ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 397 ถอนคำสาป!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 397 ถอนคำสาป!

ตอนที่ถังน้ำแตกออก ทุกคนในร้านหนังสือรีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว แม้แต่โจวเจ๋อกับทนายอันที่ยืนอยู่หน้าสุดก่อนหน้านั้น ก็ยังถอยหลังโดยสัญชาตญาณ

เวลานี้ไม่จำเป็นต้องวางท่า ภูเขาไท่ซานพังทลายอยู่ตรงหน้ายังคงสีหน้านิ่งไว้ ฟังดูแล้วเหมือนจะเท่ แต่หลังจากความเท่ก็คือถูกฝังทั้งเป็น

‘ซู่ๆๆ!!!’ ตอนที่ย้ายถังน้ำเข้ามามันไม่มีน้ำแล้ว แต่เวลานี้กลับมีของเหลวสีแดงมีกลิ่นคาวไหลออกมาไม่หยุด

โดยทั่วไป เลือดสดจะมีกลิ่นคาวที่รุนแรง แต่เลือดสดที่อยู่ในนี้กลับส่งกลิ่นหอมไม่เหมือนใคร ทำให้คนเกิดภาพหลอนคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในดงดอกไม้ ทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างไม่ใช่เด็กฝึกหัด พวกเขา ‘กลั้นหายใจ’ เมื่อรู้ตัว แต่กลับไม่มีประโยชน์เลย

บนชั้นหนังสือที่ชั้นหนึ่งของร้านหนังสือ เริ่มมีเส้นเถาวัลย์แผ่ขยายออกมา กิ่งเถาวัลย์เป็นของปลอม เพราะพวกมันดูแล้วโปร่งใส และรอบๆ โต๊ะเก้าอี้ก็ปรากฏคูน้ำออกมาเป็นสาย ความรู้สึกแบบนี้เหมือนกำลังดูภาพยนตร์สามมิติ ความรู้สึกเสมือนจริงกับความเป็นจริงเริ่มผสมผสานเข้าด้วยกันในเวลานี้

ตรงตำแหน่งของถังน้ำที่แตกออกมีหยกชิ้นหนึ่งลอยขึ้นมา ใบหน้าเด็กที่อยู่บนหยกแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวในเวลานี้เหมือนถูกต่อยจนหน้าบี้แทบไม่มีสภาพของคนหลงเหลืออยู่ เหมือนกับเด็กทารกรูปร่างประหลาด

ถ้าหากจะพูดว่าตอนแรกที่นักพรตเฒ่าไปฉี่ แล้ววางยันต์กระดาษลงไปหนึ่งใบ เหมือนการตบหน้าเด็กคนนี้หนึ่งครั้งละก็ เช่นนั้นเมื่อครู่ที่ทนายอันที่โยนยันต์กระดาษอย่างไม่เสียดายเงิน ก็เท่ากับปล่อยหมัดทหารเป็นชุดใส่ ‘ตุ๊กตาเด็ก’ คนนี้ โชคดีที่นักพรตเฒ่าไม่อยู่ที่นี่ ถ้าหากเขารู้ว่ายันต์กระดาษของบรรพบุรุษที่แสนมีค่าของตัวเองถูกทนายอันนำมาใช้เหมือนกระดาษชำระ คาดว่าเขาคงอยากจะหยิบมีดแล้วหั่นทนายอันเป็นชิ้นๆ

ตุ๊กตาเด็กหน้าบวมเป่ง มันอยากจะรักษาความน่ากลัวและความแปลกของตัวเองก่อนหน้านั้นไว้ก็ยากแล้วจริงๆเพราะดูจากตอนนี้ มันดูน่าตลกขบขันเสียมากกว่า

‘เปรี๊ยะ!’ หยกเริ่มแตกร่วงลงไปบนพื้นทีละชิ้น แต่ฉากที่อยู่โดยรอบกลับไม่หายไป และยิ่งดูสมจริงมากขึ้น ระหว่างที่กำลังงุนงง โจวเจ๋อมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งคุกเข่าอยู่รอบตัวเอง พวกเขาบ้างก็ใส่ชุดนักพรตสีดำ บ้างก็ใส่ชุดนักพรตสีขาว คุกเข่าอยู่ตรงนั้นอย่างเป็นระเบียบ

ด้านหลังของหยกชิ้นนั้นกลับปรากฏคานเหล็กอันหนึ่ง มีคนผู้หนึ่งถูกมัดอยู่บนคานเหล็ก พร้อมกับมีมีดเก้าเล่มเสียบอยู่บนตัว!

เลือดสดไหลออกมาไม่หยุด หยดลงบนตัวหยก ทุกคนที่อยู่ด้านล่างเริ่มท่องคาถาแล้วกราบไหว้บูชาพร้อมกัน

“หยกชิ้นนี้ น่าจะเป็นโทเทมของชนเผ่าโบราณสักแห่ง ทุกปีจะใช้คนเป็นมาบูชายัญวัตถุอัปมงคลนี้” ทนายอันเอ่ย

“แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“ผมจะไปรู้ได้ยังไง ตาแก่ที่ตายไปคนนั้นอาจจะรู้ แต่วิญญาณของเขาอาจจะไม่ได้ไปลงนรก แต่ถูกเจ้าสิ่งนี้ดูดกลืนไปแล้วก็เป็นได้”

เวลานี้ หยกกำลังแตกไม่หยุด และคงใช้เวลาไม่นานก็น่าจะแตกทั้งหมด ทนายอันเลียปากเดินไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่ข้อมือของเขากลับถูกโจวเจ๋อจับเอาไว้

“คุณคิดจะทำอะไร” โจวเจ๋อถาม

“ถ้าเจ้าสิ่งนี้แตก คงเสียดายน่าดู”

“ได้ของแบบนี้ คุณไม่กลัวบุญหายเหรอ” ทนายอันได้ยินดังนั้นจึงลังเล็กน้อย และไม่จับมัน

อันที่จริงบุญหายหรือไม่หาย ทนายอันไม่ได้สนใจมากเท่าไร ตอนนี้เขาเป็นนักเลงใหญ่ ไม่ขอเลื่อนขั้นในนรก และไม่หวังที่จะร่ำรวยอู้ฟู่อยู่ในโลกมนุษย์เช่นกัน

สิ่งที่ทำให้เขากังวลคือ เขากังวลว่าตัวเองจะควบคุมหยกชิ้นนี้ไม่อยู่ สุดท้ายกลับถูกหยกชิ้นนี้ควบคุมแทน ทนายอันมองโจวเจ๋อหนึ่งที เขาพบว่าเถ้าแก่โจวกัดฟันอยู่ เหอะ เขามองออกว่าเถ้าแก่โจวก็อยากได้หยกชิ้นนี้เหมือนกัน แต่กำลังอดกลั้นเอาไว้ ช่างเถอะ ของบางอย่างปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติถึงจะเป็นจุดจบที่ดีที่สุด

‘แกร๊ก…’ หยกแตกละเอียดอย่างสิ้นเชิง สลายกลายเป็นควันสีเขียว ฉากที่อยู่โดยรอบก็หายไปเช่นกัน เรื่องราวความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ในหยกชิ้นนี้จึงมลายหายไปเช่นนี้

ไม่รู้ว่าเป็นการบูชายัญของเผ่าไหน และไม่รู้ว่าหยกชิ้นนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่แค่มันสิ้นสุดลง ก็ถือว่ามากพอแล้ว

“มา มาช่วยกันเก็บกวาดหน่อย” หลังจากโจวเจ๋อสั่งงานแล้ว ตัวเองก็แบกไป๋อิงอิงขึ้นมา ตอนนี้เขาขยับแขนได้ข้างเดียว จึงแบกเธอขึ้นมาไม่ค่อยสะดวก แต่ก็ยังดื้อปฏิเสธสาวน้อยโลลิที่อยากจะเข้ามาช่วย เขายืนกรานในความดื้อรั้นของตัวเอง

แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมา โจวเจ๋อกับไป๋อิงอิงนอนอยู่บนเตียงใหญ่

ทนายอันตรวจสอบแล้ว บอกว่าคำสาปถูกถอนออกไปพร้อมกับการหายไปของหยก ตอนนี้ก็รอให้เธอตื่นขึ้นมาเท่านั้น

สาวน้อยโลลิกอดเสื่อนอนอยู่ข้างเตียงด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้เธอจะยังอยู่ใกล้มากและนอนหลับได้เหมือนเดิม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็นอนหลับไม่สบายเท่านอนบนเตียง

ทว่าโจวเจ๋อใช้เหตุผลว่าตัวเองชอบนอนดิ้น จึงปฏิเสธไม่ให้เธอมานอนบนเตียงด้วย เพราะกลัวว่าจะรบกวนอิงอิง ดังนั้นจึงทำให้สาวน้อยโลลิเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง!

“เอ๊ะ ฟื้นแล้ว” โจวเจ๋อเห็นไป๋อิงอิงขยับเปลือกตาสองสามที ไม่ช้าไป๋อิงอิงก็ลืมตา ดวงตาของเธอไม่เป็นสีเลือดแล้ว มีแต่ความสดใส

โจวเจ๋อรู้สึกว่าอิงอิงแบบนี้น่ารักที่สุดแล้ว อิงอิงคนเมื่อวานทำให้เขารู้สึกเหมือนคนแปลกหน้าจริงๆ

“ฮือๆๆ เถ้าแก่ ข้าเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ” อิงอิงมองซ้ายมองขวาด้วยความสงสัย โจวเจ๋อยื่นมือแล้วข่วนจมูกของเธอเบาๆ อิงอิงมองโจวเจ๋อด้วยตาโตเป็นประกาย เธอไม่เข้าใจอย่างยิ่ง

“ฟื้นแล้วก็ดี คุณพักผ่อนอีกหน่อย ถ้าต้องการอะไร เรียกหลินเข่อก็พอ”

“หืม” ไป๋อิงอิงมองเห็นแขนขวาของโจวเจ๋อที่ใส่เฝือกและถูกพันด้วยผ้าพันแผลในทันใด สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที จากใบหน้าที่สดใสและสงบของเธอ กลายเป็นสีหน้าโกรธในเวลานี้ แล้วคำรามพูดเบาๆ “เถ้าแก่ แขนของท่านเป็นอะไร! ไอ้ชาติชั่วคนไหนเป็นคนทำร้ายท่าน บอกอิงอิงมาเจ้าค่ะ อิงอิงจะไปกินเขาเดี๋ยวนี้!!!!! กล้าทำร้ายเถ้าแก่แบบนี้ ข้าจะไม่ปล่อยเขาเด็ดขาด!”

“พรืด…” สาวน้อยโลลิกลั้นหัวเราะไม่อยู่

“ไม่เป็นไร คนคนนั้นถูกผมจัดการไปแล้ว” โจวเจ๋อลงจากเตียง แล้วยื่นมือลูบศีรษะของไป๋อิงอิง

“ผมให้คุณหยุดงานหนึ่งวัน วันนี้คุณนอนพักผ่อนให้ดี แต่พรุ่งนี้เช้าตื่นมา ผมต้องเห็นกาแฟที่ชงเสร็จแล้วกับหนังสือพิมพ์”

“ไม่ต้องเจ้าค่ะ เถ้าแก่ อิงอิงรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองไม่เป็นอะไรแล้ว ถ้าท่านต้องการ อิงอิงสามารถทำให้ท่านได้ตลอดเวลา”

“ผมสั่งให้คุณพักผ่อนก็ต้องพักผ่อน” โจวเจ๋อพูดจบแล้วจึงเดินออกจากห้องนอน โจวเจ๋อเดินลงมาข้างล่าง หาตำแหน่งโซฟาที่ตัวเองคุ้นเคยแล้วนอนลงไป

เวลานี้ ทนายอันถือกาแฟสองแก้วเดินเข้ามา จากนั้นวางลงตรงหน้าโจวเจ๋อหนึ่งแก้ว โจวเจ๋อมองกาแฟที่อยู่ตรงหน้าแล้วตกตะลึง

“ดื่มสิ ไม่ต้องเกรงใจ” ทนายอันยิ้ม

มันไม่ใช่ปัญหาว่าเกรงใจหรือไม่เกรงใจ แต่เป็นเพราะคุณเอากาแฟสำเร็จรูปหมดอายุมาชงต่างหาก

ทนายอันกลับดื่มกาแฟสำเร็จรูปหมดอายุอย่างสบายใจ จากนั้นจึงเลียนแบบท่าทางของโจวเจ๋อแล้วนอนลงไป“นอนอาบแดด นอนนิ่งๆ โคตรสบายจริงๆ…”

“…” โจวเจ๋อ

“อ้อใช่ พวกเยวี่ยหยากลับไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว อิงอิงตื่นแล้วใช่ไหม ผมเพิ่งได้ยินเสียงของเธอ”

“ใช่” โจวเจ๋อพยักหน้า เขาไม่ได้เรียกพวกเขาไว้ให้อยู่กินข้าวก่อนสักมื้อก็ไม่รู้สึกละอายใจอะไร เมื่อก่อนตอนเป็นหมอ หมอฝึกหัดในแผนกของเขาก็ถูกเขาใช้งานแบบนี้

“ชาติที่แล้วคุณเป็นหมอใช่ไหม หลินเข่อเคยบอกผม”

“ใช่”

“อ้อใช่ ผู้อำนวยการหลินเคยคุยกับผม เล่าเรื่องตอนที่เธอเคยเป็นหมอฝึกหัด คุณรู้ไหม ว่าสิ่งที่เธอลืมยากที่สุดคืออะไร”

“คืออะไร” โจวเจ๋อถาม เขารู้สึกอยากรู้อยากเห็นจริงๆ ตอนที่เธอเป็นหมอฝึกหัด เขาเป็นคนสอนงานเธอเอง

“จำได้ว่าครั้งนั้นที่เจรจาร่วมงานกันครั้งแรก เธอกินข้าวในโรงอาหารโรงพยาบาลกับผม เธอพูดกับผมว่า ตอนแรกที่เป็นหมอฝึกหัด เธอได้ฝึกงานกับศัลยแพทย์หนุ่มคนหนึ่ง ศัลยแพทย์คนนั้น หน้าตาหล่อและมีเสน่ห์มาก”

ฮิๆๆๆ

“เธอบอกว่า ตอนนั้นเพิ่งเจอคนไข้โรคติดเชื้อพยาธิไส้เดือน เธอถูกอาจารย์ของตัวเองเรียกให้เข้าไปเป็นผู้ช่วยในห้องผ่าตัดด้วยกัน หลังจากอาจารย์ของเธอผ่าท้องของคนไข้แล้วก็หยิบพยาธิไส้เดือนออกมาเป็นกะละมัง”

“ภาพนั้นมันน่ากลัวมากจริงๆ”

โจวเจ๋อหัวเราะ เขากลับลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ ในความเป็นจริงนั้น นอกจากความทรงจำเพียงเล็กน้อยของเขาเรื่องราวมากมายที่ตัวเองเคยสอนงานให้หมอหลินที่เป็นหมอฝึกหัดในตอนนั้น เขาจำไม่ค่อยได้แล้ว

เพราะเป็นโสดด้วยความสามารถ ทำไมต้องมีความจำดี วันวาเลนไทน์จีน วันรำลึก วันวาเลนไทน์สากล วันวาเลนไทน์ของกลุ่มเพศทางเลือก ลืมให้หมดได้ยิ่งดี

“ไม่ๆๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่อันนี้” ทนายอันดื่มกาแฟ ยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการหลินบอกว่าตอนนั้นเธอตกใจมาก จากนั้นอาจารย์บ้าของเธอยังสั่งให้เธอเอาพยาธิไส้เดือนไปล้างให้สะอาดทั้งกะละมัง แล้วก็นับจำนวนด้วย! ฮ่าๆๆๆๆ ตลกมาก ผมรู้สึกตลกมากจริงๆ คุณคิดว่าอาจารย์คนนั้นของเธอเป็นพวกวิปริตหรือเปล่า ชอบสั่งให้หมอฝึกหัดที่ทั้งสาวและสวยทำเรื่องแบบนี้เพื่อความสนุกเหรอ”

“…” โจวเจ๋อ

“ทำไมคุณไม่หัวเราะล่ะ”

โจวเจ๋อผลักกาแฟที่อยู่ตรงหน้าไปไว้ด้านหน้าทนายอัน “วันนี้ผมไม่อยากดื่มกาแฟ คุณดื่มเถอะ ต่อไปกาแฟที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์ คุณอยากดื่มมากเท่าไรก็ดื่มเลย ไม่ต้องเกรงใจ และไม่ต้องช่วยผมประหยัด”

“ได้”

ทั้งสองคนนั่งแบบนี้ตลอดช่วงเช้า และเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ที่ทนายอันไม่บ่นพฤติกรรมการนอนอาบแดดของโจวเจ๋อ ตรงข้ามกับโจวเจ๋อเขารู้สึกว่าทนายอันยิ้มให้ตัวเองอย่างมีความหมายแอบแฝงตลอดเวลา ทำให้โจวเจ๋อรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวและไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก

แต่ไม่ช้าก็ถึงเวลากินข้าวกลางวัน โจวเจ๋อวางหนังสือที่อยู่ในมือแล้วมองทนายอัน “พวกเรา ลืมอะไรไปหรือเปล่า”

“ฮิๆ อย่าให้พูดเลย ผมก็รู้สึกเหมือนกัน เหมือนจะลืมอะไรบางอย่าง แต่นึกไม่ออกจริงๆ”

ภายในห้องคุมขังของสถานีตำรวจทงเฉิง นักพรตเฒ่าจับกรงเหล็กแล้วร้องไห้ตะโกนพูดเสียงดัง “ข้าไม่ได้ฆ่าคน ข้าไม่ได้ฆ่าคนนะ ข้าถูกใส่ความ ข้าถูกใส่ความจริงๆ ปล่อยข้าออกไป รีบปล่อยข้าออกไป!!! เถ้าแก่ มาช่วยข้าที เถ้าแก่ ช่วยข้าด้วย!!!!”

………………………………………………………………………..

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท