ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 501 ระเบิด!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 501 ระเบิด!

สาวน้อยโลลิฟื้นแล้ว อันที่จริงเธออ่อนแอนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ยังพอสำแดงพลังออกมาได้ เมื่อเทียบกับโจวเจ๋อที่ประเคนเล็บสิบนิ้วให้เด็กน้อยนั่นและทนายอันที่อาหารเป็นพิษ สถานการณ์ดีกว่ามากทีเดียว

ทั้งสามคนไม่กล้าชักช้าเสียเวลามากนัก เตรียมตัวแค่นิดหน่อยก็พร้อมออกไปแล้ว ใช้สาวน้อยโลลิเป็นทัพหน้า จัดการข้ารับใช้ไม่กี่คนหน้าปากถ้ำก่อนแล้วค่อยกลับไปทางเดิม

จริงๆ แล้ว ขอแค่ออกไปถึงด้านนอก โดยพื้นฐานแล้วก็นับว่าปลอดภัย

ครั้งนี้เจ้าผีดิบน้อยไม่ตายแต่ก็เจ็บหนัก กระทั่งแม้แต่บำเพ็ญรักษาตัวตั้งหกสิบปี หากไม่มีโอกาสละก็อาจจะฟื้นพลังไม่ได้เลยก็ได้

สำหรับปีศาจและอสูรตามป่าเขาที่เหลืออยู่ในยุคสมัยนี้ การอนุญาตให้พวกมันกลายเป็นปีศาจถือเป็นการฝ่าฝืนกฎ พวกเทพเซียนยิ่งใหญ่ในป่าเก่าแก่ทางตะวันออกเฉียงเหนือทำได้เพียงหดหัวและประพฤติตนอย่างมีระเบียบ พวกที่อยู่ในถ้ำจนไม่เจอแสงสว่างก็ไม่กล้าขึ้นมาก่อกวน

เมื่อจัดเก็บและเตรียมพร้อมออกเดินทางแล้ว จู่ๆ โจวเจ๋อก็พูดกับทนายอัน “ไม่บอกลาพ่อของคุณหน่อยเหรอ”

“ไปๆๆ” ทนายอันผลักโจวเจ๋ออย่างไม่สบอารมณ์

อาศัยจังหวะที่นักชงเหล้าคนนั้นเพิ่งออกไปเสิร์ฟเหล้าในงานเลี้ยง ทั้งสามคนก็เดินออกไปและไม่กล้ารอช้าอีกแม้แต่ครู่เดียว ตรงดิ่งไปที่ถ้ำนั้นทันที

เวลานี้งานเลี้ยงข้างนอกยังไม่เลิกรา!

มีข้ารับใช้สวมชุดดำสามคนยืนอยู่หน้าปากถ้ำ ก็คือคอยเฝ้าอยู่ตรงนั้น ผู้ชายอกสามศอกสองคนอย่างโจวเจ๋อและทนายอันจงใจถอยไปด้านหลัง หลีกให้สาวน้อยโลลิไปด้านหน้า

“ยมโลกมีกฎระเบียบ ข้ามสู่แดนน้ำพุเหลือง!”

สาวน้อยโลลิอ้าปาก เงาสีดำแผ่ขยายออกไป ลิ้นอันน่าสะพรึงกลัวม้วนตวัดออกมา ข้ารับใช้ทั้งสามไม่ทันได้ป้องกันตัวจึงถูกพันรัดเอาไว้ แต่อย่าดูถูกแรงดิ้นรนขัดขืนของพวกเขาเชียว เพราะดูเหมือนยังเหลือทางหนีทีไล่ให้อยู่จึงไม่ถูกสาวน้อยโลลิพาตัวไป

“ไม่จำเป็นต้องพาเข้าประตูแห่งนรก แค่กวาดพวกเขาออกไปก็พอแล้ว” ทนายอันเอ่ยเตือน

สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือออกไป ไม่ใช่ส่งผีที่นี่เข้าประตูแห่งนรกเอาแต้มคะแนน แม้ว่าที่นี่จะมีวิญญาณมากมายขนาดนี้ เหมาะสำหรับเก็บแต้มคะแนนรัวๆ จริงๆ ก็ตาม แต่สภาพของพวกเขาในตอนนี้ พวกเขาจะเป็นฝ่ายเก็บแต้มคะแนนหรือแต้มคะแนนจะเก็บพวกเขากันแน่

สาวน้อยโลลิพยักหน้า ลิ้นกวาดไปออกไปทันทีจนข้ารับใช้ทั้งสามถูกกวาดลอยละลิ่วกระแทกกับผนัง ร่างกายเริ่มพร่ามัว ไม่เห็นชัดเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป

“ไป!”

ทนายอันและโจวเจ๋อรีบกระโจนออกไป ตอนนี้สภาพร่างกายของทนายอันแย่มาก แต่ตอนที่หนีไม่คิดชีวีตก็วิ่งแบบเอาเป็นเอาตายเหมือนกัน และไม่นานทั้งสามก็วิ่งเข้าไปในถ้ำ

“บนหัว อยู่ข้างบนหัว!” ทนายอันชี้ไปเหนือหัวและพูดขึ้น

ตอนที่เข้ามาก่อนหน้านี้เขากับเถ้าแก่ไถลร่วงลงมาจากด้านบน

สาวน้อยโลลิอ้าปากใส่ด้านบน ลิ้นแลบแผ่ยาวออกไปทันที ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวเข้ากับอะไรบางอย่างด้านบนแล้ว จากนั้นร่างของเธอก็ถูกดึงขึ้นไป ต่อด้วยลิ้นหล่นลงมา

“ไอ้นี่มีประโยชน์กว่าอาวุธของแบทแมนเสียอีก” ทนายอันเอ่ยชม

โจวเจ๋อพันลิ้นไว้รอบเอวของตัวเอง จากนั้นยืดยาวไปพันรอบตัวของทนายอันอีกที

“ไปทีละคนดีไหม ไปทั้งคู่เลยจะไหวเหรอ” โจวเจ๋อตะโกนขึ้นไปด้านบนด้วยความกังวลนิดหน่อย นี่มันน้ำหนักของชายอกสามศอกตั้งสองคนเลยนะ

ทันทีหลังจากนั้น โจวเจ๋อรู้สึกเพียงแค่แรงดึงมหาศาลจากตรงเอวของตัวเอง ดึงเขาและทนายอันขึ้นไปพร้อมกันด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ

‘ตุ้บ!’

‘ตุ้บ!’

หลังจากที่ทั้งสองถูกดึงขึ้นมาแล้ว ลิ้นก็หายไป ทั้งคู่จึงตกลงบนพื้นทางเดิน

“เวร…”

ทนายอันหมอบบนพื้น อยากจะคลานขึ้นมาแต่เขาเจ็บตัวติดๆ กันหลายครั้งจนจะทนไม่ไหวแล้ว เหงื่อเย็นผุดพรายบนใบหน้าหยดลงมาอย่างต่อเนื่อง เกือบจะตาเหลือกสลบไปแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ ตอนที่เขาตกลงมาดันมีหินนูนๆ ก้อนหนึ่งกระทุ้งเข้าหน้าท้องของเขาพอดิบพอดี ทำให้สถานการณ์ของเขายิ่งผีซ้ำด้ำพลอย

สาวน้อยโลลินั่งยองๆ อยู่ตรงนั้น แลบลิ้นออกมาไม่หยุด คล้ายกับคนที่กินเผ็ดไม่ได้จู่ๆ ดันกินหม้อไฟ ที่จริงเป็นเพราะว่าเมื่อกี้ลิ้นของเธอถูกดึงอย่างแรงจนตอนนี้รู้สึกเจ็บนิดหน่อย

โจวเจ๋อแบกทนายอันขึ้นมาและตะโกน “ไปเร็ว!”

ตอนนี้โจวเจ๋อไม่อยากอยู่ในสถานที่แห่งนี้ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว

สาวน้อยโลลิคลานลุกขึ้นแล้วเดินตามโจวเจ๋อไปทางนั้น และไม่รู้ว่ามันจงใจออกแบบมาอย่างนี้หรือเปล่า ตอนที่เข้าไปหมอกพิษชัดมาก แต่พอจะออกไปกลับไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย

ผู้ใหญ่สองคนกับเด็กอีกหนึ่งพยายามเดินไปตามทางเท่าที่จะทำได้ แถมมองข้างหลังเป็นระยะๆ กลัวว่าจะมีตัวอะไรไล่ตามมา

อิงอิงและจางเยี่ยนเฟิงน่าจะขับรถมาแล้ว และกำลังรอเขากับคนอื่นๆ อยู่ข้างนอก หลังจากออกไปก็ไม่เป็นอะไรแล้ว

ถ้าตอนนี้อิ๋งโกวไม่นอนหลับสนิทละก็ เดาว่าคงทนไม่ไหวโผล่ออกมาเยาะเย้ยโจวเจ๋อว่า ไม่มีเขาก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุนอย่างนี้น่ะเหรอ

ทว่าเมื่อเดินไปเรื่อยๆ จู่ๆ โจวเจ๋อก็พบว่ามันดูผิดปกติ ทำไมเดินมาตั้งนานแล้วถึงไม่เจอขั้นบันไดเสียที แม้ตอนนี้ความเร็วที่ทั้งสามคนเดินจะไม่เร็วนัก แต่ความเร็วตอนที่ลงมานั้นเป็นเพราะต้องคลำทาง จริงๆ แล้วก็ไม่เร็วเช่นกัน แต่พอตอนขาขึ้นดันใช้เวลาตั้งสองเท่าแถมข้างหน้ายังมองไม่เห็นขั้นบันไดขึ้นไปด้วยซ้ำ

“โฮก!”

จู่ๆ เสียงคำรามดังมาจากด้านหลัง โจวเจ๋อคุ้นเคยกับเสียงนี้มาก มันเป็นเสียงคำรามของผีดิบ!

โจวเจ๋อยังสัมผัสได้แม้กระทั่งพลังชี่พิฆาตที่พรั่งพรูออกมาจากร่างของอีกฝ่าย!

เด็กชายคนนั้นฟื้นแล้วแถมตามมาฆ่าแล้วใช่ไหม

ไม่สิ เขาไม่น่าจะหลุดจากพันธนาการได้ง่ายขนาดนี้นี่ อีกอย่างเขาถูกตัวเองซัดจนบาดเจ็บหนักด้วยแล้ว จะฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน

“เถ้าแก่ เถ้าแก่…” ทันใดนั้นทนายอันที่ขี่หลังโจวเจ๋ออยู่พลันพูดขึ้น

“ผมไม่ทิ้งคุณไปหรอกน่า” โจวเจ๋อพูด

“ใช่ๆ ห้ามทิ้งผมเด็ดขาดเลยนะ!” ทนายอันใช้แรงทั้งหมดที่มีตะโกนบอก

“…” โจวเจ๋อ

“…” สาวน้อยโลลิ

เดินไปข้างหน้าต่ออีกระยะหนึ่ง แต่ก็พบว่ายังมองไม่เห็นขั้นบันได โจวเจ๋อเกือบจะยืนยันได้แล้วว่าทางกลับนั้นต่างจากทางตอนที่มา

ก่อนหน้านี้ตอนที่ทั้งสามคนเพิ่งขึ้นมา เดิมทีก็ไม่มีเวลาไปวิเคราะห์สถานการณ์ ในฐานะที่เป็นโจรปล้นสุสาน พวกเขาไม่ผ่านเกณฑ์จริงๆ นั่นแหละ

แต่ในเวลานี้ ทหารไล่ล่าที่ตามมาด้านหลังดูเหมือนจะใกล้เข้ามาแล้ว

ในสุสานแห่งนี้ไม่ได้มีผีดิบแค่ตัวเดียว!

สาวน้อยโลลิถอยหลังไปสองก้าวแล้วหันหลังกลับ เห็นได้ชัดว่าเธอคิดจะขนาบท้าย ถึงอย่างไรในบรรดาพวกเขาทั้งสามคน ก็เหลือแค่เธอที่มีแรงต่อสู้ แต่ในสายตาของโจวเจ๋อมันพิลึกสิ้นดี ทั้งสองคนลงมาเพื่อช่วยเธอ ผลปรากฏว่าตอนนี้ดันกลับกัน ปล่อยให้คนที่ได้รับการช่วยเหลืออยู่รั้งท้าย นี่มันเรื่องอะไรกันละเนี่ย

‘ตึง ตึง ตึง!’

‘ตึง ตึง ตึง!’

เสียงฝีเท้าน่าอึดอัดดังลอยมา ทั้งยังมีเสียงอื่นๆ แทรกมาด้วย แม้ว่าจะมองสถานการณ์เบื้องหลังไม่ชัดเจน แต่สามารถจินตนาการออกว่า ผีดิบพาเหล่าภูตผีปีศาจไล่ล่าตามมาแล้ว

‘ตู้ม!’

ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากด้านบน แม้แต่ทางเดินแห่งนี้ก็เริ่มสะเทือนรุนแรง

จางเยี่ยนเฟิงแน่ๆ ได้เวลาแล้วเหรอ

โจวเจ๋อสบตากับทนายอัน แม่เจ้าโว้ย บังเอิญเกินไปแล้ว ถึงเวลาที่นัดกันแล้ว เหล่าจางเริ่มเอาชนวนระเบิดมาระเบิดแล้ว!

เนื่องจากการระเบิด ดูเหมือนว่าทหารไล่ล่าที่ตามมาด้านหลังจะไม่กล้าขึ้นมาอีก โจวเจ๋อได้ยินแม้กระทั่งเสียงกรีดร้องสยดสยองนับไม่ถ้วน รวมไปถึงผีดิบที่มีเสียงฝีเท้าน่าอึดอัดนั่นต่างพากันวิ่งกลับราวกับเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น

“เถ้าแก่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น” สาวน้อยโลลิประหลาดใจเล็กน้อย ตอนนี้ทั้งทางเดินเริ่มบิดเบี้ยว แถมรอยร้าวยังปรากฏขึ้นบนผนังอีกต่างหาก

“เหล่าจางกำลังเอาชนวนระเบิดระเบิดปากถ้ำน่ะ”

‘ตู้ม!’ ระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าเป็นเพราะผลกระทบจากระเบิด ทำให้โครงสร้างของทางเดินและผังใต้ดินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก เดิมที ‘อาการผีบังตา’ ที่ทำให้เดินออกไปไม่ได้ ดูเหมือนจะหายไปแล้ว

ไม่ไกลจากตรงหน้าของโจวเจ๋อมีขั้นบันไดปรากฏออกมาแล้ว!

“ไป!” ทางเดินกำลังพังถล่มลง โจวเจ๋อไม่กล้ารอช้า แบกทนายอันพุ่งไปข้างหน้าทันที

สำหรับ ‘ทหารไล่ล่า’ ด้านหลัง ดูเหมือนว่าเนื่องจากผังของที่นี่ถูกทำลาย จึงทำให้พวกเขาเกิดปัญหา

“ผังของที่นี่เป็นสถานที่หล่อเลี้ยงผีและความชั่วร้าย พอผังถูกทำลายไป พวกมันน่าจะได้รับผลกระทบใหญ่แน่ๆ ไม่รู้ว่าใครสร้างที่นี่ขึ้นมากันแน่” ในเวลานี้ทนายอันยังสามารถวิเคราะห์เรื่องนี้ได้อีก

“คุณจะมาคิดถึงเรื่องนี้ในตอนนี้ทำไมเนี่ย!” โจวเจ๋อแบกเขาวิ่งไปด้วยตะโกนไปด้วย

“งั้นควรจะคิดอะไรดีล่ะ” ทนายอันถาม

“คิดถึงเหล่าจางข้างบน ห้ามระเบิดอีกเด็ดขาด!”

‘ตู้ม!’ ระเบิดอีกแล้ว!

“…” โจวเจ๋อ

“…” ทนายอัน

“…” สาวน้อยโลลิ

ทั้งสามที่เพิ่งจะวิ่งมาถึงขั้นบันได รู้สึกว่าพื้นดินใต้ร่างของตัวเองทรุดลงไปอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นทั้งสามก็เริ่มร่วงตกลงไปพร้อมกัน

สาวน้อยโลลิรีบแลบลิ้นออกมาเกาะไว้ด้านบนทันที ขณะนี้เธอทำได้แค่คว้าตัวทนายอันที่โจวเจ๋อแบกอยู่บนหลัง

‘ตู้ม!’

โจวเจ๋อเริ่มไถลร่วงลงไป ส่วนสาวน้อยโลลิคว้าตัวทนายอันและเริ่มขยับขึ้นไป

‘จ๋อม!’

การกระแทกหลายครั้งต่อๆ กัน กระแทกจนตับไตไส้พุงของโจวเจ๋อย้ายตำแหน่งไปแล้ว เขาเอื้อมมือไปลูบหน้าผาก หน้าผากแตกเลือดออกเต็มมือ

เขาคลำมือถือออกมาและเปิดไฟฉายส่อง โชคดีที่มือถือมีแบตเตอรี่ค่อนข้างมากทีเดียว

โจวเจ๋อใช้มือถือส่องด้านบนและพบว่ามีรอยร้าว เมื่อกี้เขาน่าจะร่วงตกลงมาจากตรงนั้น

แต่น่าเสียดายที่เล็บของเขาหักไปแล้ว ถ้าเล็บยังอยู่ละก็ อาจจะเป็นสไปเดอร์แมนปีนกลับขึ้นไปเหมือนเมื่อก่อนได้ แต่ตอนนี้เกรงว่าจะทำไม่ได้แล้ว

โจวเจ๋อใช้ไฟฉายส่องไปรอบๆ จู่ๆ โจวเจ๋อก็พบว่ามีกระเบื้องเรียงเป็นแถวอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา จึงเริ่มสำรวจผังใต้ดินทั้งหมดในหัวอย่างรวดเร็วรอบหนึ่ง เขาขึ้นไปถึงทางเดินตรงนั้นแล้ว แต่ทางเดินถูกระเบิดถึงได้ลงมาอีกครั้ง แต่กระเบื้องที่อยู่ใต้เท้าของเขา มันคือบ้าน บ้านใต้ดินแถบนั้น และตอนนี้เขากำลังยืนอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง!

โจวเจ๋อเอื้อมมือไปยกกระเบื้องขึ้น หมายจะดูสถานการณ์ภายในห้อง มีพล็อตที่คล้ายกันนี้ในหนังกำลังภายในหลายเรื่อง บ้านมุงกระเบื้องในสมัยโบราณในแง่การป้องกันการแอบดูบนหลังคานั้นห่วยแตกจริงๆ

เพียงแต่ว่า โจวเจ๋อดันไม่ใช่ยอดยุทธ์อะไร ประกอบกับบ้านมุงกระเบื้องก็ได้รับผลกระทบจากการระเบิดก่อนหน้านี้เช่นกัน โจวเจ๋อยกกระเบื้องออกไปได้แค่ไม่กี่แผ่น ทันใดนั้นหลังคาก็ยุบฮวบลงไป แม้แต่โจวเจ๋อก็ร่วงลงไปด้วยเช่นกัน

‘จ๋อม!’

ดูเหมือนจะตกลงไปในน้ำแล้ว แต่น้ำนี่ข้นมากแถมยังหวานด้วย…

…………………………………………

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน