ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 37 มีเงินก็เสวยสุขเสียหน่อย

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 37 มีเงินก็เสวยสุขเสียหน่อย

วันต่อมา

วันอาทิตย์

ฟางผิงตื่นแต่เช้า ไม่คิดจะไปรังควานอะไรน้องสาว

อาบน้ำแล้วก็สวมชุดที่ดูเป็นผู้ใหญ่เล็กน้อย เขาเอาเงินที่ซ่อนไว้ในห้องทั้งหมดยัดใส่กระเป๋าเป้

วันนี้เขาวางแผนจะไปดูบ้าน ทางที่ดีควรเป็นบ้านที่มีห้องออกกำลังภายในตัว

ถ้าถูกก็ซื้อ แพงก็เช่าเอา

ตอนนี้บ้านที่เขาอยู่มีพื้นที่น้อยเกินไป อุปกรณ์อะไรก็ไม่มี ฟางผิงทำได้เพียงออกกำลังกายง่ายๆ เท่านั้น

ไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือ เขาจึงออกกำลังกายได้อย่างจำกัด

ทั้งเคล็ดวิชาก็จะมาอยู่ในมือแล้ว ฟางผิงจำเป็นต้องหาสถานที่เหมาะสมสำหรับฝึกวิชาสักหน่อย

ตัวเมืองหยางเฉิงไม่ได้ใหญ่มากมาย

ฟางผิงไม่อยากซื้อบ้านแถวชานเมือง ห่างจากบ้านตัวเองเกินไป ไม่ค่อยสะดวก

ดังนั้นจึงเลือกบ้านในย่านที่ไม่ไกลจากจิ่งหูหยวนและโรงเรียนเกินไป

ต้องเป็นย่านใหม่ ทั้งตกแต่งให้พร้อมเสร็จสรรพโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรอีก

ถ้าซื้อบ้านแบบนั้นไม่ได้ มือสองก็ยังดี

สภาพแวดล้อมต้องดี ราคาสมเหตุสมผล

เมื่อลองคิดดู ตัวเลือกที่เหลืออยู่ก็มีไม่มากแล้ว

แปดนาทีต่อมา

กวนหูหยวน

กวนหูหยวนอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนและจิ่งหูหยวนนัก ตั้งอยู่ระหว่างกลางของทั้งสองแห่ง

เป็นย่านที่เปิดให้ซื้อเมื่อปี 2006 อีกปีให้หลังค่อยมีคนเข้ามาอาศัยอยู่อย่างเป็นทางการ

ตอนนี้ผ่านมาสองปีแล้ว บ้านในกวนหูหยวนยังขายไม่หมด ฝ่ายบริการขายก็ทำงานอยู่เหมือนกัน

สาเหตุที่ขายไม่หมด ไม่ใช่เรื่องปัญหาสภาพแวดล้อมหรือคุณภาพ แต่เพราะตอนนี้คนของหยางเฉิงไม่ได้มีความต้องการซื้อบ้านมากขนาดนั้นแล้ว

ปี 2008 บ้านในเมืองใหญ่มีไม่เพียงพอความต้องการ พวกปั่นราคาบ้านก็มีไม่น้อย

แต่หยางเฉิงเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ที่อยู่ภาคกลาง น้อยคนที่จะมาปั่นราคาบ้านที่นี่ ไม่คุ้มค่าพอ

ฝ่ายบริการขาย

ตอนที่ฟางผิงเข้ามา ด้านในนั้นเงียบกริบคล้ายกับไม่มีคนอยู่

ยังไงก็เปิดขายมาแล้วสองปี ห้องที่เหลืออยู่ คงจะเป็นห้องที่ขายไม่ออก ไม่มีตัวเลือกมากมายนัก

เห็นฟางผิงเข้ามา พนักงานไม่กี่คนที่กำลังพูดคุยกันก็หยุดบทสนทนาทันที

ผ่านไปสักพัก พนักงานหญิงสวมชุดยูนิฟอร์มอายุประมาณยี่สิบปีก็เดินเข้ามา

“คุณผู้ชาย มีห้องที่หมายตาไว้หรือยังคะ? ถ้าอยากดูห้อง ให้ฉันไปดูเป็นเพื่อนคุณได้…”

พนักงานคนนั้นกระตือรือร้นไม่น้อย ทั้งไม่สนใจเรื่องอายุของฟางผิงเหมือนกัน

เด็กรุ่นเดียวกับฟางผิง บางคนก็เตรียมตัวจะแต่งงานแล้วเช่นกัน

เมื่อแต่งงานก็ต้องซื้อเรือนหอ

ดังนั้นเธอจึงไม่ถามว่าฟางผิงอยากซื้อบ้านหรือเปล่า แต่ถามตรงๆ ว่าหมายตาห้องไหนไว้ นี่นับเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่ง

บ้านในกวนหูหยวนเปิดขายมาสองปีแล้ว พนักงานสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรในตอนนั้น คงไม่แปลกที่จะมีประสบการณ์แล้ว

ลูกค้าเข้าประตูมาต้องถามความต้องการ พาไปดูบ้าน

ตอนที่ลูกค้าลังเล อย่าได้เสนอตัวเลือกมากมาย ยกมาเปรียบเทียบพร้อมกันหลายห้อง

ลูกค้าบางคนลังเลเรื่องแบบบ้าน พอเอาให้เลือกเยอะเข้าก็ยิ่งลังเลกว่าเดิม

มีหลายครั้งที่สามารถทำข้อตกลงซื้อขายโดยที่ดูเพียงห้องแรก

ลูกค้าบางคนไปๆ มาๆ อยู่หลายรอบ ท้ายที่สุดก็คิดว่าห้องที่ดูเป็นห้องแรกนั้นดีที่สุด มีประสบการณ์ให้เห็นจนชินแล้ว

อีกอย่างวัยรุ่นอย่างฟางผิงนั้นไม่เรื่องมาก

ถ้าเปลี่ยนเป็นหญิงวัยกลางคน คงจะปวดหัวไม่น้อย

พนักงานขายคิดไปพลาง พร้อมกับร่ายวาทศิลป์ที่เธอพูดมาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง

ฟางผิงไม่ตัดบทอะไร รอเธอพูดจบแล้ว ค่อยเอ่ยว่า “มีห้องที่ตกแต่งให้เสร็จสรรพเลยหรือไม่?”

“มีค่ะ!”

พนักงานหญิงกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา เอ่ยความต้องการแบบนี้ คงเป็นลูกค้าที่ตั้งใจมาซื้อ

ลูกค้าที่เข้ามาแบบไม่เอ่ยถึงความต้องการ พูดเพียงว่าอยากเลือกดูก่อน สุดท้ายก็แค่มาดูเล่นๆ ไม่ได้จะซื้อจริงทั้งนั้น

เมื่อตอบกลับแล้ว พนักงานหญิงก็รีบเดินไปยังโมเดลบ้านจำลองที่อยู่ด้านข้าง ชี้มือที่ตึกแถวในนั้น “ตึกแถวที่แปด เก้า สิบล้วนเป็นห้องที่ตกแต่งเสร็จสรรพ แต่ตอนนี้ขายออกไปเกือบหมดแล้ว ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายอยากได้ชั้นไหนคะ?”

“ชั้นบนสุดและชั้นหนึ่งยังมีอยู่ ชั้นกลางๆ ตอนนี้เหลือตึกแถวที่ 9 ห้อง 1604 และตึกแถวที่ 10 ห้อง 1801 ค่ะ อันที่จริงในความคิดฉัน ชั้นหนึ่งน่าจะดีที่สุด นอกจากราคาถูกแล้ว เข้าออกก็สะดวกสบาย…”

พนักงานหญิงพยายามให้คำแนะนำ ตอนนี้ห้องชั้นหนึ่งและชั้นบนสุดมักจะขายยากที่สุด

ตอนนี้ห้องที่เหลืออยู่ของกวนหูหยวนก็เป็นสองประเภทนี้เสียส่วนใหญ่

ฟางผิงทนฟังอีกครั้ง ก่อนจะครุ่นคิดเล็กน้อย “ชั้นบนสุดเป็นห้องดูเพล็กซ์[1]หรือเปล่า?”

“มีทั้งห้องดูเพล็กซ์ และห้องลอฟต์[2]ค่ะ”

ที่จริงสองแบบนี้ไม่แตกต่างกันนัก แต่ห้องดูเพล็กซ์จะมีขนาดสูงกว่า ส่วนห้องแบบลอฟต์จะให้ความรู้สึกต่ำกว่าหน่อย

ฟางผิงครุ่นคิด ถ้าเขาฝึกวิชา บางครั้งอาจจะเคลื่อนไหวเสียงดัง

อยู่ชั้นหนึ่งคงไม่ดีเท่าไหร่ คนที่ผ่านไปมาจะมองเห็นด้วย

ห้องชั้นบนสุดแบบดูเพล็กซ์คงดีกว่า บ้านของอู๋จื้อหาวก็เป็นแบบนั้น ถ้าทำกิจกรรมตรงชั้นสอง เสียงคงดังไปไม่ถึงชั้นล่างหรอก

มีข้อจำกัดทางเงื่อนไข ตัวเลือกของฟางผิงจึงเหลือน้อยลง

ตอนนี้ห้องดูเพล็กซ์ไม่ได้เป็นที่นิยม ราคาค่อนข้างสูง ในกวนหูหยวนมีห้องแบบนี้เพียงสี่ห้องในตึกแถวที่ 9 ชั้นบนสุดเท่านั้น

ในนี้ขายไปแล้วสองห้อง จึงว่างอยู่อีกสองห้อง

พอพนักงานขายแนะนำเสร็จ ฟางผิงก็เอ่ยทันที “พาผมไปดูหน่อย”

“ได้ค่ะ ฉันจะไปหยิบกุญแจ รอตรงนี้สักครู่นะคะ”

พนักงานหญิงคล่องแคล่วทีเดียว รีบไปเอากุญแจที่เคาน์เตอร์ ในใจนั้นคาดหวังอย่างยิ่ง

แม้ว่าฟางผิงจะไม่พูดมาก ทั้งยังเป็นเด็กหนุ่ม แต่คนที่เอ่ยความต้องการออกมาอย่างชัดเจนแล้วขอไปดูห้อง

ขอเพียงแค่ราคาสมเหตุสมผล ก็จะตัดสินใจซื้อทันที

และแน่นอนว่าต้องเป็นคนมีเงินด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน ฟางผิงก็เดินไปดูตึกแถวที่เก้าชั้นบนสุดพร้อมพนักงานขาย

พอพนักงานหญิงเปิดประตู ฟางผิงเข้าไปดูก็รู้สึกว่าดีไม่น้อย

แสงสว่างเพียงพอ จัดการพื้นที่ได้ดี ไม่เหมือนห้องดูเพล็กซ์ทั่วไปที่ให้ความรู้สึกคับแคบพวกนั้น

ห้องดูเพล็กซ์บางแห่งมักจะลดพื้นที่ส่วนกลางลง เพื่อให้สามารถใช้สอยพื้นที่ทั้งหมดได้มากขึ้น

พื้นที่ส่วนกลางจึงคับแคบ พอเข้าประตูมาก็ให้ความรู้สึกอึดอัด เหมือนถูกบีบอยู่บ้าง

ยิ่งเป็นย่านในเมืองใหญ่ หรือพื้นที่เจริญๆ ก็มักจะเป็นแบบนี้

แต่ยังไงพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดโล่งก็ไม่นับรวมอยู่ในโฉนดบ้าน

ยิ่งเป็นเมืองใหญ่ก็ยิ่งหาห้องดูเพล็กซ์แบบเปิดโล่งได้ยาก

เมืองเล็กๆ อย่างหยางเฉิง ราคาไม่สูงมาก ย่อมเน้นความน่าอยู่เป็นหลัก

พูดถึงการตกแต่ง ที่จริงก็คือการตกแต่งพื้น กำแพง หน้าต่างประตูเท่านั้น

ชั้นหนึ่งมีห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนอน รวมทั้งระเบียงที่ไม่นับว่าเล็กนัก

ชั้นสองมีห้องนอนสองห้อง ห้องอ่านหนังสือเล็กๆ ห้องที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องออกกำลังกายรวมถึงห้องน้ำได้อีกหนึ่งห้อง

นอกจากพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดโล่งแล้ว ห้องอื่นๆ บนชั้นสองก็นับตามพื้นที่จริงรวมอยู่ในโฉนดทั้งหมด

ฟางผิงชมรอบๆ สักพัก ก็รู้สึกพอใจอย่างยิ่ง

แม้จะตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ตอนนี้ฟางผิงก็ไม่ได้ต้องการความหรูหราอะไร เขาไม่ได้จะอยู่ในเมืองหยางเฉิงนานนัก

พอเขาไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ห้องนี้ก็ต้องทิ้งไว้ให้พ่อแม่

ตอนนี้สามารถเข้าอยู่ได้เลยก็เพียงพอแล้ว

ทั้งยังตกแต่งมาปีกว่าแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอให้สีหายเหม็น

พอเดินดูโดยรอบคร่าวๆ แล้ว ฟางผิงก็เข้าประเด็นทันที “ราคาเท่าไหร่?”

“คุณผู้ชายตาถึงจริงๆ!”

พนักงานหญิงเอ่ยชมฟางผิง ก่อนจะเอ่ยว่า “ห้อง 2601 เป็นแบบที่ดีที่สุดของย่านพวกเรา พื้นที่ส่วนกลางที่เปิดโล่ง พวกเราก็ไม่นับลงในโฉนด นับว่าแถมให้คุณ…แต่ห้องแบบดูเพล็กซ์ของกวนหูหยวนเราไม่เหมือนกับที่อื่น หลายที่บอกว่าเป็นห้องแบบดูเพล็กซ์ จริงๆ กลับเป็นห้องแบบชั้นลอยเท่านั้น ขนาดไม่ได้สูงมาก รวมทั้งสองชั้นแล้ว สูงเพียงสามสี่เมตรเท่านั้น ทำให้เหลือพื้นที่คับแคบ…พวกเรากลับไม่เหมือนกัน พวกเรายึดตามโครงสร้างความสูงปกติ รวมทั้งสองชั้นก็สูงถึงห้าจุดแปดเมตร…”

เจ้าหน้าที่หญิงนั้นวิจารณ์ห้องดูเพล็กซ์ของที่อื่น ชมย่านกวนหูหยวนของตัวเองอยู่ยกใหญ่

ก็ไม่นับว่าวิจารณ์อะไรมาก เพียงแค่เปรียบเทียบให้ชัดเจนก่อนจะบอกราคาเท่านั้น

สาเหตุที่ห้องดูเพล็กซ์ของกวนหูหยวนขายไม่ออกนั้นมีเรื่องราคาเกี่ยวข้อง คนส่วนมากเห็นห้องแล้วพอใจ แต่พอตอนจะซื้อ กลับมีปัญหาขึ้นมาซะงั้น

ทั้งเพราะย่านอื่นมีพื้นที่ไม่ถึงสองชั้น ราคาจึงถูกกว่า…

ตอนนี้ฟางผิงถามถึงราคา เธอจึงต้องเกริ่นคำพูดที่เตรียมมาเป็นอย่างดีก่อน

เมื่อเอ่ยชมย่านของเธอแล้ว พนักงานหญิงค่อยวกเข้าประเด็น “พื้นที่ทั้งหมด 186 ตารางเมตร ส่วนพื้นที่เปิดโล่งแถมให้ฟรี หากยึดตามโครงสร้างสองชั้นปกติ พื้นที่จะเกิน 230 ตารางเมตร เราขายให้ราคาพิเศษ หากคุณซื้อตอนนี้ ภาษีที่ดินและค่าบำรุงส่วนกลาง พวกเราส่งคืนคุณภายหลังได้ อีกอย่างเรายังตกแต่งห้องให้เสร็จสรรพ หากคุณแต่งเอง ยังต้องเสียอีกหลายแสน…แต่ห้องพวกนี้เป็นห้องที่ค้างสต๊อก บริษัทต้องการขายออกไปให้เร็วที่สุด จึงมีส่วนลดให้เยอะเป็นพิเศษ…”

พนักงานหว่านล้อมฟางผิงอีกครั้ง เห็นฟางผิงไม่สะทกสะท้านอะไร เธอก็ยอมแพ้อยู่บ้าง ท้ายที่สุดจึงพูดราคาออกมาเสียงเบา

“ราคารวมทั้งหมดแปดแสนหกหมื่น…”

ปี 2008 ซื้อห้องชุดราคาแปดแสนหกหมื่นในหยางเฉิง ไม่ใช่ราคาที่ถูกเลย

เงินมากขนาดนี้ สามารถซื้อบ้านเดี่ยวเล็กๆ แถวชานเมืองได้เลย

เฉลี่ยแล้วตารางเมตรละ 4600

ทั้งราคาบ้านแถวนี้ ปกติก็อยู่ระหว่าง 3500 ถึง 4000 ต่อตารางเมตร

แม้จะตกแต่งพร้อมอยู่ แต่ก็ไม่ได้แพงมากนัก

ถ้าราคา 4000 ต่อตารางเมตร ห้องนี้ก็คงขายออกไปนานแล้ว

แต่ตารางเมตรละ 4600 แม้ว่าจะเป็นห้องดูเพล็กซ์ มีพื้นที่เปิดโล่ง ก็มีคนที่ยอมซื้อน้อยอยู่ดี

เมื่อบอกราคาไปแล้ว พนักงานหญิงก็รีบเอ่ยว่า “คุณผู้ชาย ห้องชุดด้านข้างขนาดเล็กกว่าหน่อย แต่แบบไม่ต่างจากห้องนี้…”

ฟางผิงโบกมือ มีเงินก็ต้องใช้ นี่เป็นนิสัยของเขาแล้ว

ตอนนี้เขามีทรัพยากรที่เพียงพอต่อการฝึกฝน คงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินไปพักใหญ่ ตอนนี้มีเงินแล้วก็ต้องใช้เสวยสุขเสียหน่อย

ฟางผิงพอใจห้องชุดนี้ไม่น้อย ตกแต่งพร้อมอยู่ ถึงตารางเมตรละ 4600 จะแพงอยู่บ้าง แต่สภาพแวดล้อมย่านนี้ไม่เลวเลย แบบห้องก็ถูกใจ ราคานี้เขาจึงรับได้

เทียบกับบ้านของอู๋จื้อหาวแล้ว เขาคิดว่าห้องนี้ใหญ่กว่าอยู่บ้าง ทั้งจัดการพื้นที่ได้เหมาะสม

แต่เงินก็ไม่ได้หามาง่ายๆ ฟางผิงตรงดิ่งออกจากประตูทันที ตอนที่พนักงานขายรู้สึกผิดหวัง

ฟางผิงก็พูดขึ้นมาว่า “ไปต่อรองราคาที่ฝ่ายบริการขายอีกสักรอบ ถ้าลดได้กว่านี้อีกหน่อย ผมจะจ่ายสดเลย”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา พนักงานหญิงก็ดีใจอย่างยิ่ง!

วัยรุ่นช่างตัดสินใจอะไรฉับไวจริงๆ เธอพาคนมาดูห้องนี้กว่าสิบครั้งแล้ว

แต่คนที่ตัดสินใจรวดเร็วอย่างฟางผิง เธอไม่เคยเจอมาก่อน

ชั่วพริบตานั้นเธอก็ยกเรื่องต่างๆ มาประสบสอพลอเขา ทำเอาฟางผิงนั้นฟังจนปวดหนังหัวอยู่บ้าง

———————-

[1]ห้องดูเพล็กซ์ ห้องที่มีพื้นที่สองชั้น มีทั้งแบบไม่มีช่องเปิดโล่งและมีช่องเปิดโล่ง

[2]ห้องลอฟท์ ห้องฝ้าเพดานสูงที่มีชั้นลอย ความสูงจะสั้นกว่าห้องดูเพล็กซ์

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท