บทที่ 127 หลิงอวิ๋น
บทที่ 127 หลิงอวิ๋น
แต่ว่านะ…
หากบุตรแห่งโชคชะตามีศัตรูน้อย แล้วเขาจะถูกเรียกว่าบุตรแห่งโชคชะตาได้เช่นไร!?
สายตาของลู่หยวนมองไปที่หยางอวิ๋น เห็นว่าดวงตาของอีกฝ่ายแทบพ่นไฟอยู่รอมร่อ มองกลับมาอย่างไม่พอใจ
ประหนึ่งลู่หยวนบังคับให้อาจารย์เขาต้องก้มหัวอย่างไรอย่างนั้น
“ผู้อาวุโสหลิงอวิ๋นสุภาพเกินไปแล้ว”
ลู่หยวนยิ้มบาง ๆ “ในเมื่อเข้าใจกันผิด ว่าเช่นนั้นก็พอแล้ว”
หลิงอวิ๋นพยักหน้าแล้วไปจากที่นี่กับลูกศิษย์
นางรู้ว่าในวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างกับศิษย์ของนาง เขาแค่อยากจะมาเยี่ยมที่นี่เท่านั้น และเมื่อได้เยี่ยมเยือนแล้ว ก็ไร้ความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ
ก่อนที่พวกนางจะทันได้หันหลังกลับ เสียงเร่งเร้าก็ดังเข้าโสตจากเบื้องล่างเสียก่อน “พี่หยางอวิ๋น ช่วยข้าด้วย!”
สายตาของหยางอวิ๋นหันไปมองหยางซือซืออีกครั้ง ลมหายใจของเด็กสาว ณ ขณะนี้รวยริน หากไม่ช่วย เกรงว่าคงได้ตายจริง ๆ แน่!
เขาบอกอาจารย์ทันทีว่า “ท่านอาจารย์ หยางซือซือช่วยศิษย์ไว้ยามลำบาก หากวันนี้นางกำลังจะถูกฆ่า ศิษย์ก็ไม่อาจมองข้ามได้ขอรับ!”
ว่าจบเขาก็ลงไปช่วยหยางซือซือ
บุตรแห่งโชคชะตาเห็นอากาศใกล้เคียงลูกพี่ลูกน้องขยับไหว และร่างของลู่หยวนกับจงซื่อก็มาอยู่ข้างกายหยางซือซือแล้ว
บุตรศักดิ์สิทธิ์เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาพลันเพิ่มความเย็นชา “ข้าปล่อยเจ้าไปด้วยเห็นแก่บรรพชนหลิงอวิ๋นได้ แต่วันนี้นางที่ปากพล่อยต้องตาย!”
หยางอวิ๋นเดือดดาล หากวันนี้เขาทนมองหยางซือซือตาย เขาไม่กลายเป็นคนอกตัญญูหรือ?!
ทว่าหยางอวิ๋นไม่โง่สู้เอง เขาหันไปก้มหัวให้บรรพชนหอก “ท่านอาจารย์ โปรดช่วยนางด้วย!”
เขาเอาชนะผู้ติดตามลู่หยวนไม่ได้ แต่อาจารย์ทำได้!
นอกจากนั้น นับแต่ฝากตนเป็นศิษย์อาจารย์ บรรพชนหอกก็สนองความต้องการของเขาทุกอย่าง นางจะตอบตกลงคำขอวันนี้แน่นอน!
เห็นเช่นนั้น ในใจของหลิงอวิ๋นก็กระวนกระวาย
นางพอจะได้ยินเกี่ยวกับหยางซือซือผู้นี้มานิดหน่อย และสตรีผู้นี้ก็ถือว่าเจ้าแผนการเอาเรื่อง!
ศิษย์ของนางคิดเพียงว่าสตรีผู้นี้ดีต่อเขาในยามลำบาก แต่ไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังการทำดีนั้นมีเจตนาใดซุกซ่อนอยู่
และเป็นการทำดีด้วยเพียงหนเดียว จากนั้นมา หยางซือซือก็ไม่ได้ข้องแวะกับศิษย์ผู้นี้ของนางอีกเลย
ท้ายที่สุด เมื่อหยางอวิ๋นแสดงฝีมือจนมีชื่อเสียง สตรีผู้นี้ก็มาเกาะติดเขา เรียกพี่หยางอวิ๋นอย่างแสนรักใคร่อีกครั้ง
เมื่อเขาเข้าร่วมสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ สตรีผู้นี้ก็ยิ่งเลยเถิด ไม่เพียงรบเร้าให้หยางอวิ๋นหาโอสถอาวุธวิเศษจากสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ให้นาง ยังเที่ยวโพนทะนาทั่วเมืองหวงซีนี้ว่านางมีสัญญาจะแต่งงานกับหยางอวิ๋น และก่อปัญหามากมายอย่างเหิมเกริม
เมื่อหลิงอวิ๋นพบเรื่องเช่นนี้ก็เปรยมันขึ้นมาสองสามหน
บุญคุณที่หยางซือซือมีต่อหยางอวิ๋น เขาก็น่าจะทดแทนไปนานแล้ว หากยังหน้ามืดตามัวอยู่เช่นนี้ เขาก็จะหาเรื่องใส่ตัวโดยใช่เหตุเปล่า ๆ และควรจัดการเสียแต่เนิ่น ๆ
ทว่า… หยางอวิ๋นไม่ได้ฟังนางนัก! และปล่อยให้หยางซือซือกำเริบเสิบสานต่อไป
ในความคิดของเขา บุญคุณที่หยางซือซือมีต่อเขาในกาลก่อน ชั่วชีวิตก็ไม่อาจทดแทนได้!
หลังจากหลิงอวิ๋นลองเปรยอยู่สองสามหน นางก็รู้จุดยืนของลูกศิษย์ จึงไม่กล่าวอะไรอีก
แต่เรื่องในวันนี้เป็นเรื่องระหว่างหยางซือซือและลู่หยวน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหยางอวิ๋นและตัวนางหลิงอวิ๋นเลย
นางช่วยชีวิตหยางอวิ๋นในฐานะอาจารย์ช่วยศิษย์ จึงไม่รู้ว่าเหตุใดตนต้องออกมาปกป้องหยางซือซือผู้ไม่เกี่ยวข้องกันเลยผู้นี้ด้วย
ยิ่งกว่านั้น ในความคิดของหลิงอวิ๋น ความตายของสตรีผู้นี้ก็นับเป็นบุญของหยางอวิ๋นแล้ว!
เมื่อเห็นอาจารย์ไม่พูดจา บุตรแห่งโชคชะตาก็ร้อนใจ “ท่านอาจารย์! โปรดช่วยนางด้วย!”
หลิงอวิ๋นคืนสติ สายตากวาดผ่านเขาไปหยุดที่ลู่หยวน และกล่าวขึ้นว่า “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ ยอดเขามังกรเร้นถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้นการลงชื่อเข้าร่วมสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์จึงจะย้ายไปจัดขึ้นที่หุบเขาเคลื่อนฟ้าในอีกสามวัน ขอบุตรศักดิ์สิทธิ์อย่าได้มาสาย”
“ส่วนเรื่องของตระกูลหยางนั้น…”
หลิงอวิ๋นกล่าวช้าลง หยางอวิ๋นในขณะนี้ยกยิ้มขึ้นในใจแล้ว ว่าแล้วเชียว ขอเพียงเขาเอ่ยขอ ท่านอาจารย์จะยอมคล้อยตามเสมอ!
บุตรศักดิ์สิทธิ์ตระกูลลู่แล้วอย่างไร?!
อาจารย์ของข้าเป็นบรรพชนหอกแห่งแผ่นดินหยวนหง!
เป็นบุคคลที่เจ้าสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์เชื้อเชิญมาด้วยตนเอง!
ต่อให้วันนี้ ผู้มาจะเป็นบุคคลในขั้นปรมาจารย์ยุทธ์ ก็ยังต้องไว้หน้าอาจารย์ข้า!
สีหน้าของลู่หยวนนิ่งสงบ มองหลิงอวิ๋นรอวาจาถัดไปของนางอย่างเยือกเย็น
“เรื่องของตระกูลหยางเป็นเรื่องระหว่างบุตรศักดิ์สิทธิ์และตระกูลหยาง หาเกี่ยวข้องกับข้าไม่ บุตรศักดิ์สิทธิ์เชิญลงมือตามสมควร”
ทันทีที่สิ้นคำ รอยยิ้มบนใบหน้าหยางอวิ๋นก็หายวับไป ไม่อาจเชื่อลงว่าเพิ่งได้ยินอะไรไป
หนนี้ ท่านอาจารย์ไม่ช่วยเขาหรือ?!
เมื่อลู่หยวนได้ยินวาจาของหลิงอวิ๋น หัวใจเขาหาสะทกสะท้านไม่
ทางเลือกของบรรพชนหอกหนนี้สอดคล้องกับทางเลือกของยอดฝีมือ
เพราะถึงอย่างไร นางก็เป็นผู้ก้าวสู่ขั้นปรมาจารย์ยุทธ์แล้วครึ่งก้าว ขอเพียงมีสมองก็ย่อมแยกแยะได้ว่าเรื่องใดเกี่ยวกับตน แล้วเพิกเฉยเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง
นางช่วยศิษย์ของตนได้แล้ว ความเป็นความตายของหยางซือซือผู้นี้เกี่ยวอะไรกับนางเล่า?
การล่วงเกินบุตรศักดิ์สิทธิ์จากตระกูลอันดับหนึ่งในแดนเหนือเพียงเพราะผู้ไร้ฝีมือ ไร้ค่าให้บ่มเพาะ ซ้ำยังปากพล่อยด้วยเช่นนี้ ไม่ไร้สมองไปหน่อยหรือ?
วัน ๆ ไม่ทำอะไร ก่อแต่ปัญหา สร้างแต่ศัตรูทุกแห่งหน มีเพียงบุตรแห่งโชคชะตาเท่านั้นที่ได้รับการคุ้มครองจากวิถีแห่งสวรรค์!
กล่าวคือ ไม่ว่ารากฐานจะแข็งแกร่งเพียงใด การบ่มเพาะฝึกฝนทรงพลังเพียงไหน โง่ขนาดนี้ก็ถูกผู้อื่นโค่นได้ทั้งสิ้น!
หยางอวิ๋นผู้เพิ่งได้สติพลันตาสว่าง กล่าวขึ้นทันทีว่า “ท่านอาจารย์ ท่านช่วยนางโดยเห็นแก่หน้าศิษย์ได้หรือไม่ นางก็ชีวิตหนึ่งนะขอรับ! ท่านอาจารย์จะให้ชีวิตบริสุทธิ์ตายต่อหน้าเช่นนี้หรือ?!”
“หากเป็นเช่นนั้น แล้ววิถีแห่งสวรรค์อยู่ที่ไหน?! ความยุติธรรมอยู่หนใด?!”
เมื่อลู่หยวนได้ยินเช่นนี้ เขาก็แทบหลุดขำออกมา เทียนเม่ยเอ๋อร์ผู้อยู่ในอ้อมแขนชายหนุ่มเองก็แย้มยิ้มพร้อมปรามาสว่า ‘เจ้าโง่’ กระทั่งผู้ติดตามบางคนของลู่หยวนเองก็กลั้นหัวเราะเสียจนหน้าเบี้ยว
หลิงอวิ๋นมองลงไปด้วยสายตามืดมน ทำให้ยากเข้าใจว่าขณะนี้อารมณ์เป็นเช่นไร
ลู่หยวนส่ายหัว บุตรแห่งโชคชะตาที่เขาพบวันนี้ แท้จริงก็เป็นไอ้โง่คนหนึ่ง!
โง่บัดซบอย่างที่เคยเจอมาก่อน… โง่เกินระดับความโง่ของบุตรแห่งโชคชะตาทั่วไป
เขาก้าวสองสามก้าวเข้ามา วางเท้าข้างหนึ่งบนศีรษะหยางซือซือ “หยางอวิ๋น วันนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะสอนเจ้าเองว่าวิถีแห่งสวรรค์คืออะไร”
หยางซือซือเองก็สัมผัสได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ จึงร้องตะโกนฟูมฟายอย่างหวาดผวา “พี่หยางอวิ๋นช่วยข้าด้วย! ลืมไปแล้วหรือว่ากาลก่อนยามเหน็บหนาว ผู้ใดให้อาภรณ์อุ่นแก่ท่าน?!”
“พี่หยางอวิ๋น ข้ายังไม่อยากตาย!”
หยางอวิ๋นพลันหันกลับมา และเมื่อเห็นเช่นนี้ รากฐานการบ่มเพาะของเขาก็ถูกรีดเค้น โจมตีใส่ลู่หยวนอย่างสุดกำลัง!
ชายหนุ่มออกแรงกดเท้า
โผละ!
เสียงตะโกนหยุดลงกะทันหัน โลหิตไหลนองทั่วทุกแห่งหน
หยางอวิ๋นยืนบนพื้น มองหยางซือซือตกตายต่อหน้าต่อตา ด้วยหัวใจเปี่ยมความโศกเศร้า