ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 223 เตรียมทะลวงด่าน (1)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 223 เตรียมทะลวงด่าน (1)

กลับมาจากสถาบันวิจัย ฟางผิงคล้ายกับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย

ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เขาแทบไม่ได้ทำอย่างอื่น เอาแต่ซื้อพวกยาชุบร่างกาย ยาหลอมร่างกายและยาเสริมสร้างร่างกาย การหลอมกระดูกของเขายังคงช้าลงเหมือนเดิม

ตาเฒ่าหลี่เห็นกี่ครั้งก็ทอดถอนหายใจ

จากต้นเดือนที่ฟางผิงเข้าสู่ขั้นสามตอนกลางจนถึงปลายเดือนเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็มๆ จำนวนการหลอมกระดูกของฟางผิงแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย

นี่อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน!

กระทั่งหลู่เฟิ่งโหรวที่แทบไม่เผยหน้าค่าตาให้ใครเห็นในเดือนนี้ ยังคงมาหาฟางผิงตอนปลายเดือน

ริมอ่างเก็บน้ำ

จ้าวเสวี่ยเหมย เฉินอวิ๋นซีและฟางผิงต่างอยู่ที่นี่ทั้งหมด

หลู่เฟิ่งโหรวมองทั้งสามคนก่อนจะเอ่ยว่า “เสวี่ยเหมย เวลาเกือบเดือนนี้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว! จากขั้นสองตอนต้นจนถึงตอนนี้หลอมกระดูกเก้าสิบแปดชิ้น ทะลวงขั้นสองตอนกลาง ไม่นานน่าจะเข้าสู่ตอนปลายได้แล้ว”

จ้าวเสวี่ยเหมยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เป็นเพราะความช่วยเหลือจากอาจารย์…”

หลู่เฟิ่งโหรวยกมือตัดบทเธอ เอ่ยอย่างครุ่นคิด “ใกล้จะเข้าเดือนมิถุนาแล้ว ตอนนี้ยังเหลือกระดูกอีกยี่สิบแปดชิ้นถึงจะเข้าสู่ขั้นสองตอนปลายได้ ดูท่าก่อนลงถ้ำคงจะไม่มีหวังแล้ว พยายามหน่อย เปิดเรียนเทอมหน้าต้องทะลวงให้ได้”

จ้าวเสวี่ยเหมยรีบพยักหน้า เธอเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกหนึ่งครั้ง สามารถทะลวงขั้นสองสูงสุดก่อนขึ้นปีสองได้ ถือว่าเร็วจนน่าตกใจแล้ว

นี่หมายความว่าปีสอง เธออาจจะเข้าสู่ขั้นสามได้

ก่อนจบการศึกษา ยังมีเวลาเหลือกว่าสามปี บางทีเธออาจลองทะลวงขั้นสี่ได้

“เฉินอวิ๋นซี…พอใช้ได้ หลอมกระดูกหนึ่งร้อยสิบห้าชิ้น ยึดตามความเร็วนี้ ผ่านเดือนมิถุนาไปคงเข้าสู่ขั้นสองสูงสุดได้แล้ว”

เดือนเมษายน หลู่เฟิ่งโหรวออกคำสั่งขั้นเด็ดขาดกับเฉินอวิ๋นซี หากสิ้นเดือนเมษายนหลอมกระดูกไม่ถึงหนึ่งร้อยชิ้นให้เธอออกไปเสีย

เฉินอวิ๋นซีหลอมกระดูกได้หนึ่งร้อยชิ้นในสิ้นเดือนพอดี

เดือนพฤษภาคมยังคงรักษาความเร็วได้ดี

หลอมกระดูกได้สิบห้าชิ้น หากเป็นไปตามที่คาด ผ่านเดือนมิถุนายนไปแล้วคงทะลวงขั้นสองสูงสุดได้แน่นอน

เฉินอวิ๋นซีก้มหน้าไม่พูดอะไร

หลู่เฟิ่งโหรวมองไปทางฟางผิงอีกครั้ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ต้นเดือนพฤษภาคมเธอทะลวงขั้นสามตอนกลาง ตอนนี้ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้ว ร่างกายเธอมีปัญหางั้นเหรอ?”

ฟางผิงส่ายหัว เอ่ยทันที “ร่างกายแข็งแรงดีครับ!”

“งั้นเธอ…”

ฟางผิงเข้าใจความหมายที่หลู่เฟิ่งโหรวจะสื่อ อธิบายว่า “อาจารย์ กระดูกสันหลังมีทั้งหมดยี่สิบหกชิ้น ผมอยากหลอมให้เสร็จในครั้งเดียว!”

หลู่เฟิ่งโหรวม่านตาหดเกร็งเล็กน้อย “ดังนั้นช่วงนี้เธอจึงหลอมร่างกายและเส้นเลือดเป็นหลัก?”

“ครับ”

“เธอรู้ใช่ไหมว่าการหลอมในครั้งเดียวอันตรายและลำบากขนาดไหน? ทำไมถึงมีความคิดแบบนี้?”

ฟางผิงอธิบายอีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ผมอยากจะหลอมกระดูกสันหลังแค่ชิ้นสองชิ้นก่อน แต่หลังจากหลอมแล้ว รู้สึกว่าไม่ค่อยสบายตัว ปวดกระดูกสันหลัง แค่ฝึกวิชายังเป็นเรื่องยาก…”

“นี่เป็นปัญหาที่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลางพบได้ทั่วไปอยู่แล้ว ปรับตัวได้ก็จะดีเอง”

ฟางผิงส่ายหัว “ผมกังวลว่าก่อนเข้าถ้ำ หากทะลวงขั้นสามตอนปลายไม่ได้ กระดูกสันหลังของผมหลอมไม่เสร็จ พลังต่อสู้คงบกพร่องลงอย่างมาก ดังนั้นเลือกจะไม่หลอมหรือหลอมให้สำเร็จครั้งเดียวไปเลยดีกว่า การหลอมกระดูกมีส่วนเกี่ยวข้องกับปราณและร่างกาย ช่วงนี้ผมซื้อยาบำรุงเยอะมาก หลักๆ คือหลอมร่างกายเพื่อให้ร่างกายปรับตัวทัน ปราณผมปลดปล่อยได้ยาวนาน นั่งสมาธิหลายวัน บางทีอาจจะสามารถหลอมกระดูกสันหลังให้เสร็จในครั้งเดียวได้ เป็นแบบนี้ผมก็จะทะลวงขั้นสามตอนปลายโดยไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวอีกแล้ว”

“หลอมกระดูกสันหลังในครั้งเดียว…”

หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยเสียงเข้ม “เธอรู้เหรอว่านี่ต้องใช้ปราณเท่าไหร่ ใช้พลังจิตใจมากขนาดไหน? อย่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า!”

กระดูกสันหลังยี่สิบหกชิ้น คนทั่วไปหลอมกระดูกสันหลัง อย่างพวกเซี่ยเหล่ยนั้นหลอมกระดูกหนึ่งชิ้นสิ้นเปลืองปราณกว่าหนึ่งพันแคล

หลอมกระดูกยี่สิบหกชิ้น อย่างน้อยต้องเสียปราณประมาณสามหมื่นแคล

ทั้งยังมีความแตกต่างในเรื่องของเวลาและลำดับขั้น

ระหว่างนั้นยังต้องสิ้นเปลืองกำลังกายและกำลังใจอีก…

ฟางผิงจะหลอมกระดูกในครั้งเดียว เรื่องแบบนี้ในสายตาคนทั่วไปไม่อาจเป็นไปได้

แม้จะอัดยาบำรุงก็ไม่อาจสำเร็จอยู่ดี เว้นเสียแต่ว่าจะเอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางหินพลังงาน ทั้งต้องเป็นหินประเภทที่ใช้ฝึกวิชาด้วย

ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น บางทีอาจทำได้

ประเด็นอยู่ที่ไม่เคยมีผู้ฝึกยุทธ์คนไหนทำมาก่อน

ให้ผู้ฝึกยุทธ์ต่ำกว่าขั้นสามคนหนึ่งอยู่ท่ามกลางหินพลังงานที่ใช้ฝึกวิชา ลูกหลานของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้ายังไม่อาจสิ้นเปลืองได้ถึงขนาดนั้นเลย

ฟางผิงหัวเราะว่า “อาจารย์ ผมคิดว่าไม่มีปัญหา ผมมีพรสวรรค์อยู่แล้ว”

“เธอ…”

หลู่เฟิ่งโหรวกวาดสายตามองเขา ก่อนจะแค่นเสียงในลำคอ

พลังจิตใจของฟางผิงนั้นล้ำหน้ากว่าคนอื่น เธอรู้เรื่องนี้ดี

แต่เรื่องที่ไขกระดูกแปรสภาพเป็นปรอท เธอเป็นคนพูดกับฟางผิง ฟางผิงแทบไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน

“อาจารย์วางใจเถอะครับ หากไม่ไหวจริงๆ ไม่ใช่จะจบเห่สักหน่อย อย่างมากก็ลดการหลอมกระดูกให้น้อยลง คงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร”

ในเมื่อหลอมกระดูกแยกชิ้นได้ ฟางผิงหลอมในครั้งเดียวไม่สำเร็จคงไม่ตายอยู่แล้ว

ครั้งนี้ที่ฟางผิงอยากหลอมให้เสร็จในครั้งเดียวเป็นเพราะอยากลองเช่นกัน ใช้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ในการปรับตัว

กระดูกสันหลังนั้นสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก ในขั้นตอนนี้ทุกครั้งที่ผู้ฝึกยุทธ์หลอมกระดูกสันหลังเสร็จชิ้นหนึ่งจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวระยะหนึ่ง

พูดดูเหมือนจะไม่นาน หลอมกระดูกหนึ่งชิ้นต้องใช้เวลาปรับตัวหนึ่งถึงสองวัน

แต่ยี่สิบหกชิ้น นั่นก็ต้องเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว

เรื่องนี้ฟางผิงเพิ่งมารู้ตอนหลัง

ดังนั้นตั้งแต่หลอมกระดูกสันหลังชิ้นแรกจนถึงเกินกว่าครึ่ง ฟางผิงรู้สึกไม่เข้าท่าเท่าไหร่จึงได้เปลี่ยนความคิด

เวลาหนึ่งเดือนนี้เขาใช้ปราณหลอมร่างกายและเส้นเลือดเป็นหลัก

เงินสดติดตัวยี่สิบสี่ล้านแทบจะถูกใช้จนเกลี้ยง

ค่าทรัพย์สินตอนนี้เหลือแค่สามสิบล้านเท่านั้น

แน่นอนว่ากระดูกสันหลังของเขากำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาเช่นกัน แม้จะไม่มีการหลอมสำเร็จสักชิ้น แต่ภายใต้การทำงานของยาหลอมร่างกายและยาเสริมสร้างร่างกาย กระดูกสันหลังทั้งยี่สิบหกชิ้นจึงยังคงมีความก้าวหน้า

ใช้ค่าทรัพย์สินสามสิบล้านเพื่อให้ระบบหลอมกระดูกอาจไม่พอเสมอไป

ความคิดของฟางผิงคือนั่งสมาธิติดต่อกันหลายวัน พึ่งปราณตัวเองมาหลอมกระดูก ใช้ระบบเพิ่มปราณและพลังจิตใจ

เป็นแบบนี้แล้ว ถึงจะใช้เวลามากหน่อย แต่การหลอมกระดูกก็จะสำเร็จด้วยตัวเขาเอง ไม่ได้ยืมมือระบบอีกต่อไป

ด้านหนึ่งเป็นการประหยัดค่าทรัพย์สิน อีกด้านเป็นเพราะฟางผิงตระหนักถึงปัญหาอะไรบางอย่าง

ระบบช่วยหลอมกระดูกจะทำให้เขาเสียโอกาสกับการสัมผัสเรื่องพวกนี้โดยตรง

พลังควบคุมกระดูกสู้คนอื่นไม่ได้ ภายหลังยังต้องสิ้นเปลืองเวลาเพื่อแก้ไขผลข้างเคียงที่จะตามมา

แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ยังไม่สู้ทำด้วยตัวเองดีกว่า

หลู่เฟิ่งโหรวยังคงขมวดคิ้ว เฉินอวิ๋นซีเงยหน้าขึ้นมาเช่นกัน “นายอยากจะหลอมกระดูกในครั้งเดียว? นั่นเป็นเรื่องที่อันตรายมาก…”

ฟางผิงไม่คิดอย่างนั้น เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จะมีอันตรายอะไรได้ ไม่เป็นไรหรอก”

หลู่เฟิ่งโหรวถอนหายใจ เอ่ยว่า “หากเธอจะทำอย่างนั้นจริงๆ ให้ไปที่ห้องแหล่งพลังงาน หรือจะไปสระปราณเลยก็ได้”

ฟางผิงเอ่ยด้วยใบหน้ากลัดกลุ้ม “ช่างเถอะครับ แพงเกินไป ผมรับไม่ไหวหรอก”

การหลอมกระดูกครั้งนี้ ฟางผิงคิดดีแล้ว นอกเสียจากค่าทรัพย์สินจะหมดเกลี้ยงหรือหลอมกระดูกทั้งยี่สิบหกชิ้นได้แล้ว เขาถึงจะยอมหยุด

อาจต้องใช้เวลานานถึงสามสี่วัน แต่ห้องแหล่งพลังงาน ใช้ตั้งสองร้อยสี่สิบคะแนนต่อหนึ่งวัน เขารับไม่ไหวหรอก

“ยืมสิ! แพลตฟอร์มของตัวเองแท้ๆ หรือเรื่องแบบนี้ยังต้องให้บอก?”

——————-

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน