหลือบตามองโจวเจ๋อแบบไม่พอใจหนึ่งที โจวเจ๋อถอยหลังไปหนึ่งก้าวพลางมองเธอ สาวน้อยโลลิกำหมัดเล็กข้างหนึ่งใส่โจวเจ๋อ แล้วใช้หมัดอีกข้างหนึ่งโบกไปมา จากนั้นมือที่กำหมัดแน่นของเธอก็ค่อยๆ ชูนิ้วกลางให้โจวเจ๋อ โจวเจ๋อยักไหล่อย่างไม่ถือสา ใครสั่งให้เขาเป็นคนรักสะอาดล่ะ
เมื่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้ว สาวน้อยโลลิจึงเดินเข้าไปในกองขยะอย่างรังเกียจ ยื่นมือโกยขยะข้างบนทิ้ง เด็กสาวน่ารักเหมือนตุ๊กตากำลังคุ้ยขยะไม่ต่างจากคนเก็บขยะ ถ้าหากปล่อยให้แอนเดอร์เสน[1]มาเห็น คาดว่าเขาน่าจะเขียนนิทานเรื่อง ‘เด็กหญิงเก็บขยะ’ เป็นแน่ ในที่สุดหลังจากผลักถุงขยะออกไปอีกสองสามถุง จึงเห็นใบหน้าฟกช้ำดำเขียวของคนผู้หนึ่งโผล่ออกมาจากด้านใน
หลิวฉู่อวี่เดิมทีถือว่ามีหน้าหล่อเหมือนโอปป้าเกาหลี ตอนนี้กำลังนอนอยู่ข้างล่างเหมือนคนนอนป่วย สาวน้อยโลลิยื่นมือตบใบหน้าของอีกฝ่าย ‘แปะๆๆ!’ โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย กลัวว่าสาวน้อยโลลิจะทำให้หลิวฉู่อวี่ที่ยังไม่ตายต้องตายจริงๆ
โจวเจ๋อรู้ว่า สาวน้อยโลลิกำลังระบายความโกรธที่ต้องเก็บขยะ เธอไม่กล้าโมโหใส่โจวเจ๋อ จึงได้แต่โทษหลิวฉู่อวี่ที่ไร้ประโยชน์ถึงขั้นนี้ ถูกคนอื่นเล่นงานแล้วยังโดนเอามาทิ้งใส่กองขยะ
โชคดีที่หลิวฉู่อวี่เป็นคนดวงแข็ง หรือจะพูดว่าอีกฝ่ายคงดูถูกหรือว่าตั้งใจไม่ลงมือหนัก หลังจากตบหน้าสองสามครั้งแล้ว หลิวฉู่อวี่จึงค่อยๆ ลืมตา เขาเห็นสาวน้อยโลลิก่อนแล้วจึงตกตะลึง เพราะเขาไม่รู้จักเธอ จากนั้นเขาจึงเห็นโจวเจ๋อที่ยืนอยู่ข้างหลังสาวน้อยโลลิ ผู้ชายที่เขาเกลียดมากถึงขนาดอยากทำมนุษย์กระดาษแล้วสาปแช่ง แต่วินาทีต่อมาเขากลับน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้ง เหมือนเด็กถูกเพื่อนนักเรียนในห้องรังแกกลับบ้านมาร้องไห้ “ฮือๆๆ…ชีวิตของฉัน…ลำบากจัง…”
…
บ้านของหลิวฉู่อวี่อยู่ในเขตธรรมดา ไอ้หมอนี่ซื้อบ้านชั้นล่างก่อน หลังจากนั้นจึงซื้อบ้านสองชั้นข้างบนแล้วทุบให้เป็นทางเชื่อมหากันเหมือนบ้านหลังเดี่ยวขนาดเล็ก
การตกแต่งภายในบ้านเรียบง่ายมาก มีรถสวยสองคันจอดอยู่ในโรงจอดรถ แต่การตกแต่งในบ้านมีแต่สีปูนฉาบสีขาวทั่วบ้าน ห้องนอนยิ่งเรียบง่ายอย่าบอกใคร เสื่อหนึ่งผืน แอร์หนึ่งเครื่อง นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีของอย่างอื่น
สาวน้อยโลลิไปซื้อยาและข้าวของเครื่องใช้กลับมาไม่น้อย โจวเจ๋อทำแผลให้หลิวฉู่อวี่ก่อน ถึงแม้แผลภายนอกจะรุนแรง โดยเฉพาะรอยนิ้วมือบริเวณหน้าอก นับจากหัวนมข้างซ้ายเป็นจุดศูนย์กลาง มีรอยยุบลงไปห้าจุด จนถึงตอนนี้ยังมีไอร้อนอยู่เลย เหมือนโดนพิษไฟ แต่ปัญหาไม่ใหญ่มาก อย่างน้อยก็ไม่อันตรายถึงชีวิต
หลังจากทำแผลเสร็จแล้ว โจวเจ๋อจึงล้างมืออย่างพิถีพิถัน จากนั้นเดินกลับมาแล้วจุดบุหรี่หนึ่งมวน
“พูดมา” สาวน้อยโลลิพยักหน้าให้หลิวฉู่อวี่ ตอนนี้จะปิดบังไปก็ไม่มีประโยชน์ การล่าเหยื่อจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่คุณสามารถจับมันได้ มันถึงจะเรียกว่าเหยื่อ ถ้าหากเหยื่อของคุณสามารถซัดคุณกลับได้ อย่างนั้นใครเป็นเหยื่อกันแน่คงรู้อยู่แก่ใจ
ดังนั้นเวลานี้ หลิวฉู่อวี่จึงไม่จำเป็นต้องปิดบังเพราะกลัวว่าจะโดนแย่งคะแนนอะไร ตรงกันข้าม ถ้าหากโจวเจ๋อช่วยเขาจับเหยื่อได้ เขาจะได้คะแนนไปด้วย ถือว่าเป็นการปลอบใจและค่าชดเชย ถึงแม้คะแนนส่วนใหญ่จะไม่ใช่ของตัวเองก็ตาม
“เดิมที ผมใกล้จะจับเขาได้แล้ว” หลิวฉู่อวี่ฟันหลุดไปสองซี่และยังเป็นฟันหน้าอีกด้วย ดังนั้นตอนนี้จึงมีลมออกจากปากเวลาพูด
“ไอ้หมอนั่นถูกผมไล่ตามสองวัน เจ้าเล่ห์มาก หลบก็เก่ง แต่ก็โดนผมตามจับจนได้ เขาอยากต่อต้าน แต่การต่อต้านของเขาต่อหน้าผมไม่ต่างจากสัตว์ที่โดนขัง”
“พูดเข้าประเด็น” โจวเจ๋อเคาะริมหน้าต่าง
“อะไรคือประเด็นสำคัญ” หลิวฉู่อวี่ถาม
“เริ่มพูดจากตอนที่คุณโดนต่อย”
“…” หลิวฉู่อวี่
หลิวฉู่อวี่เงียบไปสองวินาที แล้วจึงพูดต่อ “เดิมทีทุกอย่างอยู่ในกำมือของผมแล้ว จากนั้นมีอีกคนโผล่มากะทันหันเขาจิกผม จากนั้นผมก็หมดแรงไปทั่งตัว”
“แผลบนตัวของคุณเป็นฝีมือของเขา” โจวเจ๋อชี้ไปที่ใบหน้า
หลิวฉู่อวี่ส่ายหน้า “อันนี้เป็นฝีมือวิญญาณร้ายที่ผมตามจับก่อนหน้านั้น เขาเห็นว่าผมหยุด จึงอัดผมหนึ่งยก แล้วก็เป็นคนนั้นที่โผล่มาทีหลังเป็นคนห้ามเขา ไม่อย่างนั้นตอนนี้ผมคงกลับไปรายงานตัวที่นรกแล้ว”
“โอเค ผมรู้แล้ว” โจวเจอพยักหน้า “เรื่องนี้ผมจะช่วยคุณจัดการก่อน อย่างไรก็ตาม คุณเป็นลูกน้องของผม”
“ผมไม่มีปัญหาครับ” หลิวฉู่อวี่พูดอย่างตรงไปตรงมา “สภาพผมตอนนี้ ยากที่จะออกความเห็นได้”
“อ้อใช่ มีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากถามคุณ ฉางโจวมียมทูตคนอื่นไหม”
“ยังมีอีกสองตน พวกเขาอยู่ด้วยกัน”
“อยู่ที่ไหน”
“พวกเขาคล้ายกับพวกคุณ เปิดร้าน แต่เป็นไนต์คลับชื่อว่า ‘ดาร์กคัลเลอร์’ คุณค้นหาในแผนที่ก็เจอแล้ว ไนต์คลับนี้มีชื่อเสียงมากในฉางโจว”
“คุณเกิดเรื่องแล้ว พวกเขาก็ยังไม่สนใจเหรอ” โจวเจ๋อหรี่ตา “หรือว่า พวกเขาไม่รู้สึกตื่นเต้นกับรางวัลที่ได้จากการจับวิญญาณร้ายเลยสักนิด”
“หัวหน้า พูดแบบนี้ดีกว่า ทัศนคติเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิตของพวกเขา โอเวอร์มากกว่าคุณอีก”
“หมายความว่ายังไง” โจวเจ๋อมองไปทางหลิวฉู่อวี่
“หมายความว่าเป็นปลาเค็มมากกว่าเจ้า” สาวน้อยโลลิอธิบาย
“เหอะ”
โจวเจ๋อไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ แล้วถามว่า “มีเบาะแสอะไรเกี่ยวกับการจับวิญญาณร้ายบ้าง”
“รู้ครับ ไอ้หมอนี่ชาติที่แล้วเป็นคนขับรถเมล์ แต่เนื่องจากตัวเองเสียการควบคุมจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ มีผู้โดยสารสิบคนรวมทั้งตัวเขาด้วยที่ตายเพราะเขา ผมสืบตัวตนของเขาแล้ว ดังนั้นจึงลองไปหาเบาะแสใกล้บ้านของเขาและก็พบร่องรอยของเขา ไม่ว่าใครที่ได้ชีวิตใหม่ ล้วนอยากกลับไปดูครอบครัวของตัวเองทั้งนั้น ไปดูภรรยาและลูกของตัวเอง”
“คุณคิดว่าเขาจะไปอีกไหม” โจวเจ๋อชี้ไปที่หลิวฉู่อวี่ “ตอนนี้คุณอยู่ในสภาพแบบนี้ ถ้าเขาจะไปอีก น่าจะไปนานแล้ว”
“ภรรยาของเขาแต่งงานใหม่นานแล้ว แม่ของเขารู้สึกเสียใจกับเรื่องของลูกชาย จึงไปอยู่ประจำที่วัดแห่งหนึ่งในฉางโจว ลูกสาวของเขาทำงานเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลได้สองสามปี เพิ่งลาออกปีที่แล้วมาทำงานที่วัด ดูแลคุณย่าของตัวเอง วัดนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก มีผลควบคุมคนอย่างพวกเรา ผมได้กำชับให้ลูกน้องคอยจับตาดูย่าหลานสองคนนี้อยู่รอบนอก หากพวกเขาจะเจอหน้ากันตอนนี้คงยาก”
“ยุ่งยากจริงๆ” สาวน้อยโลลิเบ้ปาก
“สมุดยมทูตจับตำแหน่งของเขาไม่ได้แล้ว คุณรู้ไหม” หลิวฉู่อวี่พูดอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย “บ้าชะมัด พวกเขาถนัดในการซ่อนลมหายใจ กระทั่งเวลาเดินผ่านหน้าเขา คุณก็สัมผัสไม่ได้”
ขณะที่พูด หลิวฉู่อวี่ได้มองโจวเจ๋ออย่างลึกซึ้งหนึ่งที แล้วพูดว่า “หัวหน้า ผมไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ได้บอกคุณไหมว่า วิญญาณร้ายที่หนีกลับมา มากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเหมือนอาหารที่มาเสิร์ฟถึงที่ เพื่อเป็นสวัสดิการปีใหม่ให้ยมทูตอย่างพวกเรา แต่มีบางคน ถูกจัดการปูทางโดยผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังมาก่อนหน้าแล้ว อย่างเช่น…คนนี้ ผมเสียเวลาไปมากถึงตามสืบฐานะของเขาได้ ต้องแกะข้อมูลทีละนิด ในที่สุดจึงตามจับเขาได้”
“ในเมื่อคุณรู้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ทำไมคุณยังฝืน”
“หัวหน้า ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนคุณที่ปล่อยวางเรื่องการเลื่อนตำแหน่งและเงินทอง ผมก็อยากได้ผลงานบ้าง ผมอยากเลื่อนขั้น ผมไม่อยากเป็นยมทูตอยู่ในที่สับปะรังเคแบบนี้เป็นสิบปีหรือหกสิบปี!”
“หลินเข่อ หลังจากหนึ่งชั่วโมงค่อยเปลี่ยนยาให้เขา” โจวเจ๋อกำชับสาวน้อยโลลิแล้วตัวเองจึงเดินไปข้างล่าง
หลังจากโจวเจ๋อเดินออกไปแล้ว สาวน้อยโลลิจึงโน้มตัวมองหลิวฉู่อวี่ที่นั่งอยู่บนเสื่อ “การกล่าวสุนทรพจน์เมื่อครู่ไม่เลว เอาไปแต่งแต้มสีสันเพิ่มอีกนิดก็นำไปสอนในหนังสือเรียนได้แล้ว ชื่อว่า ‘การต่อสู้ของฉัน…บทความยมทูต’ หรือไม่ก็ ‘ถึงตายก็ต้องมีความรัก และต้องต่อสู้’”
“นี่คือคำพูดจากใจของผม” หลิวฉู่อวี่พูดอย่างใจเย็น
“อืม ฉันรู้ ฉันเชื่อคุณ”
“พวกคุณยมทูตทงเฉิงมีแต่คนแปลกๆ”
“ไม่ตั้งใจทำงานใช่ไหม” สาวน้อยโลลิช่วยบรรยายให้เขา
หลิวฉู่อวี่หัวเราะ สาวน้อยโลลิจึงหัวเราะตามแล้วถามว่า “ชาติที่แล้วคุณตายยังไง”
“บริษัทสั่งให้ทำงานล่วงเวลาต่อ จึงตายเพราะโหมงานมากเกินไป”
สาวน้อยโลลิเบ้ปาก “ชาตินี้ ฉันรู้สึกว่าคุณอาจจะกลับไปเดินทางเก่า คนที่กระตือรือร้นอยากได้ตำแหน่งมากเกินไป มักจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนที่คิดไว้ ตรงกันข้ามกับคนที่วันๆ เอาแต่กินนอนรอความตายนอนอาบแดดทุกวัน เรื่องดีๆ กลับมาหาถึงที่ไม่ขาดสาย”
“เหอะๆ คุณไปฟังหลักการบิดเบือนพวกนี้มาจากไหน”
สาวน้อยโลลิตะลึงเล็กน้อย มองไปที่โจวเจ๋อที่เพิ่งเดินออกจากประตูห้อง แล้วส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ได้ฟังหรอกแต่ฉันมองเห็นต่างหาก”
………………………………………………………………………..
[1] แอนเดอร์เสน หรือฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เสน เป็นนักเขียนและเล่านิทานชาวเดนมาร์ก