ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 343 เจ้าหน้าที่ตำรวจจางฟื้นแล้ว

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 343 เจ้าหน้าที่ตำรวจจางฟื้นแล้ว

หลังจากส่งรองผู้จัดการฝ่ายธุรกิจ ‘เหล่ายาเป่า’ คนนั้นไปแล้ว ร่างกายและจิตใจที่รอมานานก็ถูกหล่อเลี้ยงและเติมเต็มในที่สุด สาวน้อยโลลิพออกพอใจพร้อมกับรบเร้าให้ไป๋อิงอิงขึ้นไปนอน

เวลานี้เกือบรุ่งสางแล้ว ไป๋อิงอิงเริ่มปิดไฟชั้นหนึ่ง จากนั้นรถของทนายอันก็แล่นมาจอดหน้าประตูร้านหนังสือ

“เถ้าแก่กลับมาแล้วเหรอ”

ไป๋อิงอิงรีบไปเปิดประตู แต่ทว่าคนที่ลงรถมามีเพียงทนายอันคนเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นทนายอันเดินไปที่ท้ายรถและเปิดมันออก ก่อนจะอุ้มคนจากข้างในนั้นเดินเข้ามา

“เถ้าแก่บาดเจ็บเหรอ เอ๊ะ ไม่ใช่ พุงเถ้าแก่ทำไมถึงได้ป่องขนาดนี้ล่ะ” ในที่สุดไป๋อิงอิงก็พบว่าคนที่ทนายอันอุ้มอยู่ไม่ใช่เถ้าแก่ แต่เป็นคุณอาพุงโตวัยกลางคน

“คนสวย ยืมมือหน่อย” ทนายอันบอกเป็นนัยๆ ว่าให้ไป๋อิงอิงมาช่วยหน่อย

ไป๋อิงอิงส่ายหน้าปฏิเสธ ผู้ชายที่ไม่ใช่เถ้าแก่ล้วนเหม็นโอ่กันทั้งนั้น ไม่อุ้มหรอกนะ

ทนายอันชะงักไปครู่หนึ่ง ทำได้เพียงอุ้มร่างที่เหล่าจางอาศัยอยู่ขึ้นไปบนชั้นสองเอง

ชั้นสองของร้านหนังสือมีอยู่สี่ห้อง ห้องหนึ่งคือห้องนอนใหญ่ที่โจวเจ๋อและไป๋อิงอิงพักอยู่ สาวน้อยโลลิก็นอนที่นี่ด้วยเช่นกัน

สวี่ชิงหล่างพักอยู่อีกห้องเพียงคนเดียว นักพรตเฒ่า เจ้าลิงน้อย และเดดพูลทั้งสามพักอยู่ห้องเดียวกัน ที่ว่างอีกห้องเดิมเป็นห้องของทนายอัน เมื่อวานโจวเจ๋อสั่งให้ทำความสะอาดแล้ว แต่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เหล่าจางและทนายอันจะต้องพักร่วมห้องเดียวกันแล้ว

ทนายอันวางเหล่าจางไว้บนเตียงก่อน แล้วก็ตรวจอาการของเหล่าจางอีกครั้ง การทำงานของร่างกายบางส่วนกำลังตื่นตัวและฟื้นคืนมาช้าๆ มีความคล้ายกับเครื่องจักรที่หยุดทำงานมานาน หลังจากชาร์จแบตแล้วก็เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง

ทนายอันมองจดจ่อไปที่ตราประทับบนหน้าอกของอีกฝ่ายอยู่พักหนึ่ง มือทั้งสองทำท่าโบกไม้โบกมือโดยไม่รู้ตัวเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่

ในฐานะคนที่ตอนนี้ยังไม่ได้ถูกพวกปลาเค็มในร้านหนังสือครอบงำและเพียบพร้อมไปด้วยความสามารถในอาชีพการงาน ความใฝ่รู้และความกระตือรือร้นของทนายอันยังคงแข็งแกร่งมาก

“เขาเป็นใครน่ะ” สาวน้อยโลลิเดินเข้ามาในห้องแล้วถามขึ้น

“ตำรวจคนนั้น” ทนายอันตอบ

“ในข่าวบอกว่าเสียชีวิตไปเมื่อคืนนี้แล้วไม่ใช่เหรอ” สาวน้อยโลลิตกตะลึงและตั้งสติกลับมา “พวกเจ้าแอบย้ายร่างสำเร็จงั้นเหรอ”

“สำเร็จแค่ตอนนี้นะ แต่ยังต้องรอดูว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไรกันแน่”

วิญญาณและร่างกาย เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเข้าใจยากกว่าที่คิด ยิ่งกว่านั้นวิญญาณของเหล่าจางยังถูกยัดเข้าไปอีก และด้วยเหตุนี้อาจจะเกิดปัญหาเข้ากันไม่ได้ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ จะสามารถใช้การได้หรือไม่นั้น มันบอกได้ยากจริงๆ

“เถ้าแก่ล่ะ” สาวน้อยโลลิถาม

“ไปทำธุระอื่นนู่น”

เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ทนายอันก็ไม่ได้เล่าเรื่องหญิงสาวคนนั้นออกมา

“อ้อ”

สาวน้อยโลลิไม่ใช่ไป๋อิงอิง ไม่ได้สนใจโจวเจ๋อถึงขั้นใส่ใจทุกรายละเอียดขนาดนั้น

“ผมไปอาบน้ำก่อน คุณช่วยดูเขาด้วย”

ทนายอันหาเสื้อผ้าสะอาดชุดหนึ่งออกจากกระเป๋าเดินทางและลงไปชั้นล่าง

สาวน้อยโลลิกวาดตามองคุณอาที่อยู่บนเตียง คิดอยู่ครู่หนึ่งก็เดินไปที่ห้องนอนใหญ่ข้างๆ เปิดประตูไปเจอไป๋อิงอิงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ดูเหมือนว่านางจะอ่านหนังสือ ‘การฝึกทักษะของสาวใช้’ เล่มนั้นไม่จบสักที

“ยัยผีดิบโง่ ห้องข้างๆ มีคนป่วยอยู่ เจ้าไม่ไปดูหน่อยเหรอ”

“ไม่ไป”

ไป๋อิงอิงปฏิเสธไปตรงๆ ความเย็นชาเป็นนิสัยที่ติดตัวผีดิบมาโดยกำเนิด นอกจากโจวเจ๋อแล้ว ไป๋อิงอิงไม่ค่อยเป็นมิตรกับใคร แม้แต่กับคนอื่นๆ ในร้านหนังสือ ไป๋อิงอิงก็แค่ไม่ได้กระด้างกระเดื่องขนาดนั้น

สาวน้อยโลลิสับสนลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปห้องข้างๆ เพื่อเคาะประตูห้องสวี่ชิงหล่างและห้องของนักพรตเฒ่า ขณะเดียวกันก็ตะโกนว่า “ตำรวจนายนั้นถูกส่งกลับมาแล้ว พวกเจ้ามาดูแลหน่อยสิ ข้าจะไปนอนแล้ว”

เมื่อพูดจบก็ไม่ได้รอคนทั้งสองในห้องขานรับ สาวน้อยโลลิรีบกลับไปที่ห้องนอนใหญ่อย่างรวดเร็ว มุดขึ้นเตียงนอนคว่ำหน้าอิงแอบข้างกายไป๋อิงอิง หาวหวอดๆ และสัมผัสได้ถึงความเย็นสบายจากข้างกาย เปลือกตาเริ่มหนักอึ้ง ไม่นานก็หลับสนิท

ไป๋อิงอิงวางหนังสือในมือลง มองสาวน้อยโลลิที่เมื่อสักครู่นี้ยังนอนท่าปกติ ตอนนี้กลับพลิกตัวนอนหงายอ้าซ่าไปแล้ว นางเบ้ปากและหยิบหนังสืออ่านต่อโดยที่ไม่ได้ว่าอะไร

ไป๋อิงอิงหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ที่ตู้ข้างเตียง คิดว่าจะโทรถามเถ้าแก่ว่าจะกลับมาเมื่อไรดีหรือไม่ แต่พอคิดๆ แล้วก็ช่างมันเถอะ เวลาผู้ชายออกไปสังสรรค์นอกบ้าน ถ้าผู้หญิงที่บ้านโทรจิกถามว่าจะกลับบ้านเมื่อไรบ่อยเข้า คงทำให้ผู้ชายรู้สึกอับอายต่อหน้าเพื่อน

แต่ว่า ตอนนี้คนในร้านหนังสือเยอะมากจริงๆ เดี๋ยวก็จิ้งจอกเดี๋ยวก็เจ้าลิง คนหลากหลายประเภท เหมือนกับเถ้าแก่เป็นนักสะสม เติมเต็มฮาเร็มของตัวเองด้วยคนประเภทต่างๆ

น่ากลุ้มใจจริงๆ

ไป๋อิงอิงคงจะลืมไปแล้วว่า ตัวนางเองก็เป็นของสะสมชิ้นแรกที่โจวเจ๋อรวบรวมเอาไว้ตั้งแต่เปิดร้านหนังสือมาเหมือนกัน

สาวน้อยโลลินอนๆ ไปก็เผลอขยับชิดไป๋อิงอิง มือทั้งสองข้างกอดต้นขาไป๋อิงอิงไว้ตามสัญชาตญาณ แถมศีรษะทุยๆ ยังเอียงไปหาต้นขาของไป๋อิงอิงอีกด้วย

นอนไป ทำปากแจ๊บๆ ไป

‘แอ๊ด!’

สวี่ชิงหล่างและนักพรตเฒ่าเปิดประตูออกมาเกือบจะพร้อมๆ กัน ทั้งสองงัวเงียนิดหน่อย สบตาและถามขึ้นพร้อมกัน

“มีอะไร”

“มีอะไร”

นักพรตเฒ่าเหลือบมอง พบว่าประตูห้องของทนายอันคนนั้นยังเปิดอ้าซ่าอยู่ ขยี้ตาพลางเดินเข้าไปดู เมื่อมองเข้าไปข้างในก็เห็นชายแปลกหน้าวัยกลางคนนอนอยู่บนเตียง

“หืม” นักพรตเฒ่าประหลาดใจ

“เมื่อกี้สาวน้อยโลลิเหมือนจะตะโกนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาง” สวี่ชิงหล่างพูด

“อ้อ” นักพรตเฒ่าบิดขี้เกียจ ง่วงมากแต่ยังคงฝืนทำท่าดีใจเอามากๆ ชูมือทั้งสองข้างเขย่าไปมาและพูดว่า “ดีใจจังเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจางยังไม่ตาย!!!”

หลังจากตะโกนจบ นักพรตเฒ่าก็หาวหวอดๆ อีกครั้ง ยังง่วงอยู่เลยนี่นา

ทั้งสองเดินเข้าไปดูเจ้าหน้าที่ตำรวจจางด้วยกันพักหนึ่ง

บอกตามตรงว่าไม่มีอะไรน่าดูหรอก มันไม่เหมือนคนทั่วไปที่ไปสวนสัตว์เพื่อไปดูสัตว์ ในร้านหนังสือแห่งนี้คุณจะได้เห็นเพียงผีดิบส่งเสียงร้อง ‘แงๆๆ’ ทุกวัน ขณะเดียวกันก็เสิร์ฟชา ช่วยอาบน้ำให้เถ้าแก่ ยังได้เห็นเดดพูลไล่ยุงและกินแมลงทุกวัน

ดังนั้นมนุษย์ธรรมดาที่ยังเหลืออยู่เพียงสองคนในร้านหนังสือ (เหล่าสวี่และนักพรตเฒ่า) จึงได้เปิดโลกทัศน์และโลกวิญญาณของตัวเองอย่างยิ่งยวดแล้ว เหล่าจางตายแล้ว เหล่าจางกลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้ว อ้อ มันหมดหนทางที่จะกระตุ้นเซลล์ประสาทของพวกเขาได้แล้ว

แน่นอนว่า เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเช่นกัน เพราะเหล่าจางเป็นตำรวจที่ดีและเป็นคนดีคนหนึ่ง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

“ผมไปอาบน้ำสักเดี๋ยว คุณคอยดูเขาไปก่อน สภาพของเขาไม่ค่อยมั่นคงสักเท่าไร” สวี่ชิงหล่างบอกนักพรตเฒ่า

“อืม” นักพรตเฒ่าพยักหน้าและนั่งลงที่ขอบเตียง

สวี่ชิงหล่างลงไปชั้นล่าง เขายังสะลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่เล็กน้อย เมื่อผลักประตูห้องน้ำเปิดออก บังเอิญเห็นทนายอันนั่งแก้ผ้าเปลือยกายอยู่ข้างในกำลังถูสบู่อยู่

ทนายอันชะงักไปครู่หนึ่ง ส่วนสวี่ชิงหล่างกลอกเปลือกตาเล็กน้อย จากนั้นหลุบตาลงต่ำ

“เฮ้ ออกไปสิ!”

สวี่ชิงหล่างยักไหล่ ทันใดนั้นเขาก็ฟื้นสติมากขึ้น แต่แทนที่เขาจะออกไปกลับเดินตรงไปที่อ่างล้างหน้า หยิบแปรงสีฟันและยาสีฟันขึ้นมาเริ่มแปรงฟัน

“เฮ้!”

ทนายอันทำตัวไม่ถูก งงไปหมด ให้ตายเถอะ คนในร้านหนังสือ เปิดเผยแบบนี้กันหมดทุกคนเลยหรือไง!

“คุณอาบของคุณไปสิ มีน้องชายใต้เข็มขัดเหมือนๆ กัน จะอายทำไม” สวี่ชิงหล่างแปรงฟันต่อ

ทนายอันขมวดคิ้ว จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสิ่งที่สวี่ชิงหล่างพูดนั้นดูมีเหตุผล ต่างก็เป็นผู้ชายเหมือนกันทั้งนั้น เขาจะอายอะไร หลังจากคิดๆ ดูอีกที ทนายอันก็รู้สาเหตุที่ตกใจแล้ว

บ้าเอ๊ย ใครบอกให้ผู้ชายอย่างคุณดูเหมือนผู้หญิงกันเล่า!

‘กล๊วกๆ!!’

บ้วนปาก คายออก หยิบผ้าขนหนูซับหน้าและเริ่มเช็ด

ทนายอันนั่งบนม้านั่งตัวเล็กใต้ฝักบัวรออย่างเงียบๆ รอให้สวี่ชิงหล่างล้างหน้าล้างตาเสร็จและออกไป เขาค่อยอาบน้ำต่อ

แต่หลังจากที่สวี่ชิงหล่างล้างหน้าเสร็จแล้ว กลับเปิดกระจกเหนืออ่างล้างหน้า ข้างในเป็นช่องเก็บของขนาดเล็ก มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลากหลายชนิดวางอยู่ในนั้น

เซตสำหรับฮองเฮา สูตรพิเศษ…

เมื่อเห็นสวี่ชิงหล่างหยิบมันออกมาใช้ทีละอัน ทนายอันที่ฟองสบู่ตัวเต็มตัวพูดด้วยความโมโหเล็กน้อย

“คุณจะเช็ดๆ ถูๆ อีกนานไหม”

“ใครบอกให้คุณแบกคนคนหนึ่งกลับมาแล้วปลุกคนเขาให้ตื่นแต่เช้าตรู่กันล่ะ การอดนอนส่งผลกระทบต่อผิวมากที่สุด”

“…” ทนายอัน

นักพรตเฒ่านั่งอยู่ข้างๆ เหล่าจาง นั่งมองดูร่างกายที่เปลี่ยนไปของเหล่าจาง นักพรตเฒ่าก็รู้สึกสะเทือนใจนิดหน่อย คนเรามักจะชอบพูดว่าคนดีทำดีไม่ได้ดี และไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ของเหล่าจางถือเป็นการตอบแทนที่ดีหรือเปล่า

เพราะรู้จักเถ้าแก่ ดังนั้นถึงได้รับความช่วยเหลือจากเถ้าแก่

แต่ว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นักพรตเฒ่ามีความคิดง่ายๆ อยู่ในใจเสมอ ไม่ว่าจะผ่านความยากลำบากใดมา ขอแค่ยังมีชีวิตอยู่ นั่นก็พอแล้ว นั่นก็มีหวังแล้ว

อืม แม้ว่าจะเปลี่ยนใบหน้าใหม่หรือเปลี่ยนแม้กระทั่งดีเอ็นเอลายและนิ้วมือก็ตาม ตราบใดที่ยังมีชีวิตรอดก็ไม่เป็นไร

เจ้าลิงน้อยก็เดินเข้ามา มันสวมหมวกคลุมนอนและสวมเสื้อผ้าเด็กเล็กที่นักพรตเฒ่าซื้อให้มัน ทั้งยังถือค้อนของเล่นอันเล็กๆ ไว้ในมือด้วย

“เจ้าลิง รินน้ำชามาให้ข้าสักถ้วยสิ”

เจ้าลิงพยักหน้าและวิ่งแจ้นออกไปอีกครั้ง ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็เข้ามาพร้อมกับถ้วยน้ำชาของนักพรตเฒ่า โดยทั่วไปแล้วลิงตัวเล็กๆ นั้นจะไม่มีพละกำลังอย่างนี้ แต่เจ้าลิงน้อยต่างจากลิงทั่วไป

ปีศาจวานรในอดีตทั้งยังได้รับร่างจากวานรย้ายภูเขาที่เสื่อมลงและมาเกิดใหม่ นอกจากนี้ คุณเคยเจอลิงตัวไหนที่รู้วิธีเรียกรถแท็กซี่หรือไม่

นักพรตเฒ่ารับเอาถ้วยชามาจิบสองคำ

ในเวลานี้เอง จู่ๆ เหล่าจางที่นอนอยู่บนเตียงก็แสดงสีหน้าเจ็บปวดทรมานออกมา มือและเท้าทั้งสองข้างก็สั่นไหว เล็กน้อย

“พ่อแก้วแม่แก้ว!” นักพรตเฒ่ารีบวางถ้วยน้ำชาและตะโกนทันที “เหล่าจางกำลังฟื้นแล้ว จะฟื้นแล้ว!”

มีตัวอย่างแบบเดียวกันก่อนหน้านี้ของสวี่ชิงหล่าง บวกกับเมื่อก่อนที่เถ้าแก่มักจะตกอยู่ในอาการโคม่าเป็นอาทิตย์ในแทบทุกครั้งที่ใช้พลังอู๋ซวง นักพรตเฒ่าเตรียมใจไว้แล้วว่าเหล่าจางจะอยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลานานเช่นกัน ใครจะไปรู้ว่าเหล่าจางจะเป็นคนดีผีคุ้ม ตอนนี้มีสัญญาณของการตื่นขึ้นแล้ว

แต่ทว่าหลังจากที่นักพรตเฒ่าเพิ่งจะตะโกนได้แค่ประโยคเดียว จู่ๆ เหล่าจางที่อยู่บนเตียงก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือข้างหนึ่งบีบคอของนักพรตเฒ่าไว้แน่น ขาทั้งสองข้างพันร่างของนักพรตเฒ่าเอาไว้ เขายังหลับตาแน่น คิ้วขมวดย่น เหงื่อไหลหยดลงมาไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันเขายังตะโกนแหกปากอย่างเร่งเร้า

“วิ่งสิ! วิ่ง! ครูรีบพาพวกเด็กๆ วิ่งหนีไป วิ่งเร็วเข้า หนีไป!!!”

…………………………………………………………

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท