บทที่ 465 บรรลุข้อตกลง
บทที่ 465 บรรลุข้อตกลง
หลังจากเรื่องเงียบไปหลายวัน ฉีเจ๋อก็มาถึงดินแดนมังกรเกล็ดอีกครั้ง!
หลงเฉียนอวิ๋นสำรวจรอบข้างตามคำย้ำเตือนของลู่หยวน ก่อนจะพบร่องรอยของฉีเจ๋ออย่างรวดเร็ว!
เขามองไปด้านข้างแล้วเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “สุนัขแสนดี เจ้าแจ้งนายท่านแล้วหรือยัง? วันนี้เขามาด้วยหรือไม่?”
ฉีเจ๋อยังคงสวมชุดสีดำขณะเดินออกจากความมืด
หลงเฉียนอวิ๋นหรี่ตา ทั้งเขาและลู่หยวนสัมผัสได้ว่าฉีเจ๋อในครั้งนี้ต่างออกไป!
หลังจากฉีเจ๋อเดินมาถึง เขาก็หยุดยืนอยู่นิ่งแล้วถอดชุดคลุมที่บดบังรูปลักษณ์จนเผยให้เห็นโฉมหน้าแท้จริง!
มีเพียงใบหน้าที่ถูกเปิดเผย!
บาดแผลเก่าจากดาบนับไม่ถ้วนปรากฏบนใบหน้าดังกล่าว ดูน่าสยดสยองนัก!
“ฉีเจ๋อ” ผู้นั้นเงยหน้าด้วยดวงตาที่ทอประกายสีทอง น้ำเสียงของเขาไม่ได้ราบเรียบอีกต่อไป แต่มันหนักแน่นประหนึ่งสัตว์ร้าย
“หลงเฉียนอวิ๋น หวังว่าเจ้าจะสบายดี”
หลงเฉียนอวิ๋นตกตะลึง เขาเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน!
“หู่เซียว!”
หลงเฉียนอวิ๋นมั่นใจมากว่าเสียงนี้เป็นของจักรพรรดิของเผ่าพยัคฆ์เมฆา…
“เหอะเหอะ… คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะยังจำเสียงของข้าได้”
เมื่อลู่หยวนได้ยินหลงเฉียนอวิ๋นพูดถึง “หู่เซียว” เขาก็พอเข้าใจบางอย่าง เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมา ไป๋ชิวเอ๋อร์ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหุบเขาบูรพา รวมถึงดินแดนผู้พิทักษ์ของจักรพรรดิ ทำให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้นมาบ้าง!
ทว่า หลงเฉียนอวิ๋นกลับตกตะลึง เพราะคนที่อยากช่วยเขาโค่นจิ้งจอกสวรรค์ก่อนหน้านี้ก็คือหู่เซียว!
หู่เซียวไม่ใช่คนดี!
“ข้าไม่อยากพูดเหลวไหลเหมือนกัน ในเมื่อเจ้าไม่ได้ยอมจำนนต่อเจ้าหนูลู่หยวนอย่างแท้จริง เช่นนั้นก็มาร่วมมือกับข้า!”
“ข้าขอบอกตามตรงว่ามหาโชคชะตากำลังเกิดขึ้นในดินแดนนี้ ข้าต้องการสิ่งนั้น หากเจ้าเชื่อฟังแต่โดยดีก็จะได้รับผลประโยชน์บางส่วน แต่หากไม่เชื่อฟังล่ะก็ เหอะเหอะ หลงเฉียนอวิ๋น เจ้าก็รู้นิสัยของข้าดี!”
หลงเฉียนอวิ๋นเงียบไปชั่วขณะ
จะว่าไปแล้ว เขากับหู่เซียวก็เคยนับว่าเป็นพี่น้องกันมาก่อน
ตอนที่ยังเป็นมกุฎราชกุมารของเผ่ามังกรเกล็ด เขาเคยออกเดินทางเพียงลำพัง ซึ่งในระหว่างนั้น หลงเฉียนอวิ๋นก็ได้พบกับหู่เซียว!
ในฐานะทายาทของจักรพรรดิหุบเขาบูรพา ทั้งสองย่อมรับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายก่อนจะได้รู้จักและแบ่งปันความยากลำบากร่วมกัน
แต่ยิ่งคุ้นเคยมากเท่าไหร่ หลงเฉียนอวิ๋นก็ยิ่งทราบว่าหู่เซียวไม่ใช่คนดี!
ใครก็ตามที่ทำให้หู่เซียวขุ่นเคือง ย่อมมีจุดจบไม่ดี!
ระหว่างเดินทาง ผู้คนนับสิบถูกหู่เซียวกำจัดเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น!
หลงเฉียนอวิ๋นไม่ชอบนิสัยเช่นนี้ เขาจึงหาเหตุผลเพื่อแยกทางกับหู่เซียว
หลังกลับมาที่เผ่ามังกรเกล็ด เขาก็ทราบข่าวเกี่ยวกับหู่เซียวอีกครั้ง อีกฝ่ายผู้เป็นทายาทคนที่สิบเพลิดเพลินกับการสังหารหมู่ตอนพี่ใหญ่ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิหนุ่มแห่งเผ่าพยัคฆ์เมฆา แล้วสังหารราชวงศ์พยัคฆ์เมฆารุ่นเยาว์ทั้งหมดด้วย!
ว่ากันว่าหู่เซียววางแผนเรื่องนี้ไว้แล้ว เมื่อถึงตอนนั้น นอกจากหู่เซียวแล้ว เผ่าพยัคฆ์เมฆาที่เหลือผู้มีโอกาสสืบทอดบัลลังก์ล้วนถึงแก่ความตายภายในสามอึดใจ!
ในราชวงศ์พยัคฆ์เมฆาทั้งหลาย เหลือเพียงหู่เซียวเท่านั้น!
จักรพรรดิพยัคฆ์เมฆาในตอนนั้นไม่มีทางเลือก นอกจากแต่งตั้งให้หู่เซียวเป็นจักรพรรดิหนุ่ม!
เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วจนผู้อาศัยในหุบเขาบูรพาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ท่านจักรพรรดิหนุ่มพยัคฆ์เมฆาผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมไร้ความปราณี!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ หลงเฉียนอวิ๋นจึงยอมรับว่าเขาแตกตื่น
หู่เซียวเป็นคนบ้า!
“ตอบตกลง”
เสียงของลู่หยวนดังมาจากก้นบึ้งของหัวใจหลงเฉียนอวิ๋น
หลงเฉียนอวิ๋นกลับมามีสติในทันทีแล้วค่อย ๆ หายใจเข้าออกช้า ๆ อย่างถูกจังหวะ
จากนั้นเขาเงยหน้ามองไปทางฉีเจ๋อ “บอกมาก่อนว่าข้าจะได้ประโยชน์อะไร!”
หลงเฉียนอวิ๋นย่อมทราบว่าจะทำให้หู่เซียวเชื่อใจได้อย่างไร!
“เหอะเหอะ เจ้าสนใจในโลหิตกำเนิดสรรพสิ่งหรือไม่?”
เพียงหู่เซียวเอ่ยสิ่งเหล่านี้ออกมา หัวใจของหลงเฉียนอวิ๋นก็พลันสั่นไหว!
หากได้โลหิตกำเนิดสรรพสิ่งมาครอง หลงเฉียนอวิ๋นย่อมสามารถเปลี่ยนจากมังกรเกล็ดเป็นมังกรเจินหลงได้!
ในฐานะเชื้อสายโดยตรงของหลงเฉียนอวิ๋น เขาจะก้าวเข้าสู่เชื้อสายมังกรเจินหลงด้วย!
หลงเฉียนอวิ๋นสะกดความคิดไว้ภายในแล้วเอ่ยว่า “เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”
“หลงเฉียนอวิ๋น เจ้าช่างระแวดระวังเสียจริง!”
หู่เซียวเผยรอยยิ้มลุ่มลึกก่อนจะสะบัดมือ แล้วอากาศเบื้องหน้าก็สั่นไหวพร้อมกับปรากฏหมอกสีขาว แล้วหนึ่งในภาพดังกล่าวก็แพร่กระจายออกไป!
ภาพดังกล่าวคือหุบเหวมืดมิด แสงสว่างเพียงน้อยนิดก็ทำให้ผู้คนเห็นฉากได้อย่างชัดเจน!
พื้นที่รอบข้างเต็มไปด้วยหิน มีเพียงมุมหนึ่งที่ปรากฏโซ่เหล็กคล้ายถ่านสีดำถูกแยกออกจากหินรอบข้างซึ่งกำลังรวมตัวกันอย่างแน่นหนา อย่างน้อยก็มีมากกว่าเจ็ดสิบเส้น!
โซ่เหล่านี้ล้วนจองจำร่างหนึ่งเอาไว้!
ร่างดังกล่าวขดอยู่ที่มุมหนึ่ง สิ่งที่มองเห็นมีเพียงชุดเกราะศึกขาดรุ่งริ่งที่ยังคงปกคลุมร่างกาย ใบหน้าของเขาถูกดาบสามเล่มทิ่มแทง แม้เนื้อหนังจะเหี่ยวย่น แต่ก็ยังมองเห็นกลิ่นอายสีขาวแผ่ซ่านออกมา!
สายตาของเขาหมองหม่นราวกับคนโง่เขลา
สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือ มีเขาสีม่วงเข้มขนาดเล็กบนหน้าผาก!
“สัตว์ประหลาดหรือ?”
มีหรือหลงเฉียนอวิ๋นจะจำเรื่องนี้ไม่ได้?
หากมีเขามารบนศีรษะก็ต้องเป็นสัตว์ประหลาด! แถมระดับก็หาได้ต่ำแต่อย่างใด!
“เหอะเหอะ…”
หู่เซียวยิ้มหยัน “สัตว์ประหลาดหรือ? นี่คือเมล็ดพันธุ์มารแท้จริงต่างหาก!”
“เมล็ดพันธุ์มารนี้ถือกำเนิดในเผ่ามนุษย์เมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว! เดิมทีเขาเป็นชายผู้มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมและภูมิหลังครอบครัวที่ดีมาก! แม้ดูเหมือนจะราบรื่น แต่คาดไม่ถึงว่าทันทีที่ตัวตนของเมล็ดพันธุ์มารถูกเปิดเผย เขาก็ถูกตระกูลผลักไส! ทั่วหล้าต่างไล่ล่าเขาไม่มีสิ้นสุด จนกระทั่งเขาวิ่งมาถึงดินแดนของข้า”
ฉีเจ๋อถึงกับเผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ข้าแกล้งทำให้เขาตายใจก่อนจะจองจำเอาไว้!”
“เป็นเวลากว่าร้อยปีที่ข้าทรมานเขาอย่างต่อเนื่องเพียงเพื่อจะให้เขาบอกอะไรบางอย่าง แม้จะใช้อุปกรณ์ทรมานทุกชนิด แต่เขากลับไม่พูดออกมาแม้แต่คำเดียว”
“เหอะเหอะ ช่างดื้อรั้นอะไรอย่างนี้ เสียดายความงามของเขาเหลือเกิน! ข้าพยายามอย่างหนักเพื่อจับผู้หญิงทั้งหมดที่เคยติดต่อกับเขาเพื่อฆ่าพวกนางต่อหน้าทีละคน จนสุดท้ายข้าก็ฆ่าคนที่เขารักมากที่สุด!”
ดวงตาสีทองของฉีเจ๋อคล้ายกับถูกย้อมไปด้วยโลหิต มันดูน่าสะพรึงยิ่งนัก!
“เขาคือคนที่เปิดเผยข่าวเกี่ยวกับโลหิตกำเนิดสรรพสิ่ง หลังจากข้าตรวจสอบดูแล้วก็พบว่าเป็นไปได้ค่อนข้างมาก! ว่าอย่างไรล่ะ?”
หลงเฉียนอวิ๋นกลืนน้ำลายขณะมองผู้ชายที่ปรากฏในหมอกสีขาว สภาพของอีกฝ่ายดูน่าขยะแขยงจนทำให้รู้สึกเย็นเยือกถึงภายใน
“รับขอเสนอไป”
เสียงเย็นชาของลู่หยวนดังออกมาจากในใจของหลงเฉียนอวิ๋นก่อนสติจะกลับคืนมา!
หลงเฉียนอวิ๋นปรับสภาพจิตใจให้มั่นคงก่อนจะมองไปทางฉีเจ๋อ “ดี!”
เมื่อเห็นหลงเฉียนอวิ๋นตอบตกลง หู่เซียวย่อมพึงพอใจ เขายิ้มก่อนจะเอ่ยอีกว่า “จะว่าไป ชายที่เจ้าเห็นตอนนี้คือพี่ชายทางสายเลือดของเมล็ดพันธุ์มาร เขาเป็นคนเดียวที่ปกป้องมันเอาไว้!”
“เหอะเหอะ ขอเพียงเมล็ดพันธุ์มารอยู่ในกำมือ มนุษย์ผู้นี้จะต้องทำตามคำสั่งของข้าไปตลอดชีวิต”
“มีคนในโลกใบนี้ที่สนใจเรื่องปกป้องเมล็ดพันธุ์มารด้วย เหอะเหอะ มนุษย์ช่างแปลกพิลึกนัก!”
——————————-