ตอนที่ 503 แจกน้ำตาลหน่อย!
“ฉิบหาย!”
หลังจากเดาตัวตนของอีกฝ่ายออกคร่าวๆ ในใจ พริบตาเดียวโจวเจ๋อก็เปลี่ยนท่าทีปุ๊บปั๊บ จากก่อนหน้านี้ที่ยืนอยู่ข้างนอกอย่างสงบเสงี่ยมเพียงยิ้มหยันและส่ายหน้าตอนที่คนอื่นเชิญชวนเขา เปลี่ยนเป็นเริ่มวิ่งไปทางศาลาทันที!
เหล้า
ฉันดื่ม!
ฉันดื่ม!
ฉันอยากดื่มเหล้า!
ทว่าโจวเจ๋อยิ่งวิ่งเร็วเท่าไร ศาลากลับยิ่งไกลออกไป หมอกรอบตัวก็หนาขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเขาไม่สามารถเข้าถึงศาลานั้นได้เสียอย่างนั้น
เสียงน้ำไหลข้างหูเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ การสัมผัสความเป็นจริงก็เริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ!
นี่เป็นสัญญาณว่ากำลังจะตื่นขึ้นจากความฝัน โจวเจ๋อกัดฟันพลางสบถด่าในใจ เมื่อคนอื่นพบเจอเรื่องแบบนี้จะรู้สึกขอบคุณฟ้าดินที่มีควันจากหลุมศพบรรพบุรุษถึงได้เจอโอกาสดีๆ เช่นนี้ แต่พอถึงตาของตัวเองตรงนี้เขาดันอวดเก่งยิ้มเยาะปฏิเสธไปเสียได้
บัดซบเอ๊ย!
ยิ่งโจวเจ๋อวิ่ง หัวใจก็ยิ่งเริ่มเต้นเร็วขึ้น ทันใดนั้นโจวเจ๋อโบกมือสองข้าง เขาก็ตื่นขึ้นมาแล้ว เขาพบว่าตัวเองยังนอนอยู่ก้นสระ ขณะเดียวกันก็เห็นว่าเด็กชายคนนั้นยังพิงอยู่ตรงข้ามเขาแน่นิ่งไม่ขยับเขยื้อน
โจวเจ๋อยื่นมือไปทึ้งผมตัวเอง กลับพบว่าความรู้สึกที่มือสัมผัสต่างออกไป เขารีบแกะผ้าพันแผลออกทันที และสังเกตเห็นว่าเล็บของตัวเองยาวออกมาแล้ว
ครู่หนึ่ง ภายในใจโจวเจ๋อทั้งสุขทั้งเศร้าเคล้ากัน สิ่งที่สุขคือสระน้ำนี่มีผลในการรักษาผีดิบอย่างน่าอัศจรรย์ สิ่งที่เศร้าคือความฝันเมื่อครู่นี้มีความหมายหลายอย่างเกินไป
กระทั่งเป็นไปได้เหลือเกินว่าคนที่สร้างสถานที่แห่งนี้ในตอนแรกก็คือคนผู้นั้น!
ทำไมเขาถึงไม่คว้าโอกาสลองถามชายคนนั้นดูกันนะว่า สมุดยมทูตห่าเหวนี่นอกจากทำให้ปลาซิวปลาสร้อยอย่างสาวน้อยโลลิและทนายอันตกใจกลัวแล้วยังมีประโยชน์อะไรอีกบ้าง
โอกาสแบบนี้ จังหวะแบบนี้ อยากเจออีกคงยากแล้วละ
แต่จะว่าไปแล้ว วานรย้ายภูเขาในตอนนั้นดูตัวเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มดีแฮะ แม้แต่ท่าทางเลียแข้งเลียขารินเหล้ายังคล้ายกับเจ้าลิงตัวนั้นในร้านหนังสือเลย โจวเจ๋อรู้สึกว่ามันตลกดี
เวลานี้ประตูห้องถูกผลักเปิดออก คิดไม่ถึงว่าคนที่เข้ามาคือผีดิบสวมชุดขุนนางแมนจู แล้วชายร่างเปลือยเปล่าคนนั้นล่ะ
“นายท่าน ฟื้นแล้วหรือยังขอรับ” ผีดิบแมนจูคุกเข่าลงข้างสระพลางถามไถ่
ต้องขอบคุณที่น้ำในสระทั้งลึกและมีสีเข้มในเวลาเดียวกัน แม้อีกฝ่ายจะนั่งยองๆ อยู่ข้างสระ ตราบใดที่ไม่ลงมาก็ไม่อาจมองเห็นเด่นชัดว่าเกิดอะไรขึ้นใต้สระบ้าง
“นายท่าน ข้าเป็นห่วงท่านเหลือเกิน” ผีดิบแมนจูเอ่ยต่อ
ไอ้หมอนี่ดูไม่น่ามีเจตนาดี
โจวเจ๋อเงยหน้านิดหน่อย ผีดิบแมนจูนั่นดันบังเอิญนั่งยองๆ อยู่เหนือหัวเขาพอดิบพอดี
“นายท่าน ตอนนี้ท่านฟื้นตัวเป็นอย่างไรบ้าง” ผีดิบแมนจูถามต่อ
โจวเจ๋อเห็นว่าเด็กชายยังแน่นิ่ง แต่ในเวลานี้เอง คิดไม่ถึงว่าผีดิบแมนจูจะยื่นมือทั้งสองข้างของตัวเองเหยียดลงไปก้นสระ โจวเจ๋อเห็นเงาดำคล้ายๆ กับมือคู่หนึ่งควานหาอยู่ตรงหน้าเขาไม่หยุด
โจวเจ๋อขยับเบาๆ ไปด้านข้างเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ แต่ปัญหาคือไม่ว่าจะขยับเบาแค่ไหนก็เกิดคลื่นน้ำอยู่ดี
ผีดิบแมนจูชะงักครู่หนึ่ง สะดุ้งตกใจจนชักมือทั้งคู่กลับ
“นายท่าน ท่านฟื้นแล้วหรือ ตอนนี้เจ้าอาเถี่ยนั่นกำลังฆ่าสังหารหมู่ ภูตผีปีศาจไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือของเขาได้ แม้กระทั่งมีภูตผีวิญญาณบางดวงที่มีมิตรไมตรีที่ดีกับนายท่าน อาเถี่ยเขาก็ไม่เว้น ข้าเกลี้ยกล่อมเขาแล้ว เขาก็รั้นไม่ฟัง เขาเขมือบกินจนใกล้จะเสียสติไปแล้ว ข้าตะโกนเรียกเขาให้ขึ้นไปด้วยกันเพื่อดูว่าจะสามารถจับพวกตัวป่วนข้างบนได้หรือไม่ แต่เขาก็ยังไม่ฟังอยู่ดี นายท่านว่าข้าควรจะทำอย่างไรดีเล่า”
ผีดิบแมนจูยังควานหาต่อไป ใช่แล้ว เขาพูดพล่ามไร้สาระมากมาย แม้แต่โจวเจ๋อที่เป็นคนนอกยังสัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายมุ่งร้ายของเขา
อาจเป็นไปได้ว่าเด็กชายสั่งสมอำนาจบารมีเอาไว้มากเกินไป จนแล้วจนรอดตอนนี้เขาเลยยังมีความกังวลอยู่บ้าง
แต่ตาเฒ่าเอ๋ย แกเลือกผิดที่แล้ว แกขยับไปทางซ้ายอีกหน่อยสิ นายท่านที่แกหาน่ะอยู่ทางซ้ายของแกไง
แต่ต่อมา โจวเจ๋อกลับได้ยินผีดิบแมนจูบนหัวขยับมาทางขวา
“…” โจวเจ๋อ
เดิมทีโจวเจ๋อนึกว่าโลกของผีดิบคงจะจืดชืดน่าดู และซ้ำซากจำเจกระทั่งเรียกได้ว่าไม่ซับซ้อนเลย
ทุกคนถูกฝังอยู่ในป่าเขาลำเนาไพรลึกแห่งหนึ่ง หรือในสุสานโบราณที่ไม่มีใครทราบ แม้ว่าจะออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่ก็ยังโดดเดี่ยวและเดียวดายอยู่ดี
สามโลกไม่ยอมรับตัวตนของพวกเขา บวกกับจำนวนก็เหลือน้อย ทำให้ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว
ใครจะรู้ว่าฉากแก่งแย่งชิงดีในวังจะเกิดขึ้นที่นี่เช่นกัน และสิ่งที่ไร้สาระที่สุดคือ เขาที่เป็นผู้รับชมยังเป็นผีดิบเหมือนกันอีกต่างหาก
“นายท่าน ท่านรู้หรือไม่ ตอนข้ายังไม่รู้ประสีประสา ตั้งแต่ออกมาจากสุสานโบราณก็เกือบจะไปโจมตีหมู่บ้านบนเขาเสียแล้ว หากถ้าท่านไม่โผล่มาขวางข้าไว้ ข้าอาจจะถูกกฎแห่งสวรรค์ลงโทษเพราะความผิดที่ข้ากระทำจนดับสลายไปนานแล้ว ฉะนั้นข้าจึงมีความจงรักภักดีและความเคารพอย่างสูงสุดต่อท่าน หากไม่มีท่าน ก็คงไม่มีข้าในวันนี้”
ขนลุกขนชันขึ้นมาแล้ว
โจวเจ๋อรู้สึกว่าอีกฝ่ายพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว ใกล้จะเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงแล้วละมั้ง
ตามคาด ผีดิบแมนจูเปลี่ยนเรื่อง “นายท่าน ข้าขอดูท่านหน่อยว่าฟื้นตัวไปถึงขั้นไหนแล้ว วางใจเถิด ไม่ว่าข้างนอกจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้าก็จะปกป้องท่าน!”
ขณะที่พูด อีกฝ่ายก็ยื่นมือสองข้างลงมา อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่โจวเจ๋ออยู่พอดิบพอดี
โจวเจ๋ออยากจะหลบหนีตามสัญชาตญาณ แต่ปรากฏว่ามือของอีกฝ่ายดันคว้าไว้ทัน
“นายท่าน ท่านหลบทำไมหรือ หรือว่านายท่านไม่เชื่อข้า ไม่เชื่อข้า!!!! ท่านจะไม่เชื่อข้าได้อย่างไร!!!!”
ผีดิบแมนจูดูเหมือนจะตื่นตระหนกทันที ราวกับการเสแสร้งของเขาถูกจับได้แล้ว เวลานี้เขารู้สึกว่าตัวเองได้เดินมาถึงริมหน้าผา ไม่มีทางให้ถอยอีกต่อไปแล้ว!
เขารีบใช้สองมือคว้าไหล่โจวเจ๋อไว้อย่างรวดเร็วทันที!
“เอ๊ะ นายท่าน ท่านแช่จนบวมอืดไปแล้วหรือ”
ร่างของเด็กชายสูงใหญ่เท่าไรเอง แต่ตอนนี้ปรากฏว่าผีดิบแมนจูดันจับไหล่โจวเจ๋อเอาไว้ได้ พลันสับสนทันที ช่างตัวใหญ่อะไรอย่างนี้!
จากนั้น โจวเจ๋อรู้สึกแค่ว่ามีแรงเพิ่มขึ้นบนไหล่ของเขาอย่างกะทันหัน และทั้งตัวของเขาก็ถูกดึงลอยขึ้นมาจากผิวน้ำ
“เจ้าเป็นใคร!” ผีดิบแมนจูแสดงท่าทางดุร้ายทันทีและเผยเขี้ยวออกมา ยิ่งกว่านั้นยังกระโจนใส่โจวเจ๋อโดยไม่ลังเล!
โจวเจ๋อยื่นมือทั้งสองออกไปตามสัญชาตญาณ แม้ว่าเล็บที่งอกยาวออกมาจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็คมมากพอจะสกัดกั้นการโจมตีของอีกฝ่ายได้ แต่แรงเฉื่อยมหาศาลทำให้ทั้งคู่ลื่นลงไปในสระด้วยกัน และเริ่มต่อสู้อย่างบ้าคลั่งในสระน้ำ!
แกเลือกผิดคนแล้ว แกหาผิดคนแล้วโว้ย!
โจวเจ๋ออยากเตือนอีกฝ่าย เขาเต็มใจเป็นผู้รับชมและยินดีช่วยอีกฝ่ายด้วย แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในสภาวะตื่นตูม เอาแต่อยากฆ่าโจวเจ๋อให้ตายและไม่สนสี่สนแปดใดๆ แล้ว
จริงอยู่ที่ว่าสระน้ำแห่งนี้ช่วยโจวเจ๋อฟื้นอาการบาดเจ็บไม่น้อย แต่ถึงอย่างไรก็ฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่อยู่ดี ร่างกายยังอยู่ในสภาพอ่อนแอ แถมตอนนี้เขายังต่อสู้ประชิดตัวกับผีดิบนี่ ในนาทีนี้เขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ!
ผีดิบตัวนี้ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แค่พรวดเข้ามาก็ใช้ปากกัด คล้ายกับเป็นโรคพิษสุนัขบ้า อีกทั้งขยับตัวหลบในน้ำก็ไม่สะดวกอย่างยิ่ง
วินาทีต่อมา ไหล่ของโจวเจ๋อถูกอีกฝ่ายกัดเข้าแล้ว
‘ฉึก…ครืดคราด…’ เล็บของโจวเจ๋อแทงเข้าร่างของอีกฝ่ายทันที แต่ดันไปกระตุ้นความดุร้ายของอีกฝ่าย จนเอาแต่กัดร่างของเขาต่อไปไม่ยั้ง!
เลือดค่อยๆ กระจายออกมา เพียงแต่ว่าเดิมทีสีของสระน้ำก็เข้มพออยู่แล้ว ฉะนั้นแม้ว่าด้านล่างจะมีกระแสน้ำไหล ก็ไม่ส่งผลกระทบมากเท่าไรนัก
โจวเจ๋อไม่อยากตกเป็นเหยื่อของละครตบตีแย่งชิงในวังหลวงนี่ แต่ภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าเขาถูกลิขิตให้ต้องพบเจอกับละครโศกนาฏกรรมนี่ไปแล้ว สถานการณ์คับขันจนโจวเจ๋อไม่มีเวลาและพื้นที่ในการสำแดงอิทธิฤทธิ์เลยสักนิด
“โฮก! กึกกัก!”
ผีดิบแมนจูปล่อยไหล่ของโจวเจ๋อและกัดลงไปที่คอของโจวเจ๋อทันที!
‘พลั่ก!’
ในตอนนี้เอง ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายถูกตัวอะไรคว้าเอาไว้ และจู่ๆ ทั้งร่างก็ถูกโยนลอยละลิ่วออกไป
โจวเจ๋อไม่สนใจอาการบาดเจ็บบนตัว รีบปีนออกจากสระน้ำทันที
ไม่ไกลจากด้านข้างของเขานั้น เด็กชายก็หมอบอยู่ข้างๆ สระน้ำเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าคนที่ลงมือเมื่อกี้ก็คือเด็กชาย
ตอนนี้สภาพของเด็กชายเองก็ดูน่าอนาถไม่แพ้กัน กระทั่งสามารถพูดได้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาน่าสังเวชยิ่งกว่าโจวเจ๋อมากโข โจวเจ๋อแค่หัวแตกเลือดไหล เล็บและกระดูกหักไม่กี่ท่อน แต่เจ้าหมอนี่ถูกเล็บแปดนิ้วแทงเข้าร่างไปเต็มๆ
เวลานี้เล็บที่โจวเจ๋อฝังไว้ในร่างของเขาหายไปแล้ว ดูเหมือนถูกดึงออกมาแล้ว แต่บนร่างของผีดิบน้อยนี่ยังมีรูแปดรูที่ชัดเจนสุดๆ ดูน่าขนลุกมาก
“นายท่าน คิดไว้ไม่มีผิด ท่านไม่เชื่อข้า คิดไม่ถึงว่าท่านจะแอบเลี้ยงผีดิบไว้ข้างนอก!!!!”
ผีดิบแมนจูคำรามอย่างดุร้าย ราวกับว่าเขาเป็นสตรีคลั่งรักที่พบความจริงว่าชายผู้เป็นที่รักทอดทิ้งตัวเอง!
“นางออกไปแล้วใช่ไหม” จู่ๆ เด็กชายก็เอ่ยปากถาม
แหม แกนี่มันเป็นคนคลั่งรักเสียจริง!
“ออกไปแล้ว แต่ตรงหน้านี้จะเอายังไง”
“มันอยากกินข้า” เด็กชายพูด “หลังจากกินข้า มันก็คงไม่ปล่อยเจ้า ข้าไม่รู้ว่าอาเถี่ยเป็นยังไงบ้าง หรือถูกมันลอบโจมตีไปแล้ว”
โจวเจ๋อพยักหน้าพลางหายใจเข้าลึก แม้ว่าจะไม่ได้อธิบายชัดๆ แต่สื่อความหมายว่าตกลงร่วมมือกันแล้ว ฉะนั้นการเปลี่ยนพรรคเปลี่ยนฝ่ายช่างเป็นเรื่องที่เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนทั้งคู่ยังรบราฆ่าฟันกันอยู่เลย แถมโจวเจ๋อยังตรึงเขาไว้บนผนังอีกต่างหาก ตอนนี้กลับต้องยืนอยู่ในแนวรบเดียวกัน
“โฮก!!!!” ผีดิบแมนจูส่งเสียงคำรามร้อง “นายท่าน ข้าจะกินท่านที่ทรยศหักหลังกับไอ้ตัวประหลาดไม่มีที่มาที่ไปนี่ไปพร้อมๆ กันซะ! นี่เป็นความเคารพอย่างสูงสุดของข้าที่มีต่อนายท่าน!”
ผีดิบแมนจูเงยหน้าขึ้น ร่างของเขาขยายตัวอย่างช้าๆ กลิ่นอายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่าเดิมมาก
“อาเถี่ยถูกเขากลืนไปแล้วจริงๆ!”
ความตื่นตระหนกฉายชัดในแววตาของเด็กชาย เขาเพิ่งจะฟื้นจากอาการบาดเจ็บได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับผีดิบที่เพิ่งจะกลืนกินสหาย เขาไม่คิดว่าโอกาสชนะของเขาจะสูงนัก
ในตอนนี้เอง เขาสังเกตเห็นเล็บของโจวเจ๋องอกยาวออกมาอีกครั้งจากหางตา จึงรีบพูดขึ้นทันที “ป้อน!”
“หือ” โจวเจ๋อหันหน้าไปมองเขา
“ป้อนน้ำตาลให้มันชิมหน่อย น้ำตาลอร่อยมากเชียวละ”
…………………………………………………