ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 193 พูดเป็นลาง (1)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 193 พูดเป็นลาง (1)

ผ่านไปอีกสองชั่วโมง ปราณของฟางผิงก็โคจรภายในเส้นเลือดอย่างราบรื่น

เวลานี้ฟางผิงจึงหยุดการฝึกวิชา

“ฉันทะลวงขั้นสามแล้ว!”

แม้จะไม่ใช่ขั้นสามตอนปลายหรือสูงสุด แต่เขาก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามแล้ว

“ปี 2008 กลางเดือนเมษายนฉันเข้าสู่วงการผู้ฝึกยุทธ์ ปี 2009 ปลายเดือนมีนาคมทะลวงสู่ขั้นสาม!”

ช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปี นึกไม่ถึงว่าเขาจะเข้าสู่ขั้นสามแล้ว

หวังจินหยางทะลวงขั้นสามในหนึ่งปี นับเริ่มตั้งแต่ที่เขาเข้าสู่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ไม่ใช่นับจากช่วงเวลาที่เขาเพิ่งเข้าสู่เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ แม้จะเป็นหวังจินหยาง ก็เตรียมการสอบศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่มอปลายปีหนึ่งแล้วเช่นกัน

“ขั้นสาม ถ้ำใต้ดิน นักศึกษาแนวหน้า…”

คำพวกนี้ไหลเข้ามาในหัวของฟางผิง

“ตายเยอะที่สุด ตายเร็วที่สุด ก็คือขั้นสามเนี่ยแหละ!”

ข้อมูลอีกอย่างปรากฏเข้ามาในหัวเช่นเดียวกัน

ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ตายมากที่สุดและตายไวที่สุดในช่วงหลายปีมานี้

นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ช่วงนี้เริ่มสัมผัสกับถ้ำใต้ดิน เข้าสู่ถ้ำใต้ดิน เผชิญหน้ากับถ้ำใต้ดินอย่างเป็นทางการ

ดังนั้นผู้ฝึกยุทธ์ในระดับนี้จึงตายเยอะและตายไวที่สุด

ฟางผิงนึกถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วร่าง!

ไม่ได้หวาดกลัว ทั้งไม่ได้ตื่นเต้น แต่เป็นความคาดหวังและสับสนที่ไม่อาจจะบรรยายเป็นคำพูดได้

“ฉันจะได้สัมผัสกับถ้ำใต้ดินแล้ว?”

“ตกลงถ้ำใต้ดินเป็นที่แบบไหนกันแน่?”

“สิ่งมีชีวิตข้างในนั้นเหมือนกับมนุษย์หรือเปล่า?”

“ตกลงถ้ำใต้ดินเป็นอันตรายแบบไหน?”

“เห็นหน้าก็ฆ่ากันเลย?”

“…”

ความสงสัยต่างๆ แวบเข้ามาในใจของฟางผิง

เขาไม่อาจรู้เรื่องพวกนี้ได้ ฟางผิงจึงไม่นึกถึงอีก รวบรวมสมาธิมองข้อมูลร่างกายของตัวเอง

ทรัพย์สิน : 20,800,000

ปราณ : 540 แคล (576 แคล)

จิตใจ : 430 เฮิรตซ์ (449 เฮิรตซ์)

หลอมกระดูก : 126 ชิ้น (90%) , 80 ชิ้น (30%)

ค่าทรัพย์สินใช้ไปไม่เท่าไหร่ การทะลวงเส้นเลือดไม่ได้สิ้นเปลืองอยู่แล้ว

ฟางผิงไม่คิดจะฟื้นฟูปราณ อยู่ในห้องแหล่งพลังงาน ทั้งใช้ยาบำรุงเลือดและปราณขั้นสองไปแล้ว มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะใช้ค่าทรัพย์สินฟื้นฟู

“ขีดจำกัดปราณเพิ่มขึ้นอีกห้าสิบเอ็ดแคล นึกไม่ถึงว่าการทะลวงเส้นเลือดครั้งนี้จะทำให้เพิ่มขึ้นเยอะขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงสุดทั่วไปจะมีปราณสูงถึงหนึ่งพันแคล”

ระหว่างที่พูด จู่ๆ ฟางผิงก็หยัดกายขึ้น เดินออกมาอย่างรีบเร่ง

หน้าเคาน์เตอร์

“อาจารย์ ผมฝึกวิชาไปสี่ชั่วโมง อยากจะคืนห้องตอนนี้ครับ”

อาจารย์ประจำเคาน์เตอร์เหลือบมองเขา ผ่านไปพักหนึ่งค่อยเอ่ยว่า “คืนห้องไม่ได้ เปิดใช้แล้ว จะใช้หรือไม่ใช้ต่อล้วนเหมือนกัน”

“อาจารย์…”

“พลังงานแร่ได้เริ่มปลดปล่อยแล้ว ไม่อาจเอาคืนกลับมาได้ เข้าใจหรือเปล่า?”

“อาจารย์…ผม…”

“ต่อให้พูดมากกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์”

ฟางผิงมองอาจารย์ที่ไม่ยอมอ่อนให้เขา รู้สึกจนใจอยู่บ้าง ตั้งสิบคะแนน แพงจะตายไป!

ชำเลืองมองพวกนักศึกษาที่เพิ่งเดินเข้ามาในโถงใหญ่ จู่ๆ ฟางผิงก็ตะโกนว่า “ห้องฝึกวิชาว่างหนึ่งชั่วโมง คิดแค่เก้าคะแนน!”

อาจารย์หน้าเคาน์เตอร์ตกตะลึงไปเล็กน้อย มองฟางผิงด้วยแววตาลึกล้ำทันที นับว่าจำเขาไว้แล้ว

มีคนเอ่ยสนใจว่า “ห้าคะแนน?”

“ปล้นกันหรือไง แปดคะแนน ไม่เอาก็แล้วแต่ ฉันจะปล่อยให้ว่างไว้เฉยๆ”

“ได้ ตกลงตามนี้!”

สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ สองคะแนนถือว่ามีค่าแล้ว ประหยัดได้ควรจะประหยัด ไม่นานก็มีผู้ฝึกยุทธ์มาทำการแลกเปลี่ยนกับฟางผิง

การแลกเปลี่ยนประเภทนี้จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ ปรากฏว่าอาจารย์หน้าเคาน์เตอร์กลับเอ่ยว่า “ใช้หนึ่งครั้งคิดหนึ่งคะแนน!”

ฟางผิงแทบจะกระอักเลือดออกมา เจ้าหมอนี้จะเอาแบบนี้สินะ!

มองเวลาที่กำลังผ่านไปราวกับสายน้ำ ฟางผิงคงไม่อาจไปทำการแลกเปลี่ยนกับคนอื่นข้างนอกได้อีกแล้ว ทำได้เพียงยอมรับคำพูดของอาจารย์คนนี้โดยปริยาย

คะแนนนี้เห็นได้ชัดว่าทางฟางผิงต้องเป็นคนออก ผู้ฝึกยุทธ์ที่ทำการแลกเปลี่ยนคงไม่ยอมอยู่แล้ว

“เจ็ดคะแนน เสียยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาไปตั้งหนึ่งเม็ด”

เขามองอาจารย์คนนั้นด้วยสายตาลึกล้ำแล้ว ค่อยย้ายสายตาไปที่ป้ายบนอกเขา…ซ่งอิ๋งจี๋!

ได้ ฉันจะจำไว้

วันข้างหน้าฉันควบคุมอำนาจในมหาวิทยาลัยแล้ว จะส่งนายไปทำความสะอาดห้องน้ำ ทั้งต้องชดใช้ยาบำรุงให้ฉันร้อยเท่า!

ช่วงนี้เขาจดจำคนไว้ไม่น้อย ฟางเหวินเสียงจากปักกิ่ง ติดหนี้ยาบำรุงขั้นสูงเขาหนึ่งเม็ด

หวังจินหยางจากหนานเจียง ติดหนี้เขาสี่สิบห้าล้าน

ตอนนี้เป็นคราวของอาจารย์ซ่งจากเซี่ยงไฮ้ ติดหนี้ยาบำรุงเลือดและปราณหนึ่งร้อยเม็ด ขั้นไหนค่อยว่ากันอีกที

ซ่งอิ๋งจี๋เห็นฟางผิงมองป้ายที่อกตัวเองจึงคลี่ยิ้มว่า “ฉันความสามารถธรรมดา ขั้นห้าเท่านั้น จะแลกเปลี่ยนความรู้หน่อยไหมล่ะ?”

“ช่างเถอะครับอาจารย์ซ่ง ผมไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น”

ฟางผิงยิ้มแยกเขี้ยวยิงฟัน ทำท่าประหนึ่งเป็นนักศึกษาที่ใสซื่อ ก่อนจะเดินออกจากห้องแหล่งพลังงานอย่างรวดเร็ว

เขาไปแล้ว ซ่งอิ๋นจี๋ค่อยหัวเราะออกมา “เจ้าเด็กนี่ ฉันกลับอยากเห็นว่าเธอจะเอาคืนยังไง”

เดินออกมาจากห้องแหล่งพลังงาน ฟางผิงก็เจอกับฉินเฟิ่งชิง

ฉินเฟิ่งชิงกำลังถูพื้น…ใช่แล้ว ถูพื้น!

เห็นฟางผิง ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ฟางผิง ให้ฉันยืมเงินสามแสน…”

“ไม่มีเงิน!”

“ฟางผิง พวกเราสนิทกันขั้นไหนแล้ว นายพูดแบบนี้ก็ไม่มีความหมายล่ะสิ”

“ใช่ ยังมีนายอีก นายติดหนี้ฉันสามแสน ฉันจะจำไว้!”

ทิ้งคำพูดนี้ไว้ ก่อนฟางผิงจะจากไปอย่างเร่งรีบ

ฉินเฟิ่งชิงอ้าปากค้าง พึมพำว่า “นายยังไม่ให้ยืมเลย…”

ฟางผิงให้ยืมเงินแล้วเหรอ?

ฉินเฟิ่งชิงอดมองผู้ฝึกยุทธ์ที่ตรวจตราอยู่ที่ห้องโถงไม่ได้ อีกฝ่ายส่ายหัวว่า “อย่ามอง เขาไม่ได้จ่ายเงินแทนนาย”

“งั้นผมติดหนี้เขาสามแสนได้ยังไง?”

“ฉันจะไปรู้เหรอ ถูพื้นดีๆ อย่าแอบอู้ เมื่อไหร่ที่มีคนส่งเงินมา เมื่อนั้นถึงจะไปได้!”

“นาย…”

ฉินเฟิ่งชิงโมโหอย่างมาก ควักมือถือต่อสายไปหาคนบางคน ตะโกนว่า “จางอวี่ ถ้านายไม่ส่งเงินมาอีก ฉันจะไปอัดหญิงชู้ของนายทุกวัน!”

“ไสหัวไปซะ!”

ปลายสายด่าออกมา ก่อนจะตัดสายไปอย่างรวดเร็ว

ผู้ฝึกยุทธ์ที่ตรวจตราอยู่ด้านข้างเหลือบมองเขาไปที คนที่รนหาที่ตายมีเยอะ ส่วนมากตายไปหมดแล้ว นึกไม่ถึงว่าฉินเฟิ่งชิงจะยังมีชีวิตอยู่ น่าแปลกใจจริงๆ

เดินออกมาจากเขตทางใต้แล้ว ฟางผิงเข้าไปที่ฝ่ายบริการอีกครั้ง

ตอนนี้ฝ่ายบริการเงียบเหงาลงไม่น้อย นักศึกษาหลายคนเลือกซื้อของผ่านอินเทอร์เน็ตกัน

เห็นฟางผิง ตาเฒ่าหลี่ไม่มีอารมณ์อะไรทั้งนั้น ฟางผิงหมดประโยชน์แล้ว เขาขี้เกียจจะใส่ใจ

แต่ไม่นาน จู่ๆ ตาเฒ่าหลี่ก็ตาเป็นประกาย เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นักศึกษาฟางผิง รับคะแนนรางวัลจากการทะลวงขั้นสามแล้วหรือยัง?”

“ยัง”

“รีบไปสิ ตั้งสองร้อยคะแนนแน่ะ!”

ตาเฒ่าหลี่ช่วยคิดแทนเขา ทะลวงขั้นหนึ่งรางวัลห้าสิบคะแนน ขั้นสองหนึ่งร้อยคะแนน ขั้นสามสองร้อยคะแนน คะแนนฟรีๆ ทั้งนั้น

ลูกค้ารายใหญ่อย่างฟางผิง ทะลวงขั้นสามแล้ว หลังจากนี้คงจะไม่ขาดแคลนคะแนนอีก

ฟางผิงไม่ลังเลเช่นกัน รีบไปรับคะแนน

พอรับคะแนนแล้วก็วิ่งเข้ามาทันที “สองร้อยสิบเจ็ดคะแนน ขอยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาให้ผมแปดสิบเม็ด…”

“ไปไกลๆ!”

“แปดสิบเม็ด!”

ฟางผิงเอ่ยอย่างหนักแน่น “อาจารย์ ผมแลกเปลี่ยนกับคุณกี่ครั้งแล้ว? ยังมีแพลตฟอร์มที่ช่วยลดปัญหาคุณไปตั้งเท่าไหร่? ส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีเลยหรือไง? ผมไม่ได้เอาไปขาย ผมจะเอาไปให้สมาชิกในสมาคมใช้เป็นสิทธิพิเศษ! เป็นคนธรรมดาทั้งนั้น ไม่ได้ทำอะไรง่ายๆ…”

ตาเฒ่าหลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ฟางผิงเผยแววตามั่นคง “ผมไม่มีเงินแล้ว ไม่งั้นคนละหนึ่งเม็ดคงต้องใช้หนึ่งร้อยแปดเม็ด หรืออาจารย์คิดว่าหนึ่งร้อยแปดเม็ด…”

“ฮ่าๆ”

ตาเฒ่าหลี่หัวเราะระคนโมโหออกมาทันที เธอกล้าพูดจริงๆ

“ของที่จุดแลกเปลี่ยนล้วนมีการบันทึกไว้ ไม่อาจให้เธอเพิ่มอย่างส่งเดช ถ้าไม่มีแบบแผน[1]คงไม่อาจทำอะไรลุล่วงได้…”

“อาจารย์ น้องสาวผมชื่อฟางหยวนเหมือนกัน เธอไม่ได้มีระบบระเบียบอะไร…”

“เธอ…”

ตาเฒ่าหลี่หมดคำจะพูด ผ่านไปพักหนึ่งค่อยเอ่ยว่า “ไม่อนุญาตให้ขายแล้ว ถ้าฉันรู้…”

“ไม่อยู่แล้วครับ!”

ฟางผิงส่ายหัว ให้คุณรู้ก็เป็นเรื่องสิ จะให้คุณรู้ได้ยังไง

“เอาไป”

หักคะแนนฟางผิงจนหมดแล้ว ฟางผิงได้รับยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาแปดสิบเม็ด ค่าทรัพย์สินจึงเพิ่มขึ้นมาหนึ่งล้านสองแสนหกหมื่น

“ยี่สิบสองล้านหกหมื่นแล้ว”

ฟางผิงคำนวณเล็กน้อย ก่อนจะจากไปอย่างเร่งรีบอีกครั้ง

———————

[1] แบบแผน ในที่นี้ใช้ภาษาจีนพ้องเสียงกับคำว่าฟางหยวน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท