ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 148 ข่มความโกรธใช้นายลองดาบ (1)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 148 ข่มความโกรธใช้นายลองดาบ (1)

หลายวันต่อจากนั้น ฟางผิงแทบไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่น

เมื่อทิ้งเรื่องทะลวงขั้นสองไป เวลาของฟางผิงก็มีเหลือเฟือ

ตอนนี้เขารวบรวมสมาธิในการฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ รวมทั้งฝึกจวงกง

ท่าหม่าปู้เป็นเคล็ดวิชาที่เขาเรียนตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ จากพื้นฐานเข้าสู่ขั้นยืนตั้งมั่น

ฟางผิงมีพัฒนาการมาโดยตลอด แต่รอจนถึงขั้นยืนตั้งมั่นแล้ว จวงกงของเขาก็หยุดอยู่แค่นั้น

เคยถามหลู่เฟิ่งโหรวแล้ว เธอให้คำแนะนำมาเยอะเหมือนกัน แต่จวงกงของฟางผิงกลับยังคงไม่มีความคืบหน้า

ลังเลอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายฟางผิงเลยนึกถึงเหล่าหวัง

ความสามารถของเหล่าหวังสู้หลู่เฟิ่งโหรวไม่ได้อยู่แล้ว แต่หลู่เฟิ่งโหรวเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุด

ผู้แข็งแกร่งระดับนี้แทบไม่ได้ให้ความสนใจกับการฝึกจวงกงแล้ว

หลู่เฟิ่งโหรวแตะถึงจวงกงขั้นสภาวะว่างเปล่ามาหลายปีแล้ว เกรงว่าจะลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปนานแล้ว

หวังจินหยางไม่เหมือนกัน หมอนั่นเพิ่งจะอยู่แค่ปีสอง

เช้าตรู่

ข้างที่หลบภัย

ฟางผิงต่อสายหาหวังจินหยาง

“พี่หวัง…”

“ว่ามาเลย ฉันยังมีธุระต้องทำ!”

เหล่าหวังพูดตรงไปตรงมา เขาและฉินเฟิ่งชิงอยู่ในถ้ำใต้ดินมาสองเดือนกว่าแล้ว

ไม่ได้หาคนอื่นมาช่วย ค่อยๆ เก็บกวาดสิ่งมีชีวิตในถ้ำใต้ดินที่หมู่บ้านรอบนอกจนเกลี้ยงเกือบหมด

ทั้งสองคนวางแผนจะโจมตีครั้งสุดท้ายในสองวันนี้ กำลังเตรียมจะเข้าถ้ำใต้ดินอีกครั้ง

ฟางผิงโทรมาได้เหมาะเจาะพอดี ไม่งั้นคงตามตัวเขาไม่ได้แล้ว

“พี่หวัง จวงกงของผมหยุดที่ขั้นยืนตั้งมั่นมาช่วงหนึ่งแล้ว…”

“ไม่ยาก มหาวิทยาลัยพวกนายมีอ่างเก็บน้ำไม่ใช่หรือไง? เคยเห็นคนเดินบนน้ำในละครหรือเปล่า? ฝึกเดินบนน้ำ เมื่อไหร่ที่เหยียบน้ำไม่จมถึงเข่าแล้ว พยายามควบคุมจุดศูนย์ถ่วงจนตัวเองยืนอยู่บนน้ำได้ เวลานั้นถึงจะถือว่าอยู่ในขั้นสภาวะว่างเปล่าแล้ว แน่นอนว่า ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ต้องดูที่ความฉลาดของนาย หากสามารถควบคุมจุดศูนย์ถ่วงได้ คงสำเร็จไม่ยาก แต่หากไม่เข้าใจ ก็เปียกน้ำทุกวันไปละกัน”

ฟางผิงเพิ่งจะเรียนเคล็ดวิชาลับมา ฟังจบจึงเอ่ยทันที

“ช่วงนี้ผมเพิ่งเรียนเคล็ดวิชาดาบแขนงหนึ่งมา แต่ยังระเบิดปราณได้ไม่ค่อยสูง ไม่แตะถึงขั้นเคล็ดไม้ตายด้วยซ้ำ…”

“ขั้นหนึ่งทำได้ถึงขั้นนี้ถือว่าไม่ง่ายแล้ว!”

หวังจินหยางไม่ได้ดูแคลนฟางผิง เอ่ยชมแล้วก็กล่าวว่า “นายไม่ได้หลอมกระดูกมือ คิดจะแตะถึงขั้นเคล็ดไม้ตายถือเป็นเรื่องยาก พลังระเบิดของเคล็ดวิชาต่อสู้มีความเกี่ยวข้องกับร่างกายอย่างมาก เส้นเดินปราณและกระดูกของนายไม่แข็งแรงพอ ระเบิดปราณเกิดพิกัด กลับจะเป็นการทำร้ายตัวเอง จุดนี้อาจารย์นายคงบอกแล้ว แต่ใช่ว่าจะไร้วิธีเสียทีเดียว…”

“หื้ม?”

“นายหลอมกระดูกสามครั้ง ระดับความแข็งแรงของกระดูกไม่ธรรมดาอยู่แล้ว หากสมรรถภาพร่างกายล้ำหน้าคนอื่น เวลานี้สามารถสำเร็จเงื่อนไขการระเบิดปราณได้อยู่แล้ว ต้องดูว่านายทำใจเสียเงินได้หรือเปล่า ซื้อยาหลอมร่างกายสักสองเม็ด ไม่ต้องกิน แต่ใส่ลงไปในน้ำ หลอมมือทั้งสองข้างของนาย ผ่านไปช่วงนี้ กระดูกมือของนายจะแข็งแรงขึ้นมาไม่น้อย…”

“ยาหลอมร่างกาย?”

ฟางผิงปวดใจอยู่บ้าง ยังคงเป็นความจริงไม่เปลี่ยนแปลง เสียเงินถึงจะเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งได้!

ยาหลอมร่างกายไม่แบ่งใช้ตามลำดับขั้น แค่นำมาใช้หลอมร่างกาย

ของสิ่งนี้ให้ประสิทธิภาพดีกว่ายาเพิ่มความแข็งแรง ราคาก็แพงกว่าด้วย

อันที่จริงมีคนใช้ไม่เยอะ เพราะไม่มีความจำเป็น เมื่อหลอมกระดูก เส้นเดินปราณและผิวหนังของทุกคนจะถูกหลอมไปด้วย

หากตอนนี้ฟางผิงเข้าสู่ขั้นสองแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์เพื่อหลอมกระดูกมือเช่นกัน

แต่เมื่อยังไม่เข้าสู่ขั้นสอง อยากให้สองมือระเบิดพลังได้รุนแรงกว่าเดิม ก็จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยที่พิเศษขึ้นมา

“แค่สองเม็ด?”

“อันนี้ต้องอยู่ที่นายเอง นายคิดว่าพอเหมาะพอควรแล้วก็หยุดใช้ แต่ราคานั้นแพงอยู่บ้าง”

แพงอยู่บ้างที่ไหนกัน!

มหาวิทยาลัยให้แลกสามสิบคะแนนต่อหนึ่งเม็ดเหอะ!

แต่วิธีของหวังจินหยางก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ฟางผิงครุ่นคิดพลางเอ่ยว่า “งั้นผมจะลองดู”

“อืม ยังมีอะไรอีกไหม? ไม่มีฉันวางแล้วนะ”

“ไม่มีแล้ว ผม…”

“ตู๊ดๆๆ…”

เหล่าหวังวางสายอย่างรวดเร็ว ดูท่าคงมีธุระเร่งด่วนจริงๆ

ฟางผิงหลุดขำเล็กน้อย ไม่คิดโทรกลับอีก สิ่งที่ควรถามล้วนถามชัดเจนหมดแล้ว

ในเวลาเดียวกัน

ปากทางเข้าถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้

หวังจินหยางกัดฟันว่า “ฉินเฟิ่งชิง ครั้งนี้สิ้นเปลืองเวลาฉันกว่าสองเดือน หากยังไม่ได้อะไรกลับไป ฉันจะบั่นคอนายที่ถ้ำใต้ดินนี่แหละ!”

ฉินเฟิ่งชิงเสียววาบที่แผ่นหลัง เอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน “ต้องได้กลับไปเยอะแหละน่า! ผู้คุ้มครองที่แข็งแกร่งที่สุดของหมู่บ้าน ฉันว่าอาจจะเป็นขั้นห้า หากล้มเหลวจริงๆ…”

“อย่ามาพูดไม่เป็นมงคล! นายจำไว้ให้ดี ครั้งนี้ฉันจะใช้เคล็ดชั้นยอดมากสุดสองกระบวนท่า หากฆ่าเขาไม่ได้ นายต้องพาฉันวิ่งทันที! แม้จะฆ่าตาย ก็ต้องพาฉันวิ่งก่อนเช่นกัน เคล็ดวิชาฝีเท้าไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”

ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างจนใจ “เห็นอยู่ตำตาว่าฉันนำทางได้ดีขนาดไหน สองเดือนมานี้แทบจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นฉินวิ่งไวแล้ว…”

“หุบปาก ฉันถามนายว่าฝึกถึงขั้นไหนแล้ว?”

“วิ่งได้เร็วกระฉูด!”

“งั้นก็ดี ไป!”

ทั้งสองคนเดินเข้าไปในถ้ำอย่างองอาจ ผู้ฝึกยุทธ์บางส่วนที่เฝ้าระวังอยู่นอกถ้ำ มีคนเอ่ยหยอกว่า “ทั้งสองคน อยากให้เตรียมยาฟื้นฟูไว้ให้พวกคุณล่วงหน้าแล้วเรียกทีมแพทย์มารอหรือเปล่า?”

สองเดือนมานี้ ทั้งสองคนหนีกลับมาพร้อมบาดแผลกว่าสิบครั้งแล้ว

ฉินเฟิ่งชิงพูดโดยไม่หันหน้า “ไม่จำเป็น ครั้งหน้าฉันออกมา คงจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่แล้ว!”

“งั้นพวกเราจะรอคุณผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่! ฮ่าๆๆ…”

ทุกคนหัวเราะกันยกใหญ่ ทั้งสองคนเข้าไปในถ้ำแล้ว เสียงจึงค่อยเงียบลง

พวกเขาจากไป ก็มีคนเอ่ยขึ้นทันที “เด็กสองคนนี้ เกรงว่าคงเพ่งเล็งสถานที่ดีๆ ไว้แล้ว ลำบากกว่าสองเดือน ฉันเห็นศพที่เอากลับมามีแต่ขั้นสี่ทั้งนั้น! ครั้งนี้เกรงว่าพวกเขาจะได้ประโยชน์เป็นกอบเป็นกำจริงๆ!”

“อิจฉาไปไม่มีประโยชน์ เรื่องนี้แบบนี้อันตรายอย่างมาก นายดูพวกเขาสิบาดเจ็บกันมากี่ครั้งแล้ว ฉินเฟิ่งชิงสามารถมีชีวิตรอดได้ถึงตอนนี้ฉันยังแปลกใจอยู่เลย”

“ใช่แล้ว แต่ฉันว่าฉินเฟิ่งชิงน่าจะหลอมกระดูกแกนกลางสำเร็จแล้ว…”

“หวังจินหยางก้าวหน้าไม่น้อยเช่นกัน น่าจะใกล้เข้าระดับกลางขั้นสี่แล้ว”

“เฮ้อ แข็งแกร่งกันขึ้นรุ่นแล้วรุ่นแล้ว ก็ดีเหมือนกัน แก่ๆ อย่างพวกเราจะได้ผ่อนคลายลงบ้าง ช่วงนี้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้จัดการแข่งขันแลกเปลี่ยนขึ้น พวกนายรู้หรือเปล่า?”

“รู้สิ แต่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ พวกของเลียนแบบมีเยอะ สร้างกระแสไปทั่ว ในความคิดฉัน หน่วยทหารควรสอดมือสักหน่อย ให้อัจฉริยะในหน่วยทหารสั่งสอนพวกเขาดูว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่แท้จริงเป็นยังไง!”

“อย่าพูดเลย ใช่ว่าจะไม่มีหวัง ปีนี้เพิ่งจะเริ่มต้น ครั้งหน้าหน่วยทหารอาจจะเข้าร่วมก็ได้”

“…”

ทุกคนถกเถียงกันอยู่พักใหญ่ ไม่นานก็ตกสู่ความเงียบสงบ

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้

ในคลาสเรียน

ฟางผิงได้ยินเสียงซุบซิบ พลันเกิดความคิดอยากฆ่าคนขึ้นมา

“พวกนายเห็นหรือเปล่า? ช่วงนี้โซนหอพักของพวกเรา เหมือนจะมีเจ้าโง่คนหนึ่งว่ายน้ำในฤดูหนาวทุกวัน!”

“เห็นแล้ว ไม่ได้ว่ายน้ำหน้าหนาว แต่น่าจะตกน้ำมากกว่า”

“ฉันก็เห็นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นพวกซื่อบื้อในสาขาสังคมศาสตร์หรือเปล่า นึกไม่ถึงว่าเป็นถึงนักศึกษาเซี่ยงไฮ้ยังจะตกน้ำอีก น่าขายหน้าจริงๆ!”

“ประเด็นคือไม่ใช่แค่ครั้งแรกน่ะสิ ฉันเห็นจากไกลๆ ตั้งหลายครั้งแล้ว”

“พวกนายเห็นเหมือนกันเหรอ? ฉันยังคิดว่าตัวเองตาฝาดซะอีก?”

“…”

พวกนักศึกษาพูดคุยซุบซิบกัน บางคนยังหัวเราะเยาะสัพยอกเป็นครั้งคราว

ฟู่ชางติ่งมองไปทางฟางผิงอย่างสนอกสนใจ หลายคนในหอพักโซนหนึ่งก็มองเขาด้วยสีหน้าเดียวกัน

——————-

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท