ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 352 ลู่เทียนเฟิ่งมาเยือน

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 352 ลู่เทียนเฟิ่งมาเยือน

บทที่ 352 ลู่เทียนเฟิ่งมาเยือน

บรรพชนตระกูลหลิงกำลังเฝ้ามองทุกสิ่ง ดวงตาหมองหม่นของเขาเต็มไปด้วยความลังเล

หากตระกูลของเขาได้รับวาสนาจากเส้นชีพจรจักรพรรดิ ตนอาจจะสามารถทะลวงโชคชะตาไม่ดีที่เกิดจากวิถีหอกได้!

บรรพชนตระกูลหลิงมั่นใจว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีอำนาจการแข่งขันในแดนมัชฌิมวันนี้!

ตระกูลส่วนใหญ่กำลังต่อสู้กัน อำนาจของพวกเขาทัดเทียมกัน ส่วนจะได้เส้นชีพจรจักรพรรดิมาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะในการลงมือ!

ผู้อาวุโสที่เหลือยืนอยู่ทั้งสองฝั่งบริเวณด้านหลังของบรรพชน แต่ละคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง

พวกเขาหลายคนอิจฉาขณะมองตระกูลใหญ่เคลื่อนไหว แม้กลัวว่าเส้นชีพจรจักรพรรดิจะถูกแย่งชิงไป แต่บรรพชนอยู่ที่นี่ พวกตนจึงไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ

ส่วนหลิงอวิ๋นยืนอยู่ด้านข้างพลางหลับตาด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม ราวกับโชคชะตาที่ทำให้ทั่วแดนมัชฌิมคลุ้มคลั่งเป็นเพียงหมู่เมฆที่เคลื่อนผ่าน

นางตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว

นางเชี่ยวชาญเคล็ดวิถีหอก เส้นชีพจรจักรพรรดิจึงมีประโยชน์กับนางไม่มากนัก

ถ้าลู่หยวนต้องการ นางก็จะชูหอกขึ้นสนับสนุน หากเขาไม่ต้องการ ตนจะรอนิ่ง ๆ

“ลู่เทียนเฟิ่งอยู่หรือไม่?”

บรรพชนตระกูลหลิงพลันเอ่ยขึ้น

หลิงอวิ๋นประสานมือ “อยู่”

“เเดนเหนือต้องการเข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยหรือ?”

บรรพชนตระกูลหลิงถอนหายใจอย่างแผ่วเบาพลางหรี่ตา คล้ายกับกำลังตัดสินใจบางอย่าง

ลู่หยวนนั่งขัดสมาธิอยู่ในลานบ้านตระกูลหลิง ขณะมองแผนที่แดนมัชฌิมซึ่งแขวนอยู่ตรงหน้า โดยจุดแสงสว่างทั้งหลายที่ปรากฏอยู่บนแผนที่คือสัญลักษณ์ของแนวโน้มแต่ละตระกูลในตอนนี้

แต่จุดที่เป็นของตระกูลชิวยังไม่ขยับ

ลู่หยวนหยิบขนมอบสองสามชิ้นที่อยู่ใกล้มือมาเข้าปาก หลังจากกลืนเข้าไป เขาสัมผัสได้ถึงปราณกระบี่สูงสุดและคมกริบที่ตรงเข้ามา ก่อนจะฟาดฟันผ่านพื้นที่จนไปถึงประตูหน้า

ลู่หยวนแน่นิ่งสักพัก สายตาพลันลุ่มลึกขึ้น แล้วพลังอันมหาศาลก็ระเบิดออกมาก่อนจะหายไป

ส่วนพลังของปราณกระบี่ยังไม่ถูกลดทอนพลางตรงเข้ามาหมายจะปลิดชีพ แต่เขาไม่เก็บมาใส่ใจจนถึงขั้นเอนกายด้วยความเกียจคร้าน

ฟ้าว!

ปราณกระบี่พลันหยุดนิ่งเมื่อกำลังจะแทงเข้าใส่ลู่หยวน จากนั้นจึงกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทาง

ตู้ม!

พื้นที่รอบข้างถูกปราณกระบี่บดขยี้ ด้วยการโจมตีอันรุนแรง มันยังคงก่อตัวเป็นวังวนกระบี่ที่เคลื่อนไหวอยู่บนพื้น

ลู่หยวนเงยหน้าก่อนจะพบว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าที่พุ่งเข้ามาหมายสังหารโดยปราณกระบี่ทรงพลังคือขาไก่มันเยิ้ม

เนื้อส่วนใหญ่ถูกกินไปแล้ว ทำให้บนกระดูกขาปรากฏรอยฟันขึ้นมา

“อาเฟิ่ง”

ลู่หยวนผลักมือขวาออกไป ทำให้ขาไก่เขยิบออกไป แล้วใบหน้าของผู้ถือมันก็ปรากฏตรงหน้าเขา

อีกฝ่ายคือผู้ชายไว้หนวดเครา ผมเผ้าเต็มไปด้วยกิ่งไม้ เสื้อผ้าเลอะเทอะสกปรก

มือของเขาซึ่งเดิมเป็นสีขาวสะอาดสะอ้าน แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำมันจากขาไก่

คนผู้นี้คืออาของลู่หยวน… ลู่เทียนเฟิ่ง!

ลู่เทียนเฟิ่งพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา “กว่าจะเชิญเด็กอย่างเจ้ามาได้ช่างยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ข้าอุตส่าห์ชวนไปข้างนอกตั้งสามครั้ง แต่เจ้ากลับนั่งเกียจคร้านอยู่ที่นี่แล้วปล่อยให้ข้าออกไปเที่ยวเล่นคนเดียว”

“แต่สาวใช้สองคนนั้นไม่เลวเลย พวกนางพูดจาสุภาพนุ่มนวล ทั้งหน้าตายังสละสลวย”

ลู่เทียนเฟิ่งเดาะลิ้น ก่อนจะนั่งลงข้างลู่หยวน

สาวใช้ที่ถูกกล่าวถึงคือฉินอี่หานกับไป๋ชิวเอ๋อร์!

ลู่หยวนประสานมือทำความเคารพ แต่ท่วงท่าของเขากลับราบเรียบ หากไม่ตั้งใจมองให้ดีก็จะคิดว่าเขาเพียงขยับมัดกล้ามเท่านั้น

“ต้องขอโทษอาเฟิ่งด้วย ช่วงนี้ข้าค่อนข้างยุ่ง เลยไม่มีเวลาดูแลท่าน”

ลู่หยวนเพิ่งเอ่ยจบ ลู่เทียนเฟิ่งก็ขมวดคิ้วด้วยท่าทีเหยียดหยัน

“ไม่มีเวลาหรือ? เจ้ามีเวลาเรียกสาวใช้ให้มาปรนเปรอ แต่กลับไม่มีเวลามาพบข้างั้นหรือ? ข้าคิดว่าเด็กอย่างเจ้า…”

“แค่กแค่กแค่ก…”

ลู่หยวนไอสองสามครั้งเพื่อขัดคำพูดของลู่เทียนเฟิ่ง “อาเฟิ่ง มาคุยธุระกันดีกว่า”

ลู่เทียนเฟิ่งชำเลืองมองลู่หยวน จากนั้นกลืนขาไก่ในมือเข้าปากจนหมด ก่อนจะยื่นมือไปทางอีกฝ่ายแล้วทำท่าเป็นเลข ‘เจ็ด’

“เจ้าหนู ถึงแม้พรสวรรค์ของเจ้าจะดีเลิศ แต่ก็ยังหนุ่มยังแน่น ส่วนข้าตอนอายุเท่าเจ้าก็มีอยู่ตั้งเท่านี้”

ลู่เทียนเฟิ่งเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “ก็ได้ ข้าไม่แกล้งเจ้าแล้ว มาคุยเรื่องแดนมัชฌิมแห่งนี้กันดีกว่า”

เมื่อสิ้นคำ สายตาของลู่เทียนเฟิ่งพลันมืดมน รูปลักษณ์ที่เป็นกันเองและเกียจคร้านหายไปในทันที

สิ่งที่คล้ายกับปราณกระบี่ซึ่งมองไม่เห็นรวมตัวกันอยู่รอบกายเขา แม้นิ่งสงบแต่ก็เปี่ยมด้วยพลัง

ลู่หยวนเหลือบมองด้านข้างก่อนจะพบว่าลู่เทียนเฟิ่งมั่นคงดุจขุนเขา รูปร่างสูงโปร่ง เขาชำเลืองมองอย่างเหม่อลอยก่อนจะพบว่าด้านหลังของอีกฝ่ายมีกระบี่ปักอยู่บนพื้น เมื่อใดที่ดึงมันออกมาก็จะตรงขึ้นสู่ท้องนภาได้

มันคือตัวตนที่รู้จักในชื่อ ‘นักพรตเต๋ากระบี่สวรรค์’!

ลู่หยวนทราบดีว่าอาของตนคือเทพแห่งการสังหาร!

นานมากแล้วตั้งแต่ที่เขากลับมายังตระกูลหลิง โดยเลือกที่จะกลับมาในช่วงเวลานี้ ซึ่งไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป ความหมายของมันจึงชัดเจน!

เมื่อลู่หยวนเหลือบมองด้านข้างจนเห็นทุกสิ่งในดวงตาของลู่เทียนเฟิ่ง เขาก็เกิดความเข้าใจเช่นกัน

“อาเฟิ่งไม่ต้องห่วง จบเรื่องนี้เมื่อไหร่ สมญานักพรตกระบี่สวรรค์ก็จะดังกึกก้องไปทั่วแผ่นดิน!”

“จริงหรือ?!”

แม้ดวงตาของลู่เทียนเฟิ่งจะทอประกาย แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นคือจิตสังหารเย็นเยือกประหนึ่งทะเลซากสพ!

สีหน้าของลู่หยวนยิ่งจริงจัง พลังพลันพุ่งขึ้น “นอกจากข้าแล้ว ยังมีใครในตระกูลลู่อีกที่ควรค่าจะเป็นเจ้าของเส้นชีพจรจักรพรรดิแดนมัชฌิม?!”

ลู่เทียนเฟิ่งอาจคาดเดาไว้แล้วว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายในแดนมัชฌิมข้องเกี่ยวกับอีกฝ่าย!

ตอนที่ลู่หยวนยังอยู่ในวังจักรพรรดิ ทุกสิ่งก็ยังปลอดภัยดี แต่พอออกมาได้ไม่ทันไร ทุกคนที่อยู่ใต้อาณัติก็เริ่มเคลื่อนไหว!

แม้คนใกล้ตัวลู่หยวนจะถูกส่งออกไปทันที แต่ผ่านไปหลายวันแล้วก็ยังไม่กลับมา มีเพียงยันต์ที่กองพะเนินอยู่ในห้องโถงใหญ่!

เสวียนเทียนชวนกับฉินอี่หานใช้เวลาแทบทั้งวันเพื่อศึกษาแผนที่แดนมัชฌิม

หากตอนนี้ยังมองไม่ออกอีกว่าทุกสิ่งข้องเกี่ยวกับลู่หยวน คนผู้นั้นก็ออกจะโง่เขลาเกินไปหน่อย!

ลู่เทียนเฟิ่งถึงกับไม่สนใจว่าหลานชายคนโตทำอะไรลงไปถึงทำให้แดนมัชฌิมมีสภาพเป็นเช่นนี้!

เขาเพียงสนว่าชื่อเสียงของ ‘นักพรตกระบี่สวรรค์’ ที่ตนสร้างมากับมือจะไม่จางหาย!

คนอื่นเป็นยังไงก็ช่าง!

ลู่เทียนเฟิ่งมาสังหารบางคนและสร้างชื่อให้ตัวเองที่นี่ โดยที่ไม่ขวางทางผู้เป็นหลานชายคนโต!

ทว่าเมื่อเห็นความทะเยอทะยานในดวงตาของลู่หยวน อีกฝ่ายคงอยากได้เส้นชีพจรจักรพรรดิแดนมัชฌิมนี้เช่นกัน!

แม้ลู่เทียนเฟิ่งจะไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวในตระกูล แต่เขาเข้าใจดีว่าเรื่องนี้ไม่อาจให้อีกฝ่ายตัดสินเพียงลำพังได้!

หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ตระกูลลู่ก็จะตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน!

ตระกูลลู่คืออันดับหนึ่งในเวิ้งทะเลแดนเหนือ!

ทั่วทั้งแดนมัชฌิม หากตระกูลลู่พูดว่าหนึ่งก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าสอง!

ด้วยอำนาจนี้จึงทำให้เกิดการแข่งขันกับตระกูลและสำนักใหญ่ในแคว้นอื่น!

ทุกคนต่างอยู่ระดับเดียวกันเป็นเวลาหลายแสนปี จึงเป็นธรรมดาที่จะแสดงความถ่อมตนเพื่อไว้หน้าให้อีกฝ่าย

แต่หากมีใครล้ำเส้นเพื่อต้องการก้าวขึ้นสู่จุดที่สูงขึ้น ก็จะถูกสำนักและตระกูลชั้นสูงฉุดรั้งเอาไว้!

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน