ตอนที่ 405 พี่ลิง ท่านพี่ลิง!
ในลำแสงสีดำโชติช่วงคือแม่ย่าแปด หรือก็คือปีศาจงู
ส่วนในลำแสงสีเหลืองสว่างจ้าคือพี่หวง หรือก็คือตัวเพียงพอนนั่นเอง
ตอนแรกเถ้าแก่โจวคันไม้คันมือ แม้สมุดหยินหยางจะอยู่ในมือแต่ก็ใช้ไม่เป็น ดังนั้นจึงพูดติดตลกว่าอยากจะทำ ‘สัตว์โลกน่ารัก’ ออกมาเล่น อันดับแรกเก็บแม่ย่าแปดเข้าไปก่อน จากนั้นพี่หวงที่มาขโมยสมุดหยินหยางถึงที่ก็ตามเข้าไปด้วย
ตอนแรกเจ้าจิ้งจอกขาวก็เคยมาร้องขอทั้งสองกลับคืนไป แต่เพราะโจวเจ๋อไม่สามารถเปิดสมุดหยินหยางได้ และหลังจากนั้นอาจารย์ประสาทกลับของสวี่ชิงหล่างก็โผล่ออกมาแล้วทำให้จิ้งจอกขาวบาดเจ็บสาหัสอีก จึงปล่อยเรื่องนี้ไป
แม้แต่เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามก็ยังหายตัวตามกันไปติดๆ เป็นเวลานานแล้วที่ป่าเก่าแก่ทางตะวันออกเฉียงเหนือไม่ได้ส่งคนมาอีก คาดว่าน่าจะกลัวไปแล้วละมั้ง
ในช่วงร้อยยี่สิบปีที่ผ่านมา จิตวิญญาณและเสน่ห์ของขุนเขานับวันยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ ตอนนี้คาดว่าทงเฉิงเกือบจะกลายเป็นเขตต้องห้ามของบรรดาเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้ว
อันที่จริงมีรายละเอียดบางอย่างที่โจวเจ๋อไม่ทันสังเกตมาโดยตลอด หรือพูดได้ว่าตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นความบังเอิญ
นั่นก็คือตอนที่อาจารย์ของสวี่ชิงหล่างมาฆ่าเขาถึงที่ ตอนที่แยกร่างไล่ฆ่านักพรตเฒ่าและเจ้าลิงน้อยอยู่นั้น สมุดหยินหยางเคยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิดแปลกมาก่อน เจ้าแมวดำและเทพเจ้าทั้งสองในนั้นเคยออกมาร่วมต่อสู้ด้วย
แต่โจวเจ๋อกลับคิดว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ พอมานึกถึงมันในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าลิงได้คิดหาทางใช้สมุดหยินหยางมาตั้งนานแล้ว!
ตอนนี้เจ้าลิงได้ผ่าน ‘การรักษา’ แล้ว แม้ว่าจิตใจของมันยังไม่คงที่ไปบ้าง แต่วิชาการบำเพ็ญเพียรจะต้องยกระดับขึ้นมากแน่นอน การเปิดสมุดหยินหยางจึงง่ายยิ่งขึ้นแล้ว
“เจี๊ยกๆๆๆ!!!!”
เจ้าลิงออกคำสั่งต่อสู้ต่อเทพเจ้าทั้งสองตรงหน้า ถ่ายทอดจิตวิญญาณของการชุมนุม
แม่ย่าแปดกับพี่หวงสบตากัน สิ่งที่แปลกคือ ครั้งนี้ทั้งสองไม่ได้เลือกที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเงื่อนไขและเฝ้ามองจากข้างสนาม แต่กลับตั้งท่าต่อสู้แทน
“กำเริบเสิบสานนักนะ ไม่แหกตาดูหน่อยล่ะว่าที่นี่มันที่ไหนน่ะ กว่าพวกท่านทั้งสองจะบำเพ็ญเพียรได้นับว่าไม่ง่ายเลย อย่าไปหลงกลมัน!” ทนายอันดุทันที
“จุ๊ๆ หลงกลงั้นหรือ คุมขังพวกเราไว้ในสมุดเล่มนี้ ไม่ถามไถ่กันสักคำ ปล่อยให้อยู่อย่างนั้น ทำไปเพื่อหวังดีกับพวกเรางั้นหรือ”
แม่ย่าแปดกลายร่างเป็นลำแสงสีดำพุ่งลงมาทันที
ร่างของพี่หวงเริ่มปล่อยควันสีขาวแผ่กระจายออกมา แฝงไปด้วยฤทธิ์ภาพหลอนอย่างรุนแรง
เทพเจ้าแห่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือทั้งสองคิดจะก่อเรื่อง แม้ว่าทุกคนในร้านหนังสือจะอยู่ที่นี่ ถ้าอยากจะรับมือกับทั้งสอง ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มือไม้พันกันเป็นระวิงได้ยาก ยิ่งไปกว่านั้น ข้างหลังยังมีเจ้าลิงจับตามองอยู่
“สวรรค์และโลกไร้ขอบเขต ใจลึกล้ำคือธรรมะ!”
สวี่ชิงหล่างเรียงแถวเหรียญทองแดง จากนั้นลูบมัน เหรียญทองแดงเชื่อมประสานกันก่อตัวเป็นดาบเหรียญทองแดง แล้วพุ่งเข้าไปฆ่าแม่ย่าแปดอย่างเอาเป็นเอาตาย
เมื่อมองแม่นางสวี่ร่ายดาบ เถ้าแก่โจวตะลึงไปครู่หนึ่ง ตั้งแต่เกิดเรื่องอาจารย์ของเขา เหล่าสวี่ก็มุมานะบากบั่นอยู่นานทีเดียว เดิมทีโจวเจ๋อนึกว่าเหล่าสวี่แค่ทำยันต์เน่าๆ ออกมาไม่กี่แผ่น อย่างเช่น ‘มังกรวารี’ ของไร้ประโยชน์พรรค์นี้ นอกจากนักพรตเฒ่าแล้วไม่มีใครในร้านหนังสือสนใจของพวกนี้เลย ในความเป็นจริงนักพรตเฒ่าเกือบจะถูกยันต์นี่เล่นงานเสียด้วยซ้ำ
แต่ใครจะคิดว่าสวี่ชิงหล่างไม่ได้เอาแต่เขียนยันต์ขึ้นมาเท่านั้น เพียงแต่ก่อนหน้านี้โจวเจ๋อไม่เคยเห็นสวี่ชิงหลางใช้ดาบเหรียญทองแดงนี่มาก่อนด้วยซ้ำ
เหรียญทองแดงบนดาบเหรียญทองแดงน่าจะผ่านการปลุกเสกด้วยวิธีพิเศษ ในตอนนี้กำลังปะทะกับแม่ย่าแปดในร่างวิญญาณกระทั่งสามารถกำหราบมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่ใช่เพราะแม่ย่าแปดอ่อนแอเกินไป และไม่ใช่เพราะการบำเพ็ญตบะของสวี่ชองหล่างก้าวกระโดดขึ้นหลังจากปิดด่านฝึกฝนตัวเองไปหลายเดือน แต่เป็นเพราะหลังจากที่แม่ย่าแปดสูญเสียกายหยาบไป แล้วได้รับความทรมานจากการถูกกักขังอยู่ในสมุดหยินหยางเป็นเวลานาน พลังชีวิตเสียหายไปมากกว่าครึ่งแล้ว ท่าทางดุดันเมื่อสักครู่เป็นเพียงแค่แพ้ไม่เป็น ฝืนวางมาดก็เท่านั้นเอง การประมือกันครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นรูปร่างเดิมของนาง
นอกจากนี้สาวน้อยโลลิและไป๋อิงอิงยังเข้าร่วมทีมต่อสู้โดยตรง ลิ้นของสาวน้อยโลลิแปลงเป็นแส้หนัง ฟาดวิญญาณของแม่ย่าแปดอย่างต่อเนื่อง บนแขนของไป๋อิงอิงแผ่คลุมไปด้วยรังสีอำมหิต ทุกครั้งที่เหวี่ยงสะบัดก็สามารถทำให้แม่ย่าแปดหวั่นใจได้
แม่เจ้าโว้ย แม่ย่าแปดรู้สึกหวาดกลัวในใจ แต่เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ทำไมถึงได้รู้สึกว่าคนในร้านหนังสือแห่งนี้ล้วนกลายเป็นคนดุร้ายขนาดนี้
ไม่ใช่แค่แม่ย่าแปดเท่านั้นที่มีความรู้สึกแบบนี้ พี่หวงก็รู้สึกด้วย
ตอนแรกมันถูกโจวเจ๋อวางแผนหลอกให้เปิดสมุดหยินหยางจึงถูกกักขังเอาไว้ มันไม่ยินยอมมาโดยตลอด
ดังนั้นครั้งนี้หลังจากเจ้าลิงทำลายผนึกจนมันออกมาได้ มันจึงอยากกู้หน้ากลับคืนมา แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อคนที่มันประมือด้วยคือทนายอัน
ดูเหมือนตดของเพียงพอนเมื่ออยู่ต่อหน้ามือกระดูกของทนายอันมันยังไม่มากพอ แม้แต่ภาพลวงตาที่ถนัดที่สุดของพี่หวงยังไม่มีผลกับทนายอันเลย กลับถูกทนายอันบดขยี้จนสุดทาง จนพลังค่อยๆ หมดไป
สิ่งที่ทำให้แปลกใจก็คือ ขณะที่แม่ย่าแปดและพี่หวงกำลังต่อสู้อย่างหนักหน่วง แถมสถานการณ์ยังเลวร้ายมาก เจ้าลิงที่อัญเชิญพวกมันออกมากลับไม่เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยเสียอย่างนั้น แต่กลับเลือกที่จะถอยแบบไม่ลังเล และพุ่งไปที่หน้าต่างตรงประตูร้านหนังสือ
มันกำลังพยายามหนี!
เถ้าแก่โจวรุดไปข้างหน้าและขวางเจ้าลิงไว้ทันที
“เจี๊ยกๆๆๆ!!!!”
เทพเจ้าสายฟ้าขนดกคำรามใส่โจวเจ๋อและเผยให้เห็นท่าทางดุร้าย
เถ้าแก่โจวลังเลอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะขยับก้าวไปด้านข้างสองสามก้าวพลางกระแอม
แต่ทว่า ตอนที่เจ้าลิงกำลังจะทุบกระจกให้แตกแล้วออกไป โจวเจ๋อกางฝ่ามือออกและเปล่งเสียงต่ำ “ออกไป!”
งูน้อยสีดำผุดออกมาจากฝ่ามือของโจวเจ๋อ เข้าไปพันรัดรอบตัวเจ้าลิงไว้
มันคือภายในของหยกผีที่กลายร่างเป็นงูดำ ถูกคนผู้นั้นในร่างโจวเจ๋อชำระให้บริสุทธิ์แล้ว แถมยังถูกเจ้างั่งตัดตอนตามอำเภอใจอีก
เมื่องูดำออกมา แม่ย่าแปดที่อยู่ท่ามกลางการต่อสู้อย่างหนักก็หวาดหวั่นพรั่นพรึง ดูเหมือนจะเกิดความรู้สึกว่าได้เผชิญหน้ากับศัตรูตามสัญชาตญาณ นางสัมผัสได้ถึงมัน แม้ว่าเป้าหมายของงูดำจะไม่ใช่ตัวเองก็ตาม แต่หลังจากที่งูดำนั่นปรากฏตัวขึ้น อันที่จริงพลังจิตสังหารมากกว่าครึ่งของอีกฝ่ายตกมาอยู่ที่ตัวนางต่างหาก!
ดังคำโบราณที่กล่าวว่า คนบ้านเดียวกัน ให้ชิงยิงข้างหลังหนึ่งนัด
อย่าคิดว่าดูเป็น ‘งู’ เหมือนกัน จะสามารถเป็นมิตรที่ดีต่อกันได้ ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากอาศัยการดูดกลืนอีกฝ่ายเพื่อฟื้นฟูพลังใหม่ทั้งนั้น ถึงจะดูเหมือนว่าเป็น ‘ตระกูลเดียวกัน’ กลับกันมันเขมือบและย่อยง่ายกว่าเสียอีก
เดิมทีก็เอาชนะไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีจอมเขมือบที่คล้ายกับตัวเองโผล่มาอีก แม่ย่าแปดสะบัดหางแบบไม่ลังเล
‘สวบ!’ มุดกลับเข้าไปในสมุดหยินหยางแล้ว
สิ่งนี้ทำให้สวี่ชิงหล่างและคนอื่นๆ ที่กำลังล้อมนางเอาไว้พากันตกตะลึงไปตามๆ กัน
เวรเอ๊ย แค่พริบตาเดียวถึงกับกลัวจนหัวหดไปเลย!
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ทนายอันฟาดร่างของพี่หวงสามครั้งติดต่อกัน ฟาดฟันจนวิญญาณของพี่หวงสั่นเทิ้มไม่หยุด ประกอบกับแม่ย่าแปดยอมแพ้ไปก่อน เมื่อสหายร่วมรบยอมแพ้ พี่หวงก็รีบตามไปติดๆ
‘สวบ’ มุดกลับเข้าสมุดหยินหยางไปเช่นกัน
เจ้าลิงถูกงูดำรัดจนขยับตัวไม่ได้ ทนายอันหมุนตัวพุ่งตรงไปหาเจ้าลิง
“ไอ้เวร!”
เวลานี้ร่างของเจ้าลิงกลับสั่นสะท้านอย่างรุนแรง อักขระสีแดงที่ปรากฏบนหน้าก่อนหน้านี้พลันเปลี่ยนเป็นสีดำและกลายเป็นดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม!
‘โฮก!’
ครู่หนึ่ง งูดำที่พันรอบมันก่อนหน้าถูกดีดกระเด็นออกไปลอยเคว้งอยู่กลางอากาศทันที
เมื่อมือกระดูกของทนายอันกดอัดลงมา กรงเล็บของเจ้าลิงก็กระแทกเข้าอย่างจัง
‘พลั่ก!’
ภายใต้การโจมตีตัวต่อตัว กรงเล็บเจ้าลิงโชกไปด้วยเลือด แม้ว่าจะดูน่าสมเพชมากก็ตาม แต่กลับรับหมัดของทนายอันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อจริงๆ
ดวงตาสีแดงก่ำของเจ้าลิงกวาดตามองไปทั่ว ในเวลานี้ผู้ช่วยทั้งสองต่างยอมแพ้มุดกลับไปแล้ว มันตกอยู่ในสถานการณ์หัวเดียวกระเทียบลีบ นอกจากนี้โอกาสหลบหนีก็ยังถูกโจวเจ๋อขวางเอาไว้อีก เรียกได้ว่าสถานการณ์เลวร้ายมาก
สาวน้อยโลลิแลบลิ้นออกมา ไป๋อิงอิงก็พุ่งเข้าไปจู่โจม สวี่ชิงหล่างถือดาบเหรียญทองแดงตามไปติดๆ และแม้แต่เดดพูลที่เดิมทียืนอยู่ข้างๆ ก็รีบอ้อมไปข้างหลังทันที จงใจขวางกั้นเส้นทางถอยหนีของเจ้าลิง
ทนายอันนำทัพ หากโจมตีไม่สำเร็จ ค่อยโจมตีใหม่อีกครั้ง!
ดูเหมือนจะเป็นการรังแกกัน แต่หากทุกคนพร้อมใจกันและเข้าควบคุมเจ้าลิงให้เร็วที่สุด ทำให้มันคืนสติขึ้นมาถึงจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด ไม่มีใครอยากทำร้ายเจ้าลิงจริงๆ หรอก
มันก็เหมือนกับการชกต่อยกัน หากสู้ตัวต่อตัวจะง่ายต่อการบาดเจ็บและพ่ายแพ้กันไปทั้งสองฝ่าย ถ้าทุกคนบุกเข้าพร้อมกัน คุณจับแขน ผมจับขา และจับมันกดลงก็สิ้นเรื่องแล้ว
แต่ทว่า ตอนที่ทุกคนบุกประชิดเข้ามาพร้อมกันเป็นหมู่คณะ จู่ๆ เจ้าลิงก็คว้ากระเป๋าย่ามบนตัวที่ดูเล็กกว่าร่างปัจจุบันของมันอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นล้วงยันต์ปึกใหญ่ออกมา!
สิ่งที่ซ้อนกันหนาเป็นตั้ง คือยันต์ของนักพรตเฒ่า!
ทุกคนที่กำลังอยู่ระหว่างการบุกโจมตี
“…” สาวน้อยโลลิ
“…” ไป๋อิงอิง
“…” ทนายอัน
“…” เดดพลู
“เข้าประชิดเลย!!!”
สวี่ชิงหล่างตะโกนต่อ เขาไม่เกรงกลัว
เขาไม่กลัว แต่คนอื่นๆ ไม่เหมือนเขานี่นา
เหล่าสวี่เป็นผู้บำเพ็ญเต๋า ถ้าพูดกันอย่างจริงจังแล้วก็คือคนเป็น เป็นคนธรรมดา แต่คนอื่นๆ ไม่เป็นผีดิบก็ยมทูต ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสภาวะหยินอัปมงคลกันทั้งนั้น แถมยังเป็นเป้าหมายที่ยันต์ต้องสยบไว้อีกต่างหาก!
เจ้าลิงโบกยันต์ตรงหน้าตัวเอง จากนั้นก็โยนกระเป๋าย่ามออกไป ยันต์ที่เหลือในนั้นปลิวว่อนออกมาพร้อมกัน
จากนั้นมันก็อ้าปาก
‘โฮก!’
ยันต์ทั้งหมดถูกแผดเผาท่ามกลางเสียงคำราม จากนั้นก็ถูกแรงลมพัดย้อนไปทางกลุ่มคนที่กำลังพุ่งเข้าหาเจ้าลิง
‘ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!!!!’
ยันต์จำนวนมากมาย เยอะยิ่งกว่าตอนที่ทนายอันใช้ทำลายหยกผีก่อนหน้านี้เสียอีก!
นี่มันก็มากพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นถึงความรักของนักพรตเฒ่าที่มีต่อเจ้าลิง
ทนายอันขวางยันต์สิบกว่าแผ่นติดๆ กัน จนทั้งตัวถูกบีบให้ถอยกลับ
ไป๋อิงอิงและสาวน้อยโลลิก็เช่นกัน จำเป็นต้องถอยออกมาเพื่อต้านยันต์ที่จะทำร้ายตัวเอง
เดดพูลถูกยันต์แปะไปทั่วตัว ระเบิดอย่างต่อเนื่องจนทรุดตัวลงกับพื้น
เหลือสวี่ชิงหล่างแค่คนเดียวเท่านั้นที่บุกเข้าไปตรงหน้าเจ้าลิง
สวี่ชิงหล่างเริ่มวิ่งช้าลงเรื่อยๆ ยิ่งวิ่งยิ่งรู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะบุกเข้าประชิดกันแบบกลุ่มน่ะ
เจ้าลิงคว้าดาบทองแดง ฝ่ามือของเจ้าลิงถูกแผดเผาจนกลายเป็นสีแดงทันที แต่ในวินาทีต่อมา หางของเจ้าลิงสะบัดเหวี่ยงเข้ามา ฟาดจนสวี่ชิงหล่างลอยกระเด็นออกไป
เหล่าสวี่ร่วงลงบนเคาน์เตอร์อย่างน่าสงสารเป็นที่สุดและกลิ้งตกลงไป
“ซี้ด…”
โจวเจ๋อทนดูแทบไม่ไหว
หลังจากอาศัยยันต์พลิกสถานการณ์ เจ้าลิงมองโจวเจ๋อที่ยืนอยู่ไม่ไกลอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง
โจวเจ๋อยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน สายตามองไปรอบๆ ไม่มีใครให้เขาพึ่งพาได้แล้ว
แต่เจ้าลิงไม่ได้พุ่งเข้าใส่โจวเจ๋ออีก กลับกันมันทุบกระจกจนแตก แล้วกระโดดออกไปที่ชายคานอกบ้านก่อนจะหลบหนีไป
แต่กระเป๋าย่ามของเจ้าลิงกลับร่วงหล่นลงมา โจวเจ๋อก้าวไปเก็บกระเป๋าย่ามขึ้นมา และหยิบเอาสมุดหยินหยางในนั้นออกมา
บนหน้าปกมีแม่ย่าแปดและพี่หวงที่เพิ่งถูกคนในร้านหนังสือรุมกระทืบไป ตอนนี้พวกมันเชื่อฟังมากขึ้นจนคล้ายกับเฮลโหลคิตตี้สองตัว
ก่อนหน้านี้พวกมันไม่ยอมรับชะตากรรม แต่หลังจากถูกซ้อมไป ในที่สุดพวกมันก็รู้สึกสบายใจแล้ว
แมวดำบนหน้าปกนอนหมอบอยู่ตรงนั้น มองดูเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แอ๊บแบ๊วอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
“ผมจะพาคนไล่ตามไป ไม่ต้องห่วง เจ้าลิงตัวนี้เกลียดชังแค่คุณเท่านั้น มันไม่ทำร้ายคนอื่นแน่นอน” ทนายอันก้าวไปข้างหน้าพลางเอ่ยขึ้น
เขายังรู้จักนิสัยใจคอของเจ้าลิงดีอีกต่างหาก
โจวเจ๋อส่ายหน้า “ที่ผมกังวลน่ะ คือการที่เจ้าลิงหนีออกไป มันทำไปเพื่ออะไรล่ะ”
“หือ” ทนายอันชะงักไปครู่หนึ่ง และได้สติกลับมาทันทีพลางเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “คุณหมายถึง มันจะไปปล้นคุกเพื่อช่วยนักพรตเฒ่างั้นเหรอ”
………………………………………