ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 422 วิญญาณ

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 422 วิญญาณ

บทที่ 422 วิญญาณ

ไม่กี่วันต่อมา ลู่หยวนหลบอยู่แต่ในลานบ้านตระกูลชิว ออกไปไหนแทบนับครั้งได้ ในยามปกติเขาเพียงมองทิวทัศน์ ฝึกฝนหรือไม่ก็แลกเปลี่ยนวิชากระบี่กับเยวี่ยอู๋ฉือ

แม้จะไม่มีใครในตระกูลชิวกล้าเข้าใกล้ในบริเวณที่เขาอยู่ แต่ทุกคนต่างพากันสนทนา

ชิวสิงเข้าสู่พื้นที่ต้องห้ามขณะก้มมองบริเวณที่ลู่หยวนอยู่

ทาสอารักขาผู้อยู่ข้างกายรายงานเช่นกัน “ท่านบรรพชน พวกเขาไปที่ตำหนักประตูสวรรค์แล้วขอรับ!”

“ตำหนักประตูสวรรค์ตอบตกลงใช่หรือไม่?”

แม้ชิวสิงจะเอ่ยอย่างสงบ แต่ดวงตากลับมีแววดูแคลน

หากเขาไม่เก็บตัว ตระกูลชิวคงจะยึดครองอำนาจกลุ่มนี้ไปนานแล้ว จะปล่อยให้ตำหนักประตูสวรรค์เข้ามาข้องเกี่ยวได้อย่างไร?

“ขอรับ! จ้าวตำหนักประตูสวรรค์ตอบรับด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้ส่งใครมาพร้อมกับทิ้งผู้ฟ้องร้องเอาไว้!”

“โห?”

สายตาของชิวสิงให้ความสนใจ จ้าวตำหนักประตูสวรรค์คือบุรุษที่พูดคำไหนคำนั้น!

ในเมื่อตอบตกลง เขาจะต้องส่งใครบางคนเข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้แน่นอน!

แต่ตอนนี้เขากลับรักษากำลังคนเอาไว้ หรือว่าอีกฝ่ายคิดจะกลับคำพูด?

ทาสอารักขายังคงเอ่ยต่อ “ว่ากันว่าครั้งนี้ตำหนักประตูสวรรค์อยากให้ประมุขน้อยพาคนมาที่นี่ ข้อแรกคือเพื่อฝึกฝน ส่วนข้อสองคือเพื่อสร้างชื่อเสียง! เพียงแต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา ประมุขน้อยกำลังจะทะลวงขั้น ดังนั้นจึงมีการรักษากำลังคนไว้เพื่อรอให้เขาออกจากการเก็บตัวก่อนจึงจะมาที่นี่ได้ขอรับ!”

“สร้างชื่อเสียง? โดยใช้ตระกูลชิวน่ะหรือ?”

แม้น้ำเสียงของชิวสิงจะสงบ แต่กลับมีร่องรอยของโทสะแฝงอยู่

ทาสอารักขาก้มศีรษะทันทีโดยไม่เอ่ยคำใด

“ประมุขน้อยแห่งตำหนักประตูสวรรค์…”

ชิวสิงมองไกลออกไปราวกับกำลังนึกถึงบางสิ่ง “ข้าพอรู้มาบ้างว่า คนผู้นี้ก็มีพรสวรรค์มากเช่นกัน ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะชื่อซ่งชิงใช่หรือไม่? ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเขาอยู่ขั้นไหน?”

ทาสอารักขาตอบทันที “ขั้นครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์ขอรับ หากไม่มีอะไรผิดพลาดกับการทะลวงในครั้งนี้ เขาจะขึ้นสู่ขั้นปรมาจารย์ยุทธ์ ตามรายงานที่ได้รับมา ทั่วทั้งตำหนักประตูสวรรค์กำลังให้ความสนใจเรื่องนี้มาก ส่วนบรรพชนของตระกูลซ่งออกจากการเก็บตัวเพื่อปกป้องสถานที่ซึ่งซ่งชิงทำการเก็บตัว!”

“เหอะ! ตาเฒ่าศักดิ์สิทธิ์คนนั้นน่ะหรือ? เดี๋ยวนี้มีคนหนุ่มสาวมากพรสวรรค์บนแผ่นดินหยวนหงตั้งเยอะ! ลู่หยวนแห่งแดนเหนืออายุยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ก็บรรลุไปถึงขั้นครึ่งก้าวจ้าวยุทธ์! ส่วนตำหนักประตูสวรรค์ก็มีขั้นครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์เช่นกันหรือ?”

“ส่วนวิวัฒนาการแห่งวิถีสวรรค์ ปราณวิญญาณมีจำกัด ในไม่ช้าก็เร็ว ลู่หยวนกับซ่งชิงจะต้องเริ่มต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเพราะเรื่องการทะลวงห้วงอากาศแน่นอน หากเวลายังไม่มาถึง ข้าก็อยากเห็นกับตาว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาเผชิญหน้ากัน!”

ทาสอารักขายืนอยู่ข้างกายโดยที่ไม่กล้าตอบอะไร

ชิวสิงถอนสายตากลับมาบริเวณลานบ้านที่ลู่หยวนอยู่ “ชิวเสวียนน่าจะทำให้อาวุธของแม่ทัพมารยอมจำนนได้สามถึงสี่ชิ้นแล้ว”

“ขอรับ มีสี่ชิ้นที่ยอมจำนนแล้ว”

“ดี การต่อสู้กำลังจะเริ่มแล้ว! เรียกกำลังคนที่อยู่ข้างกายลู่หยวนกลับมา รวมถึงถอนกำลังองครักษ์ในจวนตระกูลชิวออกมาครึ่งหนึ่ง!”

“ขอรับ!”

ลู่หยวนใช้เวลากับเยวี่ยอู๋ฉือไม่นาน เขามัวแต่จัดการกับเรื่องอื่นเพื่อเตรียมทุกอย่างให้พร้อม

เมื่อสบโอกาส เขาจึงมุ่งหน้าไปดินแดนลับที่มีหนึ่งในอาวุธของแม่ทัพมารตั้งอยู่ตามที่แผนที่ได้บอกเอาไว้!

เพียงแค่หนึ่งก้านธูป ลู่หยวนก็มาถึงดินแดนลับ

ที่นี่คือซากปรักหักพังซึ่งอยู่ที่เขตชานเมืองของตระกูลชิว นอกจากเศษซากกับกำแพงแตกหักแล้วก็ไม่มีสิ่งปลูกสร้างอื่นอีก

ทันทีที่ลู่หยวนย่างเท้าเข้าสู่ที่นี่ เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังแก่กล้าที่แผ่ออกมาจากกำแพงแตกหักเหล่านั้น

บางสิ่งคล้ายกับกำลังเรียกลู่หยวน

เขาค้นหาความรู้สึกนั่นขณะเดินไปทางซากปรักหักพังที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด

ท่ามกลางสถานที่ดังกล่าว มีห้องโถงที่พังทลายลงมาเพียงครึ่งเดียว

เมื่อย่างก้าวเข้ามา ประตูวังที่เปิดเอาไว้ครึ่งหนึ่งก็ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ทำให้แสงสีดำสาดส่องออกมาก่อนค่ายกลที่พังทลายจะปรากฏ!

ลู่หยวนก้มมองก่อนจะพบว่ากลิ่นอายมารยังคงรั่วไหลออกมาจากค่ายกลดังกล่าว เป็นเพราะสิ่งนี้จึงทำให้ปริมาณของกลิ่นอายมารที่ถูกปล่อยออกมาเกิดความผันผวน

เนื่องจากค่ายกลที่พังทลาย จึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายผู้คนได้

ลู่หยวนยกมือแล้วแตะปลายนิ้วในอากาศอยู่หลายครั้ง ทำให้ปราณวิญญาณเคลื่อนตัวไปมาก่อนพลังมารรอบข้างจะตกกระทบบนค่ายกลดังกล่าว

ค่ายกลยันต์ที่ถูกกัดกร่อนตามกาลเวลาได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง

หลังจากค่ายกลเสร็จสิ้น แสงสว่างก็วูบไหวขณะพลังมารพุ่งออกมาแล้วปกคลุมลู่หยวนเอาไว้

จากนั้นเขาจึงตกอยู่ในค่ายกล!

หลังจากเข้ามาอยู่ภายใน ลู่หยวนสัมผัสได้ว่าทุกสิ่งตรงหน้ามืดมิด แล้วกลิ่นอายมารเข้มข้นได้กัดกร่อนโลกใบนี้ไปหมดแล้ว!

“นายท่าน ทางซ้าย!”

เสียงของเจิ้งชิงเทียนดังมาจากจิตเทวะของลู่หยวน!

จากนั้นลู่หยวนจึงมอบรอบข้างก่อนเนตรเทวะจะทำงาน

ไม่ไกลจากทางด้านซ้าย กระบี่คู่กำลังลอยอยู่ในอากาศ

ส่วนรอบข้างกระบี่ดังกล่าวมีวิญญาณประหนึ่งภูตผีสามดวงกำลังเวียนวนอย่างต่อเนื่อง

โฮก!

เมื่อวิญญาณทั้งสามเห็นลู่หยวนจึงเหลือบมอง ทำให้เขาเห็นรูปลักษณ์ของพวกมันอย่างชัดเจน

ใบหน้าของวิญญาณดูเหมือนมนุษย์ แต่มันเน่าเฟะไปครึ่งส่วนจนเผยให้เห็นหัวกะโหลก ดูน่าขยะแขยงนัก

บริเวณด้านหลังของวิญญาณที่ลอยล่องมีหางยาวสีดำ ก่อนจะขดตัวอย่างต่อเนื่องในอากาศ

เมื่อเห็นดังนี้ เจิ้งชิงเทียนขมวดคิ้วแล้วเอ่ยคำด้วยความกังวล “เจ้าพวกนี้รับมือได้ไม่ง่าย พวกมันมองไม่เห็นและไร้ลักษณ์ ต่อให้โจมตีไปก็เปล่าประโยชน์ นอกจากนี้ พวกมันส่วนใหญ่มีวิชาติดตัว หากโดนเข้าไปก็จะได้รับผลย้อนกลับ!”

นางติดตามลู่หยวนมานาน ทำให้เข้าใจเกี่ยวกับอุบายของอีกฝ่ายอยู่หลายส่วน

หากไม่ใช่ของพิเศษบางอย่างแล้ว ระดับยันต์ของลู่หยวนนั้นยังไม่สามารถทะลวงสามวิญญาณร้ายตรงหน้าได้

เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ เจิ้งชิงเทียนจึงตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร!

ตอนนี้!

วิญญาณทั้งสามซึ่งอยู่ไม่ไกลยังคงเวียนวนไปมาขณะแผดเสียงคำรามประหนึ่งสัตว์ป่า ดวงตาสีแดงเข้มของพวกมันกำลังจ้องตรงมาที่ลู่หยวนราวกับต้องการจะกลืนกินไปทั้งตัว!

“โจมตีไปก็เปล่าประโยชน์หรือ?”

ลู่หยวนยิ้มหยัน “มันก็ไม่จริงเสมอไป!”

ทันทีที่สิ้นคำ อากาศรอบข้างเขาก็แตกสลายก่อนร่างจะทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว มาปรากฏเบื้องหน้าวิญญาณทั้งสามในพริบตา!

เจิ้งชิงเทียนไม่ทันระวังและอยากรีบแนะนำลู่หยวนว่าสิ่งเหล่านี้คือตัวปัญหาเมื่อสามแสนปีก่อน ด้วยระดับการบ่มเพาะของลู่หยวนในตอนนี้ย่อมไม่อาจทำอะไรได้!

แต่ก่อนจะทันได้เอ่ยคำ ลู่หยวนก็กำมือขวาแล้วยกขึ้น โดยแสงสีขาวสาดส่องออกมาขณะพลังไร้ที่สิ้นสุดยังคงรวมตัวอยู่ภายใน

ตู้ม!

หมัดของลู่หยวนกระแทกเข้าใส่วิญญาณทั้งสาม!

พวกมันไม่กลัวเกรงขณะรวมตัวเข้าด้วยกัน จากนั้นจึงพุ่งเข้าหาอีกฝ่าย

เจิ้งชิงเทียนรีบออกมาจากหอคอยอสูรสวรรค์ จากนั้นใช้พลังแห่งวิถีคุณธรรมเพื่อปกป้องลู่หยวน หาไม่แล้ว ถ้าถูกวิญญาณทั้งสามเล่นงานขึ้นมา วิชาที่ปกคลุมร่างพวกมันเอาไว้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทานทนได้!

นางเพิ่งปรากฏตัว แต่ยังไม่ทันลงมือก็เห็นว่าหมัดกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของวิญญาณเข้าไปสามชุ่นแล้ว!

นางกำลังจะยื่นมือเข้าช่วย แต่กลับพบว่าความเร็วของหมัดลู่หยวนเพิ่มขึ้นหลายเท่า จากนั้นก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว!

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท