ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 373 หลิงอวิ๋นทะยานสู่เมฆา ลู่เทียนเฟิ่งบ้าคลั่ง

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 373 หลิงอวิ๋นทะยานสู่เมฆา ลู่เทียนเฟิ่งบ้าคลั่ง

บทที่ 373 หลิงอวิ๋นทะยานสู่เมฆา ลู่เทียนเฟิ่งบ้าคลั่ง

มังกรสายฟ้าขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในอากาศ เมื่อแสงสีขาวเจิดจ้าประหนึ่งเสาสวรรค์กำลังพุ่งลงมา

ร่างของลู่หยวนถูกกวาดเรียบจนไม่เหลือร่องรอย!

แม้กระทั่งพวกลู่เทียนเฟิ่งผู้อยู่ใกล้ที่สุดก็สัมผัสถึงร่องรอยกลิ่นอายของอีกฝ่ายไม่ได้!

เขายังคงยืนอยู่บนนภาพลางคิ้วขมวดแน่น พลังรอบกายกำลังผันผวนไปมาราวกับกำลังจะเสียการควบคุมด้วยเหตุผลบางอย่าง!

หากตั้งใจมองให้ดีก็จะพบว่าม่านตาของลู่เทียนเฟิ่งกำลังหดลง ซึ่งส่วนที่เป็นสีขาวอาบย้อมไปด้วยสีแดงก่ำ

แม้หลิงอวิ๋นจะไม่แสดงสีหน้าอะไร แต่นางกระชับหอกในมือไว้มั่น

หลายคนจากตระกูลฮ่วนก็เฝ้ามองอยู่เช่นกัน สีหน้าของพวกเขาจริงจัง โดยที่ไม่ทราบได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

หลังจากผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม แสงสว่างก็จางลง

หลิงอวิ๋นเคลื่อนไหวเข้าสู่จุดที่เคยเกิดภัยพิบัติอัสนีพร้อมหอกทันที!

ตู้ม!

คลื่นอากาศกระจายออกไป ทำให้อากาศรอบข้างพังทลาย!

แม้หลิงอวิ๋นจะยกมือขึ้นเพื่อระดมกำลังทั้งหมด แต่ก็ไม่สามารถขัดขืนได้!

คลื่นอันคลุ้มคลั่งซัดกลับมาอย่างรุนแรง!

สายฟ้าเริ่มเบาบางลงในยามนี้ ก่อนที่แสงสีม่วงซึ่งอยู่ระหว่างหมู่เมฆจะจางหายไป

เมื่อพวกมันหายไป บนอากาศก็ไร้ซึ่งร่องรอยของลู่หยวน!

ทันใดนั้น กระบี่เล่มหนึ่งก็ตกลงมาอย่างรวดเร็ว!

ฟ้าว!

เสียงของกระบี่ดังสนั่นขณะตกลงมาในหลุมขนาดใหญ่ประหนึ่งหุบเหวซึ่งเกิดจากมังกรสายฟ้า!

ทุกคนต่างมองออกว่ามันคือกระบี่มหันตภัย!

ผ่านไปสักพัก โลกก็ตกอยู่ในความเงียบ

ลู่หยวน…ตายแล้วหรือ?!

นี่คือความคิดที่อยู่ในใจของทุกคน

แต่ยังคงมีหมู่เมฆทมิฬอยู่บนท้องนภา

พวกมันยังคงเหมือนกับถังคว่ำขณะเคลื่อนไปสู่ศูนย์กลางอย่างต่อเนื่อง!

ภัยพิบัติอัสนีไร้ขอบเขตซัดเปรี้ยงกันอยู่ข้างใน ราวกับจะสลายหายไปทุกเมื่อ

หลิงอวิ๋นเงยหน้ามองด้วยสายตาซับซ้อน จากนั้นจึงสงบสติลง

เมื่อหอกในมือของนางสั่นไหว เจตจำนงหอกไร้ขอบเขตก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง

หลิงอวิ๋นขยับเพียงหนึ่งก้าวก็ทะยานเข้าสู่หมู่เมฆในท้องนภา

เมื่อเจตจำนงหอกปรากฏขึ้น พลังทลายสวรรค์ก็ถูกสำแดงในบัดดล!

“นางหนูจากตระกูลหลิงคนนั้นเสียสติไปแล้วหรือ?!”

บรรพชนตระกูลหนึ่งพึมพำ “เจ้าหนูจากตระกูลลู่ตายแล้ว แต่นางยังอยากจะพิชิตภัยพิบัติอัสนีจนต้องทะยานเข้าไปในเมฆพวกนั้นเชียวหรือ?!”

บรรพชนตระกูลอื่นไม่เข้าใจการกระทำของหลิงอวิ๋นเช่นกัน

ก่อนจะทันได้คิดว่าควรทำอย่างไรต่อไป พวกเขาก็รู้สึกถึงจิตสังหารอันแรงกล้ามาแต่ไกล

สายตาทุกคู่หันไปยังทิศทางดังกล่าวก่อนจะพบลู่เทียนเฟิ่งยืนก้มหน้าอยู่ในอากาศ ไหล่ทั้งสองข้างของเขากำลังสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง

บรรพชนเหล่านี้ไม่ได้ปิดรูทวารทั้งเจ็ด หากตั้งสมาธิให้ดีก็จะได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำอันหยิ่งผยองแว่วมา

ลู่เทียนเฟิ่งก้มศีรษะขณะหัวเราะอย่างชั่วร้าย พร้อมกับแผ่จิตสังหารออกมาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!

ผู้อาวุโสทั้งสองคนของตระกูลฮ่วนที่สัมผัสได้ถึงกับหลั่งเหงื่อบริเวณแผ่นหลัง ก่อนจะรีบระดมกำลังเพื่อปกป้องตัวเองการโจมตีที่อาจจะมาจากอีกฝ่าย

“ลู่เทียนเฟิ่งคิดจะทำอะไร? เขาเสียสติไปแล้วหรือ?”

ทันใดนั้น ลู่เทียนเฟิ่งก็เงยหน้าขณะเส้นผมซึ่งติดปิ่นไม้ไว้หลวม ๆ ก็หลุดออก ยามสายลมกระโชกพัดผ่านทำให้ชุดคลุมปลิวไสว เขายื่นมือขวาออกไปก่อนกระบี่ยักษ์ซึ่งอยู่ด้านหลังจะปรากฏข้างกาย

เขากุมมันไว้กลางอากาศแล้วกวัดแกว่งสองครั้ง จากนั้นปราณกระบี่คมกริบก็ทำลายความว่างเปล่าที่เพิ่งก่อตัวขึ้นโดยรอบอีกครั้ง!

บรรพชนจากตระกูลชั้นสูงผู้หนึ่งพลันหรี่ตา “เจ้าคนเสียสติจากตระกูลลู่ผู้นี้อยากให้พวกเราทุกคนถูกฝังไปพร้อมกับลู่หยวนงั้นหรือ!”

“ลู่หยวนตายก็เพราะภัยพิบัติอัสนี แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกข้า?!”

แม้บรรพชนจะพึมพำกับตัวเอง แต่ในใจก็มีคำตอบอยู่แล้ว

ลู่เทียนเฟิ่งผู้นี้เสียสติมากกว่าใคร!

เขาเป็นฆาตกรมาตั้งแต่วัยหนุ่ม ผู้สามารถสังหารหมู่ตามเมืองทั้งหลายได้ทุกวัน!

หากลู่เทียนเหอไม่ออกโรงจองจำอีกฝ่ายด้วยตัวเอง ก็ไม่อาจทราบได้ว่ามีกี่ชีวิตที่จะต้องถูกปลิดชีพ!

เดิมเขาคิดว่านิสัยของคนผู้นี้เปลี่ยนไปแล้วหลังจากผ่านมาเนิ่นนาน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเสียสติยิ่งกว่าเก่า!

ลู่หยวนเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา การที่อีกฝ่ายหายไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ นับว่าเป็นตัวกระตุ้นอย่างดี…

ไม่ทราบได้ว่าคนเสียสติผู้นี้อยากพรากกี่ชีวิต!

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ…”

ลู่เทียนเฟิ่งผู้ยืนอยู่บนอากาศพลันเงยหน้าแล้วหัวเราะ

เมื่อเสียงหัวเราะสิ้นสุดลง เขาก็เผยรอยยิ้มอันเย่อหยิ่งออกมา

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโลหิต ลูกตาซึ่งเคยเป็นสีดำก็หายไป!

กลิ่นอายไร้ที่สิ้นสุดบนร่างกายแผ่ออกมาแล้วกระจายไปทั่วทั้งแดนมัชฌิม!

ทุกคนต่างรู้สึกเย็นสันหลังวาบ!

“ตาย ตาย ตาย! ตายกันให้หมด!”

“อ๊าก!!!”

กระบี่ยักษ์ในมือของลู่เทียนเฟิ่งพลันทะลวงปฐพี!

ตู้ม!

หลุมขนาดใหญ่เกิดรอยแยกในทันทีก่อนจะลามไปทั่วทุกทิศทาง!

ปราณกระบี่สังหารซ่อนอยู่ภายในนั้นขณะทำการเข่นฆ่าทุกคนทั่วทุกแห่งหน!

บรรพชนเหล่านั้นลอบสบถเจ้าคนเสียสติจากตระกูลลู่อยู่ในใจ ก่อนจะเปิดรูทวารทั้งเจ็ดของทุกคนในตระกูลพร้อมถ่ายทอดคำสั่ง

“กางค่ายกลพิทักษ์ตระกูลให้หมด!”

ตระกูลชั้นสูงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง พวกเขาสัมผัสได้เพียงจิตสังหารทันทีที่รูทวารทั้งเจ็ดเปิด!

พวกเขาสัมผัสได้ว่าเทพแห่งความตายคล้ายกับปรากฏขึ้นตรงหน้า พร้อมกับยกดาบใหญ่ในมือขึ้น หมายจะสังหารทุกคนจนสิ้น!

“พวกเจ้ามัวยืนทำอะไรกันอยู่?! รีบกางค่ายกลพิทักษ์ตระกูลให้หมด!”

เสียงตะโกนอันเกรี้ยวกราดนี้เรียกสติของคนเหล่านั้น พวกเขาจึงรีบโคจรพลังบางส่วนเพื่อเปิดใช้งานค่ายกล!

บรรพชนหลายคนออกจากค่ายกลก่อนจะมายืนอยู่นอกตระกูล ขณะที่ความแข็งแกร่งของพวกเขายังคงเพิ่มขึ้น

พวกเขาบางส่วนยืนอยู่กลางอากาศขณะมองหน้ากัน จากนั้นจึงเข้าใจว่าแต่ละคนอยากจะสื่ออะไร!

ทุกคนต่างระดมกำลัง จนถักทอเป็นตาข่ายยักษ์กลางอากาศ

ลู่เทียนเฟิ่งคล้ายกับเสียสติ เขาเพียงกวัดแกว่งกระบี่ยักษ์ในมือโดยไม่ทราบถึงตัวตนของตาข่ายยักษ์เหนือศีรษะ!

ขวับ!

ตาข่ายยักษ์ก่อตัวขึ้นในชั่วพริบตา มันมุ่งมาทางลู่เทียนเฟิ่งผู้อยู่ด้านล่าง!

เมื่อลู่เทียนเฟิ่งผู้เสียสติและกระสับกระส่ายติดอยู่ในตาข่าย พลังของเขาก็ถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาราวกับไม่สามารถสำแดงออกมาอย่างเต็มกำลังได้!

เขาฟาดฟันกระบี่ยักษ์อย่างคลุ้มคลั่ง แต่กลับทะลวงออกไปไม่ได้!

บรรพชนทั้งหลายรู้สึกโล่งอก หลังจากร่วมมือกันสยบคนเสียสติผู้นี้ได้!

อันที่จริง พวกเขาสามารถสังหารลู่เทียนเฟิ่งได้หากร่วมแรงกัน!

แต่สุนัขเฒ่าตระกูลลู่บางส่วนอาจจะซ่อนตัวอยู่ในแดนมัชฌิมยามนี้ก็เป็นได้

การสังหารใครสักคนเป็นเรื่องง่าย แต่การทำให้ตระกูลลู่ขุ่นเคืองเป็นเรื่องยุ่งยาก!

คุณชายคนปัจจุบันของตระกูลลู่อย่างลู่หยวนหายไปแล้ว หากลู่เทียนเฟิ่งตายไปอีกคน ไม่เท่ากับว่าทำให้พวกเขาคลุ้มคลั่งจนไล่ฆ่าผู้คนไปทั่วทุกหนแห่งหรอกหรือ?!

แม้ตระกูลลู่จะไม่มีอำนาจในถิ่นอื่น แต่พวกเขาก็มีกำลังมากพอที่จะสู้จนตัวตาย!

ยามนี้การสยบลู่เทียนเฟิ่งเอาไว้จึงเรียกได้ว่าเป็นความปลอดภัยสำหรับทั้งสองฝ่าย

สถานการณ์ในยามนี้เปลี่ยนไปมาก อีกทั้งทุกคนกำลังหมายตาเส้นชีพจรจักรพรรดิ

ค่ายกลซึ่งอยู่นอกเส้นชีพจรจักรพรรดิหายไปหลังจากต้านแรงกระแทกจากคลื่นอากาศไปสักระยะ มีเพียงง้าวมังกรครามแปดแดนร้างที่ยังคงยืนหยัดอยู่ด้านข้าง!

เมื่อตระกูลชั้นสูงทั้งหลายกำลังเตรียมลงมือ ทันใดนั้น ง้าวเล่มนั้นก็สั่นสะท้านก่อนที่ร่างหนึ่งจะปรากฏขึ้นข้างมัน!

ร่างนั้นรีบยื่นมือออกไปเพื่อคว้าเส้นชีพจรจักรพรรดิเอาไว้อย่างไม่ลังเล!

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท