ตอนที่ 403 ชุ่ยฮวากับผักกาดดอง
ผู้หญิงคนนี้ชื่อชุ่ยฮวางั้นเหรอ
โจวเจ๋อหัวเราะแห้งๆ ในใจ ชื่อนี้ค่อนข้างเหมาะกับยายโง่นี่เหมือนกันแฮะ
ทนายอันรีบรับชุ่ยฮวามาจากเหล่าจางทันที กวาดตามองสภาพอาการบาดเจ็บของเธอแล้วเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “ชุ่ยฮวา ไอ้หมาบ้าตัวไหนมันแทงจนคุณกลายเป็นแบบนี้กัน!”
“…” โจวเจ๋อ
ทันใดนั้น ราวกับทนายอันนึกอะไรบางอย่างออก แต่รีบส่ายหัวและพูดขึ้น “ผมจะช่วยรักษาคุณก่อน”
ทันทีที่พูดจบ ทนายอันก็อุ้มชุ่ยฮวาเดินขึ้นไปชั้นบน
“เถ้าแก่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอ” ไป๋อิงอิงยื่นผ้าขนหนูอุ่นๆ ให้โจวเจ๋อพลางเอ่ยถาม
“ยายโง่คนหนึ่งที่เพิ่งหนีออกมาจากนรกน่ะ ผมเกือบจะตายอยู่ภายใต้เงื้อมมือเธอแล้ว”
แม้กระทั่งตอนนี้ เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงสายลมอันแข็งแกร่งที่ยายโง่นั่นก่อขึ้นก่อนหน้านี้แล้ว โจวเจ๋อยังผวาไม่หาย เขายืนหยัดไม่ยอมปลดผนึก แต่ช่วงเวลานั้นก็เรียกได้ว่าวิกฤตมากแล้ว
“ว้าย เถ้าแก่ มือท่าน!”
เมื่อไป๋อิงอิงเห็นปลายนิ้วทั้งสองของโจวเจ๋อโชกไปด้วยเลือด หัวใจเจ็บปวดมากเหลือเกิน กาบเล็บตรงปลายนิ้วหายไป ตอนนี้เลือดก็ยังคงไหลอยู่
“อูย…”
โจวเจ๋อรู้สึกเพียงแค่นิ้วของเขาซุกเข้าไปในที่ที่อุ่นร้อนชื้น แถมยังมีลิ้นซุกซนกระดกขึ้นลง
อิงอิงเอานิ้วที่บาดเจ็บของเขาใส่เข้าไปในปากของเธอแล้ว ผ่านไปพักหนึ่ง อิงอิงถึงจะดึงนิ้วของโจวเจ๋อออกมา ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงจับใจ “เถ้าแก่ ตอนนี้ยังเจ็บอยู่หรือไม่เจ้าคะ”
“เด็กโง่” โจวเจ๋อเอื้อมมือไปลูบหัวอิงอิง “แน่นอนว่ายังเจ็บมากๆ อยู่น่ะสิ”
“…” อิงอิง
สาวน้อยโลลิที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ข้างๆ กลอกตา
ไม่กล้ายั่วเลย ยั่วไม่ได้จริงๆ
แม่งเอ๊ย ช่างเป็นผู้ชายซื่อบื้อที่โสดมาได้ด้วยความสามารถจริงๆ เลย…
ถ้าไม่ได้พบกับยายผีดิบโง่ และพบกับหมอที่คล้ายกับคนประเภทมีความสุขกับความเจ็บปวดคนนั้น ชาตินี้ทั้งชาติเจ้าหมอนี่ก็อย่าคิดฝันจะมีสาวๆ ในชีวิตเลย
ไป๋อิงอิงช่วยพันแผลให้โจวเจ๋อ หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โจวเจ๋อก็เดินขึ้นบันไดไป อยากจะไปดู ‘ชุ่ยฮวา’ สักหน่อย
ถ้าทนายอันไม่แสดงท่าทีว่ารู้จักกับผู้หญิงคนนั้น ที่โจวเจ๋อขึ้นไปในตอนนี้ก็น่าจะแทงหญิงสาวคนนั้นอีกสองสามแผลแล้วละ
ในแง่มุมนี้ เถ้าแก่โจวไม่ได้มีเจตนารักหยกถนอมบุปผา[1]เลยแม้แต่น้อย
เจ้าลิงน้อยกระโดดลงจากคานบ้านขึ้นไปบนไหล่ของโจวเจ๋อ มันร้องไห้สะอึกสะอื้น เห็นได้ชัดว่าคิดถึงนักพรตเฒ่ามาก
โจวเจ๋อเอื้อมมือไปตบหัวเจ้าลิงปุๆ แล้วพูดว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อนไป พรุ่งนี้นักพรตเฒ่าจะขึ้นศาลพิจารณาคดีแล้ว พรุ่งนี้เราถึงจะลงมือกัน”
เจ้าลิงพยักหน้า มันก็เข้าใจเรื่องราวดี
“นักพรตเฒ่าถูกขังอยู่ข้างใน คนที่เป็นเถ้าแก่อย่างฉัน ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกันนะ” โจวเจ๋อดูกังวลและทุกข์ใจ
เจ้าลิงเอื้อมมือไปโอบรอบคอของโจวเจ๋อไว้ กลับกลายเป็นมันปลอบโจวเจ๋อแทน
“จริงสิ ผู้หญิงคนนั้นที่ฉันพามาด้วย อาจจะมีประโยชน์กับแกบ้าง ให้แกลองดูก่อน หากแกสามารถฟื้นคืนพลังส่วนของชาติที่แล้วได้ พรุ่งนี้ก็จะให้แกมีส่วนร่วมในการปล้นคุกด้วย”
ถ้าได้ผลดีละก็ โจวเจ๋อก็จะให้สาวน้อยโลลิพาจิ้งจอกขาวตัวนั้นกลับมาด้วย
โจวเจ๋อไม่รังเกียจถ้าจะมีปีศาจประเภทนี้เยอะๆ แต่ในทางกลับกันถ้าต้องเลี้ยงสัตว์ที่เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะละก็ ลืมๆ มันไปเถอะ
เมื่อขึ้นไปชั้นสองและเปิดประตูห้องของทนายอัน โจวเจ๋อเห็นทนายอันกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงของชุ่ยฮวา บาดแผลบนร่างกายชุ่ยฮวาได้รับการรักษาจากทนายอัน ประกอบกับความสามารถในการฟื้นตัวที่น่ากลัวของผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้พอมาดูแล้ว สีหน้าดูดีขึ้นไม่น้อยทีเดียว
“คุณรู้จักเหรอ” โจวเจ๋อถาม
ทนายอันพยักหน้า
“เธอเกือบฆ่าผมแล้ว” โจวเจ๋อพูด
“ผมต้องขอโทษเถ้าแก่แทนเธอด้วย แล้วก็ขอบคุณเถ้าแก่ด้วยที่ไม่ฆ่าเธอทิ้ง แถมยังพาเธอกลับมารักษาอาการบาดเจ็บด้วย”
“อ้อ…” โจวเจ๋อพยักหน้าและพูด “ผมคนนี้น่ะ บางทีก็ใจไม่แข็งขนาดฆ่าแกงผู้หญิงได้ลงคอหรอกนะ”
“เธอเป็นสาวใช้ใต้บังคับบัญชาของเฝิงเหล่าซื่อ” ทนายอันพูด
“ผมนึกว่าคุณเป็นท่านสี่นั่นเสียอีก”
“เหอะๆ”
ทนายอันส่ายหน้า “ในช่วงปีแรกๆ เฝิงซื่อเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผม ก็เหมือนความความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับหลินเข่อนั่นแหละ”
“ผมคิดว่านี่จะต้องเป็นเรื่องราวนองเลือดที่ฉะกันระหว่างกลอุบาย การหักหลัง มิตรภาพ และผลประโยชน์แน่”
ทนายอันถอนหายใจอีกครั้งและพยักหน้า “ประมาณนั้น ตอนแรกเหล่าซื่อเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผม ชุ่ยฮวาเป็นวิญญาณของสาวใช้ที่พบว่าถูกฝังพร้อมกับศพในสุสานโบราณแห่งหนึ่ง ได้รับฮวงจุ้ยของสุสานโบราณนับพันปีหล่อเลี้ยงมา ถูกเหล่าซื่อพามาอยู่ข้างกาย”
“อืม”
“อืม”
“หือ”
“หือ”
“คุณต่อเลยสิ จะมาองมาอืมอะไร” โจวเจ๋อนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ รอฟังเรื่องเล่าอยู่
“ต่ออะไรครับ”
“เล่าเรื่องที่เร้าใจนี่ต่อไปว่าคุณถูกใส่ร้ายจนถูกถอดออกจากตำแหน่งทางการในท้ายที่สุด จนตกอับระเหเร่ร่อนแบบนี้ได้ยังไงน่ะสิ”
“…” ทนายอัน
“ว่ามาเลย ก่อนหน้านี้คุณไม่อยากพูด ตอนนี้พูดได้แล้วใช่ไหม”
“แต่ผมก็ยังไม่อยากพูดอยู่ดี มันไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีอะไรสักหน่อย”
“ถ้าไม่พูดมา ก็เก็บผู้หญิงคนนี้เอาไว้ไม่ได้” โจวเจ๋อชี้ไปที่ชุ่ยฮวาที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง “ผมจำเป็นต้องรู้ว่าท่านสี่ที่เธอพูดถึงและเฝิงซื่อที่คุณพูดถึงเป็นคนยังไงกันแน่ เพื่อให้ง่ายกับการตัดสินใจ ว่าควรจัดการเรื่องนี้ยังไงต่อดีน่ะสิ”
“เถ้าแก่ ผมรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ คุณมีเมตตายกโทษให้ไม่ได้เลยเหรอครับ”
“คืนนั้นที่นักพรตเฒ่าเกิดเรื่อง บนต้นไม้นอกอพาร์ตเมนต์ คุณมีเมตตาแล้วเหรอ” โจวเจ๋อเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มุมปาก
ทนายอันหรี่ตา ประหลาดใจระคนตกใจเล็กน้อย ที่แท้ เถ้าแก่ก็สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นอยู่นานแล้ว
ที่จริงคืนนั้นเขาเลือกปล่อยให้เถ้าแก่ขี้แพ้คนนี้ ‘ตายตามยถากรรม’ แม้ว่ามันจะไม่ใช่การเจตนาหักหลัง แต่ความสัมพันธ์ด้านผลประโยชน์ต่อกันและกันแบบนั้นก็ถูกตัดขาดสะบั้นอย่างชัดเจน
แน่นอนว่าเขาในตอนนี้ ไม่มีเหตุผลที่จะขอร้องให้โจวเจ๋อรับผิดชอบเรื่องของเขา
“ก็ได้ ผมจะพูด” ทนายอันมองชุ่ยฮวาที่อยู่บนเตียง “เฝิงซื่อเป็นคนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมที่สุดคนหนึ่งที่ผมเคยเจอ เขาเกิดมาในเส้นทางที่ชอบธรรม หรือก็คือสำนักประเภทเดียวกับสำนักเหลาซานเอย สำนักหลงหู่ซานเอย สำนักเหมาซานเอยที่ใช้กันทั่วไปในนิยายแฟนตาซีบนชั้นหนังสือชั้นล่าง แน่ละ ในความเป็นจริงมันไม่มีหรอก
แต่ในความเป็นจริง มีคนกลุ่มหนึ่งที่มีความสามารถในการประมือกับภูตผีและเทพเจ้าจริงๆ พระขี้เรื้อนที่คุณเจอใจตอนนั้นก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน
ชาติก่อนเฝิงซื่อก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียนคนหนึ่ง หลังจากได้มาเป็นยมทูตแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา และเขาค้นพบวิธีอะไร ทำให้การบำเพ็ญเพียรของเขาพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ด้วยเหตุนี้เอง ตอนนั้นผมถึงได้รับเขามาเป็นยมทูตในสังกัดตัวเอง
ต่อมาผมได้เป็นผู้จับกุม และก็ได้เป็นผู้ตรวจสอบ ไม่นานนักเขาก็ได้ขึ้นแท่นผู้ตรวจสอบและมีฐานะเท่าเทียมกับผมอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนความจริงก็ค่อนข้างดีทีเดียว”
“ต่อสิ จุดสำคัญมาแล้ว ต่อเลย อย่าหยุดนะ”
“ต่อมา ผมทำผิดกฎจนกลายเป็นอย่างในตอนนี้ยังไงล่ะ”
“…” โจวเจ๋อ
เถ้าแก่โจวลุกขึ้นเดินไปข้างเตียง แม้ว่าสองนิ้วจะถูกพันผ้าพันแผลอยู่ แถมแขนข้างขวาก็ยังหักอยู่ก็ตาม แต่โจวเจ๋อก็ยังเหลือเล็บอีกสามนิ้วที่ยังใช้ได้อยู่
“เถ้าแก่ คุณจะทำอะไร”
“อย่าห้ามผม ผมจะแทงเธอให้ตาย!”
“…” ทนายอัน
“ตอนแรก ผมถูกจับได้ว่าช่วยนักโทษคนหนึ่งส่งข่าวในนรกชั้นที่ 18 น่ะ” ทนายอันเล่าความจริง “ต่อมา เจ้าหน้าที่ของยมโลกเริ่มตามล่าไล่ฆ่าผม เพราะผมละเมิดข้อห้าม คุณอาจจะไม่รู้ว่านรกชั้นที่ 18 คือสถานที่แบบไหน มันคล้ายๆ กับ ‘เรือนจำฉินเฉิง’ ในสภาพความเป็นจริงละมั้ง เรื่องที่ผมทำในตอนนั้นมันเป็นความผิดมหันต์จริงๆ
ในครั้งนั้น แม้แต่ผู้พิพากษายังต้องออกโรงเอง ผมบาดเจ็บสาหัส ภายหลังก็ยังถูกไล่ฆ่าอย่างต่อเนื่อง และเกือบจะต้อนผมให้จนมุมได้อีกด้วย
ตอนที่ผมใกล้จะหมดแรงอยู่ท่ามกลางทางเส้นทางสู่นรก ชุ่ยฮวาก็ปรากฏตัวตรงหน้าผม เธอช่วยรักษาบาดแผลให้ผม”
โจวเจ๋อมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง มิน่าล่ะ ทนายอันถึงอยากปกป้องเธอ ที่แท้แล้วยายโง่นี่ก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตทนายอันไว้นี่เอง
“เพราะเหตุนี้ผมถึงสามารถหนีออกมาจากเส้นทางสู่นรก และลักลอบกลับมาโลกมนุษย์ได้อีกครั้ง ประกอบกับตอนที่ผมเคยเป็นผู้ตรวจสอบ ก่อนหน้านั้นได้สร้างมิตรเอาไว้มากมาย พวกเขาจึงช่วยผมเล็กๆ น้อยๆ
นอกจากนี้ผมยังถูกปลดออกจากตำแหน่ง จะให้พูดตรงๆ ก็คือ ผมเป็นแค่ ‘ผีไร้ญาติ’ บนโลกมนุษย์ก็เท่านั้น ดังนั้นถึงแม้ว่าผู้คนในนรกจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของผม แต่ส่วนมากก็พากันเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
อีกทั้งผมยังจัดการสิ่งต่างๆ โดยการอาศัยความสัมพันธ์ในอดีต ทำธุรกิจลักลอบนำคนเข้าเมืองและค้าของเถื่อนบ้าง เพื่อแลกกับอำนาจที่ผมจะอยู่รอดในพื้นที่สีเทาอย่างคลุมเครือต่อไป”
“พูดอีกอย่างก็คือ เฝิงซื่อผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณในตอนแรกและเป็นเพื่อนร่วมงานในตอนนั้นช่วยชีวิตคุณเอาไว้งั้นเหรอ”
“อืม ชุ่ยฮวาเป็นคนของเขา รับคำสั่งแค่เขาคนเดียว หากไม่ได้รับคำสั่งจากเขา ชุ่ยฮวาคงไม่ไปโผล่ตรงนั้นหรอก”
“เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เฝิงซื่อคนนี้ก็น่าจะเป็นคนใช้ได้สินะ ไม่ใช่สิ หยกผีที่เราทำลายไปก่อนหน้านี้ก็มาจากคำสั่งของเฝิงซื่อ เขาจงใจทิ้งหยกผีไว้ในโลกมนุษย์ ปล่อยให้หยกผีเติบโตโดยอาศัยการสังเวยดูดกลืนชีวิตมนุษย์ปีแล้วปีเล่า รอจนแตงสุกงอมแล้วค่อยส่งคนขึ้นมาเก็บผล คนที่ทำเรื่องพรรค์นี้ได้ ดูยังไงก็ไม่น่าใช่คนดีเลยใช่ไหมล่ะ หรือว่าจะเป็นข้อปลีกย่อยของคนที่ยึดถือคุณธรรมอันยิ่งใหญ่”
ทนายอันก้มหน้าลง เงียบไปพักหนึ่งถึงได้พูดขึ้น “คนที่แจ้งเบาะแสของผมในตอนแรกก็คือเฝิงซื่อ”
“หือ” โจวเจ๋อประหลาดใจครู่หนึ่ง “ไอ้ท่านสี่มันเป็นบ้าไปแล้วสินะ”
รายงานคุณแล้วค่อยช่วยคุณอีกครั้งน่ะเหรอ
“เขาบอกว่าการรายงานผมเป็นหน้าที่ที่พึงกระทำ การช่วยชีวิตผมเป็นการตอบแทนน้ำใจที่ผมเคยสนับสนุนเขาในอดีต”
ทนายอันหยุดชะงัก ก่อนจะพูดต่อ
“เขายอดเยี่ยมมาโดยตลอด เยี่ยมจนผมหนังศีรษะชาไปหมด บางที สำหรับเขาในตอนนั้น ผมที่ถูกถอดออกจากตำแหน่งไปแล้วจะเป็นตายร้ายดียังไงมันก็ไม่สำคัญอยู่แล้ว ดังนั้นสามารถเอาเรื่องนี้เป็นเบี้ยต่อรองดีๆ ได้ เพื่อให้ผู้ตรวจสอบและผู้พิพากษาคนอื่นๆ เห็นว่าเฝิงซื่อเป็นคนจิตใจดีและชอบธรรมคนหนึ่ง อันที่จริงในนรกก็มีขุมอำนาจหลากหลาย อีกทั้งรูปแบบความสัมพันธ์ที่มีต่อกันยังรุนแรงกว่าในความเป็นจริงตั้งไม่รู้กี่เท่า”
“อืม” โจวเจ๋อพยักหน้า
“แต่เธอ…”
ทนายอันชี้ชุ่ยฮวา
“ไม่สนว่าเฝิงซื่อจะคิดยังไงกันแน่ ถึงยังไง ผมก็ไม่มีวันลืมภาพเหตุการณ์ภายใต้สถานการณ์ที่ผมถูกไล่ฆ่าจนเกือบตาย จู่ๆ เธอก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันและช่วยรักษาบาดแผลให้ผมได้ลง ผมไม่ได้ติดค้างอะไรเฝิงซื่อ แต่ผมเป็นหนี้ชีวิตเธอ”
ในตอนนี้เอง ชุ่ยฮวาที่อยู่บนเตียงดูเหมือนจะได้สติขึ้นมาเล็กน้อย เริ่มพูดละเมอเพ้อขณะที่ยังสลบไสล
“ท่านสี่…ท่านสี่…”
ทนายอันเอื้อมมือไปลูบหน้าผากของชุ่ยฮวา
“ท่านสี่…ท่านสี่…ชุ่ยฮวาหิวแล้ว…ชุ่ยฮวาอยากกิน…ผักกาดดอง…”
……………………………………………………..
[1] รักหยกถนอมบุปผา หมายถึง บุรุษควรทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรี