ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 396 ช่วยเหลือฉุกเฉิน!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 396 ช่วยเหลือฉุกเฉิน!

“โฮก!”

ถึงแม้จะถูกมัดอย่างสิ้นเชิง แต่ไป๋อิงอิงยังคงดิ้นรนไม่หยุด ระหว่างที่ต่อต้าน กลับยิ่งกระตุ้นศักยภาพแฝงในตัวของไป๋อิงอิงให้ระเบิดออกมา คนที่นอนเป็นเพื่อนโจวเจ๋อมานานแรมปี ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้เถ้าแก่โจวจะไม่เคยเป็นฝ่ายทำอะไรก่อน ดูเหมือนจะเกินจริงไปนิด แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการซึมซับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมเข้าไปโดยไม่รู้ตัวกลับเป็นเรื่องจริง

ไป๋อิงอิงสนิทสนมกับโจวเจ๋อมาตลอด เธอหลงใหลกลิ่นของโจวเจ๋อ เชื่อฟังโจวเจ๋อ ความรู้สึกทางด้านจิตใจเป็นสิ่งสำคัญเหมือนเดิม แต่ความต้องการทางด้านร่างกายกลับไม่สามารถปฏิเสธได้อย่างสิ้นเชิง และในช่วงที่คนเราบ้าคลั่งที่สุด มักจะระบายพลังแท้จริงที่อยู่ภายในร่างกายออกมา แต่น่าเสียดาย เพราะสิ่งที่เธอต้องเผชิญหน้าในตอนนี้ คือเถ้าแก่ของตัวเอง

ไป๋อิงอิงเอาศอกยันกับพื้น หัวเข่าของเธอตั้งอยู่บนพื้นกระเบื้อง ทว่าศีรษะของเธอยังคงเชิดสูง

‘แกร๊ก…แกร๊ก…แกร๊ก…’ เสียงแตกร้าวทยอยดังออกมา ดูเหมือนใยแมงมุมที่อยู่บนพื้น จากนั้นจึงเริ่มขยายไปตามกำแพงรวมทั้งเพดาน พลังอันน่ากลัวกำลังก่อตัวขึ้น ประดุจภูเขาไฟที่กำลังจะพวยพุ่งออกมา

โจวเจ๋อยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น แต่เส้นเลือดบนฝ่ามือของเขากลับโป่งขึ้นอย่างชัดเจน เขาปากเม้มแน่น แขนขวาหัก เป็นผลทำให้เขาต้องสู้ด้วยแขนข้างเดียว ดังนั้นจึงมีพลังไม่พอ ทว่าตอนนี้วิธีที่สามารถควบคุมและไม่ทำร้ายอิงอิงให้บาดเจ็บ มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้น

ก่อนหน้านั้นจะว่าไปแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองประมาทเกินไป เพราะว่ามีนักพรตเฒ่าเป็นตัวอย่างก่อนหน้า ถึงแม้นักพรตเฒ่าจะโดนคำสาป นอกจากเขาจะดูเหมือนคนโง่สติไม่ดีแล้ว ก็ไม่ได้แสดงลักษณะการโจมตีที่ชัดเจนออกมา

ทำไมนักพรตเฒ่าถึงต้านทานไหว แต่อิงอิงกลับถูกควบคุมเร็วเช่นนี้ หรือเป็นเพราะว่านักพรตเฒ่าเป็นคนธรรมดาแต่อิงอิงเป็นผีดิบ หากดูจากการบังคับจิตใจตัวเองอย่างเดียว อิงอิงที่ต้องทรมานกับความเหงาเกินสองร้อยปี เป็นไปไม่ได้ที่จะสู้นักพรตจอมปลอมไม่ได้

หมอกสีดำเริ่มเปลี่ยนรูปหลังจากถูกไป๋อิงอิงดึง พวกมันเริ่มทรงตัวไม่อยู่ วินาทีต่อมา โจวเจ๋อปล่อยมือแล้วโบกมือเล็กน้อย ควันสีดำจึงหายไป อิงอิงกลับคืนสู่อิสรภาพอีกครั้ง!

‘วืด!’ ไป๋อิงอิงพุ่งเข้าหาโจวเจ๋อโดยตรง โจวเจ๋อสะบัดมือ จากนั้นแบมือไปข้างหน้าแล้วพูดอีกสองสามคำ “หนังสือพิมพ์” หมอกสีดำที่ถูกควบคุมด้วยนิ้วทั้งห้าก่อตัวขึ้นในพริบตากลายเป็นฉากสีดำ แล้วตบลงมา!

‘เพียะ!!!’ อิงอิงที่พุ่งเข้าหาโจวเจ๋อถูกตบอย่างแรงไปกองที่พื้น และครั้งนี้เธอโดนตบลงไปกองกับพื้นทั้งตัว ถูกกดอยู่ตรงนั้นไม่สามารถขยับตัวได้ และแรงตบนี้ทำให้พลังอาฆาตที่อยู่บนตัวของอิงอิงได้กระจายหายไปไม่น้อย ทำให้อิงอิงไม่ดิ้นแรงเหมือนก่อน

ฉากนี้เหมือนกับมีคนม้วนหนังสือพิมพ์แล้วตีไปที่ศีรษะของคุณโดยตรง เถ้าแก่โจวนอนอยู่บนโซฟาทุกเช้า สิ่งที่พูดมากที่สุดก็คือ ‘กาแฟ หนังสือพิมพ์’ วิธีการควบคุมหมอกสีดำนี้ เขาขโมยมาจากคนผู้นั้น ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถามอีกฝ่ายว่าวิชานี้ชื่ออะไร คุณช่วยบอกฉันหน่อย

อีกทั้งโจวเจ๋อก็ยังนึกชื่อไม่ออกว่าจะตั้งชื่ออะไรดีที่ไม่ดูเกินจริงและไม่เฉิ่มเชยเกินไป ดังนั้นจึงใช้คำว่า ‘กาแฟ’ กับ ‘หนังสือพิมพ์’ ก่อนชั่วคราว

และในเวลานี้มีเสียงเคลื่อนไหวดังมาจากข้างนอก “หัวหน้า!”

พวกเขามาแล้วเหรอ โจวเจ๋อพลิกข้อมือ หมอกสีดำหายไป อิงอิงคลานลุกขึ้นมาอย่างโอนเอน เธอไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็ยังพุ่งเข้าหาโจวเจ๋อด้วยสัญชาตญาณ

“เก็บ!” กระจกสามบานลอยมาตรงหน้าของโจวเจ๋อโดยตรง แล้วทิ่มลงไปบนพื้น ในกระจกทุกบานล้วนมีแสงสว่างจากเทียนไขกำลังเผาไหม้ สะท้อนแสงออกมาบนตัวของอิงอิง ทำให้อิงอิงรู้สึกกลัวจนเธอเริ่มเดินช้าลง

โจวเจ๋อเอามือกุมหน้าอก แสร้งทำเป็นบาดเจ็บหนักไร้เรี่ยวแรง แต่หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว เขาจึงรีบตะโกนพูดทันที “ควบคุมเธอเอาไว้ อย่าทำร้ายเธอ! ถ้าใครกล้าทำให้เธอบาดเจ็บ ผมจะขยี้เลือดวิญญาณของคนนั้น!”

หลิวฉู่อวี่ที่เพิ่งหยิบราวไม้ไผ่เมื่อครู่เซทันที แม่ง ยังจะพูดแบบนี้อีก เวลานี้ตอนนี้ หลิวฉู่อวี่เกิดความคิดชั่วแล่นอยากถอยออกทันที แล้วปล่อยให้เถ้าแก่เชือดเองก่อน

“ผมจะควบคุมเธอเอง เยวี่ยหยา เข็มเงินฝังเข็ม! หลินเข่อ ช่วยหน่อย!” เสียงของทนายอันดังเข้ามา มือกระดูกสีขาวข้างหนึ่งหวดกลางอากาศ จับคอของไป๋อิงอิงโดยตรงแล้วกดลงข้างล่าง!

ผีดิบสาวถูกบังคับจนงอตัว ฝีมือของทนายอันนับว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก บวกกับพลังอาฆาตที่อยู่บนตัวของเธอที่เพิ่งถูกตีกระจายออกไปไม่น้อยโดยฝีมือของโจวเจ๋อ เป็นผลทำให้ไม่สามารถแสดงกำลังของเธอได้ในตอนนี้

แต่ไป๋อิงอิงไม่ยอมแพ้ ผีดิบสาวหันข้างพลิกมือกลับแล้วคว้าหมับ ทนายอันจ้องมองนิ่ง มือกระดูกสีขาวของเขาปะทะกับกรงเล็บของไป๋อิงอิงไปสิบกว่ากระบวนท่า เกิดเป็นประกายไฟออกมาเป็นระยะ

ทนายอันมองเห็นช่องว่างสองสามครั้ง จ้องหาโอกาสทำให้ไป๋อิงอิงบาดเจ็บหนัก แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของโจวเจ๋อก่อนหน้านั้น เขาจึงได้แต่อดทนเก็บความคิดวู่วามของตัวเองกลับไป

สาวน้อยโลลิสะบัดลิ้นยาวออกมา แบ่งเป็นสี่สายกลางอากาศ แยกไปมัดเท้าและแขนทั้งสองข้างของอิงอิง ไป๋อิงอิงตัวสั่น ความเร็วลดลงทันที ในช่วงนี้ภายใต้การชี้แนะของทนายอัน สาวน้อยโลลิได้พัฒนากำลังของลิ้นตัวเองในระดับที่ลึกซึ้งขึ้นแล้ว

“โฮก!” ไป๋อิงอิงคำรามออกมา กางสองแขนออก เธอยังอยากจะต่อต้าน ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด

มือกระดูกสีขาวของทนายอันแตะไปที่หน้าผากของไป๋อิงอิง หมอกสีชมพูเป็นกลุ่มๆ ฟุ้งกระจายออกมาแล้วมุดเข้าไปในสติของไป๋อิงอิงในชั่วพริบตา ทำให้ผีดิบสาวในเวลานี้ตัวนิ่งทื่อและลืมขยับตัว

และตอนนี้เยวี่ยหยาก็หาโอกาสลงมือได้ในที่สุด จากนั้นจึงเห็นเธอทิ่มเข็มเข้าไป เข็มสี่เล่มทิ่มเข้าไปที่แขนทั้งสองข้างกับขาทั้งสองข้างของไป๋อิงอิง ยังมีเข็มอีกเล่มหนึ่งทิ่มเข้าไปที่ต้นคอของไป๋อิงอิง

ทนายอันจึงปล่อยมือ สาวน้อยโลลิก็ดึงลิ้นของตัวเองกลับมา ไป๋อิงอิงตัวเซ สุดท้ายล้มลงไปกองกับพื้นไม่ขยับตัว แต่ความน่ากลัวและความแข็งแรงของผีดิบสาว ยังคงทำให้คนหวาดหวั่น

“หัวหน้า คุณไม่เป็นไรใช่ไหม” เจิ้งเฉียงเพิ่งวิ่งเข้ามาตอนนี้ ประคองโจวเจ๋อขึ้นมา สายตาของเขาหยุดมองไปที่แขนขวาที่หักของโจวเจ๋อครู่หนึ่ง และมองด้วยสายตาที่ดูถูก

เขาเคยเห็นโจวเจ๋อกับกู่เหอต่อสู้กัน ไม่คิดว่าผีดิบสาวที่กำลังคลั่งจะสามารถจัดการเขาได้อย่างสิ้นเชิง หากจะพูดตรงๆ ก็คือ เถ้าแก่ของตัวเองจะต้องใจอ่อนแน่นอน เขาใช้ความใจอ่อนในเวลานี้แบบนี้ ช่างฟุ่มเฟือยจริงๆ

“ผมไม่เป็นไร โชคดีที่พวกคุณมาเร็ว ไม่อย่างนั้นผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง”

เวลานี้ทนายอันเป็นฝ่ายเดินมาตรงหน้าโจวเจ๋อ จากนั้นสะบัดแขนเสื้อคุกเข่าเลียนแบบขุนนางในละครราชสำนัก “ข้าน้อยมาช้า เถ้าแก่โปรดลงโทษข้าด้วย”

“ชอบเล่นเหรอ” โจวเจ๋อมองทนายอันแล้วถาม

“เหอะๆ” ทนายอันหัวเราะ จากนั้นชี้ไปที่เยวี่ยหยากับสาวน้อยโลลิแล้วเอ่ยว่า “พวกเธอจะรับผิดชอบคอยดูเธอ”

เยวี่ยหยากับสาวน้อยโลลิพยักหน้า สาวน้อยโลลิยังกวาดตามองโจวเจ๋อหนึ่งทีด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง

“ของที่ใช้ทำคำสาปอยู่ในฝาปิดถังน้ำชักโครก มีวิธีจัดการไหม” โจวเจ๋อถาม “อิงอิงเปิดฝาอันนั้น ถูกสิ่งนั้นส่องหน้าแล้วก็สูญเสียการควบคุมสติ”

“มีวิธี ยังไงต้องมีวิธีแน่นอน ในเมื่อหาเจอแล้วก็จัดการง่ายหน่อย” ทนายอันเดินไปที่ห้องน้ำ ตรวจสอบฝาปิดถังน้ำชักโครกในระยะใกล้

ก่อนหน้านั้น อิงอิงเปิดฝาปิดถังน้ำชักโครก แต่เมื่อรู้สึกได้ถึงความผิดปกติเธอจึงเป็นห่วงเถ้าแก่ของตัวเอง ดังนั้นจึงปิดฝาทันที

“เจ้าสิ่งนี้มีพลังมาก แม้แต่ผีดิบสาวก็ยังควบคุมได้” ทนายอันขมวดคิ้วทันที ก่อนหันไปมองไป๋อิงอิงที่ยังสลบอยู่ ในหัวของเขามีภาพของนักพรตเฒ่าที่นั่งอยู่ในห้องสอบสวนลอยขึ้นมา ไม่ใช่สิ ทำไมผีดิบสาวถึงโดนควบคุมโดยตรงแต่นักพรตเฒ่ากลับเพียงแค่เสียสติ

“ดูเหมือนยันต์กระดาษของนักพรตเฒ่าจะยับยั้งมันได้” โจวเจ๋อพูดเตือน “บนฝาปิดถังน้ำชักโครกมีร่องรอยถูกเผาของยันต์กระดาษ”

“ตานั่นยังมียันต์กระดาษอีกไหม” ทนายอันถาม “ผมจำได้ว่าครั้งที่แล้วผมขอจากเขาสองใบ เขาบอกว่ายันต์บรรพบุรุษของเขาเหลือเพียงหนึ่งใบเท่านั้น”

ถ้าหากคุณอยากประเมินและเปรียบเทียบปริศนาที่ยังแก้ไขไม่ได้ในร้านหนังสือ หนึ่งในหัวข้อที่จะถูกพูดถึง นั่นก็คือ ยันต์กระดาษในเป้ากางเกงของนักพรตเฒ่ามีกี่ใบกันแน่

“อย่างนั้นต้องนำถังน้ำชักโครกกลับไป แล้วก็พาผีดิบสาวกลับไปด้วย ไปหายันต์กระดาษบรรพบุรุษของนักพรตเฒ่ากันก่อน”

หลิวฉู่อวี่กับเจิ้งเฉียงสองคนย้ายถังน้ำชักโครกเข้าไปในร้านหนังสืออย่างระมัดระวัง พวกเขากลัวว่าถังน้ำจะแตกหรือไม่ก็เกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง เป็นผลทำให้พวกเขาโดนคำสาปไปด้วย

ส่วนสาวน้อยโลลิกับเยวี่ยหยารวมทั้งทนายอันสามคนไปค้นหายันต์กระดาษตามกล่องและตู้ในห้องของนักพรตเฒ่า

แต่โจวเจ๋อกลับนั่งอยู่บนโซฟาที่ชั้นหนึ่ง ตอนนี้ไม่มีใครมีเวลาสนใจอาการบาดเจ็บของโจวเจ๋อ หากเทียบกันระหว่างอาการบาดเจ็บของโจวเจ๋อในตอนนี้ กับแก้คำสาปเพื่อช่วยผีดิบสาวและนักพรตเฒ่า ถือว่าอย่างหลังสำคัญกว่า

พวกเขาหาอยู่นานสองนาน ก็ยังหาไม่เจอว่านักพรตเฒ่านำยันต์กระดาษไปซ่อนไว้ที่ไหน สุดท้ายเจ้าลิงจึงออกโรง มันหากระดาษไขห่อหนึ่งเจอที่ช่องว่างด้านล่างของเคาน์เตอร์ ในนั้นมียันต์กระดาษหนาเป็นปึกๆ

“เขานำเข้าสินค้าในตลาดค้าส่งเหรอ” ทนายอันพิจารณามองยันต์กระดาษหนาเป็นปึกๆ ขณะพูด ถึงแม้เขาจะมีความรู้กว้างขวาง แต่ก็ไม่เคยเห็นยันต์กระดาษระดับนี้ขายทีละครึ่งค่อนกิโลกรัม ด้วยปริมาณเท่านี้ บรรพบุรุษของนักพรตเฒ่าในอดีตนอกจากกินข้าวดื่มน้ำแล้วคือวาดยันต์กระดาษมาทั้งชีวิตใช่ไหม

“ต้องลองดู ว่าจะแก้คำสาปได้ไหม” โจวเจ๋อเร่งรัด

โจวเจ๋อมองไป๋อิงอิงที่นอนนิ่งอยู่ตรงนั้น เขารู้สึกทนไม่ไหว

“ครับ” ทนายอันพยักหน้า เดินมาตรงหน้าฝาถังน้ำชักโครก เขาไม่ได้แปะยันต์ลงไปโดยตรง แต่ส่งสัญญาณบอกให้สวี่ชิงหล่างเข้ามาช่วยตัวเองแปะยันต์กระดาษรอบๆ บริเวณนี้เพื่อป้องกันไว้ก่อน

หลังจากจัดเตรียมเสร็จแล้ว ทนายอันจึงหยิบยันต์กระดาษแล้วเริ่มแปะไปที่ฝาปิดถังน้ำชักโครก หลังจากแปะยันต์กระดาษลงไปหนึ่งใบ มันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำทันที จากนั้นก็หายไปอย่างช้าๆ ต่อจากนั้นจึงแปะใบที่สอง ใบที่สาม ใบที่สี่…

ทนายอันรู้สึกเหมือนตัวเองเผากระดาษเงินกระดาษทองในหมู่บ้าน แปะยันต์กระดาษที่อยู่ในมือลงไปทีละใบสุดท้ายเขาน่าจะแปะยันต์ไปแล้วมากกว่าสิบใบ ทันใดนั้นถังน้ำเริ่มสั่น เหมือนมีอะไรบางอย่างทนไม่ไหวอยากจะโผล่ออกมา แต่การดิ้นรนของมันอ่อนแรงมากอย่างเห็นได้ชัด หลังจากมันดิ้นรนได้สักพักหนึ่งจึงค่อยสงบลง

โจวเจ๋อลุกขึ้นเดินมาข้างๆ ถังน้ำ มองดูแล้วถาม “เกิดอะไรขึ้น”

ทนายอันส่ายหน้า “ไม่แน่ใจ ไม่ชัวร์เหมือนกัน”

‘เปรี๊ยะ!’ ถังน้ำแตกออกอย่างกะทันหันในเวลานี้…

………………………………………………………………………..

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท