ตอนที่ 468 ดำเนินการ!
“งุงิฮือๆๆ!”
“ตูมครืน!”
“งุงิฮือๆๆ!”
“ตูมครืน!”
อิงอิงทุกครั้งที่ต่อยอิงอิงจะทำเสียงอ้อนเหมือนสาวสวยวัยมัธยมปลาย ออดอ้อนน่ารักจนคุณไม่อยากปล่อยมือพร้อมกับเสียงพากย์ที่เหมือนให้กำลังใจตัวเอง ทำท่าเหมือนตัวเองไม่อยากต่อยคุณ แต่ต้องฝืนต่อยคุณเบาๆ
ทว่าชายชรากลับทรมานจนทนไม่ไหว หางตาของเขาเหลือบมองเห็นหลุมที่ปรากฏอยู่ด้านหลังของตัวเอง จึงพอเดาออกว่าหากปล่อยให้หมัดนี้ออกมาต่อยโดนตัวเองแล้วจะมีจุดจบอย่างไร
อย่างน้อยที่สุดคือร่างกายนี้จะแตกสลายไปเลย แล้ววิญญาณของเขาตัวเองจะมีโอกาสหนีออกมาไหมก็พูดยาก แต่สิ่งที่เจ็บปวดใจที่สุดคือ ดูเหมือนผีดิบสาวคนนี้จะจงใจ แสร้งทำเป็นอ่อนแอน่ารักแต่กลับต่อยหนักถึงตาย!
จริงๆ แล้วผีดิบสาวเห็นว่าเถ้าแก่อยู่ด้วยจึงออมมือไว้ อย่างไรก็ตามผู้หญิงมักจะชอบแสดงว่าอ่อนโยนต่อหน้าผู้ชายที่ตัวเองชอบอยู่เสมอ
อิงอิงไม่รู้ว่า ตอนที่เธอโดนหยกผีสิงร่างและบ้าคลั่งได้จนเผยให้เห็นสภาวะ ‘ปีศาจผมขาว’ ออกมาในครั้งนั้น และโจวเจ๋อก็เคยได้เห็นมันหมดนานแล้ว
ชายชราใส่แว่นกันแดดฝืนทนไม่ไหวแล้ว ผีดิบสาวคนนี้โหดเกินไป และหุ่นเชิดทั้งสองคนของเขาตัวเองก็ถูกสกัดอยู่ตรงนั้น จึงไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือเขาตัวเองได้ จึงทำให้สถานการณ์ของเขายิ่งแย่ลง
ก่อนหน้านั้นสองสามครั้งเขายังพออาศัยวิชาของตัวเองหลบหลีก แต่ด้วยความที่ผีดิบสาวยิ่งต่อยก็ยิ่งสนุก เขาพบว่าตัวเองยากที่จะโชคดีหลบหนีได้อีก
ทันใดนั้นเขาไม่ลังเลอีกต่อไป อ้าปาก ปล่อยให้เงาสีแดงคลานออกมาจากปากของเขา มีความคล้ายกับผีซาดาโกะที่คลานออกมาจากโทรทัศน์
อิงอิงไม่ได้ยืนมองเฉยๆ จากนั้นจึงต่อยศีรษะของชายชราทันทีลงไป ทว่าเงาสีแดงนั่นกลับกระโดดออกมา แล้วกลายร่างเป็นลักษณะของคน สองมือรัดแขนของอิงอิงอย่างแน่นหนา มันไม่ได้โต้กลับทันที แต่กลับทำให้ทิศทางการปล่อยหมัดของอิงอิงเปลี่ยนไปทิศ และหมัดนี้ได้ต่อยไปที่บันไดโดยตรง
‘“ครืน!’” บันไดสามขั้นพังลงมา ชายชราถอดแว่นกันแดดออก สีหน้าขาวซีดไม่น้อย เขามีหุ่นเชิดสามตัว สองตัวที่อยู่ข้างนอกก็คือเงาดำสองคนนั้น และยังมีหนึ่งตัวคนที่ถูกหล่อเลี้ยงอยู่ภายในร่างกายของเขา
“น่ารำคาญจริงๆ!” เงาสีแดงหลังจากเปลี่ยนทิศทางการต่อยของอิงอิงแล้วกลับไม่ได้ถอยกลับทันที ตรงกันข้ามมันกลับรุนแรงขึ้น คลานขึ้นไปบนร่างกายส่วนอื่นของอิงอิง ไม่ว่าเธอจะดึงอย่างไรก็ดึงไม่ออกๆ จึงทำให้อิงอิงโกรธมาก
“สหาย จัดการเธอ!” เบ้าตาของชายชรายุบลงไป นัยน์ตาและตาขาวของเขามีสัดส่วนที่ดูไม่สมดุลกัน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ลูกตาของเขาเล็กลงกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ดูเหมือนรูเข็มมากกว่า จึงไม่แปลกใจที่เขาต้องใส่แว่นกันแดด
เงาสีแดงเหมือนขนมติดหนึบเกาะติดอิงอิงไม่ปล่อย ทำให้อิงอิงทรมาน อิงอิงกัดฟัน ต่อยพื้นไม่หยุด พยายามทุบเงาบนใช้ร่างกายของตัวเองให้ตกลงมาทุบเงา แต่กลับได้ผลแค่นิดเดียว
ชายชรากลืนน้ำลาย เพิ่งมีเวลามาสนใจสถานการณ์การต่อสู้ของทิศทางอื่นในตอนนี้เองแล้วจึงจับทิศทางของการต่อสู้ได้ทัน เนื่องจากยมทูตสวีโจวทั้งห้าคนเพิ่งจะถูกซัดจนหมอบเป็นผลทำให้พวกเขาหลุดออกจากการต่อสู้รบ และหุ่นเชิดทั้งสองคนของเขาตัวเอง ก็ถูกผู้ชายที่มีมือโครงกระดูกสีขาวข้างหนึ่งพร้อมกับเจ้าลิง แมว งู รวมทั้งพังพอนตีโอบและรุมต่อย
ทั้งสองด้านอย่างตอนนี้จะรุกเข้าหรือถอยไม่ได้ทั้งนั้นเลย และยังแสดงให้เห็นถึงเค้าลางของการแตกสลายโชคที่ไม่ดี เห็นได้ชัดว่าเขาทนรับการโจมตีไม่ไหว “พวกคุณร่างของใครอยู่ใกล้สุด มาช่วยหน่อย! นายนท่านของฉันจะตอบแทนอย่างงาม!” ชายชราตะโกนเรียกไปทางศาลากลางน้ำที่พังลงมา
บนผิวทะเลสาบ มีคนกระดาษลอยตามคลื่นไม่หยุดมาติดต่อกัน พวกเขายังอยู่ตรงนั้น พวกเขายังได้ยินเสียงเรียกของเขาตัวเอง แต่พวกเขาต่างเลือกที่จะเงียบทั้งหมด และตอนนี้ก็เลือกที่จะปฏิบัติตามใจตนเองทุกคน
ชายชราโกรธมาก จุดประสงค์ที่เรียกพวกเขามารวมตัวกันก็เพื่อสร้างชื่อเสียงและอิทธิพลให้เกิดความสับสน สองคือสามารถจัดคนไปยังเขตพื้นที่บริเวณอื่นได้มากขึ้น จริงๆ แล้วตั้งแต่ต้นชายชราไม่ได้คาดหวังว่าคนพวกนี้จะมีประโยชน์อะไรยามที่ตัวเองวิกฤต แต่ในใจกลับคิดอีกแบบ เวลานี้เห็นพวกเขาแต่ละคนแกล้งตาย รู้สึกไม่พอใจจริงๆ!
ไอ้คนไร้ความสามารถพวกนี้ ทำไมยังหน้าด้านมีชีวิตอยู่ หืม ไม่ถูกสิ นั่นคือมือโครงกระดูกสีขาว!
ชายชรามองทนายอันหนึ่งครั้ง จากนั้นจึงมองไปที่โจวเจ๋อที่กำลังต่อสู้แบบหนึ่งต่อห้า เขาจึงจำได้ ว่า พวกเขาเป็นยมทูตที่มาจากทงเฉิง!
ยมทูตของทงเฉิงทำไมถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะความคิดของชายชราสับสน แต่เขาคิดไม่ถึงว่ายมทูตทงเฉิงจะยอมเดินทางไกลเพื่อมาแก้แค้นที่สวีโจวจริงๆ ความรู้สึกแบบนี้เหมือนเวลาที่คุณโดนคนอื่นรังแกตอนอยู่ต่างนอกเมือง จากนั้นพี่ชายสองสามคนจึงซื้อตั๋วบินมาช่วยคุณจัดการกับพวกเขา
แต่เถ้าแก่โจวเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นเช่นนี้แหละ! เวลานี้เจ้าลิงใช้กำลังเฮือกสุดท้ายจับผู้ชายใส่ชุดสูทคนหนึ่งด้วยอุ้งมือทั้งสอง ตอนที่ผู้ชายใส่ชุดสูทกำลังจะกลายเป็นเงาหลุดรอดออกไป แม่ย่าแปดร้องจึงคำราม แล้วจึงดิ่งเข้าไป จากนั้นใช้ร่างงูรัดเงาดำพวกนั้นโดยตรง
“ยมโลกมีกฎระเบียบ กฎแห่งความหมายคนตายไร้ความปรานีณี สลาย!” ซึ่งเท่ากับว่าเขาสามารถจับอีกฝ่ายได้อยู่หมัด จากนั้นขอให้คุณสู้ต่อไป เพราะการต่อสู้ครั้งนี้สบายจริงๆ สนุกมาก!
‘“ครืน’” มีเสียงดังตามเข้ามา ใบหน้าของผู้ชายใส่ชุดสูทเริ่มทะลุ ต่อจากนั้นหน้าอกของเขาก็เริ่มแตกออก และหุ่นเชิดถ้าหากมีรอยแตก จริงๆ แล้วก็ถือว่าทำลายสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ยังเหลืออีกหนึ่งคน!
“พวกคุณจับเลย สู้ๆ!” ทนายอันเหมือนคนปลุกระดมกำลังระดมจำนวนคน พูดจริงๆ นะ ตอนนี้เขารู้สึกชอบบทคนฝึกสัตว์เป็นอย่างมาก ตอนที่ต่อสู้กันมีเทพเจ้าที่มากประสบการณ์มาช่วยคุณ รู้สึกอุ่นใจจริงๆ
ส่วนทางนี้ ยมทูตสวีโจวทั้งห้าคนที่ถูกมัดรวมกันแล้วเหวี่ยงลงเซไปข้างหลังล้มไปกองกับพื้น เริ่มคลานขึ้นมาช้าๆ ใบหน้าของแต่ละคนเขียวช้ำบวมเป่ง ทั้งห้าคนมองโจวเจ๋อด้วยพร้อมกับความหวาดกลัวสุดขีด
ความหวาดกลัวนี้ มีมากกว่าความคิดที่พวกเขาอยากจะเข้าไปช่วยชายชรา อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือก็เพื่อผลประโยชน์ ถ้าหากต้องตายแล้วจะเอาผลประโยชน์ไปทำไม เถ้าแก่โจวเพิ่งแสดงพลังออกมา กับช่วงเวลานั้นเกือบจะทำให้พวกเขาเกิดภาพหลอนคิดว่าตัวเองเกือบจะถูกฆ่าแล้ว
ยมทูตหญิงใส่กางเกหงหนังที่ยืนอยู่หน้าสุด เธอเช็ดเลือดที่มุมปากของตัวเอง กับสายตาที่จ้องมองโจวเจ๋อที่อยู่ตรงหน้า “พี่ชาย พี่สาว ขอพักหน่อยไม่ได้เหรอ”
โจวเจ๋อหมดแรงใช้สองมือยันพื้นคลานขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขาในตอนนี้ รู้สึกเหมือนร่างกายว่างเปล่า ตอนที่ลุกขึ้นมาเกือบจะเซล้ม จึงได้แต่รีบทำเวลาให้ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว
“เพื่อนคนนี้ มาจากที่ไหนเหรอ” ผู้หญิงใส่กางเกงหนังถาม ถึงแม้สภาพของโจวเจ๋อในตอนนี้เหมือนจะล้มแหล่มิล้มแหล่เหมือนทำเรื่องอย่างว่ามากเกินไป แต่ยมทูตท้องถิ่นทั้งห้าคนก็ไม่กล้าประมาท และจากคำพูดของผู้หญิงใส่กางเกงหนัง เท่ากับว่าอยากจะยอมแพ้ อย่างน้อยจากความหมายของคำน่าจะเป็นแบบนี้
“มาจากทงเฉิง” โจวเจ๋อตอบ เขาจำผู้หญิงคนนี้ได้ เมื่อคืนก็เป็นผู้หญิงคนนี้ที่เข้ามาคุยกับเหล่าจาง มองโจวเจ๋อตัวเองเป็นหุ่นเชิดยอดแย่แล้วผลักลงไปจากเก้าอี้ ก่อนหน้านี้ตัวเขาเองยังพูดว่าจะทำอะไรเธอออยู่เลยนะ
“มาจากทงเฉิง” ผู้หญิงใส่กางเกงหนังเผยสีหน้าตกใจออกมา เธอรีบนึกถึงตำรวจที่ใส่ชุดตำรวจแล้วตบหน้าชายชราอย่างแรง ยมทูตที่ทงเฉิงก็มากันหมดเลยเหรอ แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือคนนั้นยังที่มองดูละครฉากนี้อยู่ข้างๆ ยังไม่ลงออกมือ ความเก่งของเหล่าจางยังคงวนเวียนอยู่ข้างหูของเธอ
ผู้หญิงใส่กางเกงหนังหมุนตัวทันที ตะโกนเรียกเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ “หยุดเดี๋ยวนี้!” แต่ไม่ทันแล้ว หุ่นเชิดผู้ยมทูตผู้หญิงคนนี้ลืมตาทันที แสงวงกลมสีดำกำลังหมุนวนอยู่ในดวงตา เหมือนจานหมุนวิเศษกำลังหมุนอย่างรวดเร็ว
“หยุด!”
ณ ที่ไกลๆ ร่างกายของโจวเจ๋อสั่นสะท้าน ความพร่าเลือนเผยออกมาจากนัยน์ตาของเขา และเงาร่างของยมทูตผู้ชายที่อยู่ทางด้านขวาของผู้หญิงใส่กางเกงหนังเริ่มบิดเบี้ยวขึ้นมาแล้วมลายหายไป เขาไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งนี้นานแล้ว สิ่งที่เหลือก่อนหน้านี้คือภาพสะท้อนที่เขาจงใจทำขึ้นมา
เงาร่างของยมทูตผู้ชายคนนั้นปรากฏขึ้นข้างตัวของโจวเจ๋อ อาศัยจังหวะที่โจวเจ๋อถูกวิญญาณสกัด ยกมีดสั้นที่อยู่ในมือของตัวเองขึ้นมา ลวดลายแปลกพิเศษบนมีดสั้นสว่างวาบแวบหนึ่ง จากนั้นจึงแทงเข้าไปที่ต้นคอของโจวเจ๋อ!
ความเจ็บปวดพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว! แสดงให้เห็นว่า การร่วมมือกันของยมทูตชายหญิงคู่นี้ ได้กระทำการมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว คล่องแคล่วเป็นอย่างยิ่ง
“ฮิๆๆๆ!!!” เสียงหัวเราะของเด็กทารกดังเข้ามา งูดำกลายเป็นหยกผีกลายร่างเป็นงูดำลอดผ่านออกมา นัยน์ตาของงูดำหมุนวนเหมือนแววตาของเด็กน้อย ระหว่างนั้นได้สะกดจิตวิญญาณของยมทูตสวีโจวคนนี้ไปชั่วขณะ
ยมทูตผู้ชายตัวนิ่งทื่ออยู่กับที่ทันที โจวเจ๋อกระพริบตาปริบๆ ความพร่ามัวในดวงตาของเขาพลันหายไป ฟื้นฟูกลับมาชัดเจนดังเดิม
ภาพลวงตาๆ ภาพลวงตาอีกแล้ว เหอะๆ ควรทราบว่า ความสามารถในการต่อต้านภาพลวงตาของเถ้าแก่โจวแข็งแกร่งมากกว่าการต่อต้านความเย้ายวนของหญิงสาว!
ในสายตาของยมทูตสวีโจวอีกสี่คนที่อยู่แต่ไกล คิดว่าเพื่อนร่วมงานของตัวเองปรากฏตัวข้างโจวเจ๋อแล้วก็หยุดนิ่งไปเลย จากนั้นโจวเจ๋อจึงหมุนตัวช้าๆ เล็บของเขายาวมากๆ เหมือนเคียวที่แหลมคม เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วไร้ความเทอะทะ จากนั้นจึงใช้เล็บของตัวเองแทงทะลุเข้าไปที่ต้นคอของเพื่อนร่วมงานภายในพริบตา!
‘“พรวด!’” เลือดสดของยมทูตผู้ชายคนนี้สาดกระเด็นใส่ใบหน้าของโจวเจ๋อ เล็บของโจวเจ๋อยังค้างอยู่ที่ต้นคอของอีกฝ่าย เหมือนไม้จิ้มฟันร้อยเสียบคอเป็ด
ชั่วขณะหนึ่ง โจวเจ๋อลนลานเล็กน้อย เลือดนี้มีความร้อนอยู่บ้าง สายตาของโจวเจ๋อก็เริ่มพร่าเลือนเพราะคราบเลือด ช่วงที่เกิดความพร่ามัว เขารู้สึกเหมือนเห็นภาพตัวเองใส่เสื้อกาวน์ถือมีดผ่าตัดกำลังผ่าร่างของคนไข้ และยังมองเห็นภาพของตัวเองนอนอยู่บนโซฟาริมหน้าต่างอ่านหนังสือพิมพ์อีกเช่นกัน ชั่วพริบตาเดียวกับตัวเองในเวลานี้ และตัวเองในอดีต อันไหนคือตัวตนที่แท้จริงของตัวเองกันแน่ โจวเจ๋อคิดในใจและไม่่ค่อยแน่ใจ
ในความทรงจำของเขา เขาได้ปราบผีจำนวนไม่น้อย แต่ไม่ค่อยได้เคยฆ่าคนเป็นเลยสักคน โดยเฉพาะฆ่าคนเหมือนเป็นผักเป็นปลาแบบนี้ โอเค ยมทูตไม่ใช่คน แต่ร่างกายของยมทูตไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป พวกเขาได้ยืมกายเนื้อที่มีเลือดมีเนื้อและอุณหภูมิมาใช้เช่นกัน เมื่อก่อนใช่ว่าจะไม่เคยฆ่ายมทูต แต่โดยทั่วไปแล้วจะฆ่าเพราะถูกควบคุมด้วยจิตสำนึกภายในร่างกายมากกว่า โอกาสที่โจวเจ๋อลงมือด้วยตัวเองนั้นไม่เยอะเลย
‘ฉึบ!’ เขาดึงเล็บออกมา ร่างของยมทูตผู้ชายล้มเอนไปข้างหลัง แผลที่คอยังคงมีเลือดไหล เล็บไม่ได้ฆ่าสมรรถภาพทางกายเท่านั้น แต่ยังบดขยี้จิตวิญญาณของเขาในขณะเดียวกัน
โจวเจ๋อหมุนตัวช้าๆ มองไปที่ยมทูตสวีโจวทั้งสี่คนที่อยู่ข้างหน้า ในดวงตาของเขา เกิดความพร่าเลือนอีกครั้ง แต่ความพร่าเลือนก่อนหน้านี้เป็นของปลอม ทว่าครั้งนี้กลับเป็นของจริง
ยมทูตท้องถิ่นสวีโจวทั้งสี่คนรู้สึกเย็นสันหลังของตัวเอง หนังศีรษะชาวาบ พลางคิดว่าเพื่อนร่วมงานของตัวเองที่ถนัดด้านการลอบฆ่ามากที่สุด กลับตายไปดื้อๆ แบบนี้เหรอ เขาเหมือนท่อนไม้ ที่ยืนเซ่อซ่าอยู่ตรงนั้น ถูกคนใช้เล็บแทงดับชีวิต
ผู้หญิงใส่กางเกงหนังลนลานยิ่งกว่า จากที่เธอรู้คอ คนที่น่ากลัวมากที่สุดในทงเฉิงคือตำรวจคนนั้น เขายังไม่ได้ลงออกมือเลย แต่คนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ ก็น่ากลัวถึงขนาดนี้แล้ว!
โจวเจ๋อก้มหน้าเงียบๆ มองเล็บของตัวเองที่ยังมีเลือดหยด เขายกมือขึ้น เอาเล็บเข้ามาใกล้มาวางตรงหน้าตัวเอง จากนั้นจึงแลบลิ้นแล้วเลีย มีกลิ่นคาวเล็กน้อยและมวลหนาอยู่บ้าง แต่ก็มีความเผ็ดร้อนอยู่เหมือนกัน
“รส…ชาติ..เป็น…ยังไง…” คนนั้นที่อยู่ในร่างถามเขา
โจวเจ๋อครุ่นคิดเล็กน้อย สุดท้ายจึงตอบความในใจออกมา “ไม่เลวนะ”
………………………………………………………………………..