ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 456 ประสบการณ์โดนย่างครั้งที่สอง

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 456 ประสบการณ์โดนย่างครั้งที่สอง

เผาศพ? เผาศพเหรอ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเถ้าแก่โจวอยู่ในสภาพสิงร่างขยับตัวไม่ได้ คาดว่าเขาคงจะกระอักเลือดออกมาแล้ว! ตัวเขาทั้งในชาติที่แล้วและในชาตินี้ มีดวงสมพงษ์กับการเผาศพมากใช่ไหม แค่สุ่มหาร่างกายที่เหมาะสมเพื่อพักผ่อนชั่วคราว เพิ่งจะนวดสปาครั้งแรกในชีวิตเสร็จยังฟินไม่ทันหาย ก็ต้องถูกผลักเข้าเตาเผาศพแล้วเหรอ

ครั้งที่แล้วตอนที่เขายังมีพอมีสติอยู่ ขั้นตอนตั้งแต่ถูกกู้ชีพ ถูกเคลื่อนศพไปแต่งหน้าแล้วไว้อาลัย จากนั้นก็ถูกเข็นเข้าเตาเผา แทบจะกลายเป็นปีศาจที่อยู่ในใจของโจวเจ๋อ ประสบการณ์แบบนั้น เป็นความน่ากลัวที่คนทั่วไปยากที่จะจินตนาการได้ โดยเฉพาะวินาทีที่ตัวเองถูกเข็นเข้าไปเผาในเตาเผาศพ ความอึดอัด ความอัดอั้นแบบนั้นมากพอที่จะทำให้คนพังทลาย!

จนกระทั่งวันนี้ ยังไม่สามารถลบเงาฝังใจออกไปจากใจของโจวเจ๋อได้เลย

“โอเค ผู้อำนวยการจ้าว เริ่มได้เลยค่ะ” เสียงของผู้หญิงฟังดูแล้วเศร้าใจเป็นอย่างมาก น่าจะเป็นแม่ม่ายที่น่าสงสารคนหนึ่ง

โจวเจ๋อสัมผัสได้ว่าเปลรถเข็นที่อยู่ใต้ร่างของเขาเริ่มถูกเข็น เขาอยากจะหัวเราะจริงๆ เชียว ถ้าหากเป็นไปได้ละก็ เขาอยากดึงคนนั้นที่อยู่ในร่างขึ้นมาจาก ‘เตียง’ มา ขอมอบให้คุณนะ คุณมีชีวิตต่อไป แล้วก็ปล่อยให้ผมจบชีวิตเอง อีกเดี๋ยวก็ต้องโดนย่างเป็นครั้งที่สองแล้ว รู้สึกว่าช่วงนี้ชีวิตอยู่ยากจริงๆ

หรือไม่อย่างนั้นพวกเราเปลี่ยนกันไหม คุณออกมา ผมเข้าไปอยู่แทน เวลาว่างก็ออกมาคุยกับคุณทำตัวเท่ได้ แต่นี่เป็นเพียงความคิดเท่านั้น เขาอยากจะยอมแพ้ แต่การยอมแพ้ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้

โจวเจ๋อพยายามดิ้นรนออกจากร่างนี้ ฉันไม่อยู่ในห้องพักผ่อนนี้ก็ได้ ฉันจะเปลี่ยนที่พักเอง หรือไม่อย่างมากแค่ลอยละล่องไปอีกสักพัก ทว่าข้างๆ เริ่มมีเพลงธรรมะดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าใกล้จะเริ่มงานแล้ว

ตอนที่เขารู้ว่าเปลรถเข็นที่อยู่ใต้ร่างของตัวเองถูกส่งขึ้นไปบนสายพานของเตาแล้ว โจวเจ๋อแทบจะดิ้นรนสุดชีวิตเขามีร่างที่ยืมศพคืนชีพแล้ว ดังนั้นเขาไม่อาจควบคุมและเข้าสู่ร่างกายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ โจวเจ๋อจำได้ว่าชุ่ยฮวากับพวกผีร้ายทั้งหลายมีวิธีควบคุมร่างกายเหล่านี้อยู่บ้าง

แต่คนที่เคยกินเนื้อหมูมีมากมาย คนที่เคยเห็นหมูวิ่งอยู่ในสนามแข่งกลับมีไม่เยอะ

‘แกร๊ก…’ ประตูเตาเผาศพถูกเปิดออก ก็ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นให้โจวเจ๋อเข้าไปอีก

เสียง ‘กริ๊ง’ ไม่ได้ดังมาจากด้านนอก แต่เป็นเสียงที่ส่งออกมาจากภายในร่างกาย เหมือนไม่ได้ตั้งใจ โจวเจ๋อสามารถรับรู้ได้ว่าจิตสำนึกของตัวเองเหมือนไหลเข้าไปแล้ว

“มือกำลังขยับ มือขยับอยู่!”

“รีบมาดูเร็ว มือกำลังขยับ!”

“คนยังไม่ตาย คนยังไม่ตาย!”

เสียงร้องตกใจดังมาจากข้างนอก สำหรับเจ้าหน้าที่ในหอประกอบพิธีฌาปนกิจ พวกเขามักจะได้ยินคำบอกกล่าวเกี่ยวกับศพที่ตื่นขึ้นมากะทันหันระหว่างที่ถูกส่งเข้าไปในเตาเผาศพ ซึ่งจริงๆ แล้วคนยังไม่ตาย แต่สำหรับตัวพวกเขาเองกลับเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก

“สามีคะ คุณยังไม่ตาย คุณยังมีชีวิตอยู่เหรอ!” แม่ม่ายกระโจนเข้าหาตัวโจวเจ๋อ เริ่มร้องไห้ขึ้นมา

คนถูกเข็นออกมาจากหอฌาปนกิจ โจวเจ๋อกระทั่งสามารถรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่อึดอัดเปลี่ยนเป็นความยินดีมากขึ้น เขาถูกหามขึ้นไปบนรถคันหนึ่ง และสตาร์ทรถอย่างรวดเร็ว

เสียงวุ่นวายรอบตัวเงียบลงทันที ภายในรถนั้นหากรวมตัวเขาเข้าไปก็น่าจะมีสามคนด้วยกัน นี่เป็นสิ่งที่โจวเจ๋อวิเคราะห์ได้จากเสียงของฝีเท้า ดูเหมือนว่าเขาจะไปแตะโดนอะไรเข้า เป็นผลทำให้ตัวเขาสามารถควบคุมร่างกายนี้ได้นิดหน่อย แต่ยังเทียบกับร่างเดิมที่แท้จริงของเขา อ้อไม่ ร่างของสวีเล่อไม่ได้

“ยังไม่ตาย” คนขับรถที่อยู่ด้านหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“ทำไมถึงยังไม่ตาย”

“…” โจวเจ๋อ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ฟังดูแล้วรู้สึกแปลกชอบกลนะ

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ฉันก็สับสนไปหมด ฉันเห็นเขากำลังถูกเข็นเข้าไปในเตาเผาแล้ว และฉันคิดว่าตัวเองจะได้หลุดพ้น จะได้มีชีวิตใหม่เสียที แต่ตอนที่ถูกเข็นเข้าไปในเตาเผาศพ มือของเขากลับขยับขึ้นมา แม่งเอ๊ย ทำไมเขาไม่ตายให้รู้แล้วรู้รอด! ตอนนั้นฉันอยากจะผลักเจ้าหน้าที่ออกไปจริงๆ แล้วผลักเขาเข้าไปในเตาเผาศพเองเลย!”

“…” โจวเจ๋อ

เถ้าแก่โจวรู้สึกสงสารพี่ชายที่ตัวเองเข้ามาสิงร่างเล็กน้อย เพราะคนที่พูดเมื่อครู่ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่โผเข้ามากอดตัวเองเมื่อครู่และร้องอุทานว่า ‘สามีคุณยังไม่ตาย’ แลดูเหมือนจะเป็นแม่ม่ายที่รักสามีอย่างยิ่งยวด

พี่ชาย คุณสร้างเวรสร้างกรรมไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว ภรรยาอยากจะให้คุณตายไวขนาดนี้ และฟังจากน้ำเสียงของคนขับรถคนนั้น ดูเหมือนจะเป็นชายชู้สวมเขาให้คุณจริงๆ

“ไม่ต้องสนว่าเขาจะตายหรือไม่ตาย ผมไม่ส่งเขาไปโรงพยาบาลหรอก ช่างเถอะ ผมบีบคอเขาก่อน ไม่ว่าเขาจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ผมก็จะทำให้เขาตายจริงๆ ซะ!”

“ไม่ได้ๆ คุณไม่เห็นรถที่ขับตามมาข้างหลังเหรอ ญาติของคุณตามอยู่ข้างหลัง พวกเขาจะไปโรงพยาบาลด้วย! แล้วพ่อแม่ของพวกเราก็รู้ข่าวแล้ว ตอนแรกพวกเขาไม่กล้ามาร่วมงานศพของลูกชายตัวเอง แต่ตอนนี้ได้ยินว่าพี่ชายของคุณมีชีวิตกลับมาแล้ว ก็รีบออกจากบ้านมาที่โรงพยาบาลแล้ว!”

โจวเจ๋อที่สิงร่างของพี่ชาย ‘เหล่าหวังข้างบ้าน[1]’ คนนี้อดไม่ได้ที่จะแอบถอนใจ เรื่องนี้ยิ่งสนุกขึ้นเรื่อยๆ น้องชายของนายกับภรรยาของนายมีผลประโยชน์ร่วมกันจริงๆ

เสียดายที่นายตายแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะแนะนำหวังเคอเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันใหนายได้รู้จัก

“แต่จะไปโรงพยาบาลไม่ได้ พวกเราบอกคนอื่นว่าเป็นโรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน ถ้าไปโรงพยาบาลและตรวจออกมาว่าโดนวางยาจะทำยังไง” เสียงของผู้ชายแปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียดขึ้นมา

“คุณถามฉันว่าจะทำยังไง แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง! ฉันจะไปรู้ได้ยังไง!” ผู้หญิงแผดเสียงขึ้นมา

“เป็นเพราะคุณคนเดียว เพราะว่าคุณสั่งให้ฉันป้อนเขาให้ดื่มอันนั้น เป็นเพราะคุณ เพราะคุณแท้ๆ! ฉันบอกแต่แรกแล้วว่าทำแบบนี้ไม่ได้ มันจะมีปัญหา!” ผู้หญิงเริ่มตีตัวออกหาก

“จนป่านนี้แล้ว คุณพูดแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร ผมเป็นคนถือยา คุณเป็นคนป้อน พวกเราหนีความผิดไม่พ้นหรอก!”ผู้ชายกลับมีเหตุผลมากกว่า

“คุณขับรถช้าๆ หน่อย ฉันจะโทรหาเพื่อนของฉัน อ้อใช่ อย่าไปโรงพยาบาลอันดับหนึ่ง ไปโรงพยาบาลที่สาม เป็นโรงพยาบาลที่ฉันเคยทำงานมาก่อน ฉันจะโทรจัดการก่อน ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก ขอแค่เขาตาย พวกเราก็ไม่เป็นไร! คุณเร็วหน่อย รีบยืนยันว่าเขาตาย เร็วเข้า ขอแค่ส่งเขาไปที่โรงพยาบาลและยืนยันว่าเขาตายแน่นอน ทางโรงพยาบาลจะไม่ผ่าศพชันสูตร จะไม่ทำแน่นอน ฉันขับรถเองดีกว่า” ผู้หญิงใจเย็นลงแล้วก็สลับที่นั่งมาขับรถแทนผู้ชาย

นี่คือรถตู้อเนกประสงค์คันหนึ่ง มีพื้นที่กว้างขวางมากเป็นพิเศษ เวลานี้ผู้ชายเดินมาอยู่ข้างตัวของโจวเจ๋อ เขาแนบหูของตัวเองไปที่หน้าอกของโจวเจ๋อ แต่เขาไม่ได้ยินเสียงหัวใจเต้น จึงวางมือไปที่ปลายจมูกของโจวเจ๋อ แต่ก็ไม่รู้สึกถึงลมหายใจ

ไม่ว่าเขาจะดูอย่างไรก็เหมือนคนตาย! และในเวลานี้ ดวงตาของผู้ชายถลึงออกมา เนื่องจากเขาเห็นนิ้วกลางมือขวาของศพพี่ชายตัวเองชี้ตั้งขึ้นมา!

‘凸’

“เฮ้ยๆๆ!!!!!!!!!” ผู้ชายร้องเสียงแหลมขึ้นมา ยังไม่ตาย คนยังไม่ตายจริงๆ ยังไม่ตายจริงๆ!!! พี่ชายยังมีชีวิตอยู่ ยังมีชีวิตอยู่!

“พี่สะใภ้ อ้ายหยวน อ้ายหยวน เขายังไม่ตายจริงๆ พี่ชายของผมยังไม่ตายจริงๆ ด้วย นิ้วของเขาเพิ่งขยับเมื่อกี้นี้ แล้วก็ยังชูให้ผม ชูให้ผม…”

“อย่างนั้นก็ทำให้เขาตายสิ!” ผู้หญิงพูดเสียงแหลม อย่าโทษที่ทั้งสองคนกำลังลนลานทำตัวไม่ถูกในตอนนี้ เพราะว่ากรณีที่คนตายทำพิธีไว้อาลัยเสร็จสรรพจะส่งเข้าเตาเผาศพแล้ว แต่จู่ๆ คนก็ ‘มีชีวิต’ ขึ้นมาแบบนี้ คนที่เคยเจอมาก่อนบนโลกใบนี้ถือว่าน้อยมากถึงมากจริงๆ และคนคนนี้ก็ยังเป็นคนที่พวกเขาฆ่าตายอีก

ถึงแม้จะเป็นฆาตกรที่เลือดเย็นแค่ไหน เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ต้องทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน การแสดงออกของสองคนนี้ อ้อไม่ใช่ การแสดงออกของชายชู้หญิงชู้คู่นี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

“ใช่ ฆ่าเขาให้ตาย ต้องฆ่าเขาให้ตาย!” เมื่อได้สติ ผู้ชายก็เอื้อมมือไปบีบคอของพี่ชายตัวเอง โจวเจ๋อสัมผัสได้ว่าตัวเองถูกบีบคอ เขาแอบบ่นในใจ ‘น้องชาย ฉันขอให้นายใจเย็นก่อน’

ผู้หญิงที่เป็นคนขับรถเหลือบมองผ่านกระจกหลังแล้วก็ผรุสวาทด่าทันที “จะส่งถึงโรงพยาบาลแล้ว คุณบีบคอแล้วมีรอยขึ้นมาจะทำยังไง คุณตั้งใจจะทิ้งหลักฐานไว้เหรอ!”

ถ้าหากส่งถึงโรงพยาบาล ต่อให้คนตายแล้วแต่ถ้าหมอพบว่ามีรอยบีบคอย่อมต้องสงสัยแน่นอน ขอแค่ทำการตรวจสอบง่ายๆ ก็ยืนยันได้ถึงสาเหตุการตายคร่าวๆ ได้แล้ว

“ใช่ๆ จะบีบให้มีรอยไม่ได้!” ผู้ชายมองซ้ายแลขวาด้วยความประหม่า หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาผืนหนึ่ง แล้วปิดไปที่จมูกกับปากของพี่ชายตัวเอง สองมือของเขากดอยู่ด้านบน เขาไม่กล้าใช้แรงมาก แต่ก็มากพอที่จะทำให้พี่ชายหายใจไม่ออก

“พี่ชาย พี่ตายเถอะนะ พี่รีบตายเถอะ!!!!!! น้องชายขอร้องพี่ล่ะ พี่รีบตายเถอะ รีบตายเถอะนะ!!!!” ผู้ชายตะโกน

โจวเจ๋อที่หายใจไม่ออกก็รู้สึกทรมานอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นทรมานจนตัวเองทนรับไม่ไหว โจวเจ๋อเข้าใจว่าวิญญาณของเขาเข้ามาสิงในร่างนี้ จึงกระตุ้นพลังชีวิตจากสภาพที่ตายแล้วอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยังอยู่ในลักษณะที่แกล้งตาย เช่นเดียวกับลักษณะของ ‘การหายใจแบบเต่า’

แต่ในความเป็นจริง มนุษย์ไม่ได้อาศัยการหายใจทางจมูกเท่านั้น จริงๆ แล้วรูขุมขนที่อยู่ทั่วร่างกายสามารถหายใจได้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะร่างกายที่อยู่ในลักษณะแกล้งตายจะไม่เสียออกซิเจนมากเท่าไร เมื่อถูกอุดจมูกจึงไม่ได้สร้างปัญหามากเกินไป

หลังจากผ่านไปสิบห้านาที ผู้หญิงก็ตะโกนว่า “โรงพยาบาลอยู่ข้างหน้าแล้ว ตายหรือยัง”

รถของญาติสองสามคันตามหลังมาติดๆ ผู้หญิงอยากขับรถให้ช้าลงก็ทำไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะดึงดูดความสงสัยของพวกญาติๆ

“ตายแล้วมั้ง…” ผู้ชายไม่กล้ายืนยัน เขาพยายามใช้ผ้าขนหนูอุดไว้ตลอดทาง ต่อให้เป็นช้างตัวหนึ่งก็น่าจะถูกเขาอุดจมูกตายไปแล้ว เขาจึงปล่อยมือ หยิบผ้าขนหนูออกมา แถมยังเอาผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดเม็ดเหงื่อบนหน้าผากของตัวเอง เขาเหงื่อไหลเปียกซ่ก ส่วนหนึ่งเพราะความร้อน อีกส่วนหนึ่งเพราะตกใจ แต่หลังจากที่เขามีสติรู้สึกตัวว่าหยิบผ้าขนหนูอะไรขึ้นมา เขาก็รีบโยนมันทิ้งไปทันที พยายามใช้มือเช็ดหน้าของตัวเอง ดวงซวย ดวงซวยแท้ๆ!

ทว่าตอนที่เขามองพี่ชายที่นอนอยู่บนเบาะรถอีกครั้ง ฉากที่ทำให้เขาต้องตื่นตกใจได้ปรากฏขึ้น พี่ชายที่ถูกเขาอุดจมูกมาตลอดทาง จู่ๆ กลับลืมตาขวาขึ้นมา แล้วขยิบตาให้เขาหนึ่งที!

………………………………………………………………………..

[1] เหล่าหวังข้างบ้าน มีหลายความหมาย เช่น ชู้ข้างบ้าน พ่อที่แท้จริงของลูกตัวเอง ตัวละครสนามอารมณ์ ตัวเอกในเรื่องขำขัน

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน