ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 125-2 โลกใต้ดิน (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 125 โลกใต้ดิน (2)

“ตอนนี้แต่ละประเทศอาจจะมีความคืบหน้าเล็กๆ แต่คงไม่ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนเท่าไหร่ ในขณะที่ยังไม่สามารถคิดค้นอาวุธที่ใช้สังหารสิ่งมีชีวิตในโลกใต้ดินเป็นจำนวนมากได้ หากสิ่งชีวิตพวกนั้นเข้าสู่โลกของเรา นั่นเท่ากับเป็นภัยของมวลมนุษย์ชาติ! พวกเราไม่อาจใช้แต่ปืนกวาดล้างได้ทุกครั้งหรอก ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป โลกใบนี้คงจบสิ้นแล้ว ดังนั้นจึงให้ผู้ฝึกยุทธ์เฝ้าระวังปากถ้ำใต้ดิน ทั้งให้ผู้ฝึกยุทธ์เข้าไปภายใน ล่วงหน้าสังหารสิ่งมีชีวิตที่มีโอกาสจะออกไปโจมตีโลกข้างนอก นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องโลกและมวลมนุษยชาติ!”

ฟางผิงที่เงียบมาตลอด เวลานี้เอ่ยอย่างจริงจังว่า “อาจารย์ครับ ทำไมสิ่งมีชีวิตในโลกใต้ดินถึงอยากจะบุกออกมาข้างนอก เป็นเพราะสภาพแวดล้อมในนั้นย่ำแย่เหรอครับ?”

“ไม่ใช่!”

ไป๋รั่วซีส่ายหัว “ถ้ำใต้ดินเป็นเพียงคำเรียกของพวกเรา ที่จริงไม่ใช่โลกที่มืดมิดไร้แสงตะวันอย่างที่คิด แทบไม่ต่างจากโลกปกติ ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อมยังดีกว่าพวกเราอีก”

“ถ้าอย่างนั้น…”

“พวกเราไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดเหมือนกัน หลายปีมานี้พวกเราก็จับสิ่งมีชีวิตในถ้ำใต้ดินมาบ้างเช่นกัน แต่เพราะว่าสื่อสารกันไม่ได้ ยากจะทำความเข้าใจ…แน่นอนว่าตอนนี้มีบางคนกำลังเรียนภาษาของสิ่งมีชีวิตในถ้ำใต้ดินอยู่ หลักๆ ยังคงเป็นเพราะพวกระดับล่างไม่รู้เรื่องราว ส่วนพวกระดับสูง หนึ่งคือจับกุมยาก สองคือเพราะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูง พอถูกจับ ‘สมอง’ อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘สมอง’ ล่ะมั้ง จะเกิดเหตุการณ์สมองตาย ไม่รู้เป็นเพราะว่าทำตัวเอง หรือถูกควบคุม เรื่องนี้กำลังวิเคราะห์กันอยู่”

ฟางผิงพูดต่อว่า “งั้นหมายความว่าตอนนี้มนุษย์อย่างพวกเราไม่มีวิธีจะควบคุมสิ่งมีชีวิตใต้ดินได้ดีไปกว่านี้แล้ว ทำได้แค่อาศัยผู้ฝึกยุทธ์มาโจมตีสังหาร ลดโอกาสที่สิ่งมีชีวิตพวกนี้จะบุกออกมายังโลกของพวกเรา?”

“ใช่แล้ว”

ไป๋รั่วซีพยักหน้า “ไม่อย่างนั้นหากมีประตูถ้ำใต้ดินแห่งใดแห่งหนึ่งถูกทำลาย ก็จะเกิดผลที่น่าเศร้าสลดใจอย่างร้ายแรงตามมา แผ่นดินไหวเป็นแค่หนึ่งในนั้น! เมื่อสิ่งมีชีวิตจากใต้ดินทำลายประตู จะก่อให้เกิดภัยพิบัติใหญ่หลวง ทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก! ทั้งพลังทำลายล้างของสิ่งมีชีวิตพวกนั้นยังแข็งแกร่งมาก หากไม่ระวัง ทั่วทั้งเมืองคงพินาศย่อยยับ”

“ในอดีตมีโศกนาฏกรรมเช่นนี้เหมือนกัน ท้ายที่สุดจำต้องใช้อาวุธพลังทำลายล้างสูงมาจัดการ ปรากฏว่าทำให้สภาพแวดล้อมพังพินาศ บ้านเมือง มวลมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตจากโลกใต้ดินต่างสูญสิ้นทั้งหมด ทั้งสิ่งมีชีวิตพวกนั้นกลับยังเกิดใหม่ได้ในโลกใต้ดิน การทำแบบนี้เป็นแค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สุดท้ายแล้วโลกคงจะพังพินาศในมือของพวกเรา”

“เมื่อวานเหมือนว่าเซี่ยงไฮ้จะเกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ…” ฟางผิงเอ่ยขึ้นมา

ไป๋รั่วซีใบหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ถอนหายใจว่า “ถูกต้อง นับวันเหตุการณ์แบบนี้ยิ่งปรากฏชัดเจนขึ้น ทั้งเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ประตูของถ้ำใต้ดินยี่สิบสองแห่ง ตอนนี้ล้วนแทบจะมีการเคลื่อนไหว สิ่งมีชีวิตพวกนั้นกำลังโจมตีประตูถ้ำอย่างไม่หยุดหย่อน ทุกครั้งที่พวกเขาโจมตีจะก่อให้เกิดแผ่นดินไหว ยิ่งไหวแรงเท่าไหร่ หมายความว่าพวกเขาโจมตีเข้ามาใกล้เท่านั้น ดังนั้นพอเกิดการสั่นสะเทือนของแผ่นดิน พวกเราจึงต้องส่งพวกผู้ฝึกยุทธ์กลุ่มใหญ่เข้าไปสังหารทันที! พวกเขาถูกฆ่าตายได้ รอจนตายเยอะแล้ว ก็จะถอยหลังกลับ”

“ก่อนหน้านี้เกิดแผ่นดินไหวที่เทียนหนานเหมือนกัน?”

“ใช่ ครั้งนั้นค่อนข้างร้ายแรง พวกเขาเกือบจะทำลายประตูสำเร็จ! ดังนั้นเลยต้องส่งผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากไปช่วยเหลือ แม้จะเป็นอย่างนั้น ผู้ฝึกยุทธ์กลับเจ็บหนักล้มตายไม่น้อย คนธรรมดายิ่ง…”

ฟางผิงเอ่ยอย่างร้อนใจว่า “คนธรรมดา?”

ไป๋รั่วซีกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมอีกครั้ง “ในกองทัพมีคนธรรมดาด้วย นายคิดว่าทหารจะต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนงั้นเหรอ? ทหารที่เป็นคนธรรมดาจำนวนมากต้องประจำการอยู่นอกประตูถ้ำเหมือนกัน เมื่อถึงช่วงเวลาจำเป็น ต้องบุกเข้าไปในถ้ำใต้ดิน แม้คนธรรมดาจะสู้ผู้ฝึกยุทธ์ไม่ได้ แต่ทหารก็เพียบพร้อมด้วยพลังทำลายล้างสูง ไม่งั้นอาศัยแค่ผู้ฝึกยุทธ์อย่างเดียว ให้ผู้ฝึกยุทธ์นับล้านเป็นคนออกรบ คงยากจะต้านไว้เช่นกัน”

“ประตูถ้ำยี่สิบสองแห่ง ไม่ใช่ว่าผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนจะเข้าไปได้ ยังมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองจำนวนมาก…ผู้ฝึกยุทธ์ที่ประจำการหน้าถ้ำใต้ดินมีไม่เยอะ มีแค่ในสถานการณ์ที่คับขัน ผู้ฝึกยุทธ์ถึงจะเข้าไป ในถ้ำใต้ดินพลังทำลายล้างของปราณจะแข็งแกร่งมากขึ้น ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามคนหนึ่งสามารถต่อต้านทหารธรรมดาของสิ่งมีชีวิตใต้ดินได้…”

“อะไรนะ?”

ครั้งนี้ไม่ใช่ฟางผิง แต่มีนักศึกษาคนหนึ่งเอ่ยอย่างตกใจ “สิ่งมีชีวิตใต้ดินมีทหารเหมือนกัน?”

ไป๋รั่วซีย้ำขึ้นมาอีกครั้ง “นั่นเป็นอารยธรรมอย่างหนึ่ง ไม่ได้เหมือนซอมบี้ในความคิดของนาย เข้าใจความหมายที่ฉันสื่อหรือเปล่า?”

ตอนนี้ฟางผิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “อารยธรรม? อาจารย์บอกว่าพลังงานภายนอกจะไร้ประสิทธิภาพในโลกใต้ดิน งั้นไม่มีพลังงานคอยช่วยเหลือ จะสร้างอารยธรรมขึ้นมาได้ยังไง? พวกเขาไม่ต้องกินข้าว? ไม่ต้องจุดไฟเหรอครับ? ดวงอาทิตย์ล่ะ? ไม่มีดวงอาทิตย์ให้พลังงานความร้อน ใช้ชีวิตอยู่ได้จริงๆ เหรอครับ?”

“เรื่องนี้นายคิดออกนอกทางแล้ว แหล่งพลังงานไม่ได้มีแค่สิ่งพวกนี้ ในถ้ำใต้ดิน สิ่งมีชีวิตพวกนั้นมีระบบพลังงานเป็นของตัวเอง เคยอ่านนิยายหรือดูหนังมาอยู่สินะ? ให้นายเข้าใจว่ามันเป็นพลังงานจากแร่อย่างหนึ่ง พวกเขาจุดไฟ ทำอาหาร รวมทั้งสร้างอาวุธมาจากแหล่งพลังงานแร่นี้”

ฟางผิงตาเป็นประกาย เอ่ยขึ้นว่า “งั้นพวกเราสามารถใช้พลังงานแร่นี้ สร้างอาวุธสมัยใหม่เพื่อใช้สังหารได้ไหมครับ?”

“ได้!”

ไป๋รั่วซียอมรับเรื่องนี้ ทว่ากลับถอนหายใจว่า “แต่พลังงานแร่เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานที่สำคัญที่สุดของสิ่งมีชีวิตใต้ดิน พวกเขาเก็บความลับอย่างแน่นหนา เมื่อก่อนมีปรมาจารย์ขั้นเก้าสามคนลงลึกเข้าไปในถ้ำใต้ดินเพื่อแย่งชิง ปรากฏว่าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งจำนวนมากพวกนั้นกลับตามไล่ล่า สุดท้ายมีขั้นเก้าคนหนึ่งเสียชีวิต อีกสองคนได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน อันตรายเกินไป พลังงานแร่ก็อยู่ในส่วนลึก หลายปีมานี้ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่คิดจะทะลวงเข้าไปลึกภายในนั้น แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าเข้าไปลึกจะดีกว่า เพราะส่วนที่ลึกจะมีสิ่งมีชีวิตบางจำพวก ปกติไม่คิดจะบุกออกไปโลกด้านนอก แต่พอพวกเราเข้ามา จะทำให้สิ่งมีชีวิตพวกนี้เริ่มเปิดฉากโจมตี หากเป็นแบบนั้นคงจะเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติอย่างแท้จริง!”

คราวนี้ฟางผิงไม่ถามลงลึกอีกแล้ว สรุปก็คือตอนนี้มนุษยชาติเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

ตกอยู่ในสถานการณ์ต้องป้องกันเฝ้าระวัง!

ประจำการอยู่ไม่ห่างประตูถ้ำ สังหารพวกสิ่งมีชีวิตใต้ดินไม่ให้บุกออกมาข้างนอก

ฟางผิงไม่สงสัยแล้ว ฟู่ชางติ่งกลับนึกถึงปัญหาสำคัญหนึ่งได้ “อาจารย์ครับ สิ่งมีชีวิตใต้ดินแข็งแกร่งมากเหรอครับ?”

“แข็งแกร่งมาก!”

ไป๋รั่วซีพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ทหารธรรมดาของพวกเขา หรือจะพูดว่าพวกเบี้ยล่าง ปกติมีความสามารถอยู่ในขั้นหนึ่ง ขั้นสองขั้นสามก็มีถมเถ แน่นอนว่าระดับกลางและระดับสูงไม่ได้เยอะมากแล้ว ทั้งพวกเขายังยึดติดกับอาณาเขตอย่างมาก…”

ทุกคนต่างตั้งใจฟัง

“หมายความว่า สิ่งมีชีวิตใต้ดินที่อยู่ใกล้ประตูถ้ำเทียนหนาน น้อยนักหรือจะพูดว่าแทบไม่อาจไปยังประตูถ้ำแห่งอื่น นี่ก็เป็นสาเหตุที่พวกเรายังสามารถประคองสถานการณ์ตอนนี้ไว้ได้ มนุษย์และผู้ฝึกยุทธ์ต่างมีความสามารถปรับเปลี่ยนเข้ากับสถานการณ์ พวกเราสามารถป้องกันและยับยั้งกวาดล้างในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งอย่างเต็มกำลังได้ ทั้งไม่ต้องกังวลว่าสิ่งมีชีวิตพวกนั้นจะรวมตัวกันมากระจุกอยู่ในพื้นที่เดียว”

จากคำอธิบายของไป๋รั่วซี ในที่สุดทุกคนค่อยมีภาพถ้ำใต้ดินอยู่ในหัวอย่างคร่าวๆ แล้ว

ในชั้นเรียน บางคนถึงกับเปิดโลก บางคนหน้านิ่วคิ้วขมวด บางคนกระหายอยากลอง ทั้งมีบางคนเผยสีหน้าหวาดกลัว…

——————–

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท