ตอนที่ 267 ถุ้ย พวกยาจก (1)
‘ปัง’
ภิกษุเจี้ยเซ่อซัดฝ่ามือเข้าที่หน้าอกฟางผิง
ฟางผิงกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไร ยืดอกไปข้างหน้า มือของเจี้ยเซ่อสั่นสะท้านจนชาหนึบอยู่บ้าง
“ก็ว่าแล้วนายเป็นพวกบ้ากาม!”
“ฉันไม่บ้ากามกับผู้ชาย!”
ภิกษุเจี้ยเซ่อแค่นหัวเราะ เปลี่ยนจากฝ่ามือเป็นนิ้ว จิ้มไปทางดวงตาของฟางผิง
เขาเล่นสกปรก ฟางผิงก็ไม่เกรงใจเช่นกัน ฉวยโอกาสที่นิ้วเขายังไม่มาใกล้ ลำคอของฟางผิงเคลื่อนไหวเล็กน้อย ก่อนจะพ่นเกาทัณฑ์เลือดออกมา!
ภิกษุเจี้ยเซ่อใบหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ยื่นมือขึ้นบังทันที
‘ฉึก!’
เกาทัณฑ์เลือดทะลุผิวหนังเขาถึงกระดูก เกิดเป็นเสียงกระทบของโลหะดังขึ้น
ภิกษุเจี้ยเซ่อหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง อานุภาพไม่ใช่เล่นๆ นี่ถ้าทะลุหัว ไม่ตายก็คงพิการ
“แค่แลกเปลี่ยนความรู้ นายต้องโหดเหี้ยมขนาดนี้เลยหรือไง?”
“ไม่ได้โหดเหี้ยมเท่านายละกัน!”
ฟางผิงแค่นหัวเราะ ทั้งสองคนสู้กันก็ยั่วยุกันไปพลาง
“ดูหกดาบต่อเนื่องของฉัน!”
ฟางผิงคำรามเสียงดัง วางท่าราวกับเป็นศัตรูกับเจี้ยเซ่อ ทว่ากลับไม่เห็นอีกฝ่ายฟันติดต่อกันออกมา แต่แทงเท้ามาที่หว่างขาเขาแทน!
“สารเลว!”
ภิกษุเจี้ยเซ่อมีโทสะขึ้นมา พุ่งหมัดไปที่ปลายเท้าฟางผิง
เมื่อหมัดและเท้าปะทะกัน ทั้งสองคนต่างถอยไปคนละก้าว
“ดูหกดาบต่อเนื่องของฉัน!”
“หกดาบต่อเนื่องปู่แกสิ!”
เจี้ยเซ่อหลุดคำหยาบออกมา ครู่ต่อมากลับวางส้นเท้ากับพื้น ถอยหลบอย่างเร่งรีบ
ฟางผิงรวบรวมสมาธิ เผยใบหน้าแดงก่ำ ฟันหกดาบติดต่อกันออกมาจริงๆ!
ภายใต้การคำราม ฟางผิงเคลื่อนไหวฝีเท้าไล่ตามเจี้ยเซ่อขึ้นมาในชั่วพริบตา เจี้ยเซ่อกระโดดขึ้นกลางอากาศคิดจะหลบ ฟางผิงกลับปลดปล่อยพลังจิตใจทันที
เจี้ยเซ่อชะงักฝีเท้า จำเป็นต้องหยุดอยู่กับที่ คำรามเสียงดังก้อง ก่อนจะประกบมือทั้งสองข้าง ปะทุปราณออกมาอย่างเข้มข้น จู่โจมไปที่ดาบยาวของฟางผิงทันที
‘ปัง!’
เสียงกระทบกันดังลั่น หนึ่งดาบ สองดาบ สามดาบ…
สามดาบแรกล้วนถูกภิกษุเจี้ยเซ่อป้องกันได้ อาศัยหมัดปัดป้องตรงๆ
ดาบที่สี่ฟันลงไป กลับฟันมือขวาของเขาจนเลือดลอยกระเซ็น
ดาบที่ห้า มือซ้ายเป็นแผลลึกถึงกระดูก
เจี้ยเซ่อคำรามอย่างต่อเนื่อง “นายลองฟันหกดาบต่อเนื่องดู ถ้าทำไม่ได้ก็รอตายละกัน!”
สิ้นเสียงของเขา ฟางผิงก็ฟันดาบที่หกออกมา ดาบนี้ทำให้ฟางผิงหน้าซีดทันที ภิกษุที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็หน้าซีดเช่นกัน คำรามอย่างโมโห เตรียมจะรับการจู่โจม!
เขาถูกพลังจิตใจฟางผิงรบกวนเล็กน้อย ตอนนี้จึงถูกรั้งอยู่กับที่อย่างเลือกไม่ได้
หากไม่ฝืนรับก็ต้องถูกฟันตาย!
ฟางผิงฟันดาบออกมาแล้ว ถึงกระทั่งเกิดเป็นเสียงระเบิดตามออกมา สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
—
กลางเขา
หลี่ฉางเซิงขมวดคิ้ว “ภิกษุ จะตายแล้วนะ!”
ภิกษุเฒ่าเผยสีหน้าหนักแน่น เอ่ยเรียบนิ่งว่า “เขาต้านไหว!”
“โง่เง่า ถ้าต้านไม่ไหวก็ต้องตาย นายช่างมั่นใจจริงๆ!”
“ได้อยู่แล้ว เจี้ยเซ่อทำได้!”
ภิกษุเฒ่าราวกับพูดปลอบใจตัวเอง สายตาจับจ้องที่ตีนเขาไม่ลดละ มือขวานับลูกประคำบริกรรมภาวนาไม่หยุดหย่อน
ในตอนที่ภิกษุเฒ่าร้อนจิตร้อนใจ เจี้ยเซ่อที่อยู่ตีนเขาก็คำรามอย่างบ้าคลั่ง ปราณทั่งร่างคล้ายหมดเกลี้ยงในชั่วพริบตา
แขนสองข้างเปล่งสีทอง ปล่อยปราณออกมาเล็กน้อย
ก่อนจะเกิดเสียงระเบิดดังก้องขึ้นมาทันที
ภิกษุเจี้ยเซ่อกระเด็นลอยออกมา คนอยู่กลางอากาศ เลือดกลับสาดกระจายไปทั่วพื้น
ฟางผิงคุกเข่าลงกับพื้นเช่นกัน หอบหายใจอย่างแรง จับจ้องอีกฝ่ายไม่วางตา
ภิกษุเจี้ยเซ่อลอยไปชนกับกำแพงหินจนเกิดเสียงดังลั่น
ผ่านไปสักพัก ภิกษุเจี้ยเซ่อก็ขยับออกมาจากรูกำแพงหินที่กลายสภาพเป็นรูปคน ปากกระอักเลือดสด หอบหายใจว่า “นายขี้โกง ไม่เห็นมีใครบอกว่านายฟันหกดาบติดต่อกันได้!”
ฟางผิงเห็นเขาบาดเจ็บไม่ถึงตายจึงโล่งอก เอ่ยเหน็บแนมว่า “ฉันยังมีกระบวนท่าชั้นยอดเตรียมไว้ให้นายอีก?”
“ไอ้เวร!”
เจี้ยเซ่อด่าออกมา ปากยังคงกระอักเลือดไม่หยุดหย่อน ดาบนี้ฟางผิงฟันออกมาสุดกำลัง เขาถูกฝืนให้เป็นฝ่ายรับ ทั้งยังโดนดาบยาวระดับ B ฟันเข้า บาดเจ็บหนักตั้งนานแล้ว อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ตอนนี้ไม่เหลือพลังต่อสู้อีกแล้ว
“นับว่า…แค่กๆ…นับว่านายโหดเหี้ยม!”
เจี้ยเซ่อด่าออกมา ไม่สนใจไม้เท้าด้วยซ้ำ ดึงตัวเองขึ้นมาก็เดินขึ้นเขาไป น่าขายหน้าจริงๆ ถูกคนเล่นงานเจ็บหนักถึงหน้าบ้านตัวเอง ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด จะมีหน้าไปเจอคนอื่นได้ยังไง?
จู่ๆ ฟางผิงก็หัวเราะเสียงดังออกมา ฉันแค่พูดเล่นไปเท่านั้น!
ฉันตั้งใจจะข่มขวัญนายจริงๆ ที่ไหนกัน!
ใครจะรู้ว่าฟันออกมาหกดาบติดต่อกันได้ แต่อาจจะเกี่ยวข้องกับพลังที่รวมเป็นหนึ่งเช่นกัน เขาฟันออกมาได้จริงๆ!
เขางัดทักษะต่อสู้ออกมาหมดแล้ว ใช้กระทั่งพลังจิตใจ ยังแทบจะแพ้ให้กับภิกษุเจี้ยเซ่อ แต่ตอนนี้เขาชนะแล้ว!
ฟางผิงหัวเราะออกมาราวกับรอบข้างไม่มีใครอยู่!
การต่อสู้ในสถานการณ์จริงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฝึกเคล็ดวิชาจริงๆ ด้วย
ฉันไม่ได้ฟื้นฟูปราณ อาศัยความสามารถอย่างแท้จริงเอาชนะภิกษุฮวาในอันดับที่เจ็ด!
หัวเราะอยู่สักพัก ฟางผิงก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยากขึ้นมา
ไขกระดูกของฉันแปรสภาพเป็นปรอท พลังจิตใจแทบจะปลดปล่อยออกไปได้แล้ว แต่เจอกับเจี้ยเซ่อที่อยู่อันดับเจ็ดดันเกือบแพ้
คนพวกนี้ต่างอายุยังน้อย ทั้งยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?
“ฉันอ่อนแอขนาดนั้นเลยหรือไง?”
ฟางผิงก่นด่ากับตัวเอง ก่อนจะเอ่ยอย่างมั่นใจขึ้นมา “แต่ยังไงฉันก็ชนะ รอฉันฟันติดต่อกันเจ็ดดาบแล้ว ถึงกระทั่งสุดท้ายพลังรวมเป็นหนึ่ง รวมเจ็ดดาบฟันออกมาเป็นดาบเดียว ในขั้นสามคงไร้คู่ต่อสู้แล้ว!”
ตาเฒ่าหลี่บอกว่าฟันติดต่อกันเจ็ดดาบถึงจะไร้คู่ต่อสู้ แต่ฟางผิงคิดว่าตัวเองต้องฟันเจ็ดดาบรวมเป็นดาบเดียวต่างหาก คู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่แค่พวกขั้นสามในตอนนี้ ยังมีรุ่นก่อนและหลังจากนี้อีก!
ขั้นสามในรุ่นฟางผิงอาจจะสู้ขั้นสามในรุ่นก่อนไม่ได้เสมอไป
หวังจินหยาง เหยาเฉิงจวิน หลี่หานซงคนพวกนี้เข้าสู่ขั้นสี่ตอนปลายและขั้นสี่สูงสุดแล้ว แข็งแกร่งจนไกลความจริงไปอยู่บ้าง ตอนนี้เขาไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสามก็แค่รุ่นนี้เท่านั้น?
“เดินทางขึ้นเหนือต่อ ฉันคิดว่าจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ รอฉันกลับจากทางเหนือแล้ว คงจะไร้คู่ต่อสู้ในขั้นสามจริงๆ!”
ฟางผิงดึงดาบยาวขึ้นมา ฟื้นฟูปราณแล้วก็ก้าวเดินไปทางนอกเขา
เดินไปสักระยะหนึ่ง จู่ๆ ฟางผิงก็หันกลับมามอง บนกำแพงหินยังมีไม้เท้าอยู่
ปรากฏว่าพอลองจับดู ฟางผิงถึงกับหลุดปากด่าออกมา!
ภิกษุฮวาทำเกินไปแล้ว!
ไม้เท้าสีทองอร่าม ฟางผิงคิดว่าเป็นโลหะผสมซะอีก ปรากฏว่าจับดูถึงรู้ว่าเป็นเหล็กชุบทองแดงเท่านั้น!
ไม่น่าล่ะหมอนั่นถึงจากไปโดยแทบไม่สนใจไม้เท้า ทิ้งสิ่งนี้ให้ฟางผิง ฟางผิงยังนึกรังเกียจด้วยซ้ำ
“ถุ้ย เจ้าภิกษุยาจก!”
ด่าออกมาแล้ว ฟางผิงจึงจากไปอย่างรวดเร็ว
—
วันที่ 13 กรกฎาคม ฟางผิงประลองชนะจางเจิ้นหวา อันดับที่สิบห้าในขั้นสาม!
วันที่ 14 กรกฎาคม ฟางผิงประลองชนะภิกษุเจี้ยเซ่อ อันดับที่เจ็ดในขั้นสาม!
ในเวลาไม่กี่วัน ฟางผิงเข้าสู่ขั้นสามสูงสุด ดาบคลั่งโลหิตฟันต่อเนื่องได้หกครั้ง ข่าวลือที่ว่าใช้พลังจิตใจข่มขวัญได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ปี 2008 หวังจินหยางเดินทางขึ้นเหนือ เอาชนะขั้นสามนอกการจัดอันดับทั้งหมด แม้จะมีบางคนอยู่ในการจัดอันดับก็น้อยยิ่ง
แต่ตลอดทางขึ้นเหนือของฟางผิง กลับประลองยอดฝีมือที่อยู่ในการจัดอันดับขั้นสาม ทยอยเอาชนะติดต่อกัน ในช่วงเวลาสั้นๆ ชื่อเสียงจึงดังกระหึ่มไปทั่ว!
—
ในขณะเดียวกัน
บนโลกอินเทอร์เน็ต คลิปวิดีโอช่วงหนึ่งถูกเผยแพร่ออกมา
การต่อสู้ของขั้นสามสูงสุด!
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดสองคนต่อสู้ในอากาศ แยกเขาผ่าหิน พื้นดินใต้ฝ่าเท้าแตกกระจุย นี่ถึงจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุด?
หลายคนเห็นแล้วล้วนยากที่จะเชื่อ
มีคนจำได้ว่าเป็นฟางผิง อันดับสามในขั้นสามของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ อันดับสามมีฝีมือถึงขั้นนี้แล้ว แล้วอันดับหนึ่งอันดับสองล่ะ?
ทั้งภิกษุคนนั้นโผล่ขึ้นมาจากไหนกัน?
—
วันที่ 15 กรกฏาคม สมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์ประเทศจีนประกาศการจัดอันดับโดยรวมออกมา…การจัดอันดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามของประเทศจีน
เฉินชิวเฟิง ขั้นสามสูงสุด ผู้ฝึกยุทธ์หน่วยทหาร อันดับที่หนึ่ง
กัวซวน ขั้นสามสูงสุด ผู้ฝึกยุทธ์หน่วยทหาร อันดับที่สอง
หลิงอีอี ขั้นสามสูงสุด นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง อันดับที่สาม
สวี่เสี่ยวปิง ขั้นสามสูงสุด ศิษย์ของสำนักเจินอู่ อันดับที่สี่
อวี๋เฉิน ขั้นสามสูงสุด รองผู้จัดการสาขาย่อยของซีว่างกรุ๊ป อันดับที่ห้า
ฟางผิง ขั้นสามสูงสุด นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ อันดับที่หก
เจี้ยเซ่อ (ฉายาทางธรรม) ขั้นสามสูงสุด ศิษย์วัดว่านซาน อันดับที่เจ็ด
———————–
