บทที่ 310 อีกดินแดนหนึ่ง
บทที่ 310 อีกดินแดนหนึ่ง
จักรพรรดินีรู้สึกเพียงว่าร่างกำลังดิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว ไอร้อนของหินหลอมเหลวพลันรุนแรงขึ้น
นางไม่มีอาวุธวิเศษที่ใช้ปกป้องตัวเองจากสภาพแวดล้อมนั้น หากตกลงไปย่อมถึงแก่ความตาย!
ลู่หยวนยืนอยู่สุดขอบพื้นขณะมองจักรพรรดินีผู้ร่วงลงไป
อูโจ้วยืนอยู่ข้างกายลังเลขึ้นมาเมื่อเห็นเช่นนี้ “หากนายท่านไม่ลงมือ นางต้องถึงแก่ความตายแน่ขอรับ”
“ไม่ตายหรอก”
น้ำเสียงของลู่หยวนสงบ ราวกับมั่นใจว่าจะต้องมีสิ่งพลิกผันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!
จักรพรรดินีมีสายเลือดของวิหคเพลิง ดังนั้นนางต้องเป็นผู้บุกเบิกดินแดนลับที่เผ่าวิหคเพลิงหลงเหลือไว้ได้ไม่ผิดแน่!
ความตายจึงไม่ต้องพูดถึง หากนางอยู่ที่นี่ โชคชะตาอันยิ่งใหญ่จะบังเกิด!
เหอะ!
นั่นคือบทที่มักเขียนในนวนิยายไม่ใช่หรือ?!
อูโจ้วเกาศีรษะ “ถ้าสมมติ…สมมติว่านางตายล่ะ?”
“ถ้านางตาย โชคชะตาชิ้นใหญ่คงไม่ได้อยู่เบื้องล่างหินหลอมเหลวแห่งนี้ ข้าก็จะไปหาทางอื่นต่อ”
“จักรพรรดินีถือคติที่ว่าความตายคือสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนข้าก็ช่วยตัดทางเลือกให้ ความตายนี้จึงนับว่าคุ้มค่า”
ลู่หยวนเผยรอยยิ้มบาง
แน่นอนว่าจักรพรรดินีไม่ได้ยินคำพูดของเขาผู้อยู่ข้างบน สายตานางจับจ้องไปยังหินหลอมเหลวที่ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้น เมื่อเห็นว่ากำลังจะตกลงไป นางพลันหลับตาราวกับยอมจำนนต่อโชคชะตา
ตุบ!
สิ้นเสียงตกกระทบ หินหลอมเหลวเบื้องล่างก็เกิดการเคลื่อนไหว หลังจากกระเพื่อมอยู่สองสามครั้ง ร่างของจักรพรรดินีก็จมหายไปอย่างสมบูรณ์
ผ่านไปหลายอึดใจ เบื้องล่างก็กลับมาสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อูโจ้วก้าวไปโน้มตัวมองด้านล่าง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง “นายท่าน นาง…นางตายแล้ว!”
ลู่หยวนเงียบ มุมปากที่ยกยิ้มเลือนหายไป
เขายังคงจ้องมองไปยังหินหลอมเหลวที่สงบนิ่ง ผ่านไปหลายอึดใจ เขาก็ยกมือขวาขึ้นปรากฏจุดแสงสีขาวยังคงกะพริบอยู่ในฝ่ามือ
ทิศทางที่มันเคลื่อนไปก็คือใต้หินหลอมเหลว!
จุดแสงนี้เป็นสิ่งที่ลู่หยวนประทับไว้กับจักรพรรดินีตอนที่จับโยนลงไป!
หากยังคงขยับ ย่อมหมายความว่าคนผู้นั้นยังไม่ตาย!
เบื้องล่างแห่งนี้จะต้องมีบางสิ่งช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ผิดแน่!
เป็นไปได้ว่าจะมีดินแดนลับอยู่!
แต่พื้นที่นั้นต้องได้รับการตรวจสอบอีกรอบเสียก่อน จึงจะถือว่าปลอดภัย!
ลู่หยวนหรี่ตาลงแล้วหันไปมองอูโจ้ว
อูโจ้วยังคงมีสีหน้าประหลาดใจกับความตายของจักรพรรดินี ทำให้เพิ่งเห็นสายตามีเลศนัยของลู่หยวน
เขารู้สึกถึงความเย็นเยือกที่แผ่ซ่านบนแผ่นหลัง ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นภายในใจ
“นะ…นายท่าน… ข้า…”
อูโจ้วยังไม่ทันเอ่ยจบประโยค ลู่หยวนก็เคลื่อนไหวกลายเป็นเงาสีขาววูบไหว ชั่วพริบตาก็ปรากฏตรงหน้าอีกฝ่าย
ลู่หยวนยกเท้าเตะเข้าที่หน้าท้องของอูโจ้ว
โครม!
อูโจ้วรับการโจมตีที่ท้องน้อยเต็มรักอีกครั้งจนร่างกระเด็นออกไป ทำให้มุมมองเบื้องหน้าหมุนคว้างอย่างรวดเร็ว เมื่อกลับมามีสติ หินหลอมเหลวซึ่งม้วนตัวไปมาก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม!
เขารีบสะบัดแขนขาอย่างบ้าคลั่ง เป็นท่วงท่าที่น่าขบขันไม่น้อย
“อ๊าก!!! ข้ายังไม่อยากตาย! ข้ายังไม่…”
อูโจ้วยังไม่ทันเอ่ยจบประโยค เสียง ‘บุ๋ง’ ก็ดังขึ้นก่อนจะถูกหินหลอมเหลวกลืนกินเข้าไป
ลู่หยวนชะโงกมอง ผ่านไปหลายอึดใจ เขาเอ่ยถามระบบในใจ “ระบบ อูโจ้วตายหรือยัง?”
อูโจ้วยอมจำนนต่อลู่หยวนแล้ว สถานะของเขาจึงถูกระบบบันทึกไว้แล้ว!
[สถานะปัจจุบันของผู้ติดตามอูโจ้ว: ปกติ!]
ไม่ตาย!
ลู่หยวนยกยิ้ม มีบางอย่างอยู่ข้างล่างจริง ๆ!
เขาก้าวเท้าไปข้างหน้า มุ่งหน้าสู่เบื้องล่าง
จ๋อม!
ลู่หยวนดิ่งลงไปในหินหลอมเหลวจนทำให้เกิดระลอกคลื่น ก่อนม้วนตัวรวมกันแล้วกลืนกินร่างของเขาเข้าไป
เมื่อเขาอยู่ข้างในจึงตระหนักได้ หินหลอมเหลวซึ่งคล้ายกับร้อนระอุนั้นมีรูปทรงเหมือนน้ำทะเลสาบ!
นอกจากความขุ่นมัวจนมองไม่เห็นเบื้องหน้าแล้ว โดยภาพรวมก็ไม่มีความแตกต่าง!
เนตรเทวะปรากฏขึ้นด้วยความคิดของลู่หยวน ทำให้หินหลอมเหลวทั้งหมดตรงหน้าหายไป สรรพสิ่งเบื้องล่างจึงปรากฏแก่สายตา
เขากวาดสายตามองก่อนจะพบอูโจ้วผู้กำลังทุรนทุรายอยู่ไม่ไกล
ร่างของลู่หยวนแหวกว่ายเข้าหาอีกฝ่าย หลังจากคว้าตัวได้แล้วก็ยกมือขึ้น ซึ่งจุดแสงในฝ่ามือชี้ไปยังก้นหินหลอมเหลว
เมื่อดูสภาพจุดแสงแล้ว จักรพรรดินีคล้ายกับกำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตามหาบางสิ่ง!
ดูท่านางจะพบบางอย่างเข้า!
ลู่หยวนไม่ลังเลอีกต่อไปก่อนเคลื่อนตัวตามจุดแสงพร้อมลากอูโจ้วไปด้วย
เขารวบรวมพลังใต้เท้า ทำให้หินหลอมเหลวม้วนตัวออกห่างพร้อมร่างที่ทะยานไปหลายสิบลี้ในพริบตา!
หลังจากผ่านไปราวหนึ่งถ้วยชา จุดแสงบนมือของลู่หยวนก็เข้มขึ้น เป็นสัญญาณว่าจักรพรรดินีอยู่ไม่ไกล!
สายตาของเขากวาดมองหาร่างของอีกฝ่าย
ทันใดนั้น!
หินหลอมเหลวที่ม้วนตัวต่ำเคลื่อนผ่านหลังลู่หยวนไปไม่ไกล เขาจึงหันหลังแล้วหยิบกระบี่วิถีโลกาออกมา ก่อนจะสะบั้นออกไป
ปราณกระบี่สีขาวกวาดล้างอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พื้นที่ขนาดใหญ่ใต้หินหลอมเหลวสีแดงส่องสว่างขึ้นมา
ลู่หยวนหรี่ตาก่อนจะพบว่ามีโครงกระดูกขนาดใหญ่แหวกว่ายอยู่ด้านหลัง
ปราณกระบี่ฟาดฟันเข้าใส่มัน ทว่ากลับไม่เกิดความเสียหาย ก่อนเคลื่อนผ่านออกไปไกล
โครงกระดูกมีขนาดใหญ่จนลู่หยวนมองไม่เห็นสิ่งใดยามอยู่ข้างมัน
เขาขยับร่างกายถอยห่างออกมาสิบลี้ในพริบตา
จากนั้นโครงกระดูกขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าลู่หยวน
ลู่หยวนปรายตามองอยู่หลายอึดใจ ก่อนจะเม้มริมฝีปาก
โครงกระดูกเบื้องหน้ายิ่งดูแปลกประหลาด เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ไม่เหมือนสิ่งใด
ศีรษะของมันเป็นวิหคเพลิงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเนื้อหนังเหลือเพียงน้อยนิดเกาะติดอยู่ตามกระดูกสีขาว
ทว่าส่วนร่างกายไล่ลงไปจนถึงช่วงล่างกลับกลายเป็นโครงกระดูกมังกร โดยมีกระดูกขามังกรสองข้างที่ถูกสะบั้นห้อยอยู่ใต้หางของมัน
ร่างท่อนบนที่ควรจะมีปีกวิหคเพลิงกลับถูกสะบั้นสิ้น เหลือเพียงกระดูกหักที่ราบเรียบ
ส่วนด้านข้างของปีกคู่เดิม กลับมีปีกหนึ่งคู่ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าลำตัวหลายร้อยเท่าฝังอยู่ในกระดูกด้านหลังราวปีกของคุนเผิง
โครงกระดูกของสัตว์ประหลาดตัวนี้คล้ายกับสิ่งที่ตายไปแล้วจนไม่น่าจะมีส่วนใดที่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่มันกลับกำลังเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้าในหินหลอมเหลวอันสงบนิ่ง
เจ้านี่มันตัวบ้าอะไรกันแน่?!
แม้แต่ลู่หยวนก็ไม่เคยเห็นสัตว์ประหลาดเช่นนี้มาก่อน
ตอนที่ลู่หยวนกำลังจะสะกดความสงสัยและเมินเฉยต่อสิ่งนี้ โครงกระดูกก็ขยับไปข้างหน้า โดยมีร่างคุ้นเคยปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
มีกระดูกซี่โครงหักเจ็ดถึงแปดท่อนพัวพันอยู่ที่ใจกลางโครงกระดูกขนาดใหญ่ จนเกิดเป็นแท่นขนาดเล็ก
รอบแท่นนั้นมีม่านป้องกันอยู่ โดยภายในม่านป้องกันนั้นมีร่างหนึ่งถูกห่อหุ้มอยู่!
ร่างนี้ลอยอยู่ภายในโล่ด้วยสภาพหลับตาสนิท สวมชุดคลุมหรูหรา ใบหน้าประหนึ่งเซียน ซึ่งรอบข้างมีเพลิงสวรรค์ปรากฏขึ้น โดยก่อตัวเป็นเส้นด้ายขนาดเล็กที่ไขว้กันไปมา
หากมองจากระยะไกล รูปลักษณ์ของเพลิงนั้นที่สอดประสานกันดูเหมือนกับหัวใจ!
“จักรพรรดินีหรือ?!”