ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 122-2 ฟางผิงผู้ใจกว้าง (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 122 ฟางผิงผู้ใจกว้าง (2)

“แค่สิบคะแนน?”

ฟางผิงพึมพำ คิดว่าขี้เหนียวเกินไปแล้ว

สิบคะแนน เสียเวลาทำเรื่องพวกนี้คุ้มค่าหรือไง?

ราวกับมองเห็นสีหน้าของฟางผิง หรืออาจจะได้ยินคำพูดของเขา หลู่เฟิ่งโหรวที่เงียบมาตลอดเอ่ยขึ้นว่า “คะแนนฟรีๆ บางคนอาจจะคิดว่ายุ่งยาก สามารถส่งเรื่องนี้ให้คนอื่นทำได้ ง่ายจะตายไป ห้าสิบคนในชั้น นายเป็นหัวหน้า เอาชนะใครสักคน ให้เขาวิ่งเต้นแทนนาย นายก็ได้คะแนนโดยไม่ต้องเสียแรงแล้ว”

“อาจารย์หลู่!”

ถังเฟิงไม่พอใจอยู่บ้าง หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “พวกนักศึกษาใหม่ไม่มีแรงกดดันสักนิด นี่ยังเป็นคลาสฝึกพิเศษหรือไง? คุณลองคิดดู มีคนบีบบังคับให้ทำงาน หรือทำงานให้ฟรี เขาจะเต็มใจเหรอ? ความไม่เต็มใจนี้ต้องเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน อยากจะกู้สถานการณ์กลับมา มีแรงผลักดันถึงจะก้าวหน้า คลาสฝึกพิเศษถึงจะพิเศษอย่างแท้จริง แบบนี้ฉันคิดว่าดีกว่า”

พวกนักศึกษาต่างตกตะลึง!

ทำแบบนี้ได้ด้วย?

ฟางผิงอึ้งไปเหมือนกัน วิธีการของหลู่เฟิ่งโหรว…ใช้ได้ทีเดียว!

แม้พวกถังเฟิงจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่สุดท้ายกลับไม่พูดอะไร กลายเป็นยอมรับโดยปริยาย

ในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ อยากได้อะไรต้องเป็นคนแย่งชิงเอง

แม้การบีบคั้นคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่เหมือนที่หลู่เฟิ่งโหรวพูด ตอนนี้นักศึกษาใหม่ขาดแรงกระตุ้น บางทีนี่อาจเป็นวิธีที่ดี เหลือเวลาห่างจากการแข่งขันแลกเปลี่ยนไม่เยอะแล้ว วิธีที่ใช้ได้ก็ควรลองใช้สักหน่อย

“ไม่ทำงาน แต่ได้คะแนนมาฟรีๆ…”

ฟางผิงพึมพำ หลู่เฟิ่งโหรวพลันเอ่ยขึ้นมา “แน่นอนว่า เมื่อความสามารถของทุกคนมีการพัฒนา ตำแหน่งหัวหน้าก็สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกัน ครึ่งเดือนเปลี่ยนหนึ่งครั้ง ทุกครั้งจะได้รางวัลสิบคะแนน แบบนี้ทุกคนจะมีแรงผลักดันหน่อย”

เวลานี้ไม่มีคนคัดค้านอีก พวกนักศึกษาต่างตาเป็นประกาย!

ครึ่งเดือนเปลี่ยนครั้งหนึ่ง?

เหลือเวลาอีกสามเดือนก่อนจะจัดการแข่งขัน นั่นหมายถึงหกครั้ง หกสิบคะแนน!

หกสิบคะแนนไม่ใช่จำนวนน้อยเลย!

เวลานี้ฟางผิงอดมองหลู่เฟิ่งโหรวไปทีไม่ได้ นี่อาจารย์กำลังช่วยแย่งสิทธิพิเศษให้เขาอยู่?

เห็นได้ชัดว่าแอบส่งผลประโยชน์ให้เขา!

พวกถังเฟิงตระหนักถึงเรื่องนี้ได้เหมือนกัน มองไปทางหลู่เฟิ่งโหรวอย่างไม่พอใจอยู่บ้าง

หลู่เฟิ่งโหรวหาวออกมา “มองฉันทำไมกัน แค่กระตุ้นให้ทุกคนมีแรงผลักดันเท่านั้น แบบนี้ไม่ดีเหรอไง? พวกคุณลองถามพวกเขาสิว่ายินดีหรือเปล่า?”

แม้จะไม่มีใครพูด แต่ถังเฟิงเห็นศิษย์ของตัวเองอย่างจ้าวเหล่ยและหยางเสี่ยวม่านมีแรงกระตุ้นขึ้นมาเช่นกัน

นักศึกษาคนอื่นที่มีความสามารถต่างก็กระตือรือร้นอยากลองไม่ต่างกัน

แม้วิธีของหลู่เฟิ่งโหรวจะมุทะลุไปบ้าง แต่จำต้องพูดว่าได้จุดไฟของพวกนักศึกษาขึ้นมาในชั่วพริบตา

ถังเฟิงจนใจอยู่บ้าง เขารู้เรื่องก่อนหน้านี้ของฟางผิงแล้ว

ช่างเถอะ ถ้าฟางผิงสามารถครองตำแหน่งหัวหน้าได้ทั้งหกครั้งจริงๆ คนอื่นอาจจะได้รับแรงกระตุ้นเหมือนกัน สร้างเป้าหมายให้พวกนักศึกษาใหม่โค่นล้มถือเป็นเรื่องดีเหมือนกัน ยังไงก็แค่หกสิบคะแนน

ถังเฟิงครุ่นคิดก่อนเอ่ยว่า “งั้นถ้ายึดวิธีตามที่อาจารย์หลู่แนะนำ มีใครเห็นต่างหรือเปล่า?”

แม้พวกนักศึกษาจะคิดต่าง ก็ไม่กล้าพูดออกมาอยู่ดี หากพูดออกมา คงไม่พ้นหมายความว่าพวกเขาไม่มีความมั่นใจในตัวเอง

หลู่เฟิ่งโหรวเห็นถังเฟิงตอบรับจึงส่งยิ้มให้ฟางผิง ทำสีหน้าประมาณว่า ‘ไอ้หนู ฉันแย่งชิงผลประโยชน์มาให้นายแล้ว’

ฟางผิงขำแห้ง ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ในเมื่อไม่มีใครเห็นต่าง งั้นตอนนี้ก็เริ่มได้ ใครอยากจะเป็นหัวหน้าสามารถเข้าร่วมการคัดเลือกได้เลย”

ถังเฟิงเพิ่งพูดจบ หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยออกมาทันที “อย่าสิ้นเปลืองเวลานักสิ ฉันยังมีธุระต้องทำ ฟางผิง ออกมา!”

ฟางผิงรีบออกมา หลู่เฟิ่งโหรวถามตรงๆ ว่า “อยากเป็นหัวหน้าหรือเปล่า?”

“อยากครับ!”

ครั้งนี้ฟางผิงไม่ลังเลอีกแล้ว ตั้งหกสิบคะแนน!

เมื่อวานในระบบรับภารกิจ สังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองตอนปลายยังไม่ได้สิทธิพิเศษดีเท่านี้เลย ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองตอนปลายได้แค่ยี่สิบคะแนนเท่านั้น

หกสิบคะแนนแทบจะเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามเป็นอย่างต่ำ!

จัดการผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามหนึ่งคนถึงจะได้คะแนนเยอะ ตอนนี้ให้คะแนนฟรีๆ ฟางผิงจะไม่ยินดีได้ยังไง

“อยากก็ดี”

หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ลูกศิษย์ของอาจารย์ถังทั้งสองคนมีความสามารถโดดเด่น จุดนี้ทุกคนต่างเห็นกันเป็นประจักษ์ พวกเราเป็นอาจารย์ขั้นหกเหมือนกัน ฉันก็อยากมีหน้าตาบ้าง นายเป็นศิษย์ของฉัน บางคนกลัวว่าฉันจะสั่งสอนลูกศิษย์ออกมาไม่ได้ ต้องพิสูจน์ให้เห็นสักหน่อย อาจารย์อย่างฉันไม่ได้รับเงินเดือนฟรีๆ นายไปประลองกับลูกศิษย์ทั้งสองคนของอาจารย์ถังละกัน ถ้าชนะก็เป็นหัวหน้า แต่หากแพ้ นายต้องรับใช้คนอื่นฟรีๆ จะคัดค้านหรือเปล่า?”

หลู่เฟิ่งโหรวช่วงชิงผลประโยชน์ให้เขา ฟางผิงไม่คิดขายหน้าอาจารย์ รีบเอ่ยว่า “ไม่คัดค้านครับ!”

“คนอื่นๆ ล่ะ?”

หลู่เฟิ่งโหรวถามออกไป ทุกคนยังคงเงียบกริบ

จ้าวเหล่ยและหยางเสี่ยวม่านมีความสามารถเป็นอันดับต้นๆ ในหมู่นักศึกษาใหม่ หากจะเอาชนะพวกเขาจริงๆ คนอื่นคงไม่ใช่คู่มือทั้งนั้น

“จ้าวเหล่ย หยางเสี่ยวม่าน พวกเธอล่ะ?”

จ้าวเหล่ยตอบทันที “ไม่คัดค้านครับ!”

หยางเสี่ยวม่านลังเลเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัว

“งั้นเริ่มเถอะ พวกนายใครจะเริ่มก่อน?”

จ้าวเหล่ยรอต่อไปไม่ไหวแล้ว “ผมก่อน!”

ฟางผิงไม่พูดพร่ำให้มากความ เดินออกมาจากหมู่นักศึกษา เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “จ้าวเหล่ย พวกเราพูดกันก่อนแล้วกัน อีกเดี๋ยวอย่าร้องไห้ ทั้งอย่าถือโกรธแค้นเคืองฉัน อีกอย่างถ้านายแพ้ก็ทำงานฟรีให้ฉัน แจ้งข่าวสารเรียกร่วมคลาสเป็นหน้าที่ของนาย”

จ้าวเหล่ยแค่นเสียง “ได้ ถ้านายแพ้ก็เหมือนกัน!”

“แน่นอนอยู่แล้ว!”

ฟางผิงตอบรับ ไม่รอให้ใครส่งสัญญาณ เขาสาวเท้าพุ่งเข้ามาทันที

จ้าวเหล่ยยังไม่ทันดึงสติออกมาจากคำพูดเมื่อครู่ ฟางผิงกลับเหวี่ยงหมัดเข้ามาแล้ว

เขากำลังจะโต้กลับ จู่ๆ ฟางผิงก็ชักมือกลับ

หมัดถูกดึงกลับอย่างกะทันหัน จ้าวเหล่ยแทบไม่ทันตระหนักว่าฟางผิงจะฉวยโอกาสโจมตี ทั้งนึกไม่ถึงว่าเวลานี้เขายังออกหมัดหลอก

กำลังคิดจะถอยหลัง เท้าของฟางผิงก็เตะเข้าที่เข่าของเขาแล้ว

จ้าวเหล่ยเซจนเกือบล้ม เวลานี้ฟางผิงออกหมัดอีกครั้งทันที พุ่งโดนจมูกของเขาเต็มๆ!

“ฮือ…”

จ้าวเหล่ยเลือดกำเดาไหล ก่อนน้ำตาจะไหลตามมา

“บอกว่าอย่าร้องไห้ ยังร้องไห้อีก!”

ฟางผิงชกที่กลางหน้าผากเขาอีกหมัด พูดด้วยท่าทีสบายๆ “บอกแล้วว่าอย่าถือโทษโกรธกัน นายอย่าลืมล่ะ!”

‘พลั่ก!’

“ความจริงฉันเป็นคนไม่ยุ่งกับใคร แต่นายคิดว่าเรื่องที่นายและพวกหยางเสี่ยวม่ายคุยกัน ฉันไม่ได้ยินหรือไง?”

‘พลั่ก!’

“เอาแต่ยั่วโมโหฉัน คิดว่าหลอมกระดูกได้เยอะกว่าฉันแล้ว ตัวเองไร้เทียมทานอย่างนั้นสินะ?”

‘พลั่ก!’

“ครั้งหน้าถ้ายังยั่วโมโหฉันอีก ฉันจะอัดจนพ่อนายจำหน้าไม่ได้!”

‘พลั่ก!’

“น้องสาวฉันกลายเป็นลูกพี่ใหญ่แล้ว ฉันจะเป็นลูกพี่ใหญ่ในหมู่เด็กใหม่บ้าง นายคงไม่ขัดอะไรสินะ?”

‘พลั่ก!’

“…”

ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันดึงสติกลับมา ฟางผิงกลับอัดจ้าวเหล่ยลงกับพื้นไปแล้ว

หมัดแล้วหมัดเล่า ทำเอาจ้าวเหล่ยเวียนหัวตาลาย แทบไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน

ถังเฟิงที่อยู่ด้านข้างมุมปากกระตุก ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ฟางผิงไม่ได้ลงมือโหดเหี้ยม ดูเหมือนจะออกหมัดแรง แต่ก็แค่บาดเจ็บภายนอกเท่านั้น

ประเด็นอยู่ที่ว่าอย่าเอาแต่อัดหน้าที่เดียวได้หรือเปล่า?

ใบหน้าของจ้าวเหล่ยคงไม่มีใครจำได้เป็นอาทิตย์แล้ว

ในหมู่นักศึกษา

เฉินอวิ๋นซีมองหยางเสี่ยวม่านที่ใบหน้าซีดเผือด กระซิบว่า “ยอมแพ้เถอะ จ้าวเหล่ยเป็นผู้ชาย แต่ถ้าอีกเดี๋ยวเขาทำแบบนี้กับเธอเหมือนกัน…”

หยางเสี่ยวม่านหน้าซีดขึ้นไปอีก

เธอไม่กล้าจินตนาว่า หากถูกฟางผิงต่อยจนหน้าบวมเป็นหัวหมู สี่ปีหลังจากนี้จะใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยต่อไปยังไง?

ผ่านไปสักพัก ฟางผิงค่อยยืนขึ้นอย่างพึงพอใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “หยางเสี่ยวม่าน ถึงตาพวกเราแล้ว”

“นาย…นายจะต่อยฉันเหรอ?”

“แน่นอน ไม่ได้ยินที่อาจารย์ถังพูดหรือไง ลงมือกับสาวงามเป็นการฝึกอย่างหนึ่งเหมือนกัน อาจารย์ถัง ผมพูดถูกใช่หรือเปล่า?”

ถังเฟิงใบหน้าดำคล้ำ หลู่เฟิ่งโหรวกลับยิ้มร่า

“ฉัน…ฉันยอมแพ้!”

หยางเสี่ยวม่านเผยสีหน้ากระดากอาย สุดท้ายยังคงไม่กล้าประลอง

ฟางผิงเอ่ยอย่างเสียดายอยู่บ้าง “น่าเสียดาย ช่างเถอะ อย่าโกรธฉันละกัน ฉันไม่ชอบความยุ่งยาก แค้นฝังใจไม่ใช่เรื่องดี แต่ไหนแต่ไรฉันก็ไม่เคยผูกบัญชีแค้นกับใครมาก่อน”

ผู้หญิงคนนี้นินทาเขาลับหลัง เขาได้ยินมาหลายครั้งแล้ว ยังมีจ้าวเหล่ยอีกคน

คิดว่าเขาไม่ผูกบัญชีแค้นใครจริงๆ น่ะเหรอ?

ตลกแล้ว แค่ไม่มีโอกาสเท่านั้น หากเมื่อครู่หยางเสี่ยวม่านประลองคนแรก ฟางผิงคงจะอัดเธอหน้าบวมเป็นหัวหมูเหมือนกัน!

———————-

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท