ตอนที่ 387 ปิดประตู ปล่อยตัว!
ลูกค้าใหม่เข้ามาสิบหกคน เป็นผลทำให้ห้องนิติเวชไม่พอใช้ บรรดาหมอนิติเวชที่ถูกเกณฑ์มาจากเมืองอื่นและในมณฑลเริ่มทำการชันสูตรศพ ไม่ว่าร่องรอยและเบาะแสใดๆ จะถูกรวบรวมทำเป็นรายงานสรุปกลับไป จากนั้นกำลังตำรวจเป็นจำนวนมากจึงเริ่มทำการตรวจสอบคดีนี้
สถานีตำรวจเมืองทงเฉิงทั้งหมด กระทั่งกำลังตำรวจเกือบครึ่งของมณฑลเจียงซูเริ่มเข้าสู่การตรวจสอบคดีใหญ่นี้อย่างจริงจัง อาศัยช่วงที่สื่อยังไม่ทราบข่าวอย่างสิ้นเชิง จำเป็นต้องเร่งทำเวลาหาเบาะแสในขั้นตอนแรกตั้งแต่เนิ่นๆ
ในช่วงเวลาที่เร่งด่วนนี้ โจวเจ๋อกับทนายอันขับรถกลับร้านหนังสือ นี่เหมือนคุณกำลังเล่นเกม ตอนที่คุณฆ่าบอสได้หนึ่งตัวและกำลังได้ใจรู้สึกว่าเกมนี้สนุกมาก ทันใดนั้นมีคนบอกคุณว่า ยังมีบอสอยู่ข้างหลังอีกสิบห้าตัวกำลังรอคุณเข้าไปโจมตี คาดว่าคุณก็คงจะรู้สึกว่าเกมนี้น่าเบื่อเล็กน้อย
พูดแบบนี้อาจจะไม่เหมาะสม แต่นี่คือความคิดของเถ้าแก่โจวในตอนนี้ เขาเหนื่อยแล้วจริงๆ เกมนักสืบนี้ก็เล่นจนพอแล้ว ต่อจากนี้เนื่องจากเชื่อมโยงกับฉากเบื้องหลังที่ใหญ่มหึมายิ่งขึ้น เขาจึงขี้เกียจเดินหน้าต่อ
ปลาเค็มพลิกตัว เพื่อให้ทั้งสองด้านโดนแดดเท่านั้น ถ้าหากนอนพลิกตัวไปมาอยู่ตรงนั้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุด จะกลายเป็นปลาเค็มตากแห้งแทน
เมื่อกลับมาถึงร้านหนังสือ เขาไปอาบน้ำก่อน หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว โจวเจ๋อจึงนั่งลงบนโซฟา ไป๋อิงอิงยกกาแฟเข้ามาหนึ่งแก้ว โจวเจ๋อมีกำลังขึ้นมาทันที รีบลุกขึ้นนั่ง ดื่มด่ำกับรสชาติที่คุ้นเคย สภาพแวดล้อมที่เคยชิน
“คุณซื้อมาเหรอ”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ เถ้าแก่” ไป๋อิงอิงพยักหน้าพูด
“คุณลำบากแล้ว” เขาจิบกาแฟหนึ่งที กลิ่นของกาแฟขี้ชะมดที่คุ้นเคย สบายจริงๆ เลย
ทนายอันที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ลุกขึ้นเดินไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ มือของโจวเจ๋อที่ถือกาแฟอยู่เริ่มสั่นเบาๆ เขาย้อนนึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของกระติกเก็บอุณหภูมิขนาดใหญ่ของทนายอันหลังจากตื่นนอนตอนเช้าในวันนั้น!
“วางใจได้ เถ้าแก่ ข้าเก็บกาแฟของท่านไว้ในห้องนอนแล้วเจ้าค่ะ ข้างล่างมีแต่กาแฟสำเร็จรูปตราเนสท์เล่ที่วันนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตเอามาจัดโปรโมชันเพราะใกล้หมดอายุ” ไป๋อิงอิงพูดพร้อมกับเหลือบตามองแรงไปที่เคาน์เตอร์ กล้าดีมาแย่งกระดูกของเถ้าแก่ อ้อไม่ใช่ กล้าดีมาแย่งกาแฟของเถ้าแก่ น่าเกลียดจริง!
ทนายอันเดินเข้ามา ถือกระติกเก็บอุณหภูมิใบใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเขาเข้ามาด้วย ใหญ่จนแทบไม่มีใครอยากคบ แถมยังจงใจส่ายไปมาต่อหน้าโจวเจ๋อ เหมือนกำลังแสดงอำนาจ
โจวเจ๋อขี้เกียจสนใจเขา ทนายอันรู้สึกหมดสนุกทันที หลังจากดื่มไปหนึ่งคำแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอารมณ์ของตัวเองหรือเปล่า กาแฟจึงจืดชืดขนาดนี้
เขาดื่มกาแฟหนึ่งคำแล้วแอบมองโจวเจ๋อหนึ่งที เมื่อเห็นโจวเจ๋อยังไม่มีการตอบสนองเหมือนเดิม ทนายอันจึงกระดกเข้าไปทันที ฉันจะดูว่าคุณจะสงสารฉันไหม
แต่หลังจากเขาดื่มรวดเดียวหมดแล้ว โจวเจ๋อยังคงถือแก้วเฉยๆ แล้วจิบกาแฟช้าๆ พลางคิดในใจว่า กาแฟสำเร็จรูปตราเนสท์เล่ก็ราคาไม่ถูก อย่างไรก็ตามไอ้หมอนี่เอามาดื่มเหมือนน้ำ ครั้งหน้าจะสั่งให้อิงอิงไปซื้อกาแฟราคาถูกที่หมดอายุแล้วมาให้ทนายอันดื่ม
เวลานี้โทรศัพท์ดังขึ้นมา เป็นเหล่าจางโทรมา คาดว่าเหล่าจางคงเพิ่งจะกลับมาถึงออฟฟิศหลังจากยุ่งอยู่พักใหญ่ เขาพบว่าโจวเจ๋อกับทนายอันไม่อยู่ จึงร้อนใจอยู่บ้าง
“ฮัลโหล”
“เถ้าแก่ พวกคุณอยู่ไหน”
“มาตรวจสอบอยู่ข้างนอก ถ้ามีเบาะแสแล้วจะแจ้งให้คุณทราบ”
“หงิงๆๆ”
“…” เหล่าจาง
“อ้อ ผมพาอิงอิงไปสืบข้างนอกด้วย”
“…” เหล่าจาง
“คืออย่างนี้นะ เถ้าแก่ จากการวิเคราะห์ซากกระดูกศพในขั้นต้น เวลาตายของศพทุกศพแสดงเป็นขั้นบันไดอย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่า ฆาตกรที่พวกเราเดาก่อนหน้านั้นว่าฆ่าคนเป็นช่วงๆ กระทั่งฆ่าหนึ่งคนต่อหนึ่งปี มีความเป็นไปได้ที่สูงมาก”
“อืม” โจวเจ๋อหาวหนึ่งที
“แต่ตอนนี้มีปัญหาหนึ่ง ศพล่าสุดมีอายุมากกว่าหนึ่งปีขึ้นไปแล้ว” เหล่าจางพูดด้วยความร้อนใจอยู่บ้าง“หมายความว่า ปีนี้ฆาตกรยังไม่ได้ฆ่าแล้วฝัง นอกจากนี้บนซากกระดูกมีร่องรอยที่เข้าใจว่าเป็นการทำลาย พบว่ามีร่องรอยของการเชือดเฉือนไปทั่วซากกระดูก”
“อืม”
“เถ้าแก่ ต้องรีบทำคดีนี้ เพราะปีนี้ฆาตกรยังไม่ได้ฆ่าคน ถ้าหากไม่รีบจับตัวฆาตกร ผมเป็นห่วงจริงๆ ว่า…”
“งั้นคุณก็สู้ๆ นะ วางใจได้ ทุกคนในร้านหนังสือจะคอยเป็นกำลังสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดให้คุณตลอดไป!” คำปลอบใจที่ไม่ต้องเสียเงิน เริ่มต้นแล้ว
“งั้นเอาแบบนี้ ถ้าหากผมเจอข้อมูลอะไรอีก ผมจะรายงานเถ้าแก่”
“โอเคๆ”
“หรือไม่ก็ เถ้าแก่ คุณมาที่สถานีตำรวจอีกรอบ แล้วพวกเราไปสืบด้วยกัน”
“จริงๆ แล้ว คุณไปหานักพรตเฒ่าได้นะ อ้อใช่ นักพรตเฒ่าอยู่ไหน” โจวเจ๋อมองอิงอิง
“ออกไปข้างนอกตั้งแต่บ่ายแล้วเจ้าค่ะ สีหน้าอยากจะออกไปอย่างอดใจรอไม่ไหว” ไป๋อิงอิงยิ้มแบบร้ายกาจ บอกโจวเจ๋อเป็นนัยๆ ว่านักพรตเฒ่าไปทำอะไร
“อ้อ ออกไปแล้วเหรอ เหล่าจาง คุณโทรหานักพรตเฒ่า บอกให้เขาไปสืบเป็นเพื่อนคุณ คุณขับรถตำรวจไปหาเขาแล้วก็ไปจับพวกขายบริการด้วย ชำระสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมของทงเฉิงเสียหน่อย”
“ไปหาเขาเหรอ” ทนายอันรู้สึกว่าไม่น่าไว้ใจโดยสัญชาตญาณ
“ไม่ต้องกังวล เขาไว้ใจได้เลยทีเดียว เรื่องเสี่ยงภัยเขาเป็นที่หนึ่ง”
“คุณไม่ได้หลอกผมใช่ไหม เถ้าแก่” เหล่าจางพอเข้าใจนิสัยและฝีมือที่แท้จริงของเถ้าแก่อยู่บ้าง
“ใครใช้ใครก็รู้ วางใจได้ คุณติดต่อเขาได้เลย”
โจวเจ๋อไม่ได้หลอกลวงและแกล้งเหล่าจางจริงๆ นักพรตเฒ่ามีความสามารถเฉพาะตัวจริงๆ ไม่ว่าเรื่องดวงซวยอะไร เขามักจะเจอเป็นคนแรกเสมอ
หนึ่งครั้งสองครั้งเรียกว่าบังเอิญ แต่หลังจากเจอนับครั้งไม่ถ้วน จึงสามารถพิสูจน์ได้ว่าตานี่มาพร้อมกับดวงซวยจริงๆ พูดจบ โจวเจ๋อจึงตัดสาย จากนั้นจึงย้ายเบอร์ติดต่อของเหล่าจางเข้าบัญชีดำโดยตรง
เขาลุกขึ้น โบกมือเรียกอิงอิงแล้วพูดว่า “ผมขอนอนก่อน ตอนเย็นต้องเข้าเวร ถ้าหากเหล่าจางโทรมา ไม่ต้องปลุกผม”
“เถ้าแก่ ถ้าหากเหล่าจางกลับมาหาท่านล่ะเจ้าคะ”
“อย่างนั้นก็ตีขาของเขาให้หักแล้วโยนทิ้ง”
“โอเค เถ้าแก่ อิงอิงเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”
…
“ฮัดเช้ย!” นักพรตเฒ่าจามหนึ่งทีแล้วยื่นมือเช็ดจมูก “ข้าว่านะ น้องสาว เจ้าเปิดแอร์เย็นไปหรือเปล่า ถอดเสื้อผ้าตากแอร์แบบนี้จะเป็นหวัดได้” นักพรตเฒ่าหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากหัวเตียงอย่างไม่ค่อยพอใจ แล้วเช็ดจมูกของตัวเอง จากนั้นก็เช็ดน้ำมูกที่อยู่ด้านล่างของตัวเองด้วย
“คนอื่นโดนฉันหนีบสองสามทีก็เสร็จแล้ว ถอดเสื้อผ้าแป๊บเดียวแล้วก็ใส่ คุณคิดว่าจะมีใครตากแอร์นานเท่าคุณบ้าง พี่ชาย ฉันขอพูดกับคุณจากใจจริง คุณจ่ายเงินแค่นี้ ยังไม่พอจ่ายค่าแอร์ของฉันเลย”
“อืม ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นคำโกหก แต่พอได้ยินแล้วกลับรู้สึกสบายใจมาก โอเค ไม่เสียเวลาทำธุรกิจของเจ้าแล้ว แล้วเจอกันใหม่”
“ครั้งหน้ามาอีกนะ”
“ได้เลยๆ” นักพรตเฒ่าเดินออกมาจากห้องขนาดเล็ก แล้วจามอีกครั้ง แม่งเอ๊ย เป็นหวัดจริงๆ แล้วหรือเปล่า ร้านนวดเท้าในหมู่บ้านนี้จริงๆ แล้วอยู่ห่างจากร้านหนังสือไม่ไกลมากเท่าไร ทางเข้าเป็นทางเดินที่แคบมาก เป็นทางเดินที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวแห่งหนึ่ง
ชายชราสวมหมวกสีฟ้าคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงทางเข้า มีโต๊ะเล็กตัวหนึ่งตั้งอยู่ตรงหน้าชายชรา เขาเล่นหมากรุกอยู่บนนั้นซึ่งใกล้จะจบเกมแล้ว โบราณว่าไว้ หลังจากทำเรื่องพรรค์นั้นเสร็จแล้ว ผู้ชายจะเข้าสู่สภาวะของผู้บรรลุธรรมขั้นสูง ชั่วเวลาหนึ่ง จิตวิญญาณและอารมณ์จะได้รับการเลื่อนขั้น กลายเป็นคนที่ไร้ความปรารถนาและสูงส่งขึ้นมา นักพรตเฒ่าเห็นว่าใกล้จะจบเกมแล้ว จึงนั่งดูบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ
ชายชรามองนักพรตเฒ่า ยิ้มแล้วพูดว่า “เล่นสักตาไหม”
“ได้เลยๆ!”
ชายชราทั้งสองคนเรียงหมากรุกและเล่นหมากรุกด้วยกัน ช่างเป็นภาพที่ปรองดองกลมเกลียวกันเป็นอย่างมาก ถ้าหากดึงป้าย ‘นวดเท้า นวดสปา ซาวน่า นวดน้ำมัน’ ออกไปจะยิ่งดูกลมกลืนกว่านี้
ตอนเริ่มเกม ทั้งสองคนเล่นเร็วมาก หลังจากเข้าสู่ช่วงกลาง การเดินหมากของทั้งสองคนเริ่มช้าลง
“พี่ชาย มาเที่ยวที่นี่เหรอ” ชายชราถามนักพรตเฒ่า อายุของนักพรตเฒ่ามากกว่าชายชราคนนี้จริงๆ
“อ้อ ใช่ๆ เจ้าล่ะ”
“นั่งหน้าประตู คอยดูลาดเลา”
“ยินดีที่ได้รู้จัก ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“เกรงใจมากไปแล้ว ไม่ต้องเกรงใจ”
“พี่ชาย ภรรยาไม่อยู่แล้วเหรอ” ชายชราถาม พวกเขาอยู่ในวัยผู้สูงอายุแล้ว ถือว่าการเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา
“อยู่คนเดียว”
“ลูกของคุณล่ะ”
“ลูกไม่มี”
“ฟังสำเนียงของพี่ชายแล้ว ไม่ใช่คนแถวนี้ใช่ไหม”
“บ้านเกิดอยู่ที่ส่านซี อยู่หรงเฉิงสองปี เพิ่งย้ายมาทงเฉิงปีนี้”
“อายุมากแล้ว ยังตะลอนไปทั่ว”
“เพราะว่าอายุมาก ดังนั้นจึงต้องวิ่งเยอะหน่อย”
“มีเหตุผลๆ พวกเราคนอายุมาก เหลือเวลาอีกไม่เยอะแล้ว ปีนี้ผมไปงานศพของญาติและเพื่อนสองสามงานแล้ว จากไปทีละคน ตอนนี้ผมกลัวที่จะรับโทรศัพท์ กลัวว่าจะมีข่าวร้ายว่าใครเสียชีวิตอีก คู่ชีวิตก็เสียแล้ว ตัวเองคนผมหงอกต้องมาส่งคนผมดำ ญาติและเพื่อนสนิทก็เดินกันไม่ไหวแล้ว มีเพียงที่เดียวที่ยังเดินไปไหวคืองานศพ”
“อย่างนั้นเจ้าผิดแล้ว”
“ยังไงเหรอ พี่ชาย”
“เมื่อก่อนทำไมเจ้าทำตัวเป็นคนดี มีเพื่อนเยอะแยะล่ะ ข้าคิดว่านะ แต่ก่อนเจ้าไม่ต้องผูกมิตรหรอก เจ้าผูกศัตรูจะดีกว่า”
“ผูกศัตรู” ชายชราทำสีหน้างุนงง
“ใช่ พออายุเท่านี้แล้ว เวลารับโทรศัพท์ ฮิๆ ศัตรูพวกนั้นตายอีกแล้ว รอแต่ข่าวดีทุกวัน”
ชายชราลูบศีรษะ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหัวเราะฮ่าๆๆ “ผมคิดว่าพี่ชายมองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งมากกว่า”
ตอนที่หมากกระดานนี้จบเกม เวลาผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง นักพรตเฒ่าเล่นเก่งกว่ารุกฆาตชนะหมากกระดานนี้ แต่เอาชนะอย่างยากลำบากเช่นกัน
“สนุกจริงๆ!” ชายชราตบขาแล้วพูดว่า “ผมมีเหล้าเหมาไถ กับถั่วต้มที่ผมต้มเอง อยากจะขึ้นไปดื่มหน่อยไหม”
“ได้เลยๆ!”
วันนี้นักพรตเฒ่าอารมณ์ดีมาก และเขาก็ชอบนิสัยของชายชราที่อยู่ตรงหน้าเช่นกัน ชายชราทั้งสองคนเดินกอดไหล่ขึ้นไปข้างบนด้วยกัน เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดดังออกมาจากในห้องขนาดเล็กเป็นระยะ ทั้งสองมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ราวกับว่าเตียงที่กำลังขยับไปมา ได้แอบซ่อนวัยหนุ่มที่หายไปเมื่อวันวานของทั้งสองคนไว้
เวลานี้ล่วงเข้ายามค่ำแล้ว ไฟที่อยู่เหนือป้ายหน้าปากซอยก็สว่างขึ้น เป็นป้ายไฟนีออนสีแดงโชว์ให้เห็นคำว่า ‘ซาวน่า’ สองคำสะดุดตา เหมือนกับมีเลือดกำลังจะหยดลงมา…
………………………………………………………………………..