บทที่ 377 การเผชิญหน้าของตระกูลฮ่วน
บทที่ 377 การเผชิญหน้าของตระกูลฮ่วน
ณ แดนมัชฌิม
หลังจากสิ้นเสียงของฮ่วนซิงไป๋ ทุกคนในที่นี้ต่างก็เข้าใจทุกอย่าง
การที่ตระกูลเจียงฝ่าออกจากวงล้อมมาได้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน!
แต่เป็นการเตรียมการล่วงหน้าหรือ!?
ตระกูลเยวี่ยถูกปลุกปั่น ทั้งตระกูลถูกสังหารเพียงเพื่อส่งง้าวมังกรครามแปดแดนร้างไปอยู่ข้างเส้นชีพจรจักรพรรดิ
หลังจากนั้น ตระกูลเจียงจึงทำแค่ดูการต่อสู้จากด้านข้าง เมื่อทุกคนเหน็ดเหนื่อยจากการห้ำหั่น พวกเขาถึงค่อยลงมือ!
เกรงว่าง้าวมังกรครามแปดแดนร้างได้ยอมรับเจ้าของไปแล้ว!
เมื่อเวลามาถึง เจียงเชียนชิวสามารถใช้ง้าวมังกรครามแปดแดนร้างเพื่อเคลื่อนย้ายเขาไปที่นั่นในทันที!
ถึงตอนนั้น เส้นชีพจรจักรพรรดิก็จะอยู่ในมือ แผนการก็เป็นอันเสร็จสิ้น!
ความจริงแล้วไม่ใช่เพียงอาวุธระดับครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์ แต่แม้กระทั่งอาวุธระดับจักรพรรดิก็สามารถพาเจ้าของมาอยู่ข้างกายได้
แต่ไม่มีผู้ใดคาดคิดถึงวิธีนี้!
ต่อให้คาดถึงจริงจนส่งอาวุธออกมา อย่าว่าแต่ดึงดูดความสงสัยของผู้อื่นเลย แม้ไม่เกิดเหตุเช่นนั้น ก็ยากจะมั่นใจได้ว่าอาวุธจะไปตกอยู่ข้างเส้นชีพจรจักรพรรดิ หากมีการต่อสู้ตามมา อาวุธนี้จะไม่ถูกช่วงชิงหรือแตกหักบ้างเลยหรือ?
มีตัวแปรที่ไม่แน่นอนมากเกินไปอยู่ที่นี่!
หากแผนดังกล่าวถูกเสนอก่อนจะถึงวันนี้ ไม่ว่าตระกูลใดก็ต้องคัดค้าน
การทำให้สำเร็จแทบเป็นไปไม่ได้ ความไม่แน่นอนมีมากเกินไป อีกทั้งยังเป็นการต่อสู้ชี้ขาด จนทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ดังใจนึก จึงต้องปล่อยให้ทุกสิ่งตกอยู่ภายใต้เจตจำนงของทวยเทพ!
แต่ตระกูลเจียงทำได้!
นอกจากนี้มันไม่ใช่ความพยายามของทั้งตระกูล แต่เป็นของคนเพียงไม่กี่คน!
หากพูดให้ถูกก็คือเป็นของหลี่เจียงหนานเพียงผู้เดียว!
สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเกินไป!
ฮ่วนซิงไป๋สะกดความตกตะลึงเอาไว้ในใจ เขาทำให้ร่างกายผ่อนคลายก่อนจะฉีกยิ้มออกมา
เขารู้สึกสับสนสักพัก คนที่อยู่ตรงหน้าช่างละม้ายคล้ายกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่เหลือเกิน
เพียงแต่… บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่หล่อเหลากว่าหลายขุม
“เหอะ ๆ… หลี่เจียงหนาน เจ้าร้ายกาจไม่เบา ตระกูลเยวี่ยเคยเป็นตระกูลที่โดดเด่น ครั้งนี้มีหลายตระกูลที่รายล้อมเจ้า มีผู้คนมากมายถึงแก่ความตายเพียงเพื่อส่งง้าวมังกรครามแปดแดนร้าง แม้จะมีโอกาสทำไม่สำเร็จก็ตาม แต่เจ้าก็ยังกล้าเดิมพัน!”
“หากเยวี่ยตงไห่ทราบว่าทุกอย่างเป็นแผนของเจ้า เกรงว่าเขาจะพาคนมากวาดล้างตระกูลเจียงไปนานแล้ว!”
“พอมาคิดดูแล้ว หากข้าจำไม่ผิด เป็นตระกูลซุยที่มอบง้าวมังกรครามแปดแดนร้างให้ พวกเขาตกต่ำที่สุดในบรรดาตระกูลชั้นกลาง อีกทั้งยังระแวดระวังจนดูไม่สะดุดตามากที่สุด แต่เจ้ากลับโน้มน้าวได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย… คงเปลืองน้ำลายไปไม่ใช่น้อย!”
แม้คำพูดของฮ่วนซิงไป๋จะเป็นการประชดประชัน แต่หลี่เจียงหนานรู้สึกเหมือนได้รับคำเชยชมมากกว่า
“ต้องขอโทษคุณชายฮ่วนด้วยที่สร้างปัญหาให้ แต่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นแล้ว!”
“ทว่าข้าไม่ได้เดิมพันอะไร ทุกการกระทำที่ลงแรงไปทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อมาตามที่คิดไว้ทุกประการ!”
“มู่พ่านซานจะต้องเรียกผู้คนทั้งหลายให้ถลำลึกเข้ามาแล้วค่อยสังหารเพื่อปิดฉากแน่นอน!”
“ส่วนซุยชิงหยางจะต้องยอมตอบตกลงคำขอของข้าอย่างแน่นอน!”
“นี่คือธรรมชาติมนุษย์ คุณชายฮ่วน เป็นเพราะเจ้าได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี จึงไม่จำเป็นต้องมาคิดเรื่องนี้ให้ปวดหัว!”
ดวงตาของหลี่เจียงหนานเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่ง “สิ่งที่คนอย่างเจ้าไม่สนใจคือพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์! คนแบบไหนจะยอมเข้าร่วมเพื่อยอมรับผลลัพธ์แบบนั้นกัน! นี่ต่างหากคือผลลัพธ์!”
“ฮ่วนซิงไป๋ หนุ่มสาวทั้งหลายของตระกูลชั้นสูงก็เป็นแบบนี้ เจ้าคิดว่าตัวเองทรงพลัง แต่บัดนี้กลับถูกข้าผู้นี้ควบคุมเสียได้!”
“ไม่ใช่เพียงแค่เจ้าเท่านั้น ลู่หยวนก็เช่นเดียวกัน! ข้าไม่ได้ต้องการจะล้มล้างแค่ลู่หยวนเท่านั้น แต่รวมถึงทั้งตระกูลลู่ด้วย!”
เจียงเชียนชิวกับหลี่เจียงหนานอยู่ด้วยกันมานาน ดังนั้นเขาจึงรู้ถึงความคิดของอีกฝ่าย
“พี่หลี่ไม่ต้องห่วง หากได้ครองบัลลังก์เมื่อไหร่ ข้าจะเริ่มกวาดล้างตระกูลลู่เพื่อเจ้าให้เอง!”
สายตาของเจียงเชียนชิวมุ่งมั่นจนคล้ายกับจะบุกไปสังหารตระกูลู่ในวันรุ่งขึ้นได้!
หลี่เจียงหนานพยักหน้า หากเจียงเชียนชิวเพียงคนเดียวอาจจะทำไม่ได้ แต่ถ้ามีเขากับทั่วทั้งแดนมัชฌิมเป็นรากฐาน ต่อให้ตระกูลลู่ทรงพลังแค่ไหน แต่คนเหล่านั้นจะถูกล้มล้างเมื่อไหร่ก็อยู่ที่เวลาเท่านั้น!
เจียงเชียนชิวยิ้มก่อนจะชี้ง้าวไปทางฮ่วนซิงไป๋
“พูดไปก็เปล่าประโยชน์ ฮ่วนซิงไป๋ เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่านับจากนี้จะนำพาตระกูลไปอยู่ที่ไหน?!”
ฮ่วนซิงไป๋หรี่ตาก่อนจะยืนขึ้น กลิ่นอายซึ่งเป็นของทวยเทพผู้ถูกเนรเทศก็พวยพุ่งอีกครั้ง ดาบยาวมังกรพลัดถิ่นปรากฏขึ้นในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างถือดาบอีกเล่มเอาไว้
“เหอะ แน่นอนว่าข้าคิดเอาไว้แล้ว!”
ผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลฮ่วนเข้าใจเช่นกันว่าฮ่วนซิงไป๋หมายถึงอะไร สีหน้าของพวกเขาจึงเคร่งขรึมก่อนจะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณต่อสู้!
ถึงแม้จะเป็นเพียงคุณชาย แต่เขาพูดคำไหนคำนั้นเสมอ!
ประมุขตระกูลฮ่วนเคยบอกเอาไว้ว่าหากเป็นเวลาเช่นนี้ การตัดสินใจของฮ่วนซิงไป๋ถือเป็นการตัดสินใจของตระกูลฮ่วน!
เจียงเชียนชิวพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชาเมื่อทราบถึงจุดยืนของอีกฝ่าย
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก!”
เจียงเชียนชิวยกง้าวขึ้นพร้อมกับพลังที่พลุ่งพล่าน ทั่วหล้าคล้ายถูกปกคลุมด้วยบางสิ่ง แล้วอากาศหมองหม่นก็กระจายไปทั่วทั้งพื้นที่จนทำให้ผู้คนหายใจไม่ออก
“ข้าในฐานะจักรพรรดิขอประกาศว่าตระกูลฮ่วนถูกขับออกจากแดนมัชฌิม! นับจากนี้พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ย่างกรายเข้ามา หากผู้ใดไม่เชื่อฟังจะต้องตาย!”
“หากตระกูลใดกล้าผูกมิตรกับตระกูลฮ่วนก็จะถูกขับออกจากแดนมัชฌิมเช่นกัน!”
“พวกเจ้า… ได้ยินหรือไม่?!”
เจียงเชียนชิวกวาดมองทั่วแดนมัชฌิม ประมุขตระกูลทั้งหลายต่างขมวดคิ้ว
ในอดีต กู่จินเจาไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ บัดนี้ตระกูลฮ่วนขัดขืนตระกูลเจียง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเขา?!
นามของจักรพรรดิแดนมัชฌิมเป็นเพียงตระกูลที่ได้ควบคุมมหาโชคชะตาของที่นี่ก็เท่านั้น
ใครที่มีวิธีคิดแบบคนปกติย่อมทราบดีว่าของแบบนี้ไม่ได้เกิดจากคนเพียงผู้เดียว!
เหตุผลที่โชคชะตาอย่างเส้นชีพจรจักรพรรดิในแดนมัชฌิมแข็งแกร่ง นั่นก็เพราะตระกูลซึ่งอยู่ที่นี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมัน!
ในบรรดาห้าดินแดนอย่างเขาบูรพาหรือทะเลใต้ก็มีอาณาจักรอยู่มากมาย แต่เทียบกับแดนมัชฌิมแล้ว พวกมันย่อมไม่มีค่าอะไร
อาณาจักรเหล่านี้ก็มีโชคชะตาเป็นของตัวเองเช่นกัน!
แต่เหตุใดพวกเขาจึงพ่ายแพ้ให้แก่แดนมัชฌิม?!
นั่นเพราะแดนมัชฌิมมีทั้งสิ้นเก้าสิบเจ็ดเมืองและอยู่ระหว่างห้าดินแดนทั่วทุกสารทิศ พวกเขาเชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่นและรวมกลุ่มกันอย่างเป็นปึกแผ่น
ยิ่งกว่านั้นยังมีแม่น้ำหลายร้อยสายล้อมรอบ ไม่ว่าจะไม่ได้รับการปกป้องจากผู้ใด หรือมาจากที่ไหน ทุกคนต่างก็สามารถเข้าสู่แดนมัชฌิมได้
กอปรกับการก่อตั้งสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์จึงทำให้เกือบทุกคนมายังแผ่นดินแห่งนี้ ก่อนสำนักอื่นจะถูกก่อตั้งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีตระกูลชั้นสูงซึ่งอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เมื่อสามแสนปีก่อน พวกเขาทั้งหลายต่างพยายามหาทางเข้ามาที่นี่
ด้วยเหตุนี้ โชคชะตาของเส้นชีพจรจักรพรรดิแดนมัชฌิมจึงยิ่งแข็งแกร่ง
แต่บัดนี้ เจียงเชียนชิวกลับทำตัวเหมือนเด็กอวดดีที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
คิดว่าพอได้เส้นชีพจรจักรพรรดิมาแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ?!
หากตระกูลและสำนักทั้งหลายในแดนมัชฌิมย้ายจากแดนมัชฌิมไปอยู่ที่อื่น โชคชะตาของเส้นชีพจรจักรพรรดินี้จะหายไป!
ประมุขตระกูลทั้งหลายเริ่มมีความคิดที่จะจากไปเมื่อเห็นเจียงเชียนชิวตะโกนเช่นนี้