ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 493 อำนาจกระบี่สลาย จิ้งจอกสวรรค์มลาย

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 493 อำนาจกระบี่สลาย จิ้งจอกสวรรค์มลาย

บทที่ 493 อำนาจกระบี่สลาย จิ้งจอกสวรรค์มลาย

อำนาจของง้าวถูกกวาดออกไปทันทีขณะกระทบเข้ากับอำนาจของกระบี่!

ลู่หยวนถือง้าวด้วยมือทั้งสอง แล้วคลื่นอันคลุ้มคลั่งเคลื่อนตัวขณะกำราบอำนาจหมื่นกระบี่!

ตอนนี้กู้ชิงหรันเหลือบมองด้านข้าง ดวงตาปราศจากสีดำหมองหม่น หลังจากได้รับพลังอำนาจ นางกำลังจะทำการสังหาร!

เพียงสองก้าว ร่างของกู้ชิงหรันก็พลันหยุดนิ่ง

อำนาจกระบี่รอบข้างเริ่มสั่นไหว แสงสีขาวภายในดวงตาเริ่มสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง

ดวงตาในส่วนสีดำพลันปรากฏ!

อำนาจกระบี่ถูกกวาดล้างในทันที

ร่างของกู้ชิงหรันพลันอ่อนแรง ลู่หยวนผู้หูไวตาไวก็รับร่างหญิงสาวงดงามไว้ในอ้อมแขน

คิ้วของกู้ชิงหรันสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะผล็อยหลับไป

ลู่หยวนมองอย่างละเอียดก่อนจะพบว่าพละกำลังของอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นไม่น้อย!

อัตราการเติบโตนี้เทียบเท่ากับลู่หยวน

คนอื่นส่วนใหญ่อาศัยเวลานี้ปรับตัวขณะปีนขึ้นจากหลุมทีละคน

ลู่หยวนเหลือบมองก่อนจะพาทุกคนไปที่เผ่าพยัคฆ์เมฆา

ตอนนี้ทั่วทั้งดินแดนนาคาทะยานพังทลาย จึงไม่สามารถอาศัยอยู่ได้

ลู่หยวนทำได้เพียงเปลี่ยนสถานที่ชั่วคราว หลังออกจากดินแดนลับแล้ว เขาจำเป็นต้องย่อยบางสิ่งที่อยู่ภายในเช่นกัน

กู้ชิงหรันเองก็จำเป็นต้องพักผ่อน

พวกฉินอี่หานจำเป็นต้องปรับตัวยิ่งกว่า ภายใต้อำนาจกระบี่เมื่อครู่ แทบทุกคนต่างได้รับบาดเจ็บ

เมื่อพวกลู่หยวนตั้งรกรากอยู่ในเผ่าพยัคฆ์เมฆาแล้ว ดินแดนของจิ้งจอกสวรรค์ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตกตะลึง!

ดินแดนจิ้งจอกสวรรค์ในตอนนี้!

ซู่เฟิงผู้หายตัวไปพักใหญ่กลับมาที่นี่อีกครั้ง เขานั่งบนแท่นเมฆาขณะมองสรรพสิ่งทั้งหลาย พร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏในดวงตา

แต่ใต้แท่นดังกล่าวมีโลหิตทุกหนแห่งทอดยาวออกไปหลายร้อยหมี่

เหลิ่งเหยียนผู้อยู่ด้านล่างเต็มไปด้วยโลหิตขณะถือดาบใหญ่ไว้มั่น ร่างกายของเขาสั่นเทาพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำเล็กน้อย

ข้างกายเขา คือเหล่าจิ้งจอกสวรรค์นับร้อยที่กองอยู่บนพื้น พวกเขาล้วนเต็มไปด้วยโลหิตและไร้ชีวิต!

พวกเขาส่วนใหญ่เป็นพี่น้องที่ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน แต่วันนี้ทุกคนล้วนถูกพรากชีวิตด้วยเงื้อมมือของอีกฝ่าย!

ทว่าหัวใจของเหลิ่งเหยียนหาได้หวั่นไหวไม่!

เขาส่ายหน้าเล็กน้อยขณะระงับอารมณ์ทั้งหมดเอาไว้!

ผู้นำของสองตระกูลที่อพยพมากับซู่เฟิงมองโลหิตบนร่างของเหลิ่งเหยียนพลางแย้มยิ้ม

พวกเขายืนอยู่ด้วยกันขณะที่เผยสีหน้าเย้ยหยันเล็กน้อย

“เขาแสร้งทำเป็นทนไม่ได้อย่างนั้นหรือ? ตอนลงมือครั้งแรก เขาแทงทีละคนด้วยมือที่มั่นคงมาก”

“จุ๊จุ๊จุ๊ สมกับเป็นแม่ทัพเหลิ่งเหยียน พูดตามตรง ต่อให้ข้าลงมือก็คงไม่สามารถลงมือได้นิ่งขนาดนั้นได้! ไม่สงสัยว่าเหตุใดจักรพรรดิถึงยืนกรานจะโน้มน้าวเขาให้ได้ ก่อนจะประกาศแผนการลงมือ!”

หนึ่งในพวกเขาลดเสียงลง “เหอะ ถ้าสามารถโน้มน้าวเขาได้ เหตุใดถึงไม่พึ่งพาพวกเราให้ช่วยเล่า? หากเขาไม่ถูกต้อนเข้าสู่สถานการณ์สิ้นหวังก็อาจจะไม่อพยพมาอยู่กับจักรพรรดิก็ได้!”

เสียงของอีกคนกลับต่ำยิ่งกว่า “ทว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเขา พวกเราคงได้รับมรดกไปแล้ว!”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!”

เหลิ่งเหยียนย่อมได้ยินคำพูดเหล่านี้ แต่เขาไม่สนใจมากนัก

เขาหันหลังกลับไม่ได้และเลือกเส้นทางอื่นไม่ได้!

เหลิ่งเหยียนเงยหน้าก่อนจะพบว่านอกแอ่งโลหิตดังกล่าว ที่มีผู้คนจำนวนมากกำลังถือดาบเพื่อต่อต้านเขา

ทว่าจำนวนที่สังหารไปเมื่อครู่ก็เพียงพอแล้ว

อาวุธวิเศษรูปทรงขวดที่ลอยอยู่ข้างกายเก็บรวบรวมวิญญาณของเหล่าจิ้งจอกสวรรค์ที่ตายไปแล้วเพื่อใช้เปิดคฤหาสน์จิ้งจอกโลหิตในภายภาคหน้า!

ด้วยเหตุนี้ก็ไม่จำเป็นต้องสังหารอีก

เหลิ่งเหยียนกวาดดาบยาวออกไป “ผู้ที่ยอมจำนนต่อจักรพรรดิจะมีชีวิตรอด!”

ขณะเขาเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทุกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามต่างสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

หลังจากผ่านไปหลายอึดใจก็มีคนแรกทิ้งอาวุธเพื่อบ่งบอกว่ากำลังจะยอมจำนน

คนที่เหลือครุ่นคิดสักพักก่อนจะวางอาวุธทั้งหมดในมือ

เหลิ่งเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน ในที่สุดก็ไม่ต้องฆ่าอีกแล้ว

ก่อนเขาจะทันได้ผ่อนคลายก็เห็นร่างหนึ่งทะยานออกจากข้างกายเพื่อตรงเข้าหาฝูงชนที่วางอาวุธ!

จากนั้นเลือดเนื้อกระจัดกระจายทุกหนแห่งท่ามกลางแสงและเงาของกระบี่

เพียงพริบตา ผู้คนนับร้อยซึ่งรวมตัวกันล้มลงทีละคน!

เพียงไม่กี่อึดใจ นอกจากร่างร่างหนึ่งแล้ว ทุกคนก็ล้มลงในแอ่งโลหิตโดยปราศจากชีวิตอีกต่อไป!

“เจ้าทำอะไร?!”

เหลิ่งเหยียนตะโกนเสียงดัง!

ร่างที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือซู่เฟิง!

เหลิ่งเหยียนไม่เข้าใจว่าซู่เฟิงทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร คนเหล่านั้นยอมจำนนแล้ว แต่อีกฝ่ายยังลงมือสังหารอีกหรือ?!

นี่ยังไม่นับเรื่องที่สุดท้ายคนเหล่านี้ยังเป็นเผ่าเดียวกัน

ซึ่งหลังจากนั้น พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับพวกเทียนเม่ยเอ๋อร์อีก แม้จะทำการเปิดคฤหาสน์จิ้งจอกโลหิตเพื่อให้วิญญาณชั่วร้ายที่อยู่ภายในออกมาสังหารหมู่พวกนางก็ตาม

ทว่าสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายเหล่านี้ทำได้เพียงสังหารผู้คนเท่านั้น!

ตอนนี้เหลือเหล่าจิ้งจอกสวรรค์บางส่วนเท่านั้น ถึงกระนั้นอีกฝ่ายก็ยังจะลงมือสังหารอีกหรือ?

แล้วภายภาคหน้าใครจะเป็นผู้สร้างรากฐานขึ้นมา?!

หรือว่าซู่เฟิงเตรียมที่จะใช้กำลังสังหารเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่และความหวาดกลัวให้เป็นที่ประจักษ์?!

ซู่เฟิงไม่เก็บมาคิดจริงจัง เขาถึงขั้นแย้มยิ้มเมื่อเห็นสายตาเกรี้ยวกราดเล็กน้อยของเหลิ่งเหยียน

เขาอ้าปากแล้วเอ่ยคำอย่างเย็นชา “เหลิ่งเหยียน ภายใต้สถานการณ์ตอนนี้ ข้าจะไม่มีวันเชื่อใจใครที่ยอมจำนนอย่างแน่นอน แม้วันนี้พวกเขาจะยอมจำนน แต่วันพรุ่งนี้ก็อาจจะยอมจำนนต่อผู้อื่นก็ได้!”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ คิ้วของซู่เฟิงก็คลายออกขณะที่จิตสังหารแผ่ออกมาส่งไปถึงผู้คนที่อยู่โดยรอบ

“เจ้าต้องจำไว้ว่านับตั้งแต่มาอยู่ข้างข้า เทียนเม่ยเอ๋อร์ย่อมไม่มีทางปล่อยไปอย่างแน่นอน!”

“หากข้าพ่ายแพ้ สิ่งที่รอคอยพวกเจ้าอยู่คือความตาย!”

“แต่ถ้าข้าชนะ ผลประโยชน์ย่อมตกเป็นของพวกเจ้า!”

จิ้งจอกสวรรค์ที่อพยพมาอยู่กับซู่เฟิงในตอนนี้ต่างถืออาวุธไว้ในมือขณะตะโกนเสียงดัง “ติดตามจักรพรรดิ! เป็นตายไม่หวั่น!”

คลื่นเสียงตะโกนดังก้องไปทั่วฟ้าดิน

ซู่เฟิงยื่นมือขวาไปสัมผัสเล็กน้อย แล้วเสียงอึกทึกก็หยุดลงทันที

“แม่ทัพเหลิ่งเหยียน เรื่องปล่อยวิญญาณชั่วร้ายก็ฝากเจ้าด้วยแล้วกัน”

ซู่เฟิงยิ่งแย้มยิ้ม

เหลิ่งเหยียนเงียบไปสักพัก แต่ก็ยังถือขวดที่รวบรวมวิญญาณไว้ในมือ จากนั้นเดินไปที่มุมหนึ่งของดินแดนจิ้งจอกสวรรค์

ซู่เฟิงบอกตำแหน่งและวิธีเปิดของคฤหาสน์จิ้งจอกโลหิตให้เหลิ่งเหยียนทราบแล้ว

ขอเพียงเหลิ่งเหยียนเปิดคฤหาสน์จิ้งจอกโลหิตตามที่บอกก็พอแล้ว

ส่วนสาเหตุที่ต้องให้อีกฝ่ายทำก็เพราะการเปิดคฤหาสน์ดังกล่าวค่อนข้างอันตราย

ซู่เฟิงย่อมไม่เต็มใจที่จะรับความเสี่ยงนี้ ซึ่งท่ามกลางแม่ทัพทั้งหลาย ต้องยอมรับว่าเหลิ่งเหยียนคือผู้แข็งแกร่งที่สุดอย่าง ดังนั้นเขาจึงเป็นคนเหมาะสมที่สุด!

ในตอนนี้ พวกเทียนเม่ยเอ๋อร์ก็มาถึงนอกดินแดนจิ้งจอกสวรรค์แล้ว

ทางออกเดิมของดินแดนดังกล่าวถูกผนึกบางอย่างปิดกั้นเอาไว้แล้ว

เทียนเม่ยเอ๋อร์เพียงเข้าใกล้ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เป็นของซู่เฟิง!

ผนึกนี้น่าจะถูกติดตั้งโดยซู่เฟิง!

ซู่เฟิงกลับมาแล้วหรือ?!

เทียนเม่ยเอ๋อร์หรี่ตาขณะครุ่นคิดสักพัก

จากนั้นนางเอ่ยคำกับแม่ทัพคนอื่น “ลองมองรอบข้างเพื่อหาทางเข้าอื่นกัน!”

เทียนเม่ยเอ๋อร์ซุกซนตั้งแต่ยังเด็กจนรู้ทางเข้าดินแดนของตัวเองทุกซอกทุกมุม ซึ่งหนึ่งในนั้นนางก็เป็นคนสร้างมากับมือ!

————————————-

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท