บทที่ 473 ตอบโต้
บทที่ 473 ตอบโต้
ทันทีที่สิ้นคำ จักรพรรดิแห่งหุบเขาบูรพาทั้งหลายในบริเวณดังกล่าวก็ตกตะลึง!
เมื่อครู่ลู่หยวนพูดว่าอะไร?!
ค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่า?!
มันคือค่ายกลที่ติดตั้งโดยจักรพรรดินาคาทะยานไม่ใช่หรือ?!
จักรพรรดินาคาทะยานผู้ได้รับบาดเจ็บจากอสนีสวรรค์จนต้องลากร่างที่ขาดวิ่นไปซ่อนตัวถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของลู่หยวนเช่นกัน
มนุษย์ผู้นี้รู้จักค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าด้วยหรือ?!
ทันทีที่เกิดคำถาม มันก็ถูกปฏิเสธทันที!
เป็นไปไม่ได้!
ค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่านี้ซับซ้อนมาก แม้กระทั่งค่ายกลที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยพละกำลังของตนเองเพียงอย่างเดียว!
ในบรรดาเผ่านาคาทะยาน ยังมีเศษเสี้ยวของค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าหลงเหลืออยู่ พวกเขาอาศัยสิ่งเหล่านี้เพื่อทำการหลอมมันขึ้นมาได้ในที่สุด!
ไม่ว่าลู่หยวนจะร้ายกาจเพียงใด แต่เขาก็ไม่มีทางร่ายออกมาได้ด้วยการมองอักขระของค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าเพียงครั้งเดียว!
หรือต่อให้คิดแบบเข้าข้างอีกฝ่าย แม้ลู่หยวนจะหลอมมันขึ้นมาได้จริงก็ยังไม่มีเลือดเนื้อให้สังเวยอยู่ดี!
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในดินแดนมังกรเกล็ดและเพิ่งประสบกับการสังเวยของค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่ามา นอกจากพวกตนเองบางส่วน ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ที่นี่
ต่อให้สังเวยพวกเขาจนสิ้น แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งานค่ายกลดังกล่าวได้!
ดูเหมือนว่าลู่หยวนผู้นี้จะทำไปเพื่อหวังเพียงข่มขวัญเท่านั้น!
ค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าไม่มีทางถูกสร้างขึ้นมาได้!
ไม่เพียงแต่จักรพรรดินาคาทะยานที่คิดเช่นนี้เท่านั้น แต่หู่เซียวก็มีความคิดไม่ต่างกัน!
เขามองลู่หยวนด้วยสายตาระแวดระวังน้อยลง แม้จะผ่านไปหลายอึดใจ แต่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด!
ลู่หยวนผู้นี้อาจจะแค่พยายามทำให้ผู้อื่นหวาดกลัวก็เท่านั้น!
“เหอะเหอะ ลู่หยวน เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้ก็เลยพึ่งการหลอกให้กลัวแทนอย่างนั้นหรือ?”
“กลัวหรือ?”
ลู่หยวนยกยิ้ม “ดูให้ดีล่ะ ข้าจะทำให้เจ้ากลัวจนต้องฉี่ราดเอง!”
“ลง!”
สิ้นคำ ลู่หยวนก็สร้างผนึกในมือขวาอีกครั้ง แล้วชั้นหมู่เมฆสีดำในท้องนภาก็ถูกพัดออกไปก่อนค่ายกลสีแดงโลหิตจะแผ่ขยายออกไปในบัดดลจนแทบจะครอบคลุมทั่วทั้งฟ้าดิน!
เส้นอักขระของค่ายกลนี้ช่างดูคุ้นเคยยิ่งนัก!
พลังที่แผ่ออกมาผสานเข้ากับกลิ่นเหม็นฉุนของโลหิตและซากเน่าเปื่อย!
จักรพรรดิทั้งสี่ ประกอบไปด้วยจักรพรรดินาคาทะยาน จักรพรรดิจูอั้น หลงเฉียนอวิ๋น และหู่เซียว ล้วนเข้าใจทันทีว่าค่ายกลนี้เป็นค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าของจริง!
ลู่หยวนถึงกับสลักค่ายกลนี้ขึ้นมาจริง!
จักรพรรดิจูอั้นมีสีหน้าหวาดกลัว เขารู้ซึ้งดีว่าค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่ามีพลังแบบใด!
พวกเขาไม่สามารถทำลายค่ายกลให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้เหมือนอย่างสาวน้อย!
หากค่ายกลนั้นอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พวกเขาอาจจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหนีเท่านั้น!
จิตใจของหลงเฉียนอวิ๋นว่างเปล่า ผ่านไปหนึ่งอึดใจ เขาจึงตอบสนองด้วยการหันหลังหลบหนี!
เจอแบบนี้ยังไม่หนีอีกหรือ?!
ในเมื่อลู่หยวนกำลังร่ายค่ายกลอยู่ แล้วพวกเขาจะยังยืนรอไปเพื่ออะไร?
รอความตายหรือ?!
เมื่อจักรพรรดิจูอั้นเห็นหลงเฉียนอวิ๋นหลบหนี เขาก็อยากถอยเช่นกัน
ตอนนี้เองที่เสียงของหู่เซียวดังขึ้น
“เจ้าจะกลัวไปทำไม? ต่อให้ค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าสมบูรณ์ เขาจะใช้สิ่งใดมาสังเวยเพื่อใช้งานค่ายกลเล่า?!”
“หากเขายอมสังเวยตัวเอง ข้าก็อยากขอชื่นชมอีกสักหน่อย!”
หลังจากสิ้นคำพูดเหล่านี้ จักรพรรดิจูอั้นก็สงบสติ
ใช่แล้ว แม้ลู่หยวนจะสลักค่ายกลขึ้นมา แต่ก็ยังไม่มีเครื่องสังเวย ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วง
ลู่หยวนลอบยิ้มหยันอยู่ภายในขณะมองท่าทางของจักรพรรดิทั้งหลาย
“ไม่ไม่มีเครื่องสังเวยหรือ? เหอะ…”
“ค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่า สังเวย!”
ทันทีที่สิ้นคำของลู่หยวน ค่ายกลขนาดใหญ่ในท้องนภาก็เริ่มหมุน สีโลหิตของมันเริ่มเลือนราง โดยบริเวณด้านบนมีสิ่งที่เหนียวข้นประหนึ่งโลหิตเริ่มร่วงหล่นราวกันหนวดที่ยื่นออกมา เมื่อไปถึงความสูงระดับหนึ่ง มันก็หยุดนิ่งอยู่กับที่!
แม้แต่หู่เซียวก็ไม่ทราบว่าลู่หยวนกำลังคิดอะไรอยู่!
เจ้าเด็กนี่คิดจะทำบ้าอะไร?!
ทันทีที่สิ้นความคิด หู่เซียวก็คร้านเกินกว่าจะคาดเดา ไม่ว่าเด็กคนนี้คิดจะทำอะไร เขาก็ต้องฆ่าทิ้งก่อนก็เท่านั้น!
หู่เซียวก้าวเท้าก่อนจะทะยานออกไป
ลู่หยวนจับจ้องหู่เซียวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก!
นี่คือช่วงเวลาที่เขากำลังรอคอย!
เสียงของระบบดังขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของลู่หยวน
[เคลื่อนย้ายมิติและเวลาเสร็จสิ้น!]
ทันทีที่สิ้นเสียง รูหนอนขนาดใหญ่ก็ปรากฏใต้หนวดโลหิตนับไม่ถ้วน!
หนวดทั้งหลายคล้ายกับได้รับคำสั่ง พวกมันจึงพากันพุ่งเข้าไปที่รูหนอนอย่างคลุ้มคลั่ง!
หนวดพลันหยุดนิ่งหลังจากเข้าไปข้างใน ส่วนนูนขนาดใหญ่ก็ยังคงเคลื่อนจากด้านล่างสู่ด้านบน
พลังของค่ายกลโลหิตในท้องนภาเริ่มเพิ่มขึ้น!
‘วิ้ง!’
เพียงพริบตา กลิ่นอายของเขาก็เพ่งเล็งไปที่หู่เซียว ทำให้อีกฝ่ายต้องหยุดฝีเท้า!
สีหน้าของหู่เซียวเปลี่ยนไป เขาสัมผัสได้ว่านี่คือการจองจำซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่า!
เขามองไปยังทิศทางของหนวดนับไม่ถ้วนด้วยความไม่อยากเชื่อ
หู่เซียวย่อมมองออกว่ารูหนอนขนาดใหญ่นั้นคือประตูเคลื่อนย้าย
แต่เขาไม่ทราบว่าลู่หยวนส่งหนวดเหล่านี้ไปที่ใด!
เมื่อเห็นว่าส่วนนูนนั้นยังคงถูกขนขึ้นไปด้านบน หู่เซียวก็ทราบว่าเพียงไม่กี่อึดใจ สิ่งมีชีวิตนับร้อยก็จะถูกสังเวยในค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่า!
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ลู่หยวนไม่ใช่คนที่โหดเหี้ยม เขาต่างหากล่ะ ที่ใช่!
การสังเวยนี้จะไม่หยุดจนกว่าสิ่งมีชีวิตนับหมื่นจะถูกพรากชีวิต!
ทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตนับหมื่นก็ถูกกวาดล้างในพริบตา
ลู่หยวนไม่แม้แต่กะพริบตา!
ความโหดเหี้ยมแบบนี้เทียบได้กับเขา!
ในตอนนี้ จักรพรรดินาคาทะยานก็ค่อย ๆ ซ่อนตัวแล้วหลบหนีออกไป!
จะหาเรื่องลู่หยวนผู้นี้ไม่ได้!
จักรพรรดินาคาทะยานรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลัง คนอย่างลู่หยวนมีพรสวรรค์และเจ้าเล่ห์เกินไป!
นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ลู่หยวนเคยเห็นค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถึงกระนั้น เขากลับสามารถสลักขึ้นมาได้ แถมยังถึงขั้นร่ายประตูเคลื่อนย้ายในเวลาอันสั้นอีกด้วย!
เพียงนึกถึงทุกการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายก็ทำเอาหนังศีรษะด้านชา!
สิ่งที่ลู่หยวนทำคือการปูทางให้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น!
การระดมอัสนีสวรรค์ของกู้ชิงหรันนั้น ไม่ใช่เพื่อการโจมตี แต่เพื่อดึงดูดความสนใจของหู่เซียวกับจูอั้น ส่วนลู่หยวนก็เริ่มใช้ช่วงเวลาอันสั้นนั้นเพื่อสลักค่ายกลกับร่ายประตูเคลื่อนย้ายขึ้นมา!
ในขณะที่กู้ชิงหรันดึงสายฟ้า ลู่หยวนก็สร้างผนึกด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วนางก็พร้อมสลับที่กับเขา!
ในสายตาของผู้อื่น พวกเขาอาจคิดว่าลู่หยวนไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด ถึงอย่างไรทันทีที่ค่ายกลเสร็จสมบูรณ์แล้วก็จะเปิดใช้งานได้ทันที!
ซึ่งกู้ชิงหรันสามารถยื้อเวลาให้ได้สักระยะ!
แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว จักรพรรดินาคาทะยานก็ตระหนักได้!
เมื่อครู่นี้ ลู่หยวนได้ระดัมพลังของมังกรเจินหลงกับวิญญาณหอก แต่สุดท้ายก็ทำเพียงแตะหน้าอกของหู่เซียวด้วยปลายนิ้วเพียงสองสามครั้งเท่านั้น!
การกระทำนี้ต้องมีความหมายบางอย่างเป็นแน่!
หู่เซียวมีชะตาที่จะหนีไม่รอด!
แน่นอนว่านาคาทะยานไม่ทราบว่าลู่หยวนทำอะไรในตอนนั้น แต่เขาทราบดีว่าค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าไม่เพียงแต่จะสังหารหู่เซียวเท่านั้น แต่ยังสังหารตนเองกับจูอั้นด้วย!
จักรพรรดินาคาทะยานเพิ่งคิดไม่ทันไร ก็พลันสัมผัสได้ถึงปราณกระบี่ที่กำลังเคลื่อนมาจากด้านข้างพร้อมกับพลังมหาศาล!
เขาหันหลังแล้วซ่อนตัวทันที แล้วก็พบว่ากู้ชิงหรันยืนขวางทางพร้อมกระบี่หักในมือ
กระบี่ของนางสั่นไหวขณะส่งเสียงกรีดร้องประหนึ่งเสียงคำรามออกมา!
น้ำเสียงเย็นยะเยือกประหนึ่งน้ำแข็งดังออกมาจากปากของเขาว่า “ถอยไปซะ”
——————————-