ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 240 จำไว้ อย่าเดินไปเรื่อย (1)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 240 จำไว้ อย่าเดินไปเรื่อย (1)

ในเวลาเดียวกัน

ฟางผิงมองไปรอบทิศทาง พึมพำว่า “คนล่ะ?”

“วิ่งเร็วขนาดนี้เชียว?”

“หัวสิงโตจะให้ฉันอยู่รวมกับทีมขั้นสองจริงๆ สินะ?”

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ตั้งใจไม่ให้ฉันตามทัน?”

ฟางผิงบ่นอุบอิบ เหลียวซ้ายแลขวา รอบทิศทางมีแต่หญ้ากับหญ้า

ไม่มีใครมาเผา ทั้งไม่มีใครจะสิ้นเปลืองใช้หินพลังงานมาเผาหญ้ารกชัฏพวกนี้ด้วย

ด้านบนยังคงมีดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่แขวนอยู่

ฟางผิงเหลียวมองไปข้างหลัง พึมพำว่า “กลับไปตอนนี้?”

เมื่อกี้เดินออกมาอย่างองอาจ กลับไปตอนนี้ คนอื่นคงไม่เชื่อว่าเขาตามหัวสิงโตไม่ทัน จะคิดแค่ว่าเขาขี้ขลาดกลัวตาย

เขาไม่ต้องสนเรื่องหน้าตาแล้วหรือไง?

ฟางผิงลอบด่าในใจ ฉันก็สนใจเรื่องหน้าตาเหมือนกัน ตอนนี้กลับไปได้ที่ไหนล่ะ?

“หัวสิงโตบอกว่าจะไปบริเวณเขตรังสีจำกัดในสามสิบกิโลเมตร ฉันเพิ่งเดินมาไม่กี่กิโลเมตร? รวมกับเขตปลอดภัยอีกสิบกิโลเมตรก่อนหน้านี้…”

ฟางผิงคำนวณยกใหญ่ เดินไปอีกไม่กี่สิบกิโลเมตร น่าจะออกไปนอกเขตจำกัดรังสีได้แล้ว

พวกหัวสิงโตคงจะอยู่ที่นั่นสินะ?

มองไปข้างหน้า ฟางผิงไม่คิดลังเลอีก เดินตามทางไปอย่างเงียบๆ

ห่างจากฟางผิงไม่กี่พันเมตร

“ไม่ได้ตามมา?”

ถังเฟิงขมวดคิ้วแน่น แค่นเสียงในใจ ในเมื่อยินดีจะอยู่กับทีมขั้นสอง งั้นก็รั้งตัวอยู่นั่นแหละ!

“เร่งความเร็วหน่อย ต้องไปถึงที่หมายก่อนฟ้ามืด หลังจากนี้พวกเราจะไม่กลับเข้ามาในเมือง ค้างคืนข้างนอก!”

“ครับ/ค่ะ!”

พวกนักศึกษาต่างเร่งความเร็ว จางจื่อเวยรีบเดินไปตามทาง เอ่ยออกมาว่า “นึกไม่ถึงว่าจะไม่มา หมอนี้รักตัวกลัวตายจริงๆ สินะ!”

อวี๋ซั่งหวาขมวดคิ้วเล็กน้อย “อย่าพูดแบบนั้น บางทีเขาอาจมีเส้นทางของเขา…”

“แล้วแต่เขาเถอะ…” จางจื่อเวยเร่งฝีเท้า เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “คนอย่างเขาไม่อาจเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงได้หรอก!”

เดิมคิดว่าฟางผิงเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อของเซี่ยเหล่ย แต่ตอนนี้แค่แยกตัวออกมาสามสิบกิโลเมตร ฟางผิงกลับบ่ายเบี่ยง ทั้งถังเฟิงพูดไปเยอะซะขนาดนั้นแล้ว ยังคงเลือกรั้งตัวอยู่ในทีมผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง นี่ทำให้จางจื่อเวยคิดว่าเธอประเมินฟางผิงสูงเกินไป

คนอื่นๆ ต่างปิดปากเงียบ ฟางผิงไม่มา เหนือความคาดหมายของทุกคนเช่นกัน แม้ถังเฟิงจะบอกว่าให้สิทธิ์เขาอยู่ในทีมขั้นสองก็ตาม แต่ทุกคนล้วนฟังออก นั่นเพราะตั้งใจกระตุ้นเขา ปรากฏว่าฟางผิงรั้งตัวอยู่จริงๆ พวกเขาจึงนึกไม่ถึงอยู่บ้าง

ภายใต้การไล่ตามสุดกำลัง ฟางผิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่สิ้นเปลืองปราณ แต่ร่างกายของเขาผ่านการหลอมของขั้นสามตอนปลายมาครั้งหนึ่งแล้ว จึงมีปราณเยอะกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปไม่น้อย

เหวี่ยงดาบฟันหญ้ารกชัฏข้างหน้า ฟางผิงสำรวจรอบทิศทาง เอ่ยอย่างโมโหว่า “นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!”

เขาใช้ความเร็วไล่ตามแล้ว ยังคงไม่อาจตามทัน ตอนนี้เกรงว่าจะออกมาข้างนอกเกือบสามสิบกิโลเมตรแล้ว?

ด้านหน้านั้นฟางผิงพบร่องรอยจากการต่อสู้บางส่วน

ในป่ารกร้าง พื้นดินถึงกระทั่งมีคราบเลือดปรากฏอย่างเลือนราง

“นี่คือสนามบดเนื้อ?”

ฟางผิงพึมพำ ในคาบเรียนอาจารย์เคยอธิบายว่าออกไปนอกเมืองสามสิบกิโลเมตร ก็เป็นสถานที่ที่ถูกขนานนามว่าสนามบดเนื้อ

ที่นี่ผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์และผู้ฝึกยุทธ์เมืองเทียนเหมินมักจะปะทะกันเป็นประจำ ทั้งสองฝ่ายห้ำหั่นกันอยู่ตลอด

หลายปีที่ผ่านมา ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งสองฝ่ายที่ตายอยู่บนผืนแผ่นดินแห่งนี้ จำนวนเกินกว่าหมื่นคนไปแล้ว

ผู้ฝึกยุทธ์นับหมื่นไม่ใช่คนธรรมดา ผู้ฝึกยุทธ์นับหมื่นก่อตั้งเป็นทีมทหาร รวมกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูง เพียงพอให้กวาดล้างทีมทหารธรรมดาหนึ่งล้านนายได้แล้ว

“มาถึงสนามบดเนื้อก็ยังไม่เจอ…หรือว่า…เดินมาผิดทาง?”

ฟางผิงถามตัวเองอย่างไม่มั่นใจ ยังไงก็ไม่ได้เป็นทางตรงทอดยาว กลางป่ารกร้างมีแค่ทางเดินเล็กๆ ที่คนบางส่วนเหยียบย่ำเบิกทางเท่านั้น น้อยครั้งที่ผู้ฝึกยุทธ์จะเดินตามเส้นทางสายหลัก

ทางเดินเล็กๆ ที่ฟางผิงเพิ่งใช้สัญจร มีคนผ่านทางนี้ไม่เยอะ ทั้งเขาก็เห็นพวกถังเฟิงเดินตามเส้นทางนี้มาเช่นกัน ถึงได้ไล่ตามเส้นทางเล็กๆ ที่ไม่ค่อยชัดเจนนี้มา

“หรือพวกเขาจะเปลี่ยนเส้นทาง?”

ฟางผิงไม่ค่อยมั่นใจ “งั้นตอนนี้ฉันควรทำยังไง?”

ฟางผิงปวดหัวอยู่บ้าง พื้นที่รกร้างว่างเปล่า พวกถังเฟิงก็ไม่มีคนเยอะ หากเปลี่ยนเส้นทาง เขาจะหาเจอได้ยังไง?

บอกว่าสนามบดเนื้อห่างออกไปสามสิบกิโลเมตร แต่นี่เป็นระยะทางเส้นตรง สนามบดเนื้อก็เป็นแค่ชื่อเรียกโดยรวม ลากขวางตามแนวเขตรังสีถือว่ากว้างมาก ระยะหลายพันลี้แทบจะเป็นเขตสนามบดเนื้อทั้งหมด

ถ้ำใต้ดินมีพื้นที่เยอะ คนน้อย รัศมีกว่าสิบกิโลเมตรแทบจะไม่มีคนเลยถือเป็นเรื่องปกติ

“ไม่งั้น…กลับเมืองความหวังก่อนดีหรือเปล่า?”

ฟางผิงชั่งน้ำหนักในใจ “หรือว่า ควรฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำสักสองสามคนแล้วค่อยกลับไป? เจ้าพวกนั้นจะได้ไม่คิดว่าฉันมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่?”

มาถึงสนามบดเนื้อแล้ว กลับไปตัวเปล่าแบบนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรให้แย้งอยู่บ้าง

สนามบดเนื้อเป็นสถานที่ที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางเคลื่อนไหว ขั้นห้าขั้นหกมีน้อย

“ขอแค่ไม่เจอขั้นหกสูงสุดเหมือนหัวสิงโต…อาจจะหนีรอดก็ได้…”

“ช่างเถอะ ฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสักหน่อยแล้วค่อยกลับดีกว่า พวกเวรนั่นจะได้รู้ว่าฉันฆ่าขั้นสามสูงสุดได้ มีประสบการณ์เยอะกว่าพวกเขาเป็นไหนๆ!”

เข้ามาในเขตสนามบดเนื้อ ที่นี่ค่อนข้างแห้งแล้งไม่ค่อยมีต้นไม้ ผู้ฝึกยุทธ์มักจะต่อสู้กันทำให้สนามบดเนื้อแห่งนี้ดูเว้าแหว่ง มองเห็นเป็นหลุมบ่อไปทั่วทุกหนทุกแห่ง

ฟางผิงผ่อนคลายฝีเท้า รวบรวมสมาธิ จดจ่อกับสภาพแวดล้อมรอบๆ

ก่อนหน้านี้อยู่เป็นกลุ่มใหญ่ อาจารย์ระดับกลางสองคนเป็นผู้ดูแลนักศึกษากว่าร้อยคน แทบไม่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

ตอนนี้เขาอยู่คนเดียว อันตรายจึงมีมากขึ้น

“ใคร?”

จู่ๆ ฟางผิงก็เอ่ยเสียงดัง ง้างดาบเตรียมจู่โจม

ผ่านไปสักพัก รอบทิศทางกลับเงียบสงบ เวลานี้ฟางผิงจึงวางดาบลง ไม่เห็นมีใครออกมา น่าจะไม่มีคนอยู่

“ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำฟังออกว่าฉันพูดอะไรงั้นเหรอ?”

“น่าจะออก แค่คำเดียวเอง…”

รอบๆ นั้นเงียบเกินไป ทำให้ฟางผิงเป็นกังวลอยู่บ้าง ทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง ลดความไม่สบายใจลง

มองไปทั่วบริเวณอย่างระแวดระวังกว่าสิบนาที ฟางผิงแทบไม่เห็นแม้แต่เงาผี ชั่วขณะนั้นจึงผิดหวังไม่น้อย

“หรือควรกลับไปก่อน?”

ฟางผิงเหลียวซ้ายมองขวา คิดอยากจะกลับไปอยู่บ้าง

อยู่ในป่าข้างนอกคนเดียว ทั้งยังอาจเผชิญกับศัตรูได้ตลอดเวลา จิตใจตึงเครียด ยากที่จะรับได้

ในตอนที่ฟางผิงผุดความคิดนี้ขึ้นมา กำลังจะคลายความระวัง พงหญ้าทางซ้ายจู่ๆ ก็มีเงาปรากฏ!

ครู่ต่อมา ฟางผิงขนลุกชันทันที รีบถอยหลบ!

‘ฟึ่บ’

เสียงเนื้อปริแตกดังขึ้น ฟางผิงม่านตาหดเกร็ง เร่งฝีเท้าถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว!

คนที่จู่โจมจากพงหญ้าตามมาอย่างเร็วเช่นกัน แต่ยังเร็วสู้ฟางผิงไม่ได้ เห็นฟางผิงถอยหลบจากระยะโจมตี ชายหนุ่มผมยาวที่ออกมาจากพงหญ้าก็ประกายสายตาไม่พอใจ ก่อนจะกระโจนเข้าพงหญ้า หายไปในชั่วพริบตา

ฟางผิงยังคงหวาดผวา ลูบลำคอของตัวเอง มือนั้นเปียกชื้น เลือดไหลแล้ว

อีกฝ่ายเกือบแทงดาบทะลุลำคอของเขา

สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ที่ต่ำกว่าขั้นสาม ลำคอถือเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ถึงแก่ความตายอย่างหนึ่ง

หน้าผากของฟางผิงชุ่มไปด้วยเหงื่อ ก่อนจะโมโหอย่างยิ่ง อีกฝ่ายน่าจะไม่ถึงขั้นสามตอนปลาย แต่เกือบจะฆ่าตัวเองได้แล้ว!

“คิดจะหนี!”

ฟางผิงปะทุโทสะ ครู่ต่อมาก็ตามเข้าไปในพงหญ้าอย่างรวดเร็ว

เพิ่งจะเข้าไป ประกายดาบก็ส่องแสงวูบวาบ

อีกฝ่ายไม่ได้หนี แต่กำลังรอฟางผิงอยู่!

ครั้งนี้ฟางผิงกลับไม่มีท่าทีลนลาน ก้มหัวเล็กน้อย หลบจากปลายดาบของอีกฝ่ายในชั่วพริบตา ครู่ต่อมา ฟางผิงแทบจะไม่มองตัวอีกฝ่าย ดาบยาวฟันออกไปราวกับสายฟ้าฟาดตามทิศทางที่พลังจิตใจเขาสัมผัสถึงปราณของศัตรูได้

‘ฉับ!’

ดาบยาวผ่านทะลุเนื้อ หญ้ารกข้างหน้าฟางผิงถูกฟันหล่นเกลื่อนกลาด ใบมีดหั่นร่างที่อยู่หลังพงหญ้าเป็นสองท่อนเช่นกัน

“แม่งเหอะ คิดว่าฉันสัมผัสถึงนายไม่ได้หรือไง?”

ฟางผิงด่าออกมา ก่อนหน้านี้เขาเตรียมตัวไม่พอ รวมถึงอีกฝ่ายปิดบังปราณไว้ ดังนั้นจึงถูกลอบโจมตี

ทว่านับตั้งแต่พลังจิตใจทะลวงห้าร้อยเฮิรตซ์ แม้จะยังทำไม่ถึงขั้นปลดปล่อยออกมากดดันศัตรูได้ แต่ก็ยังพอให้ปลดปล่อยออกมาเล็กน้อย พลังจิตใจสัมผัสอนุภาคพลังงานได้อย่างว่องไว อันที่จริงพลังปราณก็เป็นการใช้อนุภาคพลังงานอย่างหนึ่งเช่นกัน

อีกฝ่ายอยู่ใกล้กับฟางผิงขนาดนี้ แม้จะปกปิดปราณดีขนาดไหน ในสายตาของฟางผิงก็ยังเป็นหิ่งห้อยที่ส่องแสงในความมืดอยู่ดี

ฟันอีกฝ่ายด้วยดาบเดียว ฟางผิงตัดหญ้ารอบๆ ออกไปด้วย เพิ่มรอยแหว่งให้สนามบดเนื้อขึ้นมาอีกหนึ่งวง

เหลือพื้นที่ไว้ให้ตัวเองอยู่นิดหนึ่ง เวลานี้ฟางผิงค่อยเดินไปตรวจค้นผู้ชายที่โดนฟันคนนั้น

ผมที่ยาวคลุมไหล่ ก่อนหน้านี้น่าจะถูกมัดไว้ ตอนนี้กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ฟางผิงระเบิดปราณในดาบเดียว ผู้ฝึกยุทธ์ต่ำกว่าขั้นสามตอนปลายยากจะต้านไหว หัวของอีกฝ่ายกลายเป็นสองส่วนนานแล้ว

“ผมสีดำ…”

ฟางผิงนั่งยองๆ สำรวจเล็กน้อย “ไม่ต่างจากมนุษย์เท่าไหร่…ไม่สิ ไม่ต่างจากคนเอเชียเท่าไหร่”

ศพที่นอนบนพื้นมีผมสีดำ ผิวสีเหลือง น่าจะอายุประมาณยี่สิบห้าถึงสามสิบปี

“ฝีมืออยู่ในขั้นสามตอนต้น…ใจกล้าไม่น้อย นึกไม่ถึงว่าจะลอบโจมตีขั้นสามตอนปลาย…”

แน่นอนว่าอีกฝ่ายอาจมองความสามารถของฟางผิงไม่ออกเสมอไป ฟางผิงดูยังอายุน้อย ทั้งไม่ได้ช่ำชองเหมือนผู้ฝึกยุทธ์ที่เคยเข้าถ้ำมาก่อน คล้ายกับลูกไก่อ่อน นี่จึงเป็นสาเหตุที่อีกฝ่ายลอบโจมตีเขา

ฟางผิงค้นร่างของอีกฝ่ายพักหนึ่ง เจอกระเป๋าผ้าเล็กๆ ใบหนึ่ง ทิ้งกระเป๋านั่นไว้อีกด้าน ไม่ได้รีบตรวจสอบ

กระเป๋าผ้าและกระบี่ในมืออีกฝ่ายถือเป็นของที่เขาได้จากการต่อสู้ครั้งนี้

———————–

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท