บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน – บทที่ 412 เพื่อคว้าชัยชนะ

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บทที่ 412 เพื่อคว้าชัยชนะ

บทที่ 412 เพื่อคว้าชัยชนะ

กระจกแห่งการแลกเปลี่ยนถือเป็นสมบัติที่น่าอัศจรรย์และพิเศษ วิธีการใช้กระจกบานนั้นก็เรียบง่ายยิ่ง มันสามารถแสดงภาพทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดยิบ

แม้ผู้ครอบครองกระจกแห่งการแลกเปลี่ยนจะอยู่ห่างออกไปร้อยล้านลี้ คนผู้นั้นก็ยังสามารถเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ผ่านกระจกราวกับว่าอยู่ที่นี่

ริ้วแสงไหลผ่าน เด็กในกระจกแห่งการแลกเปลี่ยนมองเห็นเฉินซีอย่างชัดเจนจึงตกตะลึงเล็กน้อย เขาเบิกตากว้างในขณะที่ใบหน้าเล็กและอ่อนเยาว์เผยให้เห็นร่องรอยความสะดุ้งตกใจ

คิ้วของเขาดำสนิท มีรูปทรงเหมือนกระบี่ ดวงตาดำขลับเผยความใสซื่อ รูปร่างหน้าตาสดใสและหล่อเหลา ท่าทางตกใจที่เขาเผยออกมานั้นคล้ายกับเฉินซีที่กำลังตกตะลึงอย่างมาก

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนยิ่งมั่นใจในการคาดเดาของพวกเขา และในจังหวะหนึ่งก็ถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก

“เขา… เขา…” เฉินซีงงงวยจนสมองตื้อ รูปร่างหน้าตาของเด็กคนนี้คล้ายกับเขาอย่างยิ่ง และเมื่อเห็นเด็กผู้นี้ ก็รู้สึกราวกับว่ากำลังเห็นตัวเองในร่างเด็ก มันช่างคุ้นเคยเสียเหลือเกิน

ทว่าเมื่อชายหนุ่มสบตากับเด็กคนนี้และเห็นความประหลาดใจบนใบหน้าของอีกฝ่าย หัวใจของเขาก็เจ็บปวดรวดร้าวอย่างไร้เหตุผล ราวกับมวลความรู้สึกอันซับซ้อนกำลังพรั่งพรูออกมา มีทั้งความสุข ความตกตะลึง ความงุนงง… ปะปนกันจนยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด

ฟิ้ว!

ชิงซิ่วอี้เก็บกระจกแห่งการแลกเปลี่ยนพลางกล่าวโดยไม่ใส่อารมณ์ “ย่อมใช่ เขาคือลูกชายของข้า”

“ไม่! เขาควรจะเป็นลูกชายของข้า!” เฉินซีพลันฟื้นจากความรู้สึกซับซ้อนและพูดออกมาอย่างตื่นเต้น เพราะการปรากฏตัวของเด็กผู้นี้ ความสุขุมในก้นบึ้งของหัวใจของเขาจึงถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง

ชิงซิ่วอี้จ้องมองเฉินซีและเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “ข้ายอมรับว่าเจ้าพูดถูก แต่ตราบใดที่เจ้าดับสูญ เขาก็จะเป็นลูกของข้าเพียงผู้เดียวและจะไม่เกี่ยวข้องกับใครอื่น”

ทั่วทั้งร่างของเฉินซีสั่นสะท้านพร้อมกับสีหน้ามึนงงเมื่อเขาได้ยินชิงซิ่วอี้ยอมรับว่า เด็กคนนั้นคือคนในสายเลือดของเขา ความรู้สึกปรีดา ตื่นเต้น และเหลือเชื่อก็ผุดขึ้นมา ‘ข้าก็มีลูกชายจริง ๆ หรือ?!’

ไม่ใช่แค่เฉินซีเท่านั้น เมื่อพวกเขาได้ยินชิงซิ่วอี้ยอมรับว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของนางกับเฉินซี ผู้คนรวมถึงผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีต่างมึนงงและตกใจสุดขีด

ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า ภาพอันน่าตกตะลึงเช่นนี้จะเกิดขึ้นจริงในระหว่างศึกครั้งสุดท้ายของการชุมนุมดาวรุ่ง โดยเฉพาะชิงซิ่วอี้ผู้สูงส่งราวกับหญิงพรหมจรรย์แห่งสรวงสวรรค์ในหัวใจของผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์นับไม่ถ้วน จะมีลูกกับเฉินซีแล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้นลูกของพวกเขามีอายุประมาณสี่ห้าขวบแล้ว

ความจริงนี้ช่างไร้เหตุผล โหดร้าย และทำให้หัวใจของชายหนุ่มนับไม่ถ้วนแตกเป็นเสี่ยง ๆ แม้แต่ผู้บ่มเพาะที่น่าเกรงขามยังไม่อาจเชื่อสายตาของตนเอง

“ไม่ใช่ว่าเขาเป็นอริกับชิงซิ่วอี้หรอกหรือ เหตุใดจึง…” ดวงตาของเจิ้นหลิวชิงเบิกกว้างคล้ายกับจานรองขณะที่ใบหน้าอันสวยบริสุทธิ์ของนางแฝงไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน

การแสดงออกของย่าชิงและหญิงสาวคนอื่นก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก พวกนางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเฉินซีจะเลือกชิงซิ่วอี้เป็นคู่ชีวิตและยังมีบุตรกันอีกด้วย

ในอีกด้านหนึ่ง นักพรตเต๋าหลงเหอ บรรพชนแห่งนิกายกระเรียนพิสุทธิ์โกรธเกรี้ยวจนใบหน้าดำคล้ำเครียด เขากัดฟันในขณะที่ใบหน้ากระตุกอย่างรุนแรง ‘ศิษย์ที่ข้าภาคภูมิใจที่สุดมีลูกกับคนที่ข้าไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการสังหาร! ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังเพิ่งมารู้เอาป่านนี้!’

“เงื่อนไขของเจ้าคือข้าต้องปลิดชีพตัวเองหากข้าพ่ายแพ้หรือ?” บนสนาม เฉินซีสูดหายใจเข้าพลางฝืนระงับความรู้สึกซับซ้อนในใจก่อนกล่าวอย่างช้า ๆ “แล้วถ้าข้าชนะเล่า?”

ชิงซิ่วอี้ขมวดคิ้วพลางกล่าว “โอกาสที่เจ้าจะชนะนั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ฉะนั้นข้าจึงไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเจ้า”

“หรือพูดอีกอย่างได้ว่า ข้าสามารถตกลงกับเงื่อนไขของเจ้าได้ แต่เจ้าต้องตกลงกับเงื่อนไขของข้าหากเจ้าพ่ายแพ้” เฉินซีกล่าวต่อ

คิ้วของชิงซิ่วอี้ขมวดแน่นขึ้น ดูเหมือนนางจะไม่เข้าใจว่าเฉินซีนำความมั่นใจที่จะเอาชนะมาจากไหน นางเงียบไปนานก่อนที่จะเอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะ เชิญบอกมา”

เฉินซีหายใจเข้าลึก แต่ละคำที่กล่าวออกมาแสดงความเคร่งขรึม “เอาลูกข้าคืนมาหากข้าชนะ!” ดูเหมือนเสียงของเขาจะถูกเค้นออกมาจากระหว่างฟันที่กัดแน่น มันช่างแน่วแน่ยิ่งนัก!

แม้จะเพิ่งทราบว่าเขามีลูกชายอยู่ในโลกแห่งนี้และเพิ่งได้เห็นหน้าเจ้าตัวเล็กเป็นครั้งแรกเมื่อสักครู่นี้ เฉินซีก็ไม่อาจปล่อยให้ลูกรักของตัวเองไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของเขาได้เด็ดขาด!

เขายอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อนำลูกชายของตนกลับคืนมา

เนื่องจากเลือดแห่งตระกูลเฉินไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเจ้าตัวน้อยคนนี้ ดังนั้นจึงไม่มีวันที่เขาจะปล่อยให้เด็กคนนี้จากตนไปได้!

“เจ้าไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วใช่หรือไม่? ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต” ดวงตาของชิงซิ่วอี้ลึกลับจนไม่อาจหยั่งรู้ความคิดที่แท้จริงในจิตใจได้

เฉินซีผงกศีรษะพลางกล่าว “ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดชังข้า แต่ไม่มีเหตุสมควรที่จะนำเด็กมาสร้างความกดดันให้แก่ข้า ไม่ต้องพูดถึงว่าประเด็นนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว…”

“หุบปาก!” เสียงของชิงซิ่วอี้พลันเย็นยะเยือก “หากเจ้าอยากได้อันเอ๋อร์ก็หยุดพล่ามซะ!”

“เขามีชื่อว่าอันเอ๋อร์สินะ เฉินอัน เฉินอัน…” เฉินซีพึมพำกับตัวเอง ท่าทีของเขาเริ่มแน่วแน่ ต่อให้ไม่ใช่เพื่อเป็นอันดับหนึ่งในการชุมนุมดาวรุ่ง วันนี้เขาก็จะได้รับชัยชนะ!

ถูกต้อง ชัยชนะ

ไม่มีช่วงเวลาใดในชีวิตที่ทำให้เฉินซีโหยหาชัยชนะมากเยี่ยงนี้ ทั้งหมดนี้เกิดจากลูกรักของเขาที่ไม่เคยพบเจอมานานนับหลายปี!

ด้วยความคิดอันแน่วแน่และไม่หวั่นไหว จิตใจของเขาสงบลง กลายเป็นความบริสุทธิ์ว่างเปล่าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในสายตานั้นมีเพียงเป้าหมายเดียว นั่นก็คือชนะการต่อสู้ครั้งนี้!

ชิงซิ่วอี้ถึงกับแน่นิ่ง เห็นได้ชัดว่านางไม่เคยคาดคิดว่าจิตใจของเฉินซีจะฟื้นฟูได้เร็วเช่นนี้ ไม่เพียงเท่านั้น มันกลับมั่นคงและสงบยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

เคร้ง!

“มาเริ่มกันเถอะ!” เฉินซีถือยันต์ศัสตราเอาไว้ในมือขณะยืนอย่างสงบนิ่ง ทั้งร่างกายของเขาปลดปล่อยเจตจำนงกระบี่อันบริสุทธิ์และดุดันออกมา ห้วงมิติโดยรอบพลันแตกสลาย ในจังหวะนี้เฉินซีดูราวกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการปลดปล่อยจากการถูกผนึกไว้ใต้ผงธุลีมาเป็นเวลาหลายปี และกำลังเป็นการบอกกล่าวกับทุกคนบนโลกว่าความแน่วแน่ที่ไม่อาจหยุดได้นั้นเป็นอย่างไร!

“ในเมื่อเจ้าอดทนรอความตายไม่ไหว ข้าก็จะทำให้เจ้าสมหวัง” ชิงซิ่วอี้ส่ายศีรษะ เสื้อผ้าของนางปลิวไสวไปตามสายลม ลำแสงแห่งสวรรค์พวยพุ่งออกมาจากร่างของนางในขณะที่เต๋ารู้แจ้งแห่งแสงอันไร้ที่สิ้นสุดแผ่ขยายอย่างรุนแรง เข้าปกคลุมทั่วทั้งสังเวียนประลองในทันที

หัวใจของผู้คนที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้นเต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเห็นภาพนี้ ปากของพวกเขาแห้งผากขณะที่สายตาจดจ้องด้วยความสนใจ เนื่องจากเกรงกลัวอย่างยิ่งที่จะพลาดฉากที่สุดแสนจะสำคัญ

นี่คือศึกระหว่างสองรุ่นเยาว์แห่งราชวงศ์ซ่งที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายชายและฝ่ายหญิงที่ผสมผสานความรักและความเกลียดชัง!

ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ การต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งแผ่นดินซ่งภายในข้ามคืน และจะกลายเป็นตำนานนิรันดร์ เป็นเทพนิยายที่อยู่ยงคงกระพัน!

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

Status: Ongoing
เกิดมาถูกตราหน้าเป็นตัวซวยประจำเมือง แต่พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมตัวไว้ ข้าเฉินซีผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าก้มหัวศิโรราบภายใต้มหาเต๋ายันต์อักขระที่ข้าสร้าง!รายละเอียด เรื่องย่อ เฉินซี เด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา ‘ตัวซวยสุดขีด’ ประจำเมืองสนหมอก เขาคือผู่ที่ไม่ว่าเดินไปทางใดก็มีแต่ชาวบ้านหลีกทางให้เนื่องจากกลัวติดความโชคร้าย ยามเมื่อกำเนิดลืมตาดูโลกตระกูลเฉินของเขาที่เคยยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองสนหมอกถูกสังหารหมู่ตายไปนับพันจนเหลือคนแค่เพียงหยิบมือ จากนั้นไม่นานต่อมาบิดาและมารดาหายสาปสูญ ถัดมาเมื่อเติบโตจนรู้ความ สัญญามั่นหมายถูกฉีกต่อหน้าผู้คนทั้งนคร เหตุใดชีวิตข้าจึงเป็นเช่นนี้? หรือสวรรค์เกลียดชังเคียดข้า? ทว่าใยไม่ลงโทษข้าเพียงผู้เดียวแต่กลับดลบรรดาลให้เกิดหายนะแก่ผู้คนรอบข้างข้าด้วย ไม่ยุติธรรม! ข้าไม่ยินยอม! คอยดูเถิดสวรรค์ ข้าจะบรรลุเต๋ายันต์สาปส่งเจ้า ข้าจะทำลายผู้คนที่ย่ำยีตระกูลข้าให้สิ้น ข้าจะทำให้สรรพสิ่งทั้งสามโลกก้มกราบกรานข้า ประสานเสียงแซ่ซ้องเทิดทูนข้า ‘มหาจักรพรรดิอักขระยันต์’ นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามเฉินซี ผู้ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ไม่อาจบ่มเพราะได้เฉกเช่นผู้คนทั่วไปแต่ต้องศึกษาวิชาเขียนยันต์อักขระ เพื่อขายประทังชีพให้แก่ครอบครัว ทว่าในยามดิ้นรนนั้นมันกลัยทำให้เขารู้แจ้งพื้นฐานในแขนงยันต์ยิ่งกว่าผู้ใดในเมืองซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขากลับกลายเป็นมหาจักรพรรดิยันต์ผู้อยู่เหนือสามโลกเก้าสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท