ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 358 ต้องมีแสงสว่าง

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 358 ต้องมีแสงสว่าง

เดดพูลลุกขึ้นยืนอย่างโซเซ และรูโบ๋ตรงหน้าอกก็เริ่มมีเนื้องอกออกมาไม่หยุดจนเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน จากนั้นของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนมแพร่กระจายออกมา ปกคลุมไปทั้งปากแผล เนื้องอกใหม่ขาวเนียนจึงเกิดขึ้นมาด้วยเหตุนี้

พลังการการเกิดใหม่ที่น่ากลัวเช่นนี้ ยากที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริง มีอัฐิของโจวเจ๋อเมื่อชาติที่แล้วอยู่ข้างใน บวกกับตัวของบาทหลวงชาวญี่ปุ่นที่ชอบหาเรื่องแปลกใส่ตัว และยังผ่านการเกิดใหม่ในลักษณะของพืชอีกครั้ง

เขายากที่จะพูดได้ว่าเป็นคน และยากที่จะพูดว่าเป็นพืช หากจะพูดว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทผีดิบก็ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไร อย่างไรก็ตาม เขาเป็นคนแปลกที่ถูกสร้างออกมาจากร้านหนังสือ

ก่อนหน้านั้น โจวเจ๋อแค่เอาเนื้อเละๆ ของเขาใส่ไว้ในตู้กระจก เพื่อรอให้เขาค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา ผลปรากฏว่าเจ้าลิงว่างจัดฉี่ใส่เข้าไปข้างใน แถมยังใส่เมล็ดพืชลงไปอีกด้วย จึงออกดอกออกผลออกมาในท้ายที่สุด

นักพรตเฒ่าไม่ค่อยเข้าใจเถ้าแก่ของตัวเองที่สั่งให้เดดพูลออกไปสู้ หรือว่าเถ้าแก่แค่อยากรับมือทนายอันคนนั้นแบบขอไปที จับแมลงสาบที่ฆ่าไม่ตายออกไปให้ทนายอันระบายความโกรธ

ยากมากที่เขาจะไม่คิดแบบนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อก่อนเดดพูลมีหน้าที่เป็นพนักงานทำความสะอาดในร้านหนังสือ หลังจากเป็นพืชเกิดใหม่ จากพนักงานทำความสะอาดก็ควบตำแหน่ง ‘ผู้จัดการยุงในร้านหนังสือ’ ด้วย แต่พูดถึงการต่อสู้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยเห็นเดดพูลต่อสู้มาก่อน

จากมุมมองของนักพรตเฒ่า เขาไม่ค่อยชอบใจทนายอันเท่าไร ทุกคนอยู่กับเถ้าแก่ปลาเค็ม กินนอนใช้ชีวิตอย่างปลาเค็ม วันเวลาช่างงดงามแค่ไหน เขาอายุมากขนาดนี้แล้ว ไม่อยากเหนื่อยมากเกินไป

“เถ้าแก่” อิงอิงก้มหน้ามองเถ้าแก่ของตัวเอง ในสายตาของอิงอิง สั่งให้เดดพูลออกไปยังไม่สู้ให้เธอออกไป ตัวเธอไม่กลัวการต่อสู้อยู่แล้ว บวกกับอยู่ข้างกายเถ้าแก่มานาน เธอมักจะซึมซับพลังที่กระจายออกมาจากเถ้าแก่เป็นประจำ

ถึงแม้เธอจะมีอายุสองร้อยปีเท่านั้น แต่ผีดิบสองร้อยปีธรรมดาทั่วไปเทียบไม่ติดแน่นอน!!!

“คอยดูไปก่อน” โจวเจ๋อลูบคางของตัวเอง โจวเจ๋อรู้สึกตลอดว่า ภายใต้ความน่ารักเซ่อซ่าหน้านิ่งของเดดพูลเหมือนแอบซ่อนอะไรบางอย่างไว้ โดยเฉพาะครั้งที่แล้วที่เขาแอบหนีออกจากร้านหนังสือไปสร้างความวุ่นวายที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของสองพี่น้อง

โจวเจ๋อได้ยินเรื่องนี้จากนักพรตเฒ่า ถึงแม้หลังจากนั้นทุกคนจะไม่สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นของเดดพูลก็ตาม แต่โจวเจ๋อคิดว่า ‘ความคิดที่สื่อถึงกัน’ กับเขา ทำให้สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบนตัวของเดดพูล แต่มันคืออะไร เขาพูดไม่ถูก ต้องลองให้สู้ดูก่อนก็จะเข้าใจ

เถ้าแก่โจวย่อมรู้ว่าทนายอันกับสาวน้อยโลลิคิดอะไร อยากจะเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมปฏิบัติแบบปลาเค็มของร้านหนังสือ ณ จุดนี้ เถ้าแก่โจวไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่คัดค้าน แน่นอนว่าต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวเขาเอง ส่วนคนอื่นต้องพยายามอย่างไรก็ต้องพยายามอย่างนั้นให้ดีที่สุด

แผลของเดดพูลฟื้นตัวกลับมาแล้ว เขาปล่อยแขนทั้งสองข้างแนบตัวมองทนายอันอยู่แบบนี้ ร่างกายเซไปซ้ายทีขวาที เหมือนลูกตุ้มนาฬิกาโบราณ

เขาต่อสู้ไม่เป็นและไม่เคยฝึกการต่อสู้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงตั้งท่าไม่เป็น แต่ในเมื่อพ่อบุญธรรมสั่งให้เขาไปสู้ เขาจึงต้องสู้

ทนายอันยิ้มมุมปากเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่มีความขมขื่นเล็กน้อย ร้านหนังสือแห่งนี้ดูเหมือนจะหมดหนทางเยียวยาแล้ว มีคนทำตัวแบบขอไปทีขนาดนี้ด้วยเหรอ ตัวพวกคุณเองไม่ลงมาสู้ คุณที่เป็นเถ้าแก่ก็ไม่ลงมาสู้ แต่กลับส่งยากันยุงมาสู้กับเขาเนี่ยนะ

ถึงแม้ทนายอันมาอยู่ที่ร้านหนังสือได้ไม่นาน แต่เขาก็รู้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้แท้จริงแล้วเป็นพนักงานทำความสะอาดควบตำแหน่งยากันยุงและยาฆ่าแมลงในรูปลักษณ์ของคนด้วย

คุณคิดว่ากำลังถ่ายทำ ‘แปดเทพอสูรมังกรฟ้า’ หรือ ‘พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก’ อยู่เหรอ จับพระกวาดพื้นคนไหนออกมาก็เป็นบุคคลที่เก่งกล้าเทียมฟ้าประทานอย่างนั้นเหรอ

เดดพูลเริ่มโจมตี เขาเริ่มวิ่งและพุ่งเข้าไป โบกมือไปมาและอ้าปาก ท่าทางแบบนี้ทำให้สวี่ชิงหล่างตกอยู่ในความครุ่นคิด รู้สึกคุ้นตามาก อ้อใช่ จำได้แล้ว ดูเหมือนว่าตอนที่เถ้าแก่โจวต่อสู้ครั้งแรกก็ทำแบบนี้ เหมือนสาวๆ ที่ตวัดเล็บไปมาแล้วข่วน

อย่างไรก็ตามชาติที่แล้วเถ้าแก่โจวถึงแม้จะจะถือมีด แต่ก็ถือมีดผ่าตัดไม่ใช่มีดผ่าฟืน ดังนั้นจึงต่อสู้ไม่ค่อยเป็นจริงๆ ตอนนี้เดดพูลได้สืบทอดสไตล์ของพ่อของเขามาอย่างแท้จริง

ทนายอันขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าการต่อสู้แบบนี้ไม่สนุกเลย มือกระดูกสีขาวหวดเข้าไปโดยตรง ลมโหมแรงเป็นระยะ เดดพูลโดนซัดกระเด็นออกไปอีกครั้ง ไม่มีโอกาสต่อสู้ระยะประชิดเลยสักนิด

“ไม่สนุกเลย” ทนายอันพูดจบ จึงเงยหน้ามองโจวเจ๋อที่นั่งมองการต่อสู้อยู่บนเก้าอี้

“เถ้าแก่ คุณลงมาไหม พวกเรามาประมือกันหน่อย”

โจวเจ๋อยังคงหมุนปากกาต่อไป ไม่สนใจเขา สาวน้อยโลลิครั้งนี้ไม่ช่วยพูดอะไร ส่วนคนอื่นกลับมองหน้ากัน

อันปู้ฉี่หยิ่งผยองนักเหรอ คุณแสร้งทำเป็นหมูหลอกกินเสือให้ดีก็พอแล้ว คุณจะเรียกเถ้าแก่ไปสู้ด้วยทำไม

สาวน้อยโลลิส่ายหน้าพักหนึ่ง เธอรู้ความสามารถของโจวเจ๋อ และเธอเคยพูดกับอันปู้ฉี่แล้ว แต่มีหลายสิ่งที่เห็นด้วยตาจะเข้าใจกว่าการได้ฟัง ทนายอันไม่เคยสัมผัสวิชาอู๋ซวงของโจวเจ๋อโดยตรง

“จัดการเขาให้ล้มก่อน แล้วผมจะสู้กับคุณ” โจวเจ๋อพูด

ฝั่งนั้น เดดพูลลุกขึ้นมาอีกครั้ง เสื้อผ้าตามตัวขาดวิ่นแล้ว แต่แผลตามร่างกายยังคงอยู่ในขั้นตอนสมานแผลอย่างมั่นคง

“เขาน่ะเหรอ” ทนายอันหมดสนุกอยู่บ้าง แล้วจึงพูดตามตรงว่า “ถ้าเขาสู้ให้ผมถอยได้หนึ่งก้าว ผมจะยอมรับว่าผมผิดไปแล้ว ต่อไปร้านหนังสือจะเป็นยังไงก็เป็นแบบนั้น ผมจะไม่บ่นสักคำ”

ถ้าหากมองร้านหนังสือเป็นสมาคมการค้า อย่างนั้นโจวเจ๋อจะต้องเป็นเจ้าของ ส่วนทนายอันเป็นผู้จัดการที่โจวเจ๋อจ้างเข้ามา และทั้งสองฝ่ายเกิดความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ในเมื่อเกิดความเห็นต่าง ก็ต้องหาทางแก้ไข ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทนายอันเห็นด้วยกับการประลองฝีมือกับสาวน้อยโลลิในครั้งนี้

เขาเป็นคนที่ทะนงตัวมากคนหนึ่ง ความรุ่งเรืองในอดีตบวกกับนิสัยที่ต้องการความมีระเบียบและกฎเกณฑ์ของตัวเอง เป็นผลทำให้เขายากที่จะทนรับบรรยากาศของร้านหนังสือในตอนนี้ได้

ถ้าหากจะอธิบายอีกหน่อย ทนายอันรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ที่ผิดหวังท้อใจ (แน่นอนว่าตอนนี้ไม่มีตำแหน่งแล้ว) จากนั้นระหว่างที่กำลังเศร้าและมืดมน เขาได้พบกับ ‘รัชทายาทจูซาน’ ของราชวงศ์ก่อน อืม หรืออาจจะเป็น ‘รัชทายาทโจวซาน’

เขาฝากความรุ่งโรจน์และการกลับไปใหม่อีกครั้งของตัวเองในอนาคตไว้กับ ‘รัชทายาทโจวซาน’ คนนี้ แต่รัชทายาทโจวซานคนนี้ดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรอย่างสิ้นเชิง แถมยังทำตัวเป็นปลาเค็มไร้ชีวิตชีวาตลอดทั้งวัน ถ้าหากเขาเป็นปลาเค็ม แล้วต่อไปหลังจากนี้ตัวเองจะทำอย่างไร

เดดพูลพุ่งเข้ามาอีกครั้ง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเชื่อมั่นของเขาที่มีต่อพ่อบุญธรรมของตัวเอง ทนายอันจึงตวัดมือเล็กน้อย เตรียมจะปัดยากันยุงอันนี้ลอยออกไปอีกครั้ง ยากันยุงก็ควรจะทำหน้าที่กำจัดยุงโดยเฉพาะ ไม่ควรมาต่อสู้แบบนี้

ทว่าเขากลับตีโดนความว่างเปล่า ทนายอันตกตะลึงเล็กน้อย ต่อจากนั้นเขาเห็นเดดพูลจู่ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางกระโจนเข้ามาหาเขาจากด้านข้าง กรงเล็บกระดูกสีขาวกดทับลงไปอีกครั้ง ยากันยุงเปลี่ยนทิศทางเป็น ก็ยังเป็นยากันยุงอยู่วันยังค่ำ

“อาเมน!” เสียงทุ้มต่ำดังมาจากปากของยากันยุง จากนั้นฉากที่น่าเหลือเชื่อได้ปรากฏขึ้น มือของเดดพูลจับมือกระดูกของทนายอันอย่างแม่นยำ

ทั้งสองฝ่ายต่างยึดยื้อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน ทนายอันมีสีหน้าเคร่งขรึม ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนมองยากันยุงที่อยู่ตรงหน้าไม่ออก ยากันยุงที่มาพร้อมกับฟังก์ชันกระจายเสียงด้วยตัวเอง แถมในนั้นยังมีไฟล์เสียง ‘คัมภีร์ไบเบิล’ อย่างนั้นเหรอ แล้วก็พลังของเขาทำไมถึงเยอะขึ้นกะทันหัน

ณ ที่ไกลๆ ไป๋อิงอิงเบิกตาโต นักพรตเฒ่าอ้าปากค้าง สวี่ชิงหล่างมีสีหน้าชักกระตุก แม้แต่สาวน้อยโลลิก็ยังทำสีหน้าเคร่งเครียดและไม่อยากจะเชื่อ มีเพียงโจวเจ๋อเท่านั้นที่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา และในความเป็นจริงถึงแม้จะกระวนกระวายมาก แต่ก็ยังต้องแสร้งทำเป็นว่าฉันเป็นคนอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง

เขาเป็นเถ้าแก่ เป็นผู้นำ จึงต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็น แต่เขาไม่ได้หมุนปากกาต่อแล้ว

“สนุกดี” ทนายอันเริ่มออกแรง เขากดลงไป ฝ่ามือของเดดพูลที่เกี่ยวพันอยู่กับกรงเล็บกระดูกของทนายอันสลายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ฟื้นตัวกลับมาไม่หยุด ทว่าความแตกต่างของกำลังยังโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด มือของเดดพูลถูกกดทับลงไปไม่หยุด

เขาเริ่มร้อนใจและโกรธ เพราะพ่อบุญธรรมของเขาสั่งให้เขามาต่อสู้ ถึงแม้เขาจะไม่ฉลาด แต่อย่างน้อยก็รู้ดีว่า ในเมื่อพ่อบุญธรรมสั่งให้เขามาสู้ แสดงว่าไม่อยากให้เขาแพ้แน่นอน

เขากระวนกระวายและลุกลี้ลุกลน จากนั้นเขาจึงตะโกนว่า “พระเจ้าบอกว่า ต้องมีแสงสว่าง!”

จากนั้นแสงจึงปรากฏ การปรากฏตัวของแสงสีขาวสว่างจ้าตา ทำให้ทนายอันลอยกระเด็นออกไป กระแทกลงไปบนพื้นอย่างแรง กรงเล็บกระดูกสีขาวมีรอยไหม้ไปทั่ว รู้สึกเจ็บปวดทะลุไปถึงหัวใจ

ชั่วเวลาหนึ่ง ทนายอันเกิดภาพหลอน ราวกับว่าเขากำลังต่อสู้กับเทพเจ้าฝั่งตะวันตกองค์หนึ่ง เดดพูลก็กระเด็นออกไปเหมือนกัน กระแทกกับกำแพง และเขามีอาการที่แย่ยิ่งกว่า

“เหมือนคนคนหนึ่งมากจริงๆ” ไป๋อิงอิงพูด

“ใช่ บาทหลวงญี่ปุ่นคนนั้น” โจวเจ๋อยิ้ม พลางลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้

เดดพูลรู้สึกคิดไม่ทันเล็กน้อย ถึงแม้เขาเหมือนจะปลุกพลังของบาทหลวงญี่ปุ่นได้บางส่วน แต่เขาไม่แน่ใจว่าต้องรับมือกับมันอย่างไร อย่างเช่น แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังบริสุทธิ์ ที่สามารถทำร้ายทนายอันที่มีความชั่วร้ายเหมือนกัน แต่บาดแผลที่ทำร้ายตัวเองกลับใหญ่ยิ่งกว่า เพราะตอนนี้เขาไม่ใช่คน ไม่ใช่บาทหลวง แต่เป็นการมีตัวตนอยู่ของสิ่งชั่วร้ายที่ไม่สามารถจัดประเภทได้

“คุณแพ้แล้ว” โจวเจ๋อเดินไปหาทนายอัน

ทนายอันได้พูดไว้ก่อนแล้ว ขอเพียงเดดพูลต่อสู้ให้เขาถอยหลังได้หนึ่งก้าว เขาจะยอมแพ้ ตอนนี้ไม่เพียงแต่โดนตีให้ล่าถอยเท่านั้น แต่เขายังลอยกระเด็นอีกด้วย เขาพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

“เขาเป็นตัวอะไรกันแน่” ทนายอันถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ พระกวาดพื้น? ยากันยุง? สเปรย์ยาฆ่าแมลง?

“คุณก็รู้ว่าชีวิตในร้านหนังสือน่าเบื่อเล็กน้อย อ้อไม่ ว่างเล็กน้อย ดังนั้นตอนที่ผมมีเวลาว่างบางครั้งก็จะปลูกดอกไม้ใบหญ้าอยู่บ้าง”

“จากนั้นล่ะ” ทนายอันถาม

“จากนั้นผมก็ปลูกเขาขึ้นมา”

“จากนั้นอีกล่ะ”

“จากนั้นเขาก็งอกออกมา” โจวเจ๋อชี้ไปที่เดดพูล

“ดังนั้น คุณอยากจะอธิบายอะไร เถ้าแก่”

“ที่ผมอยากจะอธิบายก็คือ จริงๆ แล้ว อยู่บ้านอ่านหนังสือพิมพ์จิบน้ำชาก็ดีแล้ว ถ้าว่างมากก็ปลูกต้นไม้ดอกไม้หรือไม่ก็เลี้ยงสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างเช่น เลี้ยงงูตัวเล็กน่ารักหรือไม่ก็เล่นกับพังพอนสักสองตัว บางทีจะมีประสิทธิผลมากกว่าออกไปต่อสู้ข้างนอกเสียอีก”

“…” ทนายอัน

…………………………………………………………………………

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท