ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 168 ทีมรบในพื้นที่ (1)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 168 ทีมรบในพื้นที่ (1)

พักผ่อนอยู่ที่บ้านสองวัน ฟางผิงจึงรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ

ฟางผิงผ่อนคลาย ฟางหยวนกลับยุ่งตัวเป็นเกลียว

บางครั้งฟางผิงถึงกระทั่งสงสัยว่าเขาหรือฟางหยวน ใครกันแน่ที่เป็นประธานบริษัท?

โทรศัพท์ของฟางหยวนดังขึ้นไม่ขาดสาย!

“พี่หยวนหยวนมาประชุมกัน!”

“พี่หยวนหยวน ช่วยฉันดูแผนที่ร่างไว้หน่อย ข้ามปีใหม่ฉันว่าจะตั้งแผงลอย…”

“พี่หยวนหยวน…”

ฟางหยวนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ใหญ่นั้นยุ่งแทบไม่ได้พัก

สายทางนี้เพิ่งวางไป อีกสายก็ต่อเข้ามาทันที

ฟางผิงนอนแผ่อยู่บนโซฟา ดูทีวีไปพลาง มองฟางหยวนที่ชุลมุนวุ่นวายไปพลาง เริ่มตั้งคำถามกับชีวิตตัวเองขึ้นมา

“ฟางหยวน ธุรกิจของเธอจะล้นมือเกินไปรึเปล่า?”

ฟางหยวนง่วนอยู่กับการรับสาย ไม่มีเวลามาคุยเล่นกับพี่ชาย จึงยกมือขึ้นมา ทำท่าประหนึ่งฉันกำลังยุ่งอยู่

“โอ้โห!”

ฟางผิงดูชอบใจไม่น้อย เจ้าเด็กนี่ใช้ได้เลยแหะ!

รอเธอวางสายแล้ว ฟางผิงเตรียมจะวางท่าพี่ใหญ่สั่งสอนสักหน่อย ปรากฏว่ามือถือกลับดังขึ้นอีกครั้ง คนของสมาคมหยวนผิงโทรมาสวัสดีปีใหม่พี่ใหญ่ของพวกเธอล่วงหน้า

ฟางผิงอยากจะกระอักเลือดออกมาอยู่บ้าง ใช่แล้ว วันนี้คือวันที่ยี่สิบสามตามปฏิทินจีน เป็นวันตรุษจีนเล็กของหยางเฉิง

ฟางหยวนมีคนโทรมาสวัสดีปีใหม่ ตัวเองกลับไม่มีเลยสักคน!

เขาหยิบมือถือมาดูพักหนึ่ง ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะโทรศัพท์เข้าเครื่องของฟางหยวน ในสายนั้นบอกว่าตัวเองไม่ได้ค้างค่าชำระอะไร

พอนึกว่าฟางหยวนมีคนโทรมาสวัสดีปีใหม่ ตัวเองไม่มี ฟางผิงจึงไร้หนทางอยู่บ้าง คงไม่อาจปล่อยให้จบไปแบบนี้

ฟางผิงทำได้เพียงเป็นฝ่ายส่งข้อความไปสวัสดีปีใหม่ทางอาจารย์ เหล่าหวังและถานเจิ้นผิง…

เพิ่งส่งไปไม่กี่ข้อความ ในที่สุดฟางผิงก็ได้รับการตอบกลับ

คนที่ส่งกลับมาให้เขาคือถานเจิ้นผิง ‘ดูข่าวของหนานเจียง’

“ดูข่าว?”

ฟางผิงสงสัยอยู่บ้าง ก่อนจะเปลี่ยนไปดูช่องของสถานีโทรทัศน์หนานเจียง

“ไม่กี่วันนี้ผู้ว่าจางจับตาเฝ้าระวังแต่ละเมือง มีการสั่งการให้แต่ละเมือง…”

ในข่าวมีผู้ประกาศข่าวหน้าตาดีกำลังพูดถึงเรื่องการตรวจสอบของผู้ว่าจาง

ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้ว่าจางเริ่มนำทีมลาดตระเวนตรวจสอบมณฑลหนานเจียง ไม่ปล่อยผ่านแม้แต่เมืองเดียว

เหมือนจะมาทางหยางเฉิงด้วยเช่นกัน แต่ก่อนหน้านี้ฟางผิงไม่อยู่บ้านเท่านั้น

จากที่ข่าวรายงาน ผู้ว่าจางไม่ค่อยพอใจสภาพแวดล้อมของผู้ฝึกยุทธ์ในหนานเจียงเท่าไหร่ จึงหาอาจารย์มาจำนวนหนึ่ง

จุดที่สำคัญที่สุดก็คือสร้างทีมรบผู้ฝึกยุทธ์ในพื้นที่ของแต่ละเมืองขึ้นมา

ตามความเข้าใจของฟางผิงคงจะเป็นทีมอาสาสมัครสู้รบของผู้ฝึกยุทธ์

เมืองระดับจังหวัดก่อตั้งสมาชิกทีมรบผู้ฝึกยุทธ์ไม่ต่ำกว่าสามสิบคน

เมืองระดับอำเภอก่อตั้งทีมรบไม่ต่ำกว่าห้าคน

ปี 2009 เป็นต้นไปแต่ละเมืองต้องมีการจัดแข่งขันศิลปะการต่อสู้ จัดสรรงบการศึกษา ให้เงินสนับสนุนพื้นฐาน…

การช่วยเหลือจุนเจือเรื่องเงินต่างๆ ภายหลังจะเกี่ยวข้องกับผลการแข่งขันทั้งหมด

ข้าราชการในพื้นที่ก็ต้องเพิ่มการประเมินอีกหนึ่งรายการ การเป็นทีมรบของผู้ฝึกยุทธ์ในพื้นที่

“นี่คือ…จะดึงทีมรบผู้ฝึกยุทธ์ออกมาอยู่ด้านหน้าเวทีแล้วสินะ?”

ฟางผิงดูข่าวสักพัก ก่อนจะขมวดคิ้ว นี่คือการเปลี่ยนแปลงของหนานเจียง หรือทั้งประเทศ?

หากแค่หนานเจียงที่เดียว งั้นคงจะเกี่ยวข้องกับผู้ว่าจาง

แต่หากเป็นทั่วประเทศ นั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ถ้ำใต้ดินไม่ค่อยดีแล้ว จำเป็นต้องเลือกผู้ฝึกยุทธ์สู้รบในพื้นที่ล่วงหน้า เพื่อทดแทนสมาชิกที่ขาดหายไป

สั่งการให้ก่อตั้งทีมรบผู้ฝึกยุทธ์ในพื้นที่ อย่าลืมว่าในพื้นที่ไม่ได้มีผู้ฝึกยุทธ์มากมาย

พูดถึงหยางเฉิงมีผู้ฝึกยุทธ์แค่ยี่สิบสามสิบคน

ในนั้นมีครึ่งหนึ่งอยู่ในหน่วยราชการ อีกครึ่งทำธุรกิจ จะมีผู้ฝึกยุทธ์กี่คนกันที่สามารถเข้าร่วมทีมรบได้

แต่ตอนนี้เบื้องบนได้สั่งการลงมาถึงกระทั่งเกี่ยวข้องกับงบประมาณในพื้นที่ ต่อให้คัดค้านยังไง คุณก็ต้องสร้างทีมรบผู้ฝึกยุทธ์ออกมาอยู่ดี

เมืองระดับอำเภออย่างพอว่า ห้าคนเป็นอย่างต่ำ แต่เมืองระดับจังหวัดต้องใช้ถึงสามสิบคน

แค่มณฑลหนานเจียง เมืองระดับอำเภอมีเป็นร้อย เมืองระดับจังหวัดอีกกว่าสิบแห่ง

รวมกันแล้วยังไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าหนานเจียงจะสามารถรวบรวมทีมรบผู้ฝึกยุทธ์นับพันคนได้

เมื่อดูข่าวถึงตรงนี้ ฟางผิงจึงโทรหาถานเจิ้นผิง

พอต่อสายติด ถานเจิ้นผิงก็ถามออกมาทันที “ดูข่าวหรือยัง?”

“ดูแล้วครับ ลุงถาน คุณให้ผมดูเรื่องนี้…”

“ก่อนจะเริ่มต้นปีใหม่หยางเฉิงต้องก่อตั้งทีมรบผู้ฝึกยุทธ์ขึ้นมา แต่หยางเฉิงมีผู้ฝึกยุทธ์กี่คนกัน? ทั้งส่วนมากยังเป็นเหมือนกับฉัน เป็นผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไป แม้จะเข้าร่วมคงถูกกำหนดชะตาให้รอตายสถานเดียวเท่านั้น อันที่จริงมีเอกสารมาก่อนหน้านี้แล้ว ทางหยางเฉิงเคยมีการปรึกษาหารือเช่นกัน ผู้ฝึกยุทธ์ของหยางเฉิงมีน้อยจริงๆ ทั้งส่วนใหญ่ยังอายุเยอะแล้ว ความต้องการของหยางเฉิงนั้น อยากจะรับสมัครผู้ฝึกยุทธ์จากภายนอกเข้ามาในทีมรบ ฟางผิง นายสนใจหรือเปล่า?”

“ผม?”

ฟางผิงเอ่ยอย่างขำขันว่า “ลุงถาน ผมยังต้องเข้าเรียน…”

“ไม่รบกวนเวลานายเยอะเกินไปหรอก ตอนที่จัดการแข่ง นายกลับมาลงสนามเป็นตัวแทนให้หยางเฉียงก็พอแล้ว เป็นเมืองระดับอำเภอเหมือนกันทั้งนั้น ฝีมือธรรมดา…”

“ลุงถาน ไม่ได้จริงๆ ครับ ความจริงทางมหาวิทยาลัยก็ค่อนข้างตึงเครียด เวลาไม่ค่อยมี…หยางเฉิงคงไม่ถึงขั้นรวบรวมผู้ฝึกยุทธ์ห้าคนไม่ได้หรอกนะครับ?”

“ประเด็นสำคัญอยู่ที่…ไม่มีคนต่อสู้เป็นแม้แต่คนเดียว…”

ถานเจิ้นผิงพูดความจริงออกมาอย่างจนใจอยู่บ้าง

เมืองใหญ่อย่างหยางเฉิง จนถึงตอนนี้แทบไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ที่สามารถต่อสู้ได้จริงๆ

จากหน่วยสืบสวนก็น่าจะมองออกแล้ว อีกฝ่ายจัดการกับหวงปินผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองยังต้องขอความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้

เมืองระดับอำเภอ แค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองคนหนึ่งยังรับมือไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าน่าเศร้าขนาดไหน

“ผู้ฝึกยุทธ์ที่สามารถต่อสู้ได้ไม่มีสักคน?”

ฟางผิงตกใจอยู่บ้าง ถานเจิ้นผิงเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “ก็ไม่ถึงกับไม่มีสักคน…แค่ว่า…ให้ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้จะใช้เวลานานเกินไป เวลากระชั้นชิดแบบนี้…”

“นี่…นี่จะหละหลวมเกินไปแล้ว”

ฟางผิงรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง ไม่แปลกใจที่ผู้ว่าจางจะบังคับให้ตั้งทีมรบในพื้นที่!

นี่ยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างนั้นเหรอ?

ยังไงหยางเฉิงก็มีผู้ฝึกยุทธ์ยี่สิบสามสิบคน ผลปรากฏว่าตอนนี้แค่ผู้ฝึกยุทธ์ห้าคนยังไม่อาจรวบรวมได้

ถานเจิ้นผิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้าง เรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกองการศึกษาและหน่วยสืบสวน

อยู่อย่างสงบสุขมานาน พวกผู้ฝึกยุทธ์หละหลวมเกินไปจริงๆ

เมื่อก่อนดูกันที่ลำดับขั้นเท่านั้น เรื่องอื่นไม่สนใจ ทุกคนจึงไม่กังวลเรื่องพวกนี้

แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว นอกจากต้องก่อตั้งทีมรบ ยังต้องมีการประเมินขั้นใหม่ นี่คือจะบีบเค้นให้ผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมอย่างพวกเขาไปเรียนเคล็ดวิชาต่อสู้

ดีที่เบื้องบนยังให้เวลา ไม่ได้ให้ดำเนินการทันที

แต่ถานเจิ้นผิงมองออกว่า ในอนาคตบางทีผู้ฝึกยุทธ์ทีมสู้รบอาจจะเป็นฝ่ายที่มีอำนาจ

แม้ตอนนี้จะไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ผู้ฝึกยุทธ์ปราณทั่วไปยังคงครองตำแหน่งสูงเป็นจำนวนมาก เกรงว่าเกิดสถานการณ์แบบนี้ ภายหลังจะเกิดการปฏิรูปครั้งใหญ่

ถานเจิ้นผิงเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยว่า “ฟางผิง นายคิดว่าหากหยางเฉิงเชิญหวังจินหยางกลับมาช่วยสอนเคล็ดวิชาต่อสู้ให้ทีมรบ จะมีหวังหรือเปล่า?”

“เขา…” ฟางผิงครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยว่า “มีโอกาสน้อย เขาก้าวสู่ขั้นสี่แล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้”

“งั้นนายล่ะ?”

“อะไรนะครับ?”

“เธอเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุด ใกล้จะทะลวงขั้นสองแล้ว เคล็ดวิชาต่อสู้ก็ทำได้ดี ทั้งยังเป็นนักศึกษาของเซี่ยงไฮ้ การแข่งขันแลกเปลี่ยนครั้งนี้แค่อยากจะทำให้คนเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่เท่านั้น…ฉันคิดว่าเธอรับผิดชอบสอนเคล็ดวิชาต่อสู้คงไม่มีปัญหาอะไร ฟางผิง จะลองคิดดูสักหน่อยหรือเปล่า?”

——————–

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท