ตอนที่ 250 ฟางผิงลูกรักพระเจ้า (2)
เขาไปแล้ว หลู่เฟิ่งโหรวก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าหนู ครั้งนี้ใจกล้าขึ้นมาไม่น้อย”
ท้าทายถังเฟิง เมื่อก่อนฟางผิงชอบทำลับหลังเท่านั้น ไม่กล้าพูดต่อหน้า
“ฮ่าๆ…” ฟางผิงเอ่ยอย่างตื่นเต้นอยู่บ้าง “อาจารย์ ไขกระดูกผมเป็นปรอทแล้ว!”
“หืม?”
“สัมผัสได้หรือเปล่า?” ฟางผิงชักขาออกมา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไขกระดูกแปรสภาพเป็นปรอทแล้วจริงๆ…”
หลังจากนั้นฟางผิงก็ห้อยโตงเตงอยู่กลางอากาศทันที หลู่เฟิ่งโหรวหิ้วคอเขาขึ้นมา เอ่ยอย่างแปลกใจว่า “ทำได้ยังไง?”
“คือว่า…คุณปล่อยผมลงก่อน!”
น่าอายชะมัด!
ไม่ใช่แค่ครั้งแรกด้วย!
หลู่เฟิ่งโหรวปล่อยเขาลง เอ่ยด้วยแววตาวับวาว “เจ้าหนู เกิดอะไรขึ้น?”
“ผมหลอมกระดูกจนกระทั่งไขกระดูกเป็นปรอทไง!”
“เหอะ!”
“จริงๆ นะ!”
หลู่เฟิ่งโหรวไม่ถามอีก มองเขาไปแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปข้างนอก “เธอควรจะกลับไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ครั้งนี้อันตรายจริงๆ ทั้งสองเมืองเข้ามาโจมตี สงครามคงจะเกิดในวันพรุ่งนี้ไม่ก็วันมะรืน อาการบาดเจ็บเธอยังไม่หายดี เป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามเท่านั้น หากสงครามปะทุขึ้น มีโอกาสที่จะตายสูง”
“พวกขั้นสองก็อยู่เหมือนกัน”
“พวกเขาจำเป็นต้องเข้าร่วม ถ้ำใต้ดินไม่อนุญาตให้ใครถอนตัว! ในเมื่ออยู่ที่นี่ จำเป็นต้องรบจนกว่าตัวตาย! เธอไม่เหมือนกัน เธอเพิ่งจะสร้างผลงานใหญ่ ดังนั้นเธอจึงออกไปได้”
“ถ้าพวกเขาตายหมดแล้ว ผมรอดอยู่คนเดียว ไม่ใช่ว่าผมจะต้องแบกรับคำด่าไปชั่วชีวิตเลยหรือไง? ไม่มีใครเป็นพยานว่าผมสร้างผลงานสักคน”
“ปัญญาอ่อน!”
“อันที่จริงผมกลัวตาย กลัวตายมากๆ แต่ถึงสถานการณ์คับขัน ปรมาจารย์กลุ่มใหญ่ยังอยู่ที่นี่ ผมไม่กล้าแม้แต่จะรั้งตัวอยู่ วันหน้าพบเจอกับศัตรูแข็งแกร่ง ไม่ใช่ว่าผมต้องรอตายอย่างเดียวหรือไง? ยิ่งไปกว่านั้นผมคิดว่าพวกเราเอาชนะได้ แค่สองเมืองเท่านั้น ปรมาจารย์ของมนุษย์มีตั้งมากมาย หากไม่คิดอะไรเยอะ ฆ่าพวกเขาตายให้หมดยังได้เลย!”
“เธอคิดเพ้อฝันเกินไป” หลู่เฟิ่งโหรวที่มักจะหุนหันพลันแล่นต่อหน้าพวกถังเฟิง ตอนนี้กลับต้องส่ายหัวว่า “เธอควรจะรู้ว่าเจ้าเมือง อย่างน้อยต้องเป็นยอดฝีมือขั้นเก้า ถ้ำใต้ดินสิบสามมือง หมายความว่าอย่างน้อยมีขั้นเก้าสิบสามคน นี่คืออย่างน้อยที่สุด! มนุษยชาติมีขั้นเก้ากี่คนกัน? ประมาณสามสิบ หากเปิดสงครามจริงๆ ยังไม่รู้ว่ายอดฝีมือในส่วนลึกของถ้ำใต้ดินจะออกมาหรือเปล่า ถ้าสงครามใหญ่ปะทุขึ้น เพื่อกำราบถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ มนุษยชาติจะต้องสูญเสียเกินกว่าครึ่ง แล้วหากทางเข้าอื่นๆ มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน นั่นคงเป็นจุดจบของมนุษยชาติแล้ว”
“แต่ก็ไม่มีเหตุผลให้รอความตายอยู่ดี!”
“ใช่ ดังนั้นครั้งนี้อีกฝ่ายจึงร่วมมือกันสองเมือง พวกเราก็มียอดฝีมือขั้นเก้ามานั่งรักษาการณ์เช่นกัน อีกฝ่ายส่งระดับสูงมาเท่าไหร่ เราจะส่งออกไปสู้เท่านั้น ไม่มากจนเกินไป ฆ่าพวกเขาไม่เป็นไรอยู่แล้ว อันที่จริงสิ่งที่พวกเรากังวล มนุษย์ถ้ำก็กังวลเหมือนกัน ยอดฝีมือและปรมาจารย์ต่างมีพลังรบในขั้นสูงสุด ทุกครั้งที่ทำสงคราม…ระดับกลางลงไปถึงจะบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากอย่างแท้จริง เธอระวังตัวด้วยละกัน อย่ารีบพาตัวเองไปตายล่ะ”
“คงไม่ขนาดนั้นมั้งครับ ผมคิดว่าผมดวงแข็งไม่น้อย…” ฟางผิงหัวเราะ กระซิบว่า “อาจารย์ ความจริงผมเคยเอาตัวรอดมาจากสิ่งมีชีวิตระดับสูงได้ จะตายง่ายขนาดนั้นได้ยังไงกัน”
“เจี่ยว?”
“อือ”
“ว่าแล้ว” หลู่เฟิ่งโหรวชำเลืองตามองเขา “อย่าเอาความบังเอิญมาคิดเป็นจริงเป็นจัง ครั้งนี้โชคดี ครั้งหน้าเจออีก อาจจะไปเกิดใหม่ก็ได้”
“เข้าใจแล้วครับ”
“ฉันไปล่ะ”
หลู่เฟิ่งโหรวไม่พูดอะไรอีก สาวเท้าจากไป
—
พวกอาจารย์ไปแล้ว พวกฟู่ชางติ่งก็เดินเข้ามา
เห็นสภาพของฟางผิง ทุกคนต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ฟางผิงแค่นเสียงในลำคอ “มากันแล้ว”
“คือว่า…ฟางผิง…”
“ฉันไม่โทษพวกนาย อันที่จริงเป็นทางที่ฉันเลือกเองเหมือนกัน แต่ว่าพวกนายทำร้ายจิตใจฉัน อวิ๋นซี เอายาคืนชีวิตให้ฉันสักสองสามเม็ดสิ จะได้ปลอบประโลมจิตใจฉันได้บ้าง”
เฉินอวิ๋นซีคลำกระเป๋าตัวเอง จากนั้นก็ยกขวดยาจะยื่นให้เขา…
ฟู่ชางติ่งอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง แบบนี้ก็ได้?
ฟางผิงเห็นว่าเธอจะให้จริงๆ ก็เอ่ยอย่างลำบากใจ “ช่างเถอะ ฉันไม่กินของฟรีๆ หรอก รอช่วยชีวิตน้อยๆ ของพวกนายได้ ค่อยเอามาให้ฉันอีกที แลกเปลี่ยนกันอย่างเท่าเทียม ตอนนี้คงไม่ใครสงสัยว่าฉันฆ่ายอดฝีมือไม่ได้แล้วสินะ?”
หยางเสี่ยวม่านพึมพำว่า “นายอย่ามาช่วยฉันเลย ฉันไม่มีเงินให้”
“ไม่คิดจะช่วยเธออยู่แล้ว เธอและจ้าวเหล่ย พวกเธออยากให้ฉันช่วยชีวิตต้องจ่ายด้วยยาคืนชีวิตสิบเม็ดเท่านั้น ไม่งั้นอย่าฝันไปเลย!”
จ้าวเหล่ยใบหน้าดำคล้ำ ฉันไปทำอะไรให้นายอีก?
ฟู่ชางติ่งหัวเราะแห้งๆ ไม่พูดถึงประเด็นนี้ต่อ เอ่ยเสียงเบาว่า “ขั้นห้าสูงสุดคนนั้น นาย…”
“นายหมายความว่ายังไง? สงสัยในความสามารถของฉัน?”
“ไม่ใช่ ฉันอยากจะบอกว่านายต้องระวังตัวหน่อย…ถ้าทุกคนคิดว่านายสามารถฆ่าขั้นห้าได้จริงๆ สงครามเปิดฉากขึ้น คนอื่นๆ เจอขั้นห้าสู้ไม่ได้ ล่อมาหาทางนาย…นายก็จบเห่แล้ว”
ฟางผิงใบหน้าแข็งทื่อเป็นหิน ใช่สิ หากคิดว่าฉันฆ่าขั้นห้าได้เหมือนหมาจริงๆ ฉันจะทำยังไงล่ะ?
“แค่กๆ ฉันออกอุบายฆ่าพวกเขา”
“ฉันว่าแล้ว…” ฟู่ชางติ่งถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วขั้นสี่ล่ะ?”
“เหลวไหล นั่นฉันฆ่าจริงๆ โจมตีอย่างซึ่งๆ หน้า อย่าปลอบใจตัวเองหน่อยเลย พวกนายอย่าหวังว่าจะล้ำหน้าฉันได้ ครั้งนี้กลับออกไปจากถ้ำ ฉันจะไปท้าประลองจางอวี่ เซี่ยเหล่ยก็ไม่อยู่ในสายตาฉันเหมือนกัน”
ทุกคนต่างไร้คำพูด ทั้งจนใจอยู่บ้าง
หากฟางผิงฆ่าขั้นสี่จริงๆ…พวกเขาคงเทียบไม่ติดแล้ว
ตอนนี้ในหมู่พวกเขายังอยู่แค่ขั้นสองสูงสุดไม่กี่คนเท่านั้น
แต่ฟางผิงสังหารขั้นสี่ด้วยตัวคนเดียวได้แล้ว พวกเขาห่างไกลกันเกินไป!
—
พูดคุยกับพวกเขาอยู่พักใหญ่ ฟางผิงยังมีอาการบาดเจ็บ ทุกคนจึงไม่รบกวนนาน ไม่นานก็แยกย้ายกันไป
ส่วนเรื่องที่หวงจิ่งรับปาก มาถึงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
สองพันคะแนน ยาคืนชีวิตสองเม็ด รวมถึงดาบยาวระดับ B ที่คล้ายกับดาบเฟิ่งจุ่ย แต่ครั้งนี้เป็นดาบจันทร์เสี้ยว…ใช่แล้ว ง้าวมังกรเขียวจันทร์เสี้ยวของกวนอูที่ใช้ในสามก๊ก!
ฟางผิงตกตะลึงอยู่บ้าง นับวันฉันก็ยิ่งเกี่ยวข้องกับกวนอูเรื่อยๆ?
ไม่ใช่อะไรหรอก เมือกี้เขาเพิ่งส่องกระจกพบว่าหน้าตัวเองแดงเถือกไปหมด อาจเพราะว่าช่วงนี้กระอักเลือดเยอะเกินไป เลือดเลยขึ้นหน้า
แน่นอนว่าที่ส่องกระจกไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เพราะจมูกถูกแทงมา…
ฟางผิงกลัดกลุ้มอยู่บ้าง จมูกของเขาจะดีขึ้นเมื่อไหร่?
แต่รอจนเห็นค่าทรัพย์สิน ฟางผิงก็อารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้ง!
ทรัพย์สิน : 105,000,000
ปราณ : 1002 แคล (1108 แคล+)
จิตใจ : 520 เฮิรตซ์ (541 เฮิรตซ์+)
หลอมกระดูก : 62 ชิ้น (100%) , 115 (90%) , 29 ชิ้น (30%+)
ก่อนหน้านี้เขาเหลือค่าทรัพย์สินประมาณสามสิบเก้าล้าน ผลปรากฏว่าวิ่งกลับมาตลอดทาง เหลือแค่สามสิบห้าล้าน ตอนนี้เพิ่มขึ้นมากว่าเจ็ดสิบล้าน!
คะแนนเพิ่มให้สี่สิบล้าน ยาบำรุงให้อีกเจ็ดล้าน ดาบเล่มนี้หักจากอาวุธสองชิ้นก่อนหน้านี้แล้ว นึกไม่ถึงว่าจะเพิ่มค่าทรัพย์สินให้เขาอีกเกือบยี่สิบสามล้าน!
คำนวณแล้ว ระบบประเมินค่าดาบเล่มนี้เกือบห้าสิบล้าน!
“นึกไม่ถึงว่าฉันจะใช้ดาบมูลค่าถึงห้าสิบล้าน!”
ฟางผิงตื่นตะลึงอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้เสียหายหนักจริงๆ แขนซ้ายบาดเจ็บหนักที่สุด คงไม่หายเร็วๆ นี้ ร่างกายได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง เสื้อเกราะขั้นสี่ที่ว่าแทงไม่เข้า ตอนนี้ก็มีรูเพิ่มขึ้นมาหลายแห่ง ไม่รู้ว่ากลับไปตาเฒ่าหลี่จะรับเคลมหรือเปล่า?
“กระดูกส่วนบนสามารถหลอมได้ เหลืออีกหลายสิบล้านไว้ใช้ในสงคราม!”
ฟางผิงตัดสินใจแล้ว หลอมไขกระดูกช่วงบน บางทีอาการบาดเจ็บที่แขนซ้ายอาจจะฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
“ไขกระดูกแข็งแกร่งขึ้น ร่างกายก็จะแข็งแกร่งขึ้น ขีดจำกัดปราณทะลวงขึ้น บางทีไม่นานฉันอาจจะเข้าสู่ขั้นสามสูงสุด!”
นึกได้ว่าตัวเองใกล้จะทะลวงขั้นสามสูงสุดแล้ว ฟางผิงก็ดีใจขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินเฟิ่งชิงยังไม่ทะลวงขั้นสินะ?
เซี่ยเหล่ยคงไม่อยู่แล้ว!
หากเหล่าหวังช้าหน่อย เขาคงจะอยู่ระดับเดียวกับอีกฝ่ายได้
“นึกไม่ถึงว่าฉันจะเป็นลูกรักของพระเจ้า!”
บนเตียงคนไข้นั้นฟางผิงหัวเราะราวกับคนบ้า
——————–