ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 423 เข้าจู่โจม!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 423 เข้าจู่โจม!

เวลานี้ เข้าสู่ช่วงค่ำคืนแล้ว ความร้อนระอุของฤดูร้อนยังไม่จางหายไป ฝนตกหนักติดต่อกันนานสิบกว่าวันในช่วงก่อนหน้านี้ก็สิ้นสุดลงแล้ว ส่งผลให้ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว แต่อากาศข้างนอกก็ยังร้อนอบอ้าวมากเหมือนเดิม

โจวเจ๋อนั่งอยู่ในรถของทนายอัน ทั้งสองวนอยู่ตรงนี้มาครึ่งค่อนบ่ายแล้ว แต่ก็ยังติดต่อสาวน้อยโลลิไม่ได้สักที ไม่รู้เลยว่าพวกเธอไปที่ไหนกันแน่

โชคดีที่โจวเจ๋อไม่ได้ห่วงว่าสาวน้อยโลลิจะถูกพ่อค้ามนุษย์จับไปเรียกค่าไถ่ ถ้าหากพ่อค้ามนุษย์หน้าไหนกล้าคิดหาวิธีการจับสาวน้อยโลลิได้ โจวเจ๋อก็คงจะนอนปรบมืออยู่บนโซฟาร้านหนังสือและส่งเสียงเชียร์ให้กับพ่อค้ามนุษย์ที่ฉลาดหลักแหลม

แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นแตกต่างออกไปอย่างแน่นอน!

สำหรับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแล้ว การทำผลงานในการปฏิบัติหน้าที่ นั่นคือการส่งเสริมสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก จัดเป็นของกลุ่มคนที่มีจิตใจนักสู้ ส่วนหน้าที่หลักอันดับแรกที่แท้จริงกลับเป็นการรักษาเสถียรภาพทางสังคมต่างหาก!

ผลงานในการปฏิบัติหน้าที่กำหนดขีดจำกัดสูงสุด ในขณะที่การรักษาเสถียรภาพเป็นการกำหนดขีดจำกัดต่ำสุด

โจวเจ๋อเป็นหัวหน้ายมทูตของทงเฉิง อีกไม่นานก็จะกลายเป็นผู้จับกุมแล้ว อันที่จริงโดยรวมแล้วเรื่องต่างๆ ของยมโลกในเขตทงเฉิงล้วนอยู่ภายใต้อำนาจควบคุมของโจวเจ๋อ ตอนนี้ได้เกิดคดีที่มีผู้เสียชีวิตสามรายเป็นคนในครอบครัวเดียวกันขึ้นแล้ว หากยังเกิดความวุ่นวายอะไรอีก เถ้าแก่โจวก็คงจะโดนหางเลขไปตามๆ กัน

เมื่อทนายอันโทรกลับมาบอกว่าสาวน้อยโลลิและเด็กผู้หญิงที่ชื่อจูเซิ่งหนานหายไปแล้ว โจวเจ๋อรีบออกมาจากสถานที่เกิดเหตุทันที และเริ่มออกตามหาไปพร้อมกับทนายอัน

แต่ทว่า… ถึงแม้ทงเฉิงจะเป็นเพียงเมืองระดับสองก็ตาม แต่ก็มีสถานที่ต่างๆ มากมาย หากจะหาเด็กสาวทั้งสองคนภายในหกอำเภอให้เจอในระยะเวลาอันสั้น มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ

“เถ้าแก่ น่าจะไม่มีเรื่องอะไรหรอกมั้งครับ ถึงยังไงหลินเข่อก็ตามเธอไป” ในเวลานี้ทนายอันทำได้แค่ปลอบโจวเจ๋อ

“เด็กผู้หญิงคนนั้น ฉันผ่าตัดให้เธอน่ะ”

“เถ้าแก่ คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกครับ การช่วยชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บเป็นอาชีพและสัญชาตญาณที่คุณสืบทอดมาจากตอนที่ยังเป็นหมอในชาติก่อน ทางที่คุณเลือกในตอนนั้นมันถูกต้องแล้ว แม้ว่ามันจะก่อให้เกิดเหตุร้ายอย่างอื่นตามมาเพราะเหตุนี้ก็ตาม แต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณนี่นา”

ทนายอันจำได้ว่าเมื่อก่อนเขาเคยอ่านบันทึกของทหารผ่านศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทหารผ่านศึกคนนั้นจับทหารเยอรมันได้ เขาคืออดอล์ฟ ฮิตเลอร์

ถ้าหากในตอนนั้นทหารผ่านศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งคนนี้ลั่นไกปืนฆ่านักโทษให้เสียชีวิตไปเลย บางทีสงครามโลกครั้งที่สองอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ อีกทั้งการฆ่านักโทษแม้แต่ในฝั่งยุโรปที่อ้างตัวว่าเป็นเขตพื้นที่ศิวิไลซ์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรด้วยซ้ำ

“เธอเป็นเด็กดี เธอไม่ใช่เด็กร้ายกาจ”

โจวเจ๋อขมวดคิ้วพูดขึ้น ระหว่างการผ่าตัดให้เธอรวมไปถึงได้พูดคุยกันช่วงสั้นๆ โจวเจ๋อรู้สึกได้ว่าจูเซิ่งหนานไม่มีเจตนาร้ายภายในจิตใจ เธอเป็นสาวน้อยที่ใสสะอาดบริสุทธิ์มากคนหนึ่ง บริสุทธิ์จนเหมือนกระดาษสีขาว

“เถ้าแก่ จะพูดแบบนั้นไม่ได้นะ เราไม่ควรใช้ความรู้สึกทำงานมากจนเกินไป…”

“ไม่ใช่ เหล่าอัน คุณเข้าใจความหมายของผมผิดไป เธอใสซื่อบริสุทธิ์มาก แต่ยิ่งเป็นคนประเภทนี้แล้ว หากปล่อยให้เธอได้รับโอกาส ปล่อยให้เธอสบโอกาสละก็ ความอันตรายที่เธออาจสร้างมันจะน่ากลัวยิ่งกว่า!”

“อ้อ…” ทนายอันพยักหน้า “เถ้าแก่ ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว”

มันก็เหมือนกับคนเลวจนไม่อาจอภัยได้คนหนึ่งสั่งสมความคิดมาอย่างยาวนานจนสังหารภรรยาของตัวเองเสียชีวิต เพื่อหลอกเอาเงินประกันสินไหมทดแทนที่สูงลิ่ว กับเด็กที่ไร้เดียงสาคนหนึ่ง ก่อนเครื่องบินจะบินขึ้นได้โยนของเล่นของตัวเองเข้าไปในใบพัดเครื่องบินเพื่ออธิษฐาน อย่างไหนจะสร้างความเสียหายได้น่ากลัวกว่ากัน

ในเวลานี้เอง สีหน้าของโจวเจ๋อและทนายอันพลันเปลี่ยนไปพร้อมกัน!

พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวสุดขีด!

ระยะทางค่อนข้างไกล แต่ก็ชัดเจนมาก แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะอธิบายได้ถึงพลังวิญญาณที่ปะทุออกมาจาก สถานที่นั้นในเวลานี้ว่า มันน่าตกใจมากแค่ไหน!

“อยู่ฝั่งตะวันตก!” ทนายอันกัดฟัน รีบเลี้ยวและเร่งความเร็วฝ่าไฟแดงไป

“หยุดร้องไห้ ฉันบอกให้หยุดร้องไห้ไง!!!” สาวน้อยโลลิตะโกนเสียงดัง

แต่จูเซิ่งหนานที่นั่งกอดเข่าจุ้มปุ๊กอยู่ตรงนั้น น้ำตายังคงไหลรินไม่ขาดสาย คล้ายกับเด็กน้อยน่าสงสารที่ช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้ และในความเป็นจริงแล้ว เธอก็ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้นจริงๆ

วัยเด็กของเธอถูกทอดทิ้งจนกลายเป็นเงามืดทะมึนในใจ ชีวิตของเธอก้าวเข้าสู่ความบิดเบี้ยวตั้งแต่แรก ครอบครัวของเธอเอาแต่มอบความหนาวเหน็บทะมึนทึบให้เธอเท่านั้น เธอสู้ชีวิตมาก

ความทุกข์ทรมานทำให้แข็งแกร่งขึ้น มันเป็นประโยคที่เหลวไหลไร้สาระ แต่ความทุกข์ทรมานทำให้คุณกลายเป็นคนตายด้านไร้ความรู้สึก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง

ไม่รู้ว่าทำไม เธอที่เดิมทีชินชาไปแล้ว ดูเหมือนว่าหลังจากอยู่กับ ‘เพื่อนๆ’ ของตัวเองที่นี่ ปราการป้องกันตัวก่อนหน้านี้กลับค่อยๆ มลายหายไป สะกิดบาดแผลที่ตกสะเก็ดกระทั่งกลายเป็นผิวหนังด้านมานานแล้วจนฉีกขาด เผยให้เห็นแก่นแท้ในหัวใจของตัวเธอเอง

เธอน้อยใจ เธอโดดเดี่ยว เธอทุกข์ทรมาน เธออยากจะร้องไห้ เธอกลั้นมันไว้ไม่อยู่ แม้ว่าจะขบเม้มริมฝีปากแน่นก็ตาม แต่กลับกลั้นหยาดน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาเอาไว้ไม่ได้ยังคงไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย

แต่ไม่รู้ว่าทำไม อารมณ์ของเธอถึงสามารถกระตุ้นอารมณ์ของ ‘ภาพลวงตา’ รอบตัวเหล่านี้ได้ พวกนี้มันไม่ใช่ดวงวิญญาณเสียด้วยซ้ำ พวกเธอตายไปนานแล้ว ดวงวิญญาณเองก็ลงนรกไปแล้วด้วย นี่เป็นความโกรธแค้นหรือความยึดติดที่พวกเธอทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง แต่ทว่าภาพลวงตาที่เหลือทิ้งเอาไว้เหล่านี้ในตอนนี้ กลับเริ่มแข็งแกร่งขึ้นมาทีละนิด เหมือนว่าถูกแทรกซึมด้วยอารมณ์และได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

พวกเธอไม่ใช่ดวงวิญญาณ แต่กลับเริ่มขยายตัวแผ่ออกไปอย่างต่อเนื่อง พลังชั่วร้ายในตัวก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นสัญญาณของการกลายเป็นวิญญาณชั่วร้าย!

นี่เป็นเหตุการณ์ที่ตัวสาวน้อยโลลิเองไม่เคยพบเห็นมาก่อน เป็นเหตุการณ์ที่ล้มกระดานความรู้ความเข้าใจทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเธอจนหมดสิ้น

สาวน้อยโลลิกัดฟัน กางฝ่ามือทั้งสองข้างดันตัวกลับไปข้างหลังและอ้าปากแลบลิ้นยาวเหยียดออกมา เหมือนกับการสร้างถนนโบราณนำไปสู่นรก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอไม่อาจนั่งดูดายให้วิญญาณร้ายนับร้อยในที่นี้กลายร่างสำเร็จได้จริงๆ จนถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่เธอจะจัดการไม่ได้เลย ต่อให้เอาทุกคนในร้านหนังสือมาอยู่ที่นี่แล้วเผชิญหน้ากับวิญญาณร้ายนับร้อยที่หลุดออกจากกรงพร้อมกัน ก็คงวุ่นวายราวกับจับปูใส่กระด้งเหมือนกันนั่นแหละ!

“ยมโลกมีกฎระเบียบ ข้ามสู่แดนน้ำพุเหลือง!!!!”

เสียงสวดดังขึ้น ประตูสู่นรกเปิดออก สาวน้อยโลลิต้องการกำจัดภาพลวงตาเหล่านี้ไปให้หมดก่อนที่มันจะกลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา!

วิญญาณร้ายนับร้อยพลุ่งพล่านทันที นี่เป็นภัยอันตรายต่อโลกมนุษย์ที่น่ากลัวมาก!

เด็กผู้หญิงหลายคนในบริเวณใกล้เคียงต่างก็ถูกเกี่ยวเข้าไป ในพริบตาเด็กผู้หญิงราวเจ็ดถึงแปดคนถูกสาวน้อยโลลิรับเข้าสู่ประตูนรกไป เด็กผู้หญิงคนอื่นๆ เริ่มร้องไห้ระงมเสียงดังมากขึ้น เมื่อจูเซิ่งหนานเห็นฉากนี้ ในดวงตาเริ่มขาวโพลนเอ่อล้นเป็นระยะ เห็นได้ชัดว่าเธอสับสน หมดหนทาง และดูเศร้าใจมากอย่างเห็นได้ชัดเจน

“ทำไม…ทำไม…ทำไมกัน…ทำไมแม้แต่คุณน้าที่เคยเจอเรื่องคล้ายกันยังทอดทิ้งพวกเราล่ะ พวกเธอ พวกเธอต่างก็เป็นคนเหมือนอย่างพวกเรา พวกเราล้วนเป็นคนแบบเดียวกันกับพวกเธอ พวกเธอน่าสงสารขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณน้ายังทำกับพวกเธออย่างนี้ได้อีก

เดิมทีพวกเธอสามารถเกิดมา สามารถลืมตาออกมาสู่โลกใบนี้ได้อย่างมีความสุขแท้ๆ เดิมทีตอนนี้พวกเธอก็คงอยู่วัยเดียวกับหนู หรือไม่ก็โตกว่าหรือเด็กกว่าหนูสักหน่อย แต่พวกเธอก็ควรจะมีครอบครัวที่อบอุ่นของตัวเอง มีความรักของคุณพ่อ มีความรักของคุณแม่ มีความห่วงใยของญาติมิตร ถูกปกป้องจากทุกคน…

ทำไม! ทำไมกัน! ทำไมเพียงแค่เพราะชอบเด็กผู้ชาย จึงต้องฆ่าแกงพวกเรา! ทำไมกัน เพียงเพราะพวกเราเป็นเด็กผู้หญิง แม้แต่สิทธิ์ที่จะได้คลอดออกมาอย่างปกติธรรมดาก็ไม่มีด้วยซ้ำ ทำไม! ทำไมกัน!!!”

จูเซิ่งหนานเริ่มตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ชั่วขณะหนึ่ง เด็กผู้หญิงที่ร้องไห้อยู่รอบตัวของเธอก็พากันกรีดร้องเสียงดังพร้อมกัน!

ความทุกข์ของพวกเธอ ความไม่ยินยอมของพวกเธอจะมีใครสักกี่คนรับรู้ได้บ้าง

ก่อนจากโลกใบนี้ไป ตอนอยู่ในครรภ์ของแม่ พวกเธอเคยมีความใฝ่ฝัน มีจินตนาการ เคยเฝ้าปรารถนา เคยมีความอาลัยอาวรณ์และความลังเลต่อโลกใบนี้ แต่เมื่อตอนที่คีมเย็นยะเยือกเล่มนั้นแทงเข้ามากะทันหันและขูดเอาร่างที่ยังโตไม่เต็มวัยของพวกเธอออกมาโยนทิ้งในอ่างโลหะ ใครสนใจความรู้สึกของพวกเธอบ้างล่ะ

หากไม่เต็มใจ หากไม่สะดวก หากมีเหตุผลต่างๆ นานาทำให้พ่อแม่ไม่สามารถให้กำเนิดและเลี้ยงดูพวกเธอได้อย่างดี อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร

แต่ทำไมพ่อแม่ถึงยังต้องรีบคิดหาทางมีคนที่สองทันที อยากได้น้องชายสักคนงั้นเหรอ นี่มันเป็นเพราะอะไร!

“กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!!!!!!”

“กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!!!!!!”

เสียงกรีดร้องของเด็กผู้หญิงนับร้อยรวมตัวกันเป็นวังวนที่น่าสะพรึงกลัว เงาดำทะมึนเงาแล้วเงาเล่าไต่ออกมาจากตัวของพวกเธอ คล้ายกับอสุราจากขุมนรกและได้รับคำนิยามใหม่

“เลิกร้อง เลิกร้องไห้ได้แล้ว! เลิกตะโกน เลิกตะโกนเดี๋ยวนี้!” สาวน้อยโลลิเริ่มลนลานจนทำอะไรไม่ถูก

ความเร็วในการกลายร่างเป็นวิญญาณร้ายของพวกเธอทวีความเร็วขึ้น เร็วจนเธอจัดการกับพวกเธอไม่ทัน!

ตอนนี้มันจบแล้ว มันจบเห่แล้วจริงๆ!

สาวน้อยโลลิรู้ดี จูเซิ่งหนานเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด!

ไม่รู้ว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างจนทำให้ดูเหมือนว่าเธอมีความสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้โดยตรง แม้กระทั่งอารมณ์และความคิดของเธอยังสามารถควบคุมและเพิ่มแรงกล้าให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นอีกด้วย!

เธอกับพวกเธอเป็นหนึ่งเดียวกัน!

เธอร้องไห้ ทุกคนก็ร้องไห้ด้วยกัน!

เธอโกรธแค้น ทุกคนก็โกรธแค้นด้วยกัน!

เธอกรีดร้อง ทุกคนก็กรีดร้องด้วยกัน!

‘พรึ่บ!’ ทันใดนั้นจูเซิ่งหนานก็ลุกขึ้นยืน เธอยังคงจ้องมองสาวน้อยโลลิด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

“หนูเคยถามคุณพ่อ คุณแม่ และคุณย่าของหนูแล้ว ตอนนี้หนูจะพาพวกเธอไปหาพ่อแม่และปู่ย่าของพวกเธอทีละคน ไปถามให้ชัดเจน”

‘ตู้ม!!!’ พลังวิญญาณร้ายน่าสะพรึงกลัวจนแทบจะกลายเป็นของจริง

‘เพียะ!’ สาวน้อยโลลิจำต้องดึงลิ้นตัวเองหดกลับมา ในขณะเดียวกันร่างของเธอก็ถูกเหวี่ยงกระเด็นออกไปกระแทกพื้นอย่างแรง

“อย่าไป อย่าไปนะ อย่าออกไปจากที่นี่!” สาวน้อยโลลิตะโกน แต่จูเซิ่งหนานกลับหมุนตัวอย่างเฉื่อยชา และมีเด็กผู้หญิงที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งกลายเป็นวิญญาณร้ายนับร้อยอยู่ข้างกายเธอ

“ใกล้จะถึงแล้ว อยู่ข้างหน้านี่เอง ดูเหมือนว่าจะเป็นโรงพยาบาลตรงนั้นนะ” ทนายอันขับรถไปพลางตะโกนไปพลาง

“โรงพยาบาลตรงนั้น คือโรงพยาบาลอำเภอ XX ใช่ไหม”

“มีอะไรเหรอครับ”

“ผมจำได้ว่าเมื่อหนึ่งปีก่อน หรือก็คือไม่กี่เดือนก่อนที่ผมจะประสบอุบัติเหตุ ผู้อำนวยการและหัวหน้าหลายคนของโรงพยาบาลแห่งนี้ถูกไล่ออกน่ะ”

“ทำไมล่ะครับ”

“เนื่องจากสถานภาพของโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่ดี เพื่อหาผลกำไรจึงช่วยพ่อแม่ตรวจหาเพศทารกในครรภ์โดยตรง และช่วยทำแท้งอย่างไม่มีเงื่อนไข ทำให้หลายๆ คนในทงเฉิงและเมืองใกล้เคียงตั้งใจมาตรวจและทำแท้งที่โรงพยาบาลแห่งนี้โดยเฉพาะ”

…………………………………………………..

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท