ตอนที่ 268 ได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์ (2)
ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “ลองดูว่าพอจะติดต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งได้หรือเปล่า ติดต่อเสร็จสรรพแล้ว นายถือโอกาสช่วยโฆษณาสถานที่ท่องเที่ยวด้วย อย่างเช่นว่านี่คือสถานที่ที่ปรมาจารย์ในอนาคตประลองต่อสู้กัน ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาชมมากกว่าเดิม…ก่อนหน้านี้อยู่ที่วัดว่านซาน เดิมทีเขาอวิ๋นถานก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เปลี่ยนเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขามากกว่า”
หลิวต้าลี่ยอมจริงๆ!
นายนี่มันร้อนเงินยิ่งกว่าฉันซะอีก!
—
ทั้งสองคนปรึกษาหารือกันแล้ว
ไม่นานหลี่เฉิงเจ๋อก็ให้คนส่งชุดฝึกที่ฟางผิงสั่งทำเข้ามาอย่างรวดเร็ว ตรงแขนเสื้อมีคำว่าหยวนฟางติดอยู่อย่างไม่สะดุดตา
ส่วนเรื่องติดต่อสถานที่ท่องเที่ยวก็ใช้เวลาไม่นานเช่นกัน
ตอนนี้ฟางผิงเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจของทุกคนพอดี
รีสอร์ทที่เพิ่งสร้างขึ้นแห่งหนึ่งในเป่ยเหอเสนอเงินห้าล้าน เชิญชวนให้ฟางผิงเลือกสถานที่ต่อสู้ของพวกเขา
อันที่จริงฟางผิงไม่พอใจกับเงินห้าล้านเท่าไหร่
แต่ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มต้น ทุกคนยังไม่เห็นผลลัพธ์ จึงไม่อาจเสนอเงื่อนไขสูงเกินไป
เพราะฟางผิงไม่พอใจเรื่องราคา เข้าไปในเขตเป่ยเหอจึงไม่ได้ตรงไปท้าประลองกับอวี๋เฉิน แต่ไปหาผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามที่ถูกจัดในอันดับสี่สิบกว่าคนหนึ่งเพื่อลองฝีมือ หากเขาจะท้าประลองอวี๋เฉิน นั่นต้องดูว่ามีใครเสนอราคาที่สูงกว่านี้ เปลี่ยนแปลงสถานที่ใหม่หรือเปล่า
ทั้งยอดฝีมือขั้นสามสูงสุดที่อยู่ในอันดับต้นๆ อย่างอวี๋เฉินไม่ได้นัดออกมาง่ายๆ ฟางผิงยังต้องคิดวิธีสักหน่อย
—
วันที่ 17 กรกฏาคม ฟางผิงท้าประลองกับประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เป่ยเหอซึ่งถูกจัดในอันดับที่สี่สิบเอ็ดของขั้นสาม
ครั้งนี้ฟางผิงส่งสาสน์ท้าเชิญไป อีกฝ่ายตอบรับอย่างว่องไวเช่นกัน
นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อายุยังน้อย จะเลือดร้อนก็เป็นเรื่องปกติ
ฟางผิงเป็นฝ่ายขอท้าประลอง ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ
มหาวิทยาลัยเป่ยเหอนั้นอ่อนแอกว่าเซี่ยงไฮ้อยู่แล้ว ถึงแพ้ก็ไม่ขายหน้า
ทั้งสองคนประลองกันที่รีสอร์ทของเป่ยเหอ ผู้ชมมีจำนวนมาก ฟางผิงประมือกับอีกฝ่ายสิบห้านาทีค่อยเอาชนะอีกฝ่ายได้ สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ ใช้เวลานานขนาดนี้ อันที่จริงเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง
ตอนที่ฟางผิงต่อสู้กับเจี้ยเซ่อ รวมๆ แล้วใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้น
แต่เอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในอันดับสี่สิบเอ็ด ฟางผิงใช้เวลาถึงสิบห้านาที นี่ทำให้หลายคนนึกไม่ถึงอยู่บ้าง
—
ไม่นาน บนอินเทอร์เน็ตก็มีคลิปถูกเผยแพร่ออกมา
เป็นคลิปที่ค่อนข้างชัดแจ๋ว คมชัดเป็นพิเศษ
หลิวต้าลี่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักข่าวเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่การประลอง พูดบรรยายในคลิปวิดีโอด้วยเสียงแหบแห้งอยู่บ้าง เอ่ยชมประธานสมาคมของมหาวิทยาลัยเป่ยเหอที่ต่อสู้กับฟางผิงว่าแข็งแกร่งขนาดไหนอยู่ยกใหญ่
แน่นอนว่าท้ายที่สุดยังถูกฟางผิงเอาชนะได้
ส่วนโลโก้ของหยวนฟางที่ฟางผิงเปิดเผยออกมาอย่างไม่ตั้งใจก็ถูกหลิวต้าลี่ที่ ‘ตาดี’ สังเกตเห็น ไม่นานหลิวต้าลี่ก็นึกได้ว่าปัจจุบัน ‘บริษัทหยวนฟาง’ เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้เหมือนกัน
เวลานี้หลายคนในเซี่ยงไฮ้ค่อยรู้ว่าจริงๆ แล้วบริษัทหยวนฟางนั้นเป็นของฟางผิง
ส่วนหลิวต้าลี่ที่ไม่ใช่คนเซี่ยงไฮ้ ทำไมถึงรู้เรื่องนี้ได้ คนที่สนใจจริงๆ มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
—
วันที่ 19 กรกฎาคม ฟางผิงนัดท้าประลองกับอวี๋เฉินจากซีว่างกรุ๊ป สถานที่ที่ทั้งสองฝ่ายเลือกคือลานกว้างของโรงแรมซีว่าง
ใช่แล้ว โรงแรมซีว่าง!
ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์นักธุรกิจ แม้อวี๋เฉินจะเป็นยอดฝีมือ แต่ก็ไม่ได้บกพร่องเรื่องหัวการค้า
ตอนที่ฟางผิงนัดเวลาและสถานที่ อวี๋เฉินก็รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร อวี๋เฉินปรึกษากับฟางผิงเพื่อเปลี่ยนสถานที่ทันที
แน่นอนว่าซีว่างกรุ๊ปจะสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนความรู้ ธุรกิจก็เป็นเรื่องธุรกิจ ประลองก็เป็นเรื่องของประลอง อวี๋เฉินไม่สาดเทเรื่องเสียหายให้ฟางผิงเช่นกัน นอกจากได้ความน่าเกรงขามแล้ว ยังสามารถถือโอกาสนี้ทำให้ซีว่างกรุ๊ปได้รับความสนใจมากขึ้นได้
—
ตอนที่ฟางผิงและอวี๋เฉินประลองกันที่ลานกว้างของโรงแรมซีว่างกรุ๊ป คนข้างนอกยืนกันอย่างล้นหลาม
กลางอากาศ
ตาเฒ่าหลี่เผยสีหน้าดำคล้ำ ด่าจนปากเปียกปากแฉะอยู่ค่อนวัน!
อยากได้เงินจนบ้าไปแล้ว!
ไอ้เด็กเวรนี้ตกลงอยากมาสั่งสมบารมีหรือโฆษณาให้บริษัทตัวเองกัน!
ผู้ฝึกยุทธ์แวดวงธุรกิจไม่ใช่สิ่งดีงามอะไร ฟางผิงสวมชุดโลโก้หยวนฟาง อวี๋เฉินสวมชุดทำงานของซีว่างกรุ๊ป ไอ้บ้าสองคนนี้ ปกติฝึกวิชาด้วยชุดนี้หรือไง?
ผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมที่ฝ่าขึ้นมาอยู่ในอันดับห้าได้ ความสามารถของอวี๋เฉินย่อมมีอยู่แล้ว
ทั้งยังแข็งแกร่งมากด้วย!
ปกติอวี๋เฉินไม่ประมือกับผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป หลักๆ มักจะขัดเกลาวิชาในถ้ำใต้ดิน
ดูเหมือนเป็นคนอ่อนโยนสุภาพ ไอสังหารกลับเข้มข้นกว่าฟางผิงซะอีก
แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ ยิ่งทำให้ตาเฒ่าหลี่หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
เจ้าสองคนนี้เป็นบุคคลแนวหน้าของโลกผู้ฝึกยุทธ์ ปรากฏว่าในสายตากลับมีแต่เรื่องเงิน ประมือกันยังไม่ลืมเรื่องโฆษณา
—
วันที่สิบเก้า ฟางผิงประลองกับอวี๋เฉิน ท้ายที่สุดต่างเจ็บหนักทั้งสองฝ่าย ฟางผิงแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย ยืดเวลาเอาชนะอวี๋เฉินได้
แต่ฟางผิงบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน จำเป็นต้องรั้งอยู่รักษาตัวที่เป่ยเหอ
ในเวลาเดียวกันการประลองระหว่างฟางผิงและหลิงอีอีก็ถูกแพร่กระจายออกไป!
—
“เซี่ยงไฮ้ประลองกับปักกิ่งอีกครั้ง บุณคุญความแค้นนี้คงไม่ใช่ง่ายๆ แล้ว!”
“หลิงอีอีจากปักกิ่งถูกขนานนามว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของโลกผู้ฝึกยุทธ์เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
“การแข่งขันแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ หานซวี่พ่ายแพ้ให้กับเฉินอวิ๋นซี ลือกันว่าหานซวี่และหลิงอีอีคบกันอยู่ ส่วนฟางผิงและเฉินอวิ๋นซีจากเซี่ยงไฮ้ก็มีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ การต่อสู้เพื่อล้างแค้น?”
“รักมากก็เกลียดมาก คงตัดสินจากการต่อสู้ครั้งนี้แหละ!”
“หลิงอีอีประลองกระบี่รอบๆ เมืองหลวง เอาชนะสวี่เสี่ยวปิงจากสำนักเจินอู่ได้ ฟางผิงจะชนะได้อย่างนั้นเหรอ?”
“ทั้งหมดนี้ชมได้ผ่านวิดีโอบนแอปคู่โต้ว คอยติดตามรายงานพิเศษจากหลิวต้าลี่ได้เลย!”
—
ข่าวการประลองของทั้งสองคนยังไม่ได้รับการยืนยัน ในอินเทอร์เน็ตกลับถกประเด็นอย่างร้อนระอุแล้ว
แต่ไหนแต่ไรข่าวซุบซิบก็เป็นที่สนใจของประชาชนมาโดยตลอด
—
ตอนที่ฟางผิงกำลังฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ เตรียมจะมุ่งหน้าไปปักกิ่ง ตาเฒ่าหลี่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ปรากฏตัวขึ้นในโรงแรมที่ฟางผิงพักอาศัยด้วยใบหน้าดำคล้ำ
เสี้ยวนาทีที่ฟางผิงเปิดประตูออกไป ตาเฒ่าหลี่ก็คว้าตัวฟางผิงไว้ราวกับจับลูกไก่ เอ่ยอย่างโมโหว่า “ไอ้เด็กบ้า เธอกำลังทำอะไรอยู่? เห็นการประลองเป็นการเล่นเกม?”
ฟางผิงนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะอธิบายด้วยสีหน้าขื่นขม “อาจารย์ ผมก็ต้องฝึกวิชาเหมือนกัน ไม่มีเงิน จะให้ฝึกต่อได้ยังไง?”
“ไร้สาระสิ้นดี!”
ตาเฒ่าหลี่หลุดด่าออกมา เผยสีหน้าดำคล้ำ “ขายหน้าหรือเปล่าล่ะ ถ้าเรื่องหลุดออกไป หน้าตาของเซี่ยงไฮ้คงไม่ต้องมีมันอีกแล้ว?”
ฟางผิงชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมกว่าจะพูดเกลี้ยกล่อมตาเฒ่าหลี่ได้
ท้ายที่สุดตาเฒ่าหลี่จึงคลายความโกรธไปเล็กน้อย “เธอจะทำไร้สาระอะไรก็ทำไป แต่การประลองกับหลิงอีอี ต้องระวังให้มาก อย่าคิดว่าคนพวกนี้จะปล่อยให้เธอตีตามใจได้ หลิงอีอีเคยสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ตอนปลายในถ้ำใต้ดิน แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์พื้นเมือง แต่ก็แสดงให้เห็นว่าความสามารถของเธอแตะถึงจุดสูงสุดหนึ่งแล้ว”
ฟางผิงเผยสีหน้าจริงจังขึ้นมา พยักหน้าว่า “ผมรู้แล้ว ตอนที่สู้กับอวี๋เฉิน ผมก็รู้แล้วว่าพลังของผมยังบกพร่องอยู่ไม่น้อยจริงๆ แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งดีสำหรับผม หากไม่มีคนที่แข็งแกร่งกว่า การท้าประลองครั้งนี้คงไม่มีความหมาย อันที่จริงพื้นฐานของผมดีกว่าพวกเขา ไม่ใช่ชมตัวเอง แต่พื้นฐานร่างกาย ปราณและพลังจิตใจของผมแข็งแกร่งกว่าพวกเขาจริงๆ ประเด็นอยู่ที่ว่าไม่อาจเอามาใช้ หรือจะพูดว่าใช้ได้ไม่ดี ประมือกับยอดฝีมือระดับเดียวกันพวกนี้จะช่วยให้ผมควบคุมพลังได้ดีขึ้น ความสามารถผมอยู่ตรงนี้ เจอคนแข็งแกร่งก็จะแข็งแกร่งขึ้น หากหลิงอีอีสร้างแรงกดดันให้ผมได้ ผมคิดว่าตัวเองจะแข็งแกร่งขึ้นเหมือนกัน”
ตาเฒ่าหลี่ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของฟางผิง ฟางผิงมีพื้นฐานดีจริงๆ
เป็นเพราะเหตุนี้ ฟางผิงจึงอาศัยการประลองหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นได้
แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตาเฒ่าหลี่ยังคงเอ่ยเตือนออกไป ถึงเธอจะมีพื้นฐาน คนอื่นๆ ก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนกัน
ไม่รอให้เธอได้แสดงพลัง ดูดซับความรู้ ก็ถูกคนเอาชนะแล้ว พูดเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีความหมายแล้ว
หลิงอีอีพ่ายแพ้ให้กับฟางผิง เขามีโอกาสที่จะทะลวงด่านสูง
แต่ถ้าฟางผิงถูกเอาชนะ คงไม่อาจเรียกได้ว่าไร้คู่ต่อสู้อีกแล้ว แม้จะไม่เป็นอุปสรรคในการทะลวงด่าน แต่ในอนาคตหากเจอกับหลิงอีอีอีก อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้กันเสมอไป แก้แค้นในตอนหลังยากกว่าการต่อสู้ตามปกติอยู่แล้ว
—————