บทที่ 447 ตระกูลชิวยอมจำนน
บทที่ 447 ตระกูลชิวยอมจำนน
เมื่อกระบี่ยาวพุ่งตรงเข้ามา ลู่หยวนไม่แม้แต่เงยหน้า พลังสายหนึ่งพลันเคลื่อนลงมาก่อนจะกดทับไปที่ชายหนุ่มผู้นั้น!
สิ้นเสียง ‘กร็อบ!’ ควบคู่กับเสียงร้องโหยหวน กระดูกชายหนุ่มแตกหักทีละนิดโดยเริ่มจากแขน ทันใดนั้นเขาก็คุกเข่าแทบเท้าลู่หยวน
ทุกคนในตระกูลชิววิตกกังวล
ลู่หยวนยกเท้าเหยียบบนไหล่ของชายหนุ่ม
ชิวเซี่ยวเทียนอยากร้องขอความเมตตา ชายผู้นี้นับว่ามีพรสวรรค์ในหมู่คนรุ่นหลังของตระกูลชิว หากเป็นในอดีต การสูญเสียอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ
แต่ตอนนี้ ตระกูลชิวไร้การปกป้องจากวิถีคุณธรรมแล้ว คนที่มีพรสวรรค์ดีคือโอกาสที่จะทำให้พวกเขากลับมาผงาดได้!
เมื่อชิวเซี่ยวเทียนกำลังจะเอ่ยบางคำ เขาเห็นเท้าของลู่หยวนเคลื่อนลงไปบดขยี้กระดูกไหล่ของชายหนุ่มอย่างรุนแรง!
‘อ๊าก!’
เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังมาจากปากของชายหนุ่ม ทุกคนในตระกูลชิวไม่อาจทนดูได้ พวกเขาจึงพากันเบือนหน้าหนี!
ชิวเซี่ยวเทียนเปิดปากเอ่ยทันทีว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ โปรดไว้ชีวิตเขาด้วย!”
ลู่หยวนปรายตามองพลางยิ้มหยัน “ไว้ชีวิตเขาหรือ ได้อยู่แล้ว”
สีหน้าของชิวเซี่ยวเทียนอ่อนลงทันตา คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะยังสามารถพูดคุยได้!
แต่สิ่งที่ลู่หยวนเอ่ยต่อมา กลับทำให้สีหน้าของเขามืดมน
“ข้า บุตรศักดิ์สิทธิ์ สามารถไว้ชีวิตเขาได้ แต่เจ้าจะต้องเป็นคนรับแทน”
ดวงตาของลู่หยวนเต็มไปด้วยประกายหยอกเย้า
ชิวเซี่ยวเทียนตกตะลึงเช่นกัน เขาทราบดีว่าหากต้องรับเท้าของอีกฝ่าย ตนย่อมถึงแก่ความตายโดยไม่มีที่ฝังเป็นแน่!
“ประมุขชิว เจ้าอยากมาแทนหรือไม่?”
สายตาของลู่หยวนจับจ้องชิวเซี่ยวเทียนขณะเอ่ยพร้อมแย้มยิ้ม
สีหน้าของชิวเซี่ยวเทียนซีดเผือด เขาสัมผัสได้ว่าสมาชิกตระกูลชิวที่อยู่ด้านหลังกำลังรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
ในฐานะประมุขตระกูล เขาควรจะเข้าไปแทน แต่ภายใต้แรงกดดันแห่งความตาย ทำให้ตนสูญสิ้นความหาญกล้า!
หากเข้าไปแทน เขาจะต้องตาย!
เขา…
เขา… เขาจะตายไม่ได้!
ใช่ เขาจะตายไม่ได้!
หากเขาตาย ตระกูลชิวก็ถึงคราวจบสิ้น!
หากเขาตาย ตระกูลชิวจะเสียคนคอยชี้นำ เรื่องการฟื้นฟูยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง!
ดังนั้น เขาจะตายไม่ได้!
ชิวเซี่ยวเทียนหาข้ออ้างนับไม่ถ้วนก่อนจะหันไปสบตากับทุกคน
ตระกูลชิวที่เหลือเข้าใจร่วมกันว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไร มันคือการตัดสินใจที่ยากลำบาก
แม้คนที่เหลือจะไม่กล้าแสดงสีหน้า แต่พวกเขาล้วนพากันต่อว่าอยู่ภายใน
นี่คือตระกูลของพวกเขา!
ทว่าชิวเซี่ยวเทียนกลับไม่มีแม้แต่ความกล้า!
หรือว่าเขาผู้มีฐานะเป็นประมุขตระกูลอยากดูสมาชิกตายโดยไม่ยื่นมือเข้าช่วยงั้นหรือ?!
คนแบบนั้นสมควรจะเป็นประมุขตระกูลชิวหรือ?!
หากเป็นพวกเขา คำตอบจะต้องเป็น…
ไม่ทันได้เรียบเรียงความคิด สายตาของลู่หยวนกวาดผ่านทีละคนแล้วเอ่ยว่า “หรือถ้าพวกเจ้าสักคนอยากมารับแทนก็ได้เช่นกัน”
“ขอเพียงมีหนึ่งคนก้าวเข้ามา ข้าก็จะปล่อยเขาไป แต่คนผู้นั้นจะต้องมาแทนที่!”
ทันทีที่สิ้นคำก็ไม่มีใครในตระกูลชิวกล้าตอบรับ ทุกคนพากันก้มศีรษะ
พวกเขาคิดกับตัวเอง ‘ไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วย แต่ถ้าพวกตนออกไปก็จะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน!’
หากมีพละกำลังทัดเทียมดั่งประมุขตระกูล พวกเขาย่อมสามารถช่วยเหลือผู้คนได้อย่างแน่นอน!
ลู่หยวนชำเลืองมองรอบข้าง “ไม่มีสินะ”
“เจ้าหนู เห็นหรือยังว่าไม่มีใครยื่นมือช่วย เช่นนั้น… ก็ตายซะ!”
สิ้นคำ ลู่หยวนก็ขยับเท้าก่อนจะกระทืบหัวใจของชายหนุ่มด้วยพลังมหาศาล!
โลหิตทะลักสาดกระเซ็นทุกทิศทาง!
ชายหนุ่มสิ้นลมหายใจ
ความผันผวนของพลังรอบข้างลู่หยวนทำให้โลหิตทั้งหมดระเหย หาได้มีร่องรอยความสกปรกที่ชายเสื้อของเขาไม่
ทุกคนหันมาสนใจชิวเซี่ยวเทียนอีกครั้งเพื่อกล่าวโทษว่าอีกฝ่ายเป็นคนทำให้ชายหนุ่มถึงแก่ความตาย
เป็นความผิดของเขาที่ช่วยคนผู้นี้ไม่สำเร็จจนนำไปสู่ความตาย!
ลู่หยวนไม่มีกะจิตกะใจจะคาดเดาความคิดคนเหล่านี้ เขาจึงหันไปสนใจชิวเซี่ยวเทียนอีกครั้ง
“ช่างบังเอิญที่ตระกูลชิวเกือบทุกคนมาอยู่ที่นี่ ข้าคร้านจะพูดอะไรให้มากความ เพราะฉะนั้น ถ้าฟังคำแนะนำของข้า พวกเจ้าจะรอด แต่ถ้าไม่ฟังก็ไม่เป็นไร”
ลู่หยวนปรายตามอง “มันก็แค่ตายเท่านั้น”
ไม่มีใครในตระกูลชิวกล้าเอ่ยคำใด ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะสูดหายใจเฮือกใหญ่
พวกเขาล้วนเห็นชายหนุ่มตายอย่างน่าเวทนามาแล้ว
พวกเขาฝึกฝนมาอย่างยากลำบากจนถึงทุกวันนี้ มีหรือจะเต็มใจให้เกิดเรื่องเช่นนั้น!
ลู่หยวนยืนเอามือไพล่หลังแล้วเอ่ยว่า “ข้าไม่มีอะไรจะขอกับพวกเจ้ามาก”
“ข้อหนึ่ง นับจากวันนี้ไป ตระกูลชิวต้องอยู่ใต้อาณัติของข้าผู้มีฐานะเป็นนายท่าน! ส่วนประมุขตระกูล ข้าจะให้คนมาทำหน้าที่แทน”
“ข้อสอง นับจากนี้ไป หากผู้ใดก้าวออกจากที่นี่โดยไม่ได้รับคำสั่งจากข้าหรือประมุขตระกูล! จะต้องตาย!”
“ข้อสาม ถ้าข้าบอกให้ไปทางตะวันออกก็ห้ามไปทางตะวันตก ถ้าข้าบอกให้ไปจับสุนัขก็ห้ามไปจับไก่ จงเคลื่อนไหวตามคำสั่งที่ได้รับ อย่าทำนอกเหนือจากนั้น!”
“มีใครคัดค้านหรือไม่?”
ทันทีที่สิ้นคำ ทุกคนในตระกูลชิวยิ่งไม่พอใจ
แบบนี้ไม่เท่ากับพวกเขาเป็นทาสหรอกหรือ?!
พวกเขาคือตระกูลชิวแห่งวิถีคุณธรรม!
ไม่รู้หรือว่าในอดีตมีตระกูลตั้งเท่าไรที่ให้ความเคารพ!
ต่อให้หนึ่งในพวกเขาออกไปก็ไม่มีตระกูลใดกล้าเพิกเฉย!
บัดนี้กลับต้องมารับใช้ลู่หยวนราวกับทาสงั้นหรือ?!
เหลวไหล!
ลู่หยวนชี้ไปที่ใครบางคนอย่างไม่เจตนา “เจ้าคัดค้านหรือไม่?”
ชายผู้นั้นตกตะลึงเมื่อเห็นอีกฝ่ายชี้นิ้วมา เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนแผ่นหลัง ขาสั่นเทา เขาไม่อาจเอ่ยอย่างราบรื่นได้
“ข้า… ข้า…”
ลู่หยวนสีหน้าเย็นชา “รีบตอบมา”
อีกฝ่ายเค้นเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีแล้วเอ่ยว่า “ข้าไม่คัดค้าน!”
ลู่หยวนพยักหน้า “แล้วพวกเจ้าที่เหลือล่ะ?”
คนที่เหลือไม่เอ่ยคำใด พวกเขาลอบสบถใส่คนที่เพิ่งเอ่ยในฐานะคนทรยศ ไม่รู้จักหยิ่งในศักดิ์ศรีหรือไง!
เขาไม่ควรค่าที่จะเป็นสมาชิกของตระกูลชิว!
ลู่หยวนไม่พอใจกับท่าทีดังกล่าว การไม่พูดก็เป็นนัยอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
“ถ้าไม่พูด ข้าจะฆ่าให้หมด!”
น้ำเสียงของลู่หยวนเย็นชา
ทันทีที่สิ้นคำ ทุกคนในตระกูลชิวต่างสั่นสะท้านพลางส่ายหน้า ก่อนจะรีบเอ่ยว่า “ไม่คัดค้าน พวกข้าน้อมรับคำสั่งของบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
น้ำเสียงของคนเหล่านั้นดังสนั่นหวั่นไหวด้วยเกรงว่าหากลู่หยวนไม่ได้ยิน เขาก็จะตรงเข้ามาทำร้ายให้ตาย!
แต่ในใจนั้น พวกเขาได้แต่ปลอบตัวเอง
พวกข้าถูกบังคับ ทุกอย่างล้วนเป็นไปเพื่อรักษาพละกำลัง เพื่อจะได้เผชิญหน้ากับลู่หยวนในภายภาคหน้า!
ลู่หยวนพยักหน้า “ดีมากที่ตอบตกลง ส่วนประมุขตระกูลคนใหม่ก็ให้ชิวชิงหลีเป็นแล้วกัน”
สิ้นคำ เขาก็จากไป
คนของตระกูลชิวที่ดีแต่ก่อปัญหาไปทั่ว แต่บัดนี้กลับประพฤติตัวดีผิดคาดขณะคารวะลู่หยวนทีละคน
“บุตรศักดิ์สิทธิ์รักษาตัวด้วย”
ลู่หยวนยิ้มหยันแล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ “วิถีคุณธรรม ตระกูลชิว เหอะ…”
แม้เสียงจะไม่ดัง แต่ก็มากพอที่ทุกคนในตระกูลชิวจะได้ยิน
ใบหน้าของทุกคนแดงก่ำขณะรู้สึกผิดอยู่ภายใน แต่พวกเขาเก่งเรื่องหาข้ออ้างมารองรับ หลังจากผ่านไปสักพักก็พบข้ออ้างที่จะปกปิดความอับอายเหล่านี้