ตอนที่ 448 กลับมาอีกครั้ง!
โจวเจ๋อเดินเข้าไปหยิบแส้ที่ร่วงอยู่บนพื้นขึ้นมา จนถึงตอนนี้ เถ้าแก่โจวแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เพื่อนร่วมสายอาชีพเดียวกันที่ทำตัวหยิ่งยโสก่อนหน้านี้ตอนที่เจอผีร้ายถึงได้ขี้ขลาดปานนั้น
ถึงแม้จะพูดว่าผีร้ายทั้งเก้าตัวเป็นผีระดับสูงที่แปดเปื้อนชีวิตคน และยากที่จะรับมือได้ก็จริง แต่ด้วยแส้เส้นนี้ใช่ว่าจะกู้สถานการณ์กลับมาไม่ได้
แม้แต่คนโง่ก็ยังมองออกว่าแส้เส้นนี้สามารถควบคุมผีร้ายที่อยู่ในหมอกหนาได้อย่างสิ้นเชิง เสียดายที่ตัวเองกับทนายอันระมัดระวังตัวก่อนหน้านั้น ถ้ารู้แต่เนิ่นๆ ว่าไอ้หมอนี่ดูเหมือนเก่งแต่ไม่ได้เรื่องขนาดนี้ก็คงจัดการเขาไปนานแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น ข้อสงสัยเกี่ยวกับซุ้มประตูและหมอกหนาแถบนี้ก็น่าจะได้รับคำตอบโดยปริยาย ทันใดนั้นโจวเจ๋อรู้สึกว่ามีคนเอานิ้วมาจิ้มเอวตัวเอง เขาจึงหันไปมองพบว่าเป็นทนายอัน
“เป็นอะไร”
“เถ้าแก่ ดูทางนั้น”
โจวเจ๋อหันไปมอง พบว่าผีผู้หญิงทั้งเก้าตัวกำลังจ้องมองตัวเขาตลอดเวลา พร้อมกับการระมัดระวังตัวอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่า ตอนที่โจวเจ๋อจับแส้ขึ้นมา พวกเธอมองโจวเจ๋อเป็นคนที่บังคับขู่เข็ญตัวเองเรียบร้อยแล้ว
รูปแบบความคิดของผีร้ายจริงๆ แล้วมีความอ่อนไหวเป็นอย่างมาก เพราะพวกเธอตายแล้ว หลังจากสูญเสียพันธนาการเรื่อง ‘งาน’ ‘รายได้’ ‘สังคม’ ที่เกี่ยวกับชีวิตของคนเป็นไปแล้ว พวกเธอจึงเหมือนเด็ก ‘บริสุทธิ์’ เท่านั้น
และสถานการณ์ในตอนนี้ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ถ้าหากเขายังคงถือแส้ต่อไป มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะโดนโจมตีจากผีร้ายทั้งเก้าตัวนี้ได้ นี่อาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมไอ้หมอนั่นถึงโยนแส้ทิ้งแล้ววิ่งหนีไป
แต่ถ้าจะให้เขาทิ้งแส้ไปแบบนี้ เถ้าแก่โจวเสียดายจริงๆ ความจนมันน่ากลัว กว่าเขาจะเก็บอาวุธนี้ได้ก็ไม่ง่าย จะให้ทิ้งไปแบบนี้ คงฟุ่มเฟือยเกินไป!
“เหอะๆๆ…”
“เหอะๆๆ…”
ผีทั้งเก้าตัวกำลังเข้าใกล้โจวเจ๋อ โจวเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับกัดฟัน ทนายอันเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เขาส่ายหน้า มายืนข้างโจวเจ๋อ แล้วเผชิญหน้ากับผีผู้หญิงทั้งเก้าที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ
คนตายเพราะทรัพย์ นกตายเพราะอาหาร ส่วนเถ้าแก่โจวก็เสียดายแส้เส้นนี้จนทิ้งไม่ลงจริงๆ เขาเงื้อแส้แล้วหวดลงไปบนพื้นจนเกิดเสียงดังสนั่น
‘เปรี้ยง!’
จากนั้นผีผู้หญิงทั้งเก้าก็เผยสีหน้าเจ็บปวดทรมานออกมาในเวลาเดียวกัน
สิ่งที่ทำให้โจวเจ๋อคาดคิดไม่ถึงคือ เขาไม่เคยจับแส้มาก่อน ส่วนทนายอันน่าจะเคยจับมาบ้าง แต่แส้ที่ทนายอันเล่นน่าจะเป็นแส้สวาทมากกว่า ทว่าแส้เส้นนี้เบาเป็นอย่างมาก และดูเหมือนจะมี ‘ระดับความทนทานต่อความผิดพลาด’ อยู่ในตัว หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ต่อให้คุณใช้แส้ไม่เป็นก็จะไม่ทำให้คุณบาดเจ็บเวลาใช้แส้เส้นนี้
เขากำลังคิดว่าทำอย่างไรดี ยิ่งใช้ก็ยิ่งชอบแส้เส้นนี้แล้ว! ‘เปรี๊ยะๆๆ!!!’ โจวเจ๋อคันมือจึงหวดแส้อีกสองสามครั้ง ทว่าสีหน้าของผีผู้หญิงทั้งหลายกลับยิ่งทรมาน ถึงขนาดเริ่มคลานอยู่บนพื้น เริ่มร้องโหยหวนร้องไห้กระซิก
เอ๊ะ แค่นี้ก็สามารถปราบพวกเธอได้แล้วเหรอ ทนายอันที่คอยดูอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกแปลกใจ เป็นไปไม่ได้มั้ง ถ้าหากแค่หวดแส้แค่นี้ผีผู้หญิงเหล่านี้ก็ทนไม่ไหวแล้ว ถ้าอย่างนั้นก่อนหน้านั้นพวกเธอจะกล้าสู้กับไอ้หมอนั่นได้อย่างไร
‘หรือเป็นเพราะว่าเถ้าแก่ของเราเป็นยมทูตตัวจริง และไอ้หนุ่มคนเมื่อครู่ จริงๆ แล้วไม่ใช่ยมทูต แต่เป็นหมูเอาต้นหอมยัดจมูกปลอมตัวเป็นช้างตัวโต’ ทนายอันคิดอยู่ในใจ ดูเหมือนจะจริง เพราะยมทูตปกติทั่วไป จะมีใครวิ่งมาจับผีที่นี่ในเวลานี้กัน และตอนที่เจอผีร้ายก็ยังกลัวจนทิ้งแส้ดอดหนีไปอีก
โจวเจ๋อเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พวกผีผู้หญิงยังคงนอนอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าที่ทรมานเจ็บปวดสุดขีด เสียดายที่ทนายอันไม่ใช่นักพรตเฒ่า โจวเจ๋อจึงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ถ้าหากนักพรตเฒ่าอยู่ที่นี่ อีกฝ่ายจะต้องเข้ามาประจบเขาอย่างไร้ยางอายแน่นอน จากนั้นก็จะถูกเขาขึงตาใส่ แต่ในใจยังคงรู้สึกสบายใจอยู่เหมือนเดิม
ทว่าเวลานี้ ซุ้มประตูที่อยู่ด้านหลังโจวเจ๋อกับทนายอันเริ่มสั่นอย่างรุนแรง และไม่รอให้ทั้งสองคนหันกลับไปมองอย่างละเอียด พวกเขาก็รู้สึกว่าลมที่อยู่รอบตัวเริ่มพัดขึ้นมาอีกแล้ว ความรู้สึกเจ็บปวดขนลุกชูชันเริ่มเข้ามาโจมตีอีกครั้ง!
ลมหยิน นั่นคือลมหยินชัดๆ! ตอนนี้หมอกหนาเหมือนกำลังถูกบีบอัด เริ่มรวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง ลอยตัวเข้าหาซุ้มประตูนั้นทั้งหมด
กระแสลมที่น่าสะพรึงกลัว รุนแรงยิ่งกว่าตอนที่โจวเจ๋อและคนอื่นเจอลมหยินครั้งแรกเสียอีก! และอาจจะเป็นเพราะระยะความใกล้ไกล ครั้งนั้นอาจจะเป็นแค่การกระจายของลม แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนเหมือนอยู่ที่ศูนย์กลางของพายุไต้ฝุ่น!
ผีผู้หญิงทั้งเก้าตัวกรีดร้องร้องโหยหวนออกมา จากนั้นร่างกายก็ถูกดูดเข้าไปในซุ้มประตูนั้น โดยไม่สามารถต่อต้านได้อย่างสิ้นเชิง
โจวเจ๋อกับทนายอันหมอบอยู่บนพื้นด้วยกัน ทั้งสองคนจับหินที่อยู่บนพื้นแน่น “ใช้เครื่องดูดฝุ่นได้ แล้วเมื่อกี้ทำไมถึงใช้ไม้กวาดกวาดพื้นล่ะวะ” โจวเจ๋อตะโกน มันสามารถดูดทุกสิ่งได้อย่างอหังการแบบนี้ เช่นนั้นเมื่อครู่คนที่ถือแส้หวดไล่ต้อนวิญญาณเข้าไปโดยเฉพาะไม่เท่ากับถอดกางเกงผายลมเหรอ
“เถ้าแก่ รูปที่อยู่ด้านล่างของซุ้มประตูเปลี่ยนไปแล้ว” ทนายอันตะโกนพูดอย่างยากลำบาก
โจวเจ๋อเงยหน้ามองไปข้างหน้า และแล้วม่านแสงคล้ายภาพไท่จี๋ก่อนหน้านั้น ตอนนี้ได้กลายเป็นสีดำอย่างสิ้นเชิง เหมือนปากของสัตว์ขนาดมหึมา กำลังกลืนกินดวงวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง และระหว่างนี้ยังเผยกลิ่นอายที่โจวเจ๋อคุ้ยเคยที่สุดออกมา
มันคือกลิ่นอายจากนรก! เวลานี้ด้านหลังของซุ้มประตูนี้ได้เชื่อมต่อกับนรกอย่างแท้จริง! นี่ทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจอย่างยิ่ง เหมือนกับซุ้มประตูจู่ๆ ก็เปลี่ยนช่องไปเสียดื้อๆ ก่อนหน้านั้นเป็นช่องผิดกฎหมาย ตอนนี้กลับเป็นช่องทางการของจริง
ภายใต้แรงฉุดดึงน่ากลัว โจวเจ๋อเริ่มต้านทานไม่ไหวแล้ว เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนลงทัณฑ์ร่างกายจะแตกสลายอยู่รอมร่อ
ทนายอันก็ย่ำแย่ไม่ต่างกัน ใบหน้าของเขาแดงเป็นสีตับหมู “เถ้าแก่…คุณไปก่อน…”
ทนายอันยื่นมือเตรียมจะตีโจวเจ๋อ ทั้งสองคนรั้งต่อไม่ไหวแล้ว ดังนั้นทนายอันจึงจะส่งโจวเจ๋อเดินทางก่อน แต่ใครจะคิดว่าแส้เส้นเดียวจะไวกว่ามือของเขา มันหวดไปที่หลังของทนายอัน
“โอ๊ย…” ทนายอันร้องหนึ่งที
“เถ้าแก่…คุณ!”
วิญญาณหลุดออกจากร่าง จากนั้นพุ่งเข้าหาซุ้มประตูนั้น โจวเจ๋อกัดฟันอดทนได้สองวินาที เขาก็รู้สึกหน้ามืด! หลังจากผ่านไปประมาณสิบนาที แสงจากซุ้มประตูนั้นก็หายไป แม้แต่ตัวของซุ้มประตูก็เริ่มทลายสลายกลายเป็นฝุ่นผง
จากนั้นท่ามกลางพงหญ้าในภูเขา ร่างกายของผู้ชายสองคนแนบติดกับพื้นดิน ผู้ชายหนึ่งในนั้นยื่นมือแตะไหล่ของผู้ชายอีกคน และมือของผู้ชายอีกคนยังถือแส้หนังอยู่ หลังจากลมภูเขาผ่านไป ทั้งสองคนยังไม่ขยับตัว
…
“ฮู่ว!” เหมือนกำลังฝันแล้วตื่นขึ้นมาในทันใด ตอนที่โจวเจ๋อลืมตาเขาพบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่รกร้างแห่งหนึ่งและพอมองออกว่า ที่นี่เคยเป็นศาลาริมน้ำ เป็นสถานที่ที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน แต่ตอนนี้กลายเป็นกองอิฐเท่านั้น
เขาลุกขึ้นตัวโซเซ เมื่อเงยหน้า มองเห็นพระจันทร์เลือดที่คุ้นเคยเหนือศีรษะของตัวเอง โจวเจ๋อจึงรู้ดีว่าตัวเองมาที่นรกอีกแล้ว
แต่เขตแดนนี้ไม่เหมือนทางเดินน้ำพุเหลือง และไม่มีผีผู้หญิงไร้หน้าในสระน้ำ แต่เป็นสถานที่แปลกตาที่ตัวเองไม่เคยมาเยือน และห่างออกไปจากจุดนี้ไม่ไกลมาก เป็นทนายอันหัวทิ่มติดอยู่ในซอกหิน โจวเจ๋อจึงเดินเข้าไปจับขาของเขาแล้วดึงขึ้นมา เหมือนเขากำลังดึงหัวไชเท้า จับทนายอันดึงอออกมา
“ฮู่วๆ…ฮู่วๆ…” ทนายอันตื่นขึ้นมา หลังจากเขามองไปรอบๆ ก็ตกใจ “ให้ตายเถอะ กลับมาที่นรกอีกแล้ว! แย่แล้ว จบเห่แล้ว คราวนี้แย่แล้วจริงๆ!”
ทนายอันมีความผิดติดตัว ตอนที่ทำผิดบนโลกมนุษย์ทุกคนยังพอปิดตาข้างหนึ่งไม่สนใจได้ ก็เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงมากมายย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ ในแต่ละปีมีผู้ร้ายถูกส่งตัวข้ามแดนกลับมาลงโทษตามกฎหมายของประเทศน้อยมากจริงๆ แต่ถ้าหากรนหาที่ตายกลับมาประเทศจีนเอง อย่างนั้นจะโทษขอบข่ายที่แน่นหนาของกฎหมายไม่ได้เหมือนกัน
นี่คือสถานการณ์ของทนายอันในตอนนี้ เขาไม่ได้กลับมาที่นรกนานแล้ว แต่ตอนนี้ดันกลับมาแบบดื้อๆ ถ้าหากผู้ตรวจสอบหรือผู้พิพากษาจับกลิ่นอายของเขาได้ คาดว่าพวกเขาคงไม่พูดพร่ำทำเพลงพุ่งเข้ามาจับกุมตัวเองทำเป็นผลงานทันที
“นี่ อย่าเพิ่งเสียงดัง ที่นี่คือที่ไหนกันแน่”
ทนายอันสงบใจลง มองไปรอบข้างอย่างละเอียด แล้วพูดด้วยความสงสัย “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“คุณเคยทำงานในนรกมาก่อนไม่ใช่เหรอ”
“แต่คุณรู้ไหมว่านรกกว้างใหญ่แค่ไหน และมีหลายแดนในนรกที่แม้แต่คนของนรกก็ยังเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ อย่างเช่นสะพานไน่เหอ ยอดเขาตี้ทิง แม้แต่หนวดของยมทูตก็ยังไม่กล้ายื่นออกไป และผมก็ไม่เคยมาที่นี่จริงๆ”
ทนายอันครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้พวกเราต้องออกไปจากที่นี่ก่อน รีบหาทางเดินน้ำพุเหลือง แบบนี้พวกเราจะได้กลับไปที่โลกมนุษย์ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ วิญญาณของพวกเราอยู่ที่นี่ แต่กายเนื้อของพวกเรายังอยู่ที่นอกเมือง ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุกับกายเนื้อ ต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน แบบนั้นพวกเราก็ลำบากแล้ว”
โจวเจ๋อพยักหน้า ใช่แล้ว กายเนื้อสำคัญกว่า ตอนที่ทั้งสองคนกำลังจะหาทางออกไปที่ทางเดินน้ำพุเหลือง จู่ๆ กองอิฐที่อยู่ตรงหน้าก็เกิดเสียงแตกละเอียด
ทนายอันส่งสัญญาณบอกว่าอย่าขยับ จากนั้นพวกโจวเจ๋อทั้งสองคนจึงนั่งลงยองๆ เสียงแตกของอิฐเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หญิงชราถือโคมไฟเดินออกมาแต่ไกล ด้านหลังของเธอมีผู้หญิงใส่ชุดกี่เพ้าถือร่มกระดาษดอกท้อเดินตามเป็นขบวน ทุกย่างก้าวของผู้หญิงเหล่านี้ เผยให้เห็นต้นขาภายใต้ชุดกี่เพ้ารางๆ ท่วงท่าชดช้อย สง่างามเป็นอย่างยิ่ง เหมือนนางแบบเดินอยู่บนเวที สวยงามเป็นอย่างมาก
โจวเจ๋อเคยเจอผู้หญิงพวกนี้มาก่อน! ตอนที่โจวเจ๋ออยากจะเอ่ย ทนายอันกลับยื่นมือป้องปากของโจวเจ๋อทันทีขณะเดียวกันยังพูดเสียงต่ำว่า “เถ้าแก่ ผมรู้ว่าคุณจะพูดอะไร ผมก็เจอมาก่อน แต่จะให้พวกเธอเห็นพวกเราไม่ได้ คุณไม่รู้ฐานะของพวกเธอ พวกเธอคือ…”
“อื้อๆๆ!”
“เถ้าแก่ อย่าโวยวาย!” ทนายอันร้อนใจ ผมรู้ว่าคุณเคยเจอสาวสวยพวกนี้มาก่อน แต่ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาอวดในตอนนี้!
โจวเจ๋อยื่นมือชี้ไปข้างหลังตัวเอง หืม ข้างหลังเหรอ ทนายอันมองตามแล้วก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก ข้างหลังของพวกเขาทั้งสองคน มีผีผู้หญิงเก้าตัวยืนอยู่ตรงนั้น ซึ่งเป็นผีผู้หญิงที่ถูกดูดเข้ามาพร้อมกัน
เวลานี้ผีผู้หญิงทั้งเก้าตัวเหมือนจะได้สติกลับมาจากความเหม่อลอยแล้ว สิ่งที่พวกเธอทำเป็นอย่างแรกหลังจากที่ได้สติก็คือ อ้าแขนทั้งสองข้าง จากนั้นก็ร้องกรี๊ดดังขึ้นมา “กรี๊ดๆๆๆๆ!!!!!!!!”
“…” ทนายอัน
………………………………………………………………………..