บทที่ 475 ทางเลือก
บทที่ 475 ทางเลือก
เทียนเม่ยเอ๋อร์ถืออาวุธไว้ในมือขณะหันมามองสมาชิกเผ่า “จิ้งจอกสวรรค์ทุกท่าน ตามข้ามา!”
สิ้นคำ นางก็มุ่งหน้าสู่ดินแดนที่ถูกปกคลุมด้วยเงาของค่ายกล!
ทันใดนั้น โฉวโยวกับเหลิ่งเหยียนผู้อยู่ด้านหลังต่างก็ลุกขึ้นมาขวางทางเทียนเม่ยเอ๋อร์ทันที!
“ท่านจักรพรรดินี! ค่ายกลนั่นแปลกประหลาดเกินไป! หากพวกเราเข้าไปที่นั่น เกรงว่าจะกลายเป็นเครื่องสังเวยให้กับหนวดเหล่านั้น!”
หนวดเหล่านั้นเพิ่งปรากฏจากรูหนอนแล้วทะลวงเข้าสู่ร่างของเผ่าพันธุ์อื่นเพื่อดึงพลัง ซึ่งฉากเหล่านั้นล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา!
ตอนนี้พวกมันเกือบครึ่งรออยู่ใต้เงาของค่ายกล ในสายตาของโฉวโยวกับเหลิ่งเหยียน พวกมันไม่ต่างจากหมาป่าหิวกระหายที่กำลังรอคอยอาหาร ทันทีที่พวกเขาย่างเท้าเข้าไปก็จะกลายเป็นเครื่องสังเวยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อถึงตอนนั้น เผ่าจิ้งจอกสวรรค์ทั้งหลายก็จะถูกสังเวยไปด้วย!
โฉวโยวยังคงโน้มน้าวต่อ “ท่านจักรพรรดินี ในเมื่อไม่ทราบจุดกำเนิดของสิ่งนี้ พวกเราจะบุ่มบ่ามเข้าไปได้อย่างไร?!”
เทียนเม่ยเอ๋อร์ได้ยินเช่นนี้จึงตอบอย่างสงบ “นี่คือสิ่งที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่วางเอาไว้ ซึ่งเขาเป็นคนที่อนุญาตให้พวกเราเข้าไปในสถานที่นี้”
เหลิ่งเหยียนเอ่ยขึ้นทันที “เช่นนั้น ข้าขอบังอาจถามท่านจักรพรรดินีสักหน่อย หากพวกเราเข้าไปในนั้นจะเกิดอะไรขึ้น?! ลู่หยวนต้องการให้พวกเราเข้าไปในนั้นเพื่ออะไร?! ท่านจักรพรรดินี ท่านก็เห็นพลังของหนวดกับตาแล้ว! หากเข้าไปในนั้นย่อมจบไม่สวยเป็นแน่! หรือลู่หยวนตั้งใจจะให้พวกเราเข้าไปตาย?!”
สีหน้าของเทียนเม่ยเอ๋อร์ไม่แปรเปลี่ยนขณะจับจ้องเงาดังกล่าว จากนั้นจึงตอบคำถามของเหลิ่งเหยียนว่า “สิ่งที่นายท่านพูดจะต้องมีความหมายลึกล้ำอย่างแน่นอน”
ทันทีที่สิ้นคำ โฉวโยวกับเหลิ่งเหยียนก็มองหน้ากันด้วยความรู้สึกเสียใจอยู่ภายใน!
พวกเขาไม่ควรปล่อยให้เทียนเม่ยเอ๋อร์ไร้ที่พึ่งตั้งแต่แรก กลายเป็นว่านางถึงกับยอมรับคนแบบนั้นเป็นนายท่านไปแล้ว!
แม้พวกเขาจะบอกไม่ได้ว่าค่ายกลนี้มีจุดกำเนิดมาจากอะไร แต่อักขระที่เคลื่อนอยู่ภายในก็ทำให้พวกเขารู้สึกแปลกประหลาดยิ่ง!
หากพวกเขาเข้าไป จะไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรือ!
เทียนเม่ยเอ๋อร์ไม่สนใจอีกฝ่ายขณะเป็นฝ่ายเดินนำหน้าเข้าไป!
แต่หนวดเหล่านั้นซึ่งอยู่เหนือท้องนภากลับไม่ขยับแม้แต่น้อย
หลังจากนั้น ศิษย์จิ้งจอกสวรรค์ทั้งหลายก็ตามเทียนเม่ยเอ๋อร์เข้าไปในเงาดังกล่าว!
ในที่สุด โฉวโยวซึ่งเป็นผู้นำก็ลอบถอนหายใจ แล้วเดินตามหลังเทียนเม่ยเอ๋อร์ไป!
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินนำไปแล้ว แม่ทัพอีกสี่คนที่เหลือจึงเดินตาม
ตระกูลเหล่านี้ล้วนให้ความเคารพโฉวโยว
ส่วนสหายอีกห้าคน รวมถึงเหลิ่งเหยียน ก็ยังคงลังเล
หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ เขาก็ตัดสินใจก่อนก้าวถอยหลังพร้อมกับสี่ตระกูลที่เหลือ
เหลิ่งเหยียนประสานมือทำความเคารพเทียนเม่ยเอ๋อร์ “ท่านจักรพรรดินี ไม่ใช่ว่าข้าไม่ซื่อสัตย์ เพียงแต่พวกเราเผ่าจิ้งจอกสวรรค์จะฝากชะตากรรมทั้งหมดไว้กับเผ่ามนุษย์ไม่ได้!”
เทียนเม่ยเอ๋อร์ได้ยินเช่นนี้ก็ไม่หวั่นไหวแต่อย่างใด นางเพียงหลุบตาเพื่อรอคอยคำสั่งต่อไปของลู่หยวน!
เหลิ่งเหยียนไม่ทราบว่าการตัดสินใจในวันนี้จะทำให้ตระกูลของเขา รวมถึงอีกสี่ตระกูลที่ตามเข้าไปในค่ายกลจะกลายเป็นห้าตระกูลล่างแห่งเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ เมื่อเทียบห้าตระกูลบนที่นำโดยโฉวโยว พวกเขาจึงแตกต่างกันราวเมฆาและโคลนตม!
…
นอกจากเผ่ามังกรเกล็ดแล้ว ลู่หยวนก็ได้สอบถามข้อมูลจนเข้าใจการเคลื่อนไหวของเผ่าจิ้งจอกสวรรค์เช่นกัน
เขาทราบว่ามีจิ้งจอกสวรรค์บางส่วนไม่เต็มใจที่จะเข้าไป
ลู่หยวนยิ้มหยัน เผ่าจิ้งจอกสวรรค์บางส่วนก็โง่เขลาจนถึงขั้นไม่ต้องการวาสนาที่ให้เปล่า
ทว่า มันไม่สำคัญ ถึงอย่างไรก็มีเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ในค่ายกลมากพอที่จะแบ่งพลังให้แล้ว!
ทันทีที่คิดเช่นนี้ ลู่หยวนก็มองกู้ชิงหรันก่อนจะพยักหน้าแล้วขยับมือเพื่อสร้างผนึก
กู้ชิงหรันเข้าใจเช่นกันว่าลู่หยวนหมายความอย่างไร นางจึงกระตุ้นอัสนีสวรรค์ที่ยังคงอยู่ในท้องนภาเพื่อปล่อยให้พลังของมันจมเข้าสู่ค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่า!
‘ครืน!’
สายฟ้าฟาดเข้าใส่ค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่า หลังจากนั้นพลังทั้งหมดจะหลั่งไหลเข้าไปในค่ายกลดังกล่าว!
‘วิ้ง!’
เสียงระฆังก้องกังวานไปทั่วฟ้าดิน แล้วค่ายกลโลหิตที่เดิมหมุนไปมาก็ถูกบังคับให้หยุดนิ่งด้วยพลังของอสนีสวรรค์!
จักรพรรดิจูอั้นซึ่งถูกพันธนาการเอาไว้รู้สึกได้ทันทีว่าพลังในร่างใกล้จะเป็นอิสระเต็มที ทำให้เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเขากำลังจะเป็นอิสระ ค่ายกลในท้องนภาก็เริ่มเคลื่อนถอยหลัง แล้วพลังที่แก่กล้ายิ่งกว่าก็ตรงเข้ากำราบทันที พลังนั้นเข้าควบคุมจักรพรรดิจูอั้นจนสิ้น!
ในตอนนี้ ไม่เพียงจักรพรรดิจูอั้นเท่านั้น แต่จักรพรรดิหู่เซียวและจักรพรรดินาคาทะยานก็สัมผัสได้ว่าพลังของพวกเขาเริ่มหายไปจนอยู่ในระดับที่ต่ำมาก
ราวกับมีบางสิ่งที่ไม่รู้จักลอยอยู่เพื่อดึงพลังที่เป็นของพวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว!
ขณะพลังถูกพรากไป พวกเขาก็สัมผัสได้ว่าชีวิตกำลังจะถูกพรากเช่นกัน!
จักรพรรดิทั้งสามพยายามสุดความสามารถเพื่อเป็นอิสระ แต่ทุกอย่างก็เปล่าประโยชน์!
ลู่หยวนทิ้งเครื่องหมายไว้กับนาคาทะยานกับหู่เซียว เครื่องหมายดังกล่าวตั้งอยู่ในค่ายกลย่อยของค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่า ทำให้พวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้!
แม้จักรพรรดิจูอั้นจะไม่โดนปลูกถ่ายค่ายกล แต่เขาก็ถูกขังเอาไว้ในค่ายกลจนไม่สามารถหนีรอดไปได้!
เมื่อเห็นว่าทุกสิ่งของจักรพรรดิทั้งสามกำลังจะหายไป พลังผนึกในมือของลู่หยวนก็สงบลงในทันที!
พวกเทียนเม่ยเอ๋อร์อยู่ที่นั่นแล้ว
ทันใดนั้น หนวดนับไม่ถ้วนในท้องนภาก็พลันขยับเขยื้อน แล้วแรงกดดันจากการโจมตีอันหนักหน่วงก็ถูกสะกดเอาไว้ในพื้นที่ที่ถูกปกคลุมอยู่ใต้เงาดังกล่าว!
เทียนเม่ยเอ๋อร์และสิ่งมีชีวิตอื่นที่เข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวต่างถูกพันธนาการได้ในหนึ่งอึดใจ!
ในตอนนี้ หนวดก็เคลื่อนลงมาแล้วแทรกเข้าไปในร่างของคนเหล่านี้แล้ว!
เทียนเม่ยเอ๋อร์รู้สึกเจ็บที่คอ แล้วกลิ่นอายอันแรงกล้าก็มาจากบริเวณดังกล่าว!
กลิ่นอายนี้เต็มไปด้วยกลิ่นโลหิตฉุนจนทำให้รู้สึกคลื่นไส้ แต่นางถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนาจนไม่สามารถขัดขืนได้!
สมาชิกเผ่าจิ้งจอกสวรรค์นับไม่ถ้วนต่างก็ตกตะลึง พวกเขาสิ้นหวังจากการถูกหนวดทะลวง
หนวดเหล่านั้นเพิ่งสังหารสิ่งมีชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งพวกเขาเห็นมากับตา!
ตอนนี้หนวดเคลื่อนลงมาหาพวกเขาแล้ว ความตายกำลังใกล้เข้ามา!
เหลิ่งเหยียนนำกองกำลังของตนเองออกไปนอกเงาของค่ายกล พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก!
โชคดีที่เขาไม่ได้พาใครเข้าไป หาไม่แล้วพวกเขาก็ต้องตายเช่นกัน!
หากเป็นเช่นนี้ก็จะไม่มีเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ในแผ่นดินหยวนหงอีกต่อไป!
บัดนี้เป็นเพียงความโล่งอกชั่วครู่เท่านั้น ต่อให้พวกเทียนเม่ยเอ๋อร์ตาย พวกเขาก็จะฟื้นคืนชีพ แล้วเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ก็จะยังคงอยู่ได้เพราะเขา!
‘วิ้ง!’
แสงสีแดงสาดส่องมาจากด้านบนเงาของค่ายกล!
หนวดนับไม่ถ้วนที่ถูกสอดเข้าไปในจิ้งจอกสวรรค์เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน
นอกรูหนอนดังกล่าว สิ่งที่ปูดโปนอยู่ที่ส่วนปลายถูกส่งผ่านหนวดเหล่านั้นเข้าสู่ร่างของสมาชิกเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ทีละคน!
ทุกคนที่ได้รับพลังดังกล่าวต่างตัวแข็งทื่อ
เมื่อทุกสิ่งถูกส่งเรียบร้อยแล้ว หนวดเหล่านั้นก็จากไป
ค่ายกลและรูหนอนทั้งหมดในท้องนภาพลันสลายหายไป
ถ้าไม่ใช่เพราะศพของเผ่าพันธุ์ทั้งหลายที่ถูกดูดจนแห้งกองอยู่ทั่วพื้น ก็คงไม่มีใครทราบถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นมาก่อน!
——————————-