ตอนที่ 399 ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังตัวจริง
โจวเจ๋อกับผู้หญิงคนนั้นเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกัน เวลานี้ถึงแม้จะดึกแล้ว แต่ตึกใหญ่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลยังคงเปิดไฟสว่าง และมีผู้ป่วยถูกส่งเข้ามาเป็นระยะ
“คุณ ไปกับฉัน” ผู้หญิงคนนั้นมองโจวเจ๋อพลางเลียปาก กระทั่งจงใจขยับสะโพกของตัวเองเล็กน้อย เธออยากจะใช้กลยุทธ์สาวงามเหรอ
ขอร้องล่ะ เกล็ดน้ำค้างบนใบหน้าของคุณยังละลายไม่หมดเลย หน้าตาซีดขาว เหมือนป้าที่เพิ่งล้างเครื่องสำอาง…แล้วก็ท่าทางยั่วยวนที่ดูแข็งทื่อแบบนี้ อิงอิงของฉันยังดูเป็นมืออาชีพกว่าอีก อีกทั้งจะต่อต้านกลยุทธ์สาวงามอย่างไร เถ้าแก่โจวไม่ได้ต่อต้านใครโดยเฉพาะ แต่ทำกับทุกคน…
ทว่าโจวเจ๋อก็ยังเดินออกจากลิฟต์ไปพร้อมกับเธอ ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าตัวเองยั่วยวนสำเร็จแล้ว จึงเดินอย่างสบายใจแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต่างจากเห็นคนโง่ตัวเป็นๆ
โจวเจ๋อเดินตามหลังไปติดๆ ในความเป็นจริงนั้น เถ้าแก่โจวกำลังรอโอกาส รอเดินถึงเขตที่มีคนน้อยหน่อย แล้วจะจัดการผู้หญิงคนนี้เสีย วันสารทจีนนี้ สำหรับร้านหนังสือแล้ว เหมือนการประชุมประจำปีปกติที่มี ‘ยอดขาย’ สูงขึ้นกว่าปกติแน่นอน
ผู้หญิงคนนั้นเดินออกจากโรงพยาบาลมายืนอยู่ริมถนน เธอแบฝ่ามือทั้งสองข้าง งอนิ้วไม่หยุดเหมือนกำลังคำนวณอะไรอยู่ โจวเจ๋อยืนรอข้างๆ เธอ ไม่รีบร้อนลงมือ
“ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หกสิบลี้” สายตาของผู้หญิงมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จากนั้นมองไปที่โจวเจ๋อ “คุณมีรถไหม”
โจวเจ๋อส่ายหน้า
เธอขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยพอใจ “ผู้ชายไม่มีรถ ยังคิดจะนอนกับฉันอีก”
“…” โจวเจ๋อ
“ถ้าเดินจะช้าเกินไป แย่งรถมาสักหนึ่งคัน” ผู้หญิงพึมพำกับตัวเอง จากนั้นจึงเหลือบตามองโจวเจ๋อแล้วพูดว่า “คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ”
“…” โจวเจ๋อ
วิญญาณที่สิงอยู่ในร่างผู้หญิงคนนี้เหมือนมาพร้อมกับภาระหน้าที่ ไม่เหมือนผีสิงทั่วๆ ไป หรือว่าหลุดมาจากนรก? โจวเจ๋อแอบคิดในใจแล้วพูดทันที “ผมเรียกรถมาได้หนึ่งคัน”
“ได้ ฉันจะนอนกับคุณต่อ”
“…” โจวเจ๋อ
โจวเจ๋อหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเรียกรถแท็กซี่ ไม่ช้ารถก็มาแล้ว ผู้หญิงเข้าไปนั่งในรถ ส่วนโจวเจ๋อก็เข้าไปนั่งด้วยกัน
“ไปโรงยิมใช่ไหม” คนขับรถดูตำแหน่งบนแผนที่แล้วถาม
“ขับไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้” ผู้หญิงกล่าว
“อะไรนะ” คนขับรถไม่เข้าใจความหมาย
“ไปที่โรงยิมก่อนครับ” โจวเจ๋อเอ่ย
ก่อนหน้านั้นโจวเจ๋อลองปักหมุดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้บนแผนที่มั่วๆ เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ระบุตำแหน่งที่ชัดเจน เขาจึงไม่สามารถรู้ตำแหน่งที่แน่นอน
คนขับรถสตาร์ทรถ เสียงลำโพงดังขึ้นมา เปิดเพลง ‘บินให้สูงขึ้น’ ของจินจื้อเหวิน เป็นเพลงที่สนุกสานเพลงหนึ่งตอนที่อยู่บนรถ ผู้หญิงยังคงนับนิ้วไม่หยุดและขมวดคิ้วเป็นพักๆ หลังจากยี่สิบนาทีผ่านไป เธอจึงพูดว่า “ผิดทางแล้ว เลี้ยวซ้าย”
“ทางนั้นเป็นถนนเดินรถทางเดียว” คนขับรถอธิบาย
“ขับเข้าไป” ผู้หญิงยืนกราน
“จะโดนค่าปรับและหักคะแนน” คนขับรถรำคาญอยู่บ้าง
“ขับเข้าไป แล้วฉันจะนอนกับคุณ”
“…” คนขับรถ
คนขับรถจอดรถ หันมามองผู้หญิงแล้วมองโจวเจ๋ออีกที ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าคนขับรถฟังไม่เข้าใจ จึงพูดซ้ำว่า “ขับเข้าไปแล้วฉันจะนอนกับคุณ”
คนขับรถชี้หน้าตัวเอง ถึงแม้จะไว้ผมสั้น ถึงแม้ตอนกลางคืนจะเห็นไม่ชัดมาก ถึงแม้คนขับรถจะเริ่มมีอายุแล้ว แต่ก็ยังพอแยกแยะได้ว่านี่คือคนขับรถผู้หญิง
“คุณผู้หญิง เธอเป็นผู้หญิงครับ” โจวเจ๋อเตือนผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ
“อ้อ” ผู้หญิงพยักหน้า แล้วชี้ไปที่โจวเจ๋อที่อยู่ข้างๆ “ขับเข้าไป แล้วเขาจะนอนกับคุณ”
“…” คนขับรถผู้หญิง
“…” โจวเจ๋อ
“สมองมีปัญหาเหรอ” คนขับรถผู้หญิงปลดล็อกประตู พูดเร่งว่า “ลงรถไปๆ!” ดึกดื่นป่านนี้มาขับแท็กซี่หาเงินคิดว่าง่ายเหรอ ดันมาเจอคนบ้าอีก
ผู้หญิงได้ยินดังนั้นจึงขมวดคิ้ว เธอลุกขึ้น ยื่นมือไปบีบคอของคนขับรถผู้หญิง
“เอ่อ…อ้า…” คนขับรถผู้หญิงใช้มือทั้งสองข้างจับมือของเธอไว้ด้วยความทรมาน แต่มือของผู้หญิงมีแรงเยอะมาก เธอไม่สามารถดิ้นหลุดได้เลย
“ท่านสี่บอกว่า หลังจากขึ้นไปแล้ว ถ้าจะสั่งคนทำงานให้ตัวเอง ข้อแรกให้เงิน ข้อสองให้เขานอนด้วย ข้อสามฆ่าเขา ตอนนี้ฉันไม่มีเงิน คุณก็ไม่อยากนอนกับฉัน ถ้าอย่างนั้นฉันต้องฆ่าคุณ คุณจะขับหรือไม่ขับ”
โจวเจ๋อนั่งอยู่ข้างๆ เธอโดยไม่ยื่นมือเข้าไปห้ามปราม พูดจริงๆ นะ ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอประสบการณ์ที่ตัวเองไม่ถูกคนอื่นจับได้ว่าเป็น ‘สายลับ’ เถ้าแก่โจวยังเพลิดเพลินไม่พอ หากเป็นเมื่อก่อนคนอื่นมองปราดเดียวก็รู้แล้ว แต่ตัวเองกลับแยกอีกฝ่ายไม่ออกว่าเป็นคนหรือเป็นผีเลยด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ ความคิดและความเข้าใจของของผู้หญิงคนนี้มาพร้อมกับความน่ารักสุดโต่ง อย่างน้อยเมื่อเทียบกับไอ้พวกที่หลุดออกมาจากนรกที่โจวเจ๋อเคยเจอมาก่อนหน้านี้ ก็มีความน่ารักและตรงไปตรงมามากกว่า
“ฉันขับ…ฉันขับ…” คนขับรถผู้หญิงตกลงทันที
ผู้หญิงถึงได้ปล่อยมือ กลับไปนั่งที่ของตัวเองแล้วพูดว่า “เลี้ยวเข้าไป”
วินาทีต่อมา คนขับรถผู้หญิงรีบเปิดประตูรถแล้วพุ่งออกไป เธอวิ่งออกไปข้างนอกโดยไม่เหลียวหลัง ไม่ช้าก็มุดเข้าไปในพื้นที่สีเขียวที่อยู่ตรงหน้า
ผู้หญิงนั่งเหม่ออยู่กับที่ โจวเจ๋อยื่นมือลูบจมูกโดยไม่รู้ตัว จากนั้นอีกาที่แสนจะรักหน้าที่ดึกดื่นไม่รู้จักพักผ่อนก็บินผ่านหลังคารถไป
“กา…กา…กา…กา…” ใบไม้ร่วงสองสามใบพัดไปตามสายลม ลอยผ่านข้างรถ ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้ว มองออกเลยว่าเธอโกรธมาก จากนั้นเธอจึงมองไปที่โจวเจ๋อ “คุณขับรถเป็นไหม”
โจวเจ๋อพยักหน้า ลงจากรถแล้วนั่งที่ตำแหน่งคนขับ จากนั้นจึงสตาร์ทรถ จากคำชี้แนะของผู้หญิง โจวเจ๋อเริ่มขับรถไปยังจุดหมายปลายทางตามความต้องการของเธอ หลังจากขับไปได้สิบนาที โจวเจ๋อรู้สึกผิดปกติ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่คุ้นเคยเล็กน้อย ดูเหมือนตัวเองจะเคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้
เวลานี้รถขับออกมาจากใจกลางเมืองแล้ว เมื่อถึงหมู่บ้านด้านล่าง เขาจึงกวาดตามองป้ายบอกทาง ซึ่งเป็นเขตของภูเขากวนอิม หรือว่า…
“ขับไปทางข้างหน้าแล้วก็จอดข้างทาง” พอจอดรถ ผู้หญิงจึงลงจากรถ โจวเจ๋อก็เดินลงมาเช่นกัน พวกเขาทั้งสองคนปีนขึ้นไปบนเนินดิน จากนั้นจึงเห็นโรงอิฐร้างแห่งหนึ่งอยู่ในสายตาของคนทั้งสอง
สายตาของโจวเจ๋อมองไปที่ริมฝั่งแม่น้ำสายนั้นเมื่อรู้ตัว ที่นั่นเคยขุดเจอศพมากกว่าสิบชีวิต เมื่อผู้หญิงเดินลงไป โจวเจ๋อก็เดินตาม ทั้งสองคนมาถึงริมฝั่งแม่น้ำ เนื่องจากช่วงนี้มีพายุไต้ฝุ่นฝนตกลมแรง ริมฝั่งแม่น้ำที่เดิมทีโดนขุดเป็นหลุมเป็นบ่อ ตอนนี้แทบจะมองไม่เห็นร่องรอยแล้ว
ผู้หญิงมองไปทางโจวเจ๋อแล้วพูดว่า “ช่วยขุดหลุมให้ฉันหน่อย”
“หืม”
“ฉันจะนอนกับคุณ ถ้าคุณช่วยขุดตรงนี้ให้ฉัน”
โจวเจ๋ออยากจะบอกผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างมากว่า ศพที่นี่โดนขุดไปหมดแล้ว ผู้หญิงเห็นโจวเจ๋อไม่ขยับ จึงคิดว่าเงื่อนไขที่สองของตัวเองไม่สามารถทำให้เขาประทับใจได้ เธอจึงเริ่มใช้เงื่อนไขที่สาม
“ถ้าไม่ขุด ฉันจะฆ่าคุณ”
“ไม่ใช่ ศพที่นี่ถูกขุดไปหมดแล้ว ตำรวจขุดเจอมากกว่าสิบศพ ตอนนี้อยู่ที่สถานีตำรวจ”
ผู้หญิงได้ยินดังนั้นจึงตกตะลึง เธอกำลังพิจารณา หรือจะพูดอีกอย่างก็คือเธอกำลังคิดย้อนกลับไป ปากพูดพึมพำไม่หยุด “ท่านสี่บอกแล้ว ท่านสี่ยังบอกว่า ท่านสี่พูดอีกว่า สุดท้ายท่านสี่พูดว่า…”
ท่านสี่เป็นใคร โจวเจ๋อไม่เข้าใจ แต่วิญญาณที่สิงร่างของผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นสาวใช้ในบ้านท่านสี่ที่ถูกส่งออกมาซื้อของนอกวัง คล้ายเด็กที่ออกมาซื้อของให้แม่ โดยเขียนป้ายที่หน้าอกว่าฉันจะซื้ออะไรบ้าง
“อ้อ เข้าใจแล้ว” ผู้หญิงนั่งยองๆ ลง แบมือข้างหนึ่ง จากนั้นใช้เล็บกรีดฝ่ามือของตัวเอง แต่เลือดกลับไม่ไหลออกมา เหตุผลง่ายมาก การยืมร่างของเธอแตกต่างจากการยืมศพคืนชีพของยมทูต ไม่ได้สมบูรณ์แบบถึงที่สุด ดูเหมือนจะสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในความเป็นจริง ร่างกายนี้ไม่ได้รับการกระตุ้นให้ฟื้นคืนชีพอย่างสิ้นเชิง ถ้าอยากให้ศพที่วางอยู่ในห้องดับจิตมีเลือดไหลเวียนอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่ทำให้คนลำบากใจมากเกินไป
ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้า มองมาทางโจวเจ๋อแล้วพูดว่า “เลือด เอาเลือดมาให้ฉัน เอาเลือดมา แล้วฉันจะนอนกับคุณ”
โจวเจ๋อเลียปาก ประโยคถัดไปจะเป็น ‘เอาเลือดมาให้ฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าคุณ’ หรือเปล่านะ
“เลือด เอาเลือดมาให้ฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่า…”
โจวเจ๋อกัดปลายนิ้วของตัวเองแล้วยื่นมือไปตรงหน้าผู้หญิง จากนั้นเลือดสดเริ่มหยดลงกลางฝ่ามือของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มแล้ว ดูเหมือนเธอจะพอใจกับการแสดงออกของโจวเจ๋อเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ยังตอบว่า “ดีมากฉันจะนอนกับคุณ”
ผู้หญิงเริ่มใช้เลือดวาดยันต์กลางฝ่ามือของเธอ อักขระแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังเริ่มขยายกว้างออกไปอย่างช้าๆ โชคดีที่ผู้หญิงไม่ได้ขอเลือดจากโจวเจ๋อต่อ มิฉะนั้นเขาคงอยากจะหักหน้าตรงๆ
ตอนนี้โจวเจ๋ออยากจะดูว่าผู้หญิงคนนี้รวมทั้งท่านสี่ที่เธอกล่าวถึงมีบทบาทอะไรในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องกันแน่ พวกเขาเป็นคนที่นรกส่งมาจัดการเรื่องนี้ หรือว่าพวกเขาเป็นผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังอยู่แล้ว!
ผู้หญิงพลิกฝ่ามือแล้วแปะลงไปบนพื้นโคลน สักพักหนึ่งจึงเกิดละอองน้ำจางๆ ในบริเวณใกล้ๆ ละอองน้ำเริ่มรวมตัวเป็นจุดเดียวกัน และตำแหน่งตรงนั้นก็เริ่มแดงระเรื่ออย่างช้าๆ
โจวเจ๋อสังเกตเห็นตำแหน่งที่ละอองน้ำลอยขึ้นมา เป็นหลุมที่ขุดศพออกมาก่อนหน้านั้น สุดท้ายตำแหน่งตรงนั้นจึงรวมตัวกันเป็นสิ่งที่เป็นประกายวิบวับอย่างหนึ่ง จากนั้นหยกหน้าเด็กอันนั้นก็โผล่พรวดออกมา!!!
ผู้หญิงมองหยกแล้วจึงขมวดคิ้วแน่น พลางเอ่ยว่า “ท่านสี่ต้องด่าฉันแน่ ทำไมโทนสีของมันหล่อเลี้ยงมาสิบหกปีแล้วยังดูแย่อยู่เลย”
ไร้สาระ จะไม่แย่ได้อย่างไร ร่างเดิมของมันเมื่อสัปดาห์ก่อนถูกโจวเจ๋อทำลายในร้านหนังสือแล้ว!
ใบหน้าเด็กที่อยู่บนหยกลืมตาด้วยความอ่อนแอ แล้วเผยรอยยิ้มประหลาดออกมาด้วยความเคยชิน ดูเหมือนจะเป็นท่าประจำตัวของเขาไปแล้ว เขามองผู้หญิงก่อน จากนั้นสายตาจึงมองไปที่โจวเจ๋อ วินาทีต่อมารอยยิ้มประหลาดบนใบหน้าของเด็กก็หายไป ความตื่นตกใจเข้ามาแทนที่!
ผู้หญิงก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอหันมามองโจวเจ๋อด้วยใบหน้าเซ่อซ่าน่ารัก ถามว่า “ทำไมหยกผีถึงกลัวคุณ”
โจวเจ๋อจุดบุหรี่หนึ่งมวนแล้วพ่นควันออกมา เขามองเธอแล้วเอ่ยว่า “เอาหยกมาให้ผม ผมจะทำลายมัน”
การมีตัวตนอยู่ของมันทำร้ายชีวิตคนตั้งมากมาย เดิมทีโจวเจ๋อคิดว่าตัวเองทำลายมันไปแล้ว ที่แท้ก็ทำลายแค่ร่างกายของมัน แต่ไม่สามารถทำลาย ‘จิตวิญญาณ’ ของมันได้
ผู้หญิงถามด้วยความสงสัย “ทำไมต้องให้คุณด้วย”
“ข้อหนึ่งผมก็ไม่มีเงิน ข้อสองผมก็ไม่อยากนอนกับคุณ ดังนั้นจึงต้องข้อสาม ถ้าไม่เอามันมาให้ผม ผมก็จะฆ่าคุณ”
…………………………………………………………………………