ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 201 ไม่มีปัญญาทำอะไรแล้วหรือ

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 201 ไม่มีปัญญาทำอะไรแล้วหรือ?

บทที่ 201 ไม่มีปัญญาทำอะไรแล้วหรือ?

เมื่อฉู่เชิ่งเห็นลู่หยวนเดินออกมาจากควันธุลี เขามองอีกฝ่ายเล็กน้อย ดาบในมือสั่นไหวไปมา ก่อนพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา “เจ้าคือลู่หยวนใช่หรือไม่?!”

ลู่หยวนระงับความสงสัยเอาไว้ เขาเงยหน้าขึ้น เอ่ยถามกลับว่า “เจ้าเองหรือที่มารบกวนการเก็บตัวของข้า?”

เมื่อฉู่เชิ่งเห็นคนผู้นี้ถามกลับ เขารู้ทันทีว่าอีกฝ่ายคือลู่หยวนผู้ที่ฆ่าล้างยอดเขาดาบ!

“เหอะ เป็นเจ้าหนูคนนี้เองสินะ!”

“ข้าคือศิษย์เอกของบรรพชนดาบ ฉู่เชิ่ง! วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อฆ่าเจ้า!”

“ลู่หยวน ตายซะ!”

หลังจากสิ้นคำพูดของฉู่เชิ่ง เขาถือดาบด้วยมือทั้งสองข้าง ทั่วพื้นที่โดยรอบเริ่มสั่นไหว กลิ่นอายหนักอึ้งแผ่ออกมาจากร่างของศิษย์เอกบรรพชนดาบ

เจตจำนงดาบแผ่ซ่านไปทั่ว พลังวิถีแผ่ปกคลุมเข้าครอบงำทั้งฟากฟ้าแดนดิน

พลังอันคลุ้มคลั่งนี้เปรียบดังคมดาบ ด้วยสายลมกระโชกรุนแรงพัดพา มันได้สะบั้นพลังวิญญาณรอบด้านทั้งหมดแหลกสลาย!

ศิษย์ทั้งหลายต่างประหลาดใจยามสัมผัสถึงพลังนี้

“นี่คือพลังกฎเกณฑ์หรือ?! มันคือวิถีดาบ!”

“ฉู่เชิ่งที่เพิ่งอายุเพียงแค่ยี่สิบปี กลับเข้าใจถึงพลังวิถี! ข้าจำได้ว่าบรรพชนดาบเข้าใจถึงพลังวิถีก็ภายหลังได้รับเพลิงม่วงคราม น่าจะช่วงอายุราวห้าสิบปี!”

“พรสวรรค์เช่นนั้น ต่อให้เรียกว่าสัตว์ประหลาดก็ไม่ใช่การกล่าวเกินจริง! สมแล้วที่ติดอันดับห้าในทำเนียบสวรรค์!”

“ต่อให้ฉู่เชิ่งมีวิถีดาบแล้วอย่างไร? เขาก็มีแต่จะถูกบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ทุบตีไม่ใช่หรือ? ขนาดซุนอวิ๋นถิงยังถูกบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่จัดการเลย แล้วฉู่เชิ่งจะไปเหลืออะไร!”

ดาบในมือของฉู่เชิ่งพลันสั่นไหว เปลวเพลิงสีน้ำเงินวูบไหวจากดวงตา เปลวเพลิงพลันพวยพุ่ง ปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย ก่อนลามลงมาเพื่อปกคลุมดาบเอาไว้อย่างรวดเร็ว

กลิ่นอายเย็นเยือกแผ่ออกมาจากรอบข้างของฉู่เชิ่ง แม้กระทั่งอากาศรอบข้างก็เริ่มถูกแช่แข็ง

เมื่อเห็นดังนี้ ลู่หยวนหรี่ตาเล็กน้อย เขาสามารถสัมผัสได้ว่าเปลวเพลิงสีน้ำเงินจากร่างของฉู่เชิ่งมีความผิดปกติ

หอคอยอสูรสวรรค์ในจิตเทวะถูกเปิดใช้งานอยู่ก่อนแล้ว เหมือนว่าลู่หยวนจะสามารถดึงเปลวเพลิงจากร่างของฉู่เชิ่งเพื่อกลืนกินเข้าไปได้!

กลิ่นอายของฉู่เชิ่งยังคงแผ่ขยายออกมา ผ่านไปหนึ่งอึดใจ ร่างกายของเขาวูบไหว ปราณดาบนับไม่ถ้วนกระจายออกไป เปลวเพลิงรอบข้างมอดดับ ความว่างเปล่ารอบด้านเริ่มสั่นสะเทือน

“ลู่หยวน จงตายซะ!”

ฉู่เชิ่งพุ่งออกไป ร่างของเขาวูบไหว ความว่างเปล่าพังทลาย ก่อนมาปรากฏตัวตรงหน้าลู่หยวนในฉับพลัน

ดาบในมือตั้งตรง เปลวเพลิงสีน้ำเงินในตอนนี้ทะยานขึ้นไป ทำให้อากาศเย็นเยือก

แม้กระทั่งพลังวิถีดาบในตอนนี้ก็แผ่กระจาย มันกดทับมายังบุตรศักดิ์สิทธิ์

เมื่ออำนาจดาบเคลื่อนลงมา ปราณดาบเข้ากลืนกิน แรงกดดันทรงพลังเคลื่อนลงมาอย่างรุนแรง ก่อนบดขยี้พื้นใต้เท้าของลู่หยวน

ควันธุลีกระจายทุกหนแห่ง ทำให้ดินหินแตกสลาย

ดาบฟาดฟันตรงไปที่ใบหน้าของลู่หยวน

แม้ฉู่เชิ่งจะชูดาบในมือขึ้นแล้วฟาดฟันออกไปแล้ว แต่ตอนนี้ความลังเลกลับผุดขึ้นในใจ

จนถึงตอนนี้ เฉิงไท่ไม่มีความตั้งใจจะออกมาปกป้องลู่หยวน

มันไม่เหมือนกับที่เขาจินตนาการไว้!

เพราะมีความลังเลก่อเกิดในใจ ทำให้การเคลื่อนไหวในมือของเขาช้าลงเล็กน้อย

ในตอนนี้ เสียงของท่านหู่ดังขึ้น “เจ้าหนู อย่าไขว้เขว!”

ฉู่เชิ่งกลับมาได้สติ เขาพบว่าลู่หยวนตรงหน้ายังยืนเอามือไพล่หลัง มุมปากโค้งขึ้น สายตาที่มองกลับมาเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน

สีหน้าเช่นนี้ที่สะท้อนในดวงตาของฉู่เชิ่ง มันคือการยั่วยุอย่างชัดเจน!

คิดว่าข้าฉู่เชิ่ง จะไม่กล้าฆ่าเจ้าอย่างนั้นหรือ?!

ในเมื่อเฉิงไท่ไม่ปกป้องอีกฝ่าย เช่นนั้นตามกฎของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ตัวเขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีกต่อไป เอาให้ตายกันไปข้าง!

หลังจากตัดสินใจได้ พลังในมือของฉู่เชิ่งทวีขึ้นอีกครั้ง ปราณดาบไร้ที่สิ้นสุดส่องแสงเจิดจ้า ก่อนพุ่งเข้าใส่ลู่หยวนโดยตรง

“สมแล้วที่เป็นขยะรนหาที่ตาย!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ยิ้มหยัน เมื่อดาบเข้าใกล้ เขาหันตัวประมาณหนึ่ง ทำให้ดาบทะลวงตัดอากาศ ก่อนฟาดฟันตรงไปที่ยอดเขาหอก

ตูม!

เกิดเสียงปะทะขนาดใหญ่ ควันธุลีกระจัดกระจาย ปกคลุมร่างของทั้งสองเอาไว้

ฉู่เชิ่งยืนนิ่ง ก่อนชูดาบขึ้นอีกครั้งทันที เมื่อกำลังจะหันหลัง เขาพลันรู้สึกได้ถึงอำนาจไร้เทียมทานเคลื่อนลงมา พื้นที่รอบข้างเริ่มเชื่องช้า วิถีดาบบนร่างของฉู่เชิ่งถูกกวาดล้างจนสิ้น

ศิษย์เอกฉู่จากยอดเขาดาบกระตุ้นกลิ่นอายเพื่อหยุดพลังมหาศาลนี้ แต่มันกลับไม่ได้ผล พลังดังกล่าวเหมือนกับท้องนภาถล่มปฐพีแยกออก มันกดทับมาที่เขา

กร๊อบ ๆ

พลังอำนาจแห่งสวรรค์ดังกล่าวบดขยี้กระดูกในร่างกายของฉู่เชิ่ง

เพียงพริบตา ฉู่เชิ่งหลั่งเหงื่อเย็นทั่วทั้งร่างกาย

ยามนี้ร่างของลู่หยวนปรากฏตรงหน้าเช่นกัน ฉู่เชิ่งอยากยกดาบขึ้นฟาดฟัน แต่ทั่วร่างของเขาถูกกดทับอย่างรุนแรง ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่นิดเดียว

“เป็นอย่างไร ข้ายังไม่ทันปลดปล่อยพลังออกมา เจ้าก็ไม่มีปัญญาทำอะไรแล้วหรือ?”

ริมฝีปากของบุตรศักดิ์สิทธิ์ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน

ลู่หยวนวางมือบนดาบเพลิง เขาออกแรงครู่หนึ่งก่อนดึงดาบออกมา บงการเปลวเพลิงสีน้ำเงินรวมเข้าด้วยกัน ทันใดนั้นมันก็หายเข้าไปในฝ่ามือของเขา

ดวงตาของฉู่เชิ่งเผยความประหลาดใจ เมื่อสิ่งที่ปกคลุมดาบหายไป เพลิงเหมันต์สงัดในร่างกายของเขาคล้ายกับหายไปประมาณหนึ่ง!

ลู่หยวน… เจ้าตัวบัดซบนี่ทำอะไรลงไป?!

ท่านหู่สังเกตเห็นเรื่องนี้เช่นกัน ก่อนตะโกนทันทีว่า “เจ้าหนู ดึงเพลิงเหมันต์สงัดบนร่างกายที่เหลือของเจ้ากลับมา เร็ว!”

แต่ก่อนที่ฉู่เชิ่งจะทันได้ลงมือ ลู่หยวนกลับเริ่มดึงเปลวเพลิงเหล่านั้นออกไปแล้ว

หลังเพลิงเหมันต์สงัดบนร่างหลักลดลง เพลิงเหมันต์สงัดที่เดิมแผ่แสงสว่างสีน้ำเงินออกมา ยามนี้กลับหมองหม่นลงไปมาก

ฉู่เชิ่งรู้สึกเย็นเยือกไปถึงข้างใน ลู่หยวนถึงกับมีเคล็ดวิชาเช่นนี้ด้วย!

ตอนนี้เขาถูกตรึงอยู่กับที่ ไม่ต่างจากลูกแกะรอถูกเชือดที่ทำได้เพียงขอร้องวิงวอนต่อลู่หยวน!

ขณะเวลานี้ฉู่เชิ่งได้ตระหนักถึงความเสียดายท่วมท้นในใจ เขาไม่ควรหุนหันพลันแล่น ถึงขนาดบุกมายังสถานที่ของลู่หยวน เขาควรหาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากกว่านี้!

ในเมื่อลู่หยวนสามารถดูดกลืนเพลิงเหมันต์สงัดจากร่างกายได้ แล้วเช่นนี้แก่นแท้ของเพลิงเหมันต์สงัดในตัวเขาจะเหลืออันใด?!

มันจะถูกดูดกลืนออกไปเหมือนกันหรือไม่?!

เพลิงเหมันต์สงัดในตอนนี้ คือไพ่ตายใบใหญ่ที่สุดนอกเหนือจากท่านหู่!

ท่านหู่รู้สึกถึงความแตกตื่นในใจของฉู่เชิ่งเช่นกัน ดังนั้นจึงเร่งร้อนกล่าว “อย่าแตกตื่น เพลิงเหมันต์สงัดนี้ยอมจำนนต่อเจ้า ไม่มีทางหักหลังได้โดยง่าย ลู่หยวนแค่ดูดกลืนเปลวเพลิงออกไปก็เท่านั้น ทว่าแก่นแท้ยังอยู่กับเจ้า เปลวเพลิงเหล่านั้นที่ถูกดูดกลืนจะฟื้นคืนกลับมาหลังจากผ่านไปไม่นาน!”

“ไม่ต้องห่วง ข้าอยู่ที่นี่ทั้งคน มันฆ่าเจ้าไม่ได้หรอก! ถ้าไม่ไหวจริง ๆ พวกเราค่อยออกจากสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ตรงไปที่ตำหนักจักรพรรดิแดนมัชฌิมเพื่อไขว่คว้าโชคชะตาเสีย!”

ฉู่เชิ่งได้รับการปลอบประโลม ทำให้รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เขาพยายามสุดความสามารถเพื่อเค้นพลังวิญญาณออกมาฟื้นฟูร่างกายให้ได้รับอิสรภาพ

เมื่อควันธุลีสลายไป ร่างของทั้งสองปรากฏแก่สายตาทุกคน

ทุกคนเห็นฉู่เชิ่งยังยืนอยู่กับที่ ใบหน้าของเขาซีดเผือดและเต็มไปด้วยเหงื่อ

ส่วนลู่หยวนมีท่าทีสงบ เขายังคงยืนเอามือไพล่หลัง

“ชิ ข้านึกอยู่แล้วว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่จะต้องชนะ!”

“เมื่อครู่ฉู่เชิ่งใช้พลังวิถีดาบ แต่กลับถูกกำราบได้! บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ผู้นี้ทรงพลังขนาดไหนกัน?!”

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน