ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 458 มนุษย์เพศหญิง

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 458 มนุษย์เพศหญิง

บทที่ 458 มนุษย์เพศหญิง

แรงกดดันที่ไม่เคยมีมาก่อนปรากฏขึ้นในจิตเทวะของหลงเฉียนอวิ๋น!

ส่วนมังกรเกล็ดที่เหลือก็รับรู้ได้เช่นกันว่าจิตเทวะมีแรงกดดันเกิดขึ้น

แรงกดดันเช่นนี้เชื่อมโยงกับสายเลือดซึ่งต่างกับของมังกรเจินหลง แต่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตมากกว่า!

หลงเฉียนอวิ๋นทราบว่า พวกเขายังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะยันต์นั้นถูกกำราบ แต่ภายภาคหน้าก็มิอาจหลีกเลี่ยงการควบคุมของลู่หยวนได้อีกแล้ว!

“ข้าขอถาม ใครในหมู่ผู้ปกป้องดินแดนทั้งหลายที่เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้?”

ลู่หยวนเอ่ยอย่างสงบ

หลงเฉียนอวิ๋นตอบทันที “อันที่จริง… พวกข้าไม่ทราบเหมือนกัน เพียงแต่ตอนที่เริ่มต่อสู้กับเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ มันก็ไปได้ไม่สวยนัก”

“มนุษย์ในชุดสีดำคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในดินแดนเพื่ออยากพบข้า เขาบอกว่าสามารถช่วยพวกข้าได้แล้วยังบอกอีกว่าเมื่อเผ่ามังกรเกล็ดยึดครองดินแดนทั้งหมดได้แล้ว เจ้านายของเขาก็มาพบพวกข้า!”

“ตอนแรกข้าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเขา แต่เมื่อการต่อสู้ครั้งต่อไปเริ่มขึ้น เผ่าจิ้งจอกสวรรค์เป็นฝ่ายแพ้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ส่วนราชวงศ์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ตามต้องการ พวกเขาพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วก่อนจะพากันหลบหนีไปทุกทิศทาง!”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์… เขาคือมนุษย์ เพราะฉะนั้นอาจไม่เกี่ยวข้องกับผู้คนในดินแดนนี้”

ลู่หยวนคิ้วขมวดขณะครุ่นคิด เขาทราบว่าสิ่งที่หลงเฉียนอวิ๋นพูดมาเป็นความจริงเนื่องมาจากความสามารถของไป๋ชิวเอ๋อร์ในการรวบรวมข่าวกรอง จะต้องมีใครบางคนกำลังเคลื่อนไหวอยู่เป็นแน่

เขาเพียงไม่ทราบว่าจะใช่ผู้ชายชุดสีดำหรือไม่!

ลู่หยวนสะกดความคิดเอาไว้ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนแต่อย่างใด

ผลลัพธ์ของกองกำลังที่กำลังเคลื่อนไหวก็เพื่อให้หลงเฉียนอวิ๋นเป็นผู้นำเผ่ามังกรเกล็ดเพื่อปกครองดินแดน

บัดนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาก็ต้องเคลื่อนไหวเช่นกัน!

ลู่หยวนเหลือบมองหลงเฉียนอวิ๋นผู้งกำลังโน้มตัวและแย้มยิ้ม สภาพของเขาหาได้เหมือนผู้นำเผ่าไม่!

“ฝากจัดการเรื่องของซู่เฟิงด้วย”

หลงเฉียนอวิ๋นพยักหน้าทันที “น้อมรับ”

สิ้นคำ หลงเฉียนอวิ๋นนำมังกรเกล็ดบางส่วนมุ่งหน้าไปดินแดนของจิ้งจอกสวรรค์อย่างรวดเร็ว!

หลงเฉียนอวิ๋นทราบว่าลู่หยวนต้องการผลลัพธ์แบบใด เขาก็จะพยายามทำสุดความสามารถ เพราะตอนนี้ชีวิตของตนเองตกอยู่ในมือของอีกฝ่ายแล้ว!

หลังจากหลงเฉียนอวิ๋นจากไปแล้ว ลู่หยวนขอให้วั่งไฉกลับมา แล้วมังกรทรงพลังก็ดึงอำนาจกลับมา ทำให้มังกรเกล็ดที่เหลือผ่อนคลาย แต่พวกเขาล้วนหวาดกลัวจนไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย

ลู่หยวนยื่นมือขวาแล้วกดลงไป ตรีศูลเก้าเล่มก็เคลื่อนลงมาจากท้องนภาก่อนจะพุ่งลงสู่ทะเลสาบสีดำขนาดใหญ่ทันที!

‘วิ้ง!’

ระลอกคลื่นก่อตัวขึ้น!

แสงสีทองแผ่กระจายออกมาเหนือทะเลสาบสีดำขนาดใหญ่ ปกคลุมทั่วพื้นผิวทะเลสาบก่อนกลิ่นอายอันทรงพลังจะเคลื่อนลงมา

ค่ายกลนี้นอกจากจะสามารถใช้เป็นเขตอาคมเพื่อป้องกันถิ่นที่อยู่ของมังกรเกล็ดได้แล้ว ยังสามารถกวาดล้างได้ในพริบตาเช่นกัน!

นอกจากนี้ ยังมีผลในการปกปิดอีกด้วย

มันสามารถดึงพลังของสายเลือดเผ่ามังกรเกล็ดออกมาได้ทีละน้อยเพื่อหล่อเลี้ยงลู่หยวน!

มังกรเกล็ดที่สามารถปกครองพื้นที่หุบเขาบูรพาได้จะมีองค์ประกอบของสายเลือดมังกรเจินหลงอยู่ในร่างเป็นจำนวนมาก!

แก่นแท้ของสายเลือดที่มอบให้กับลู่หยวนสามารถเสริมอำนาจมังกรได้มหาศาล!

เมื่อเวลาผ่านไป ต่อให้วั่งไฉไม่อยู่ ลู่หยวนก็ยังสามารถระดมอำนาจมังกรสูงสุดได้!

แน่นอนว่าลู่หยวนสามารถเลือกดึงสายเลือดของวั่งไฉโดยตรงก็ได้ แต่ถ้าทำเช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็วอีกฝ่ายก็จะถึงฆาต!

แต่ลู่หยวนไม่ได้รู้สึกแย่กับเผ่ามังกรเกล็ดแม้แต่น้อย!

ถ้าไม่เหลือก็คือไม่เหลือ!

เมื่อลู่หยวนกลับไป ทั่วทั้งเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ก็สงบลง แล้วเรื่องราวของซู่เฟิงก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคน ซู่เฟิงยิ่งเดือดดาลจนอยากเผชิญหน้า แต่องค์ชายสามของเผ่ามังกรเกล็ดก็คว้าตัวได้ทันที!

องค์ชายสามของเผ่ามังกรเกล็ดยังคงอยู่กลางห้องโถงของซู่เฟิงขณะบอกเล่าทุกอย่างในหนึ่งอึดใจ

ในตอนนี้ ทุกคนต่างลดการป้องกันลง ซึ่งคนที่อยู่ฝั่งเดียวกับซู่เฟิงก็พากันออกมาประณามอีกฝ่ายที่ก่ออาชญากรรมเช่นนี้!

ด้วยหลักฐานทั้งหมดที่ปรากฏ ซู่เฟิงจึงไม่สามารถแก้ต่างได้อีกต่อไป

เมื่อเห็นว่าเรื่องราวเกินกว่าจะย้อนกลับได้แล้ว ซู่เฟิงจึงใช้โอกาสนี้เพื่อหลบหนีไปพร้อมกับซู่เปียว!

ความแข็งแกร่งของเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ลดลงมาก ความแข็งแกร่งของซู่เฟิงก็ถูกปกปิดเอาไว้ นอกจากโฉวโยวที่ออกไปไล่ล่าพวกเขาแล้ว คนที่เหลือก็มีท่าทีสงบ

ทุกคนตัดสินใจทันทีว่าพวกเขาจะผลักดันเทียนเม่ยเอ๋อร์เป็นจักรพรรดินี!

ในที่สุดเรื่องราวก็มาถึงจุดสิ้นสุด

ลู่หยวนกลับไปที่ลานบ้าน เมื่อกำลังจะนั่งลง เขาก็สัมผัสได้ว่ายันต์ที่ไม่ได้สัมผัสมานานกำลังสั่นไหว

เมื่อเขาหยิบออกมาก็พบว่ามันคืออันที่เหิงอีเจี้ยนมอบให้ก่อนหน้านี้!

เหิงอีเจี้ยนถูกลู่หยวนส่งไปที่หุบเขาบูรพาเพื่อค้นหาดินแดนต้องห้าม!

ลู่หยวนคาดการณ์ว่าด้วยระดับการบ่มเพาะของเหิงอีเจี้ยนและจงซื่อ เรื่องนี้ไม่อาจเร่งรีบได้และจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปี

เมื่อมาถึงหุบเขาบูรพาในครั้งนี้ก็สามารถไปตรวจสอบและกลับมาหลังจากเหิงอีเจี้ยนและจงซื่อพบสิ่งที่เกิดขึ้นได้!

ทว่า ข่าวคราวมันไวปานนี้เชียวหรือ?

ลู่หยวนหยิบยันต์ออกมาแล้วเห็นข้อความปรากฏบนยันต์ที่เดิมว่างเปล่า

ลายมือกระจายออกไปก่อนจะมีเพียงคำเดียวที่ปรากฏ!

มันคือคำว่า “มี”

ลู่หยวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นโลหิตเข้มข้นที่แผ่ซ่านมาจากยันต์ทันที!

เหิงอีเจี้ยนคือผู้ติดตามของลู่หยวน เขาจึงสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ตาย

ส่วนจงซื่อคนนั้น… นับว่าเป็นเรื่องที่พูดยาก

ลู่หยวนจำได้ว่าดินแดนต้องห้ามที่เหิงอีเจี้ยนไปสำรวจ เกี่ยวข้องกับมังกรเจินหลง!

เหิงอีเจี้ยนตอบกลับว่า “มี” หรือว่าเขาเคยเห็นมังกรเจินหลงตัวอื่นมาก่อน?

ลู่หยวนพยายามติดต่อเหิงอีเจี้ยน แต่ก็ได้รับแจ้งจากระบบว่าพลังดั้งเดิมของโลกนี้กำลังปิดกั้นเอาไว้ เขาจึงไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้!

ลู่หยวนเงียบไปสักพักก่อนจะพับเรื่องนี้ไว้ก่อน

เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน จัดการเรื่องของเทียนเม่ยเอ๋อร์และฉินอี่หานให้เสร็จก่อน จากนั้นก็ยังไม่สายที่จะไปที่นั่น!

ตกกลางคืน

ขณะลู่หยวนกำลังฝึกฝน เขาก็สัมผัสได้ว่าเทียนเม่ยเอ๋อร์มายืนอยู่นอกลานบ้านแล้ว

‘เอี๊ยด!’

ประตูห้องโถงใหญ่เปิดออก เทียนเม่ยเอ๋อร์ก็เดินเข้าไปโค้งคำนับลู่หยวน

ลู่หยวนลืมตาขึ้นขณะจับจ้องเทียนเม่ยเอ๋อร์

“มีอะไร?”

เทียนเม่ยเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างกายลู่หยวนพักใหญ่ นางทราบว่าอีกฝ่ายไม่ชอบรีรอให้เสียเวลาก็เริ่มเอ่ยทันที “นายท่าน เม่ยเอ๋อร์มาที่นี่ด้วยเหตุผลสองเรื่อง”

“เรื่องที่หนึ่ง ข้าอยากขอบคุณทุกสิ่งที่ท่านได้ทำมาโดยตลอด”

เทียนเม่ยเอ๋อร์ทราบดีว่าหากไม่ใช่เพราะลู่หยวน เรื่องราวของจิ้งจอกสวรรค์คงไม่ได้ข้อสรุปรวดเร็วขนาดนี้ แม้แต่นางก็อาจจะถูกซู่เฟิงกักขังไว้ในความมืด

“เรื่องที่สอง…”

เทียนเม่ยเอ๋อร์พลันเงยหน้าแล้วเอ่ย “นายท่าน ดูเหมือนว่าจะมีซากปรักหักพังที่ไม่รู้จักปรากฏขึ้น! มันอยู่ในดินแดนจิ้งจอกสวรรค์!”

“ซากปรักหักพังที่ไม่รู้จักหรือ?”

ลู่หยวนเกิดความสนใจ “เจ้าส่งคนไปสำรวจหรือยัง?”

เทียนเม่ยเอ๋อร์พยักหน้า “ส่งไปแล้ว ซากปรักหักพังเพิ่งปรากฏเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน! แต่มันไม่ได้ทำให้เกิดความผิดปกติต่อฟ้าดินแต่อย่างใด! ข้าส่งผู้อยู่ขั้นเซียนยุทธ์สามคนเข้าไปแล้วให้ออกมาหลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป! แต่มีสองคนตาย ส่วนหนึ่งคนรอดมาได้อย่างหวุดหวิด!”

“จากปากคำของคนที่รอดกลับมา…”

คำพูดของเทียนเม่ยเอ๋อร์พลันหยุดนิ่ง ใบหน้าของนางแปลกประหลาดจนยากจะอธิบาย

“ว่ามา”

ลู่หยวนเอ่ย

เทียนเม่ยเอ๋อร์เอ่ยต่อ “เขาบอกว่าเห็นมนุษย์เพศหญิงคนหนึ่ง นางงดงามยิ่งนัก แต่หลังจากก้าวไปหาอีกฝ่ายก็เหมือนกับลูกธนูนับไม่ถ้วนแทงทะลุหัวใจ! เป็นความรู้สึกที่มีชีวิตที่แย่ยิ่งกว่าตาย!”

——————————-

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท