บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน – บทที่ 418 สระมังกรแปลงผุดขึ้นสู่โลก

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บทที่ 418 สระมังกรแปลงผุดขึ้นสู่โลก

บทที่ 418 สระมังกรแปลงผุดขึ้นสู่โลก

ในช่วงเวลาอันสั้น แม่ทัพใหญ่พาเฉินซีและคนอื่น ๆ ไปยังห้องโถง ซึ่งพวกเขาก็ดึงดูดสายตาของบรรดาผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีทันที

“ฝ่าบาท พวกเขาได้เลือกกระบวนยุทธ์ระดับเต๋าเรียบร้อยแล้ว เราเปิดสระมังกรแปลงได้เลยพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพใหญ่โค้งคำนับขณะที่เฉินซี ชิงซิ่วอี้ และจ้าวชิงเหอยืนรอรับคำสั่งอยู่ทางด้านหลัง

บนบัลลังก์ที่มีมังกรเก้าตัวประดับอยู่ จักรพรรดิซ่งเผยให้เห็นรอยยิ้มอันหาดูได้ยาก พลางกล่าวอย่างชัดเจนว่า “เอาล่ะ รออยู่ตรงนี้ ข้าจะเปิดสระมังกรแปลงให้กับพวกเจ้าเป็นการส่วนตัว!”

แม้ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีจะทราบมานานแล้ว ทว่าเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง ๆ ก็ยังรู้สึกริษยาอยู่ในใจ และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการเข้าร่วม

ตามที่คาดคะเนไว้ สระมังกรแปลงนั้นถูกสร้างขึ้นภายในเส้นชีพจรมังกรใต้นครหลวงธารสายไหม เป็นแหล่งรวมชะตากรรมของทั้งราชวงศ์ซ่ง เมื่อผู้บ่มเพาะทำการบ่มเพาะอยู่ภายในนั้น พวกเขาสามารถดูดซับแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรและได้รับประโยชน์อันเหลือเชื่อมา!

เวลาผ่านไปนับพันปีแล้วตั้งแต่ที่สระมังกรแปลงเปิดครั้งสุดท้าย ดังนั้นเมื่อสระโบราณที่มีแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรจำนวนมหาศาลแห่งนี้กำลังจะเปิดและปรากฏสู่โลกอีกครั้งในวันนี้ ผู้คนจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง

การได้เข้าสู่สระแห่งนี้เพื่อบ่มเพาะนั้นถือเป็นเกียรติสูงสุดและเป็นสิริมงคลยิ่ง การเผชิญกับเหตุการณ์โดยบังเอิญเยี่ยงนี้เป็นสิ่งที่มีเพียงหนึ่งครั้งในทุก ๆ สองสามพันปี ดังนั้นจะมีใครบ้างที่ไม่รู้สึกประทับใจ?

“เสวียนซวิ่น ลงมือ” จักรพรรดิซ่งพลันกล่าวขึ้น เสียงก้องกังวานดังขึ้นสู่ท้องนภา

“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ” ร่างมายาสูงตระหง่านพลันปรากฏอยู่บนท้องฟ้าเหนือนครหลวงธารสายไหม ร่างสูงราวกับหุบเขาอันใหญ่โต มีปราณเซียนปกคลุมกาย อีกทั้งยังปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง เขาคือวิญญาณสมบัติแห่งพระราชวังธารสายไหม!

“หืม? นั่นมัน…”

“วิญญาณสมบัติ! หรือว่าสระมังกรแปลงกำลังจะเปิด?”

“สระมังกรแปลงที่ถูกปิดผนึกมานานนับพันปีและถูกควบแน่นเป็นเส้นเลือดมังกรทั่วทั้งแผ่นดินซ่ง กำลังจะผุดขึ้นมาบนโลกอีกครั้งในตอนนี้หรือ?”

เมื่อพวกเขาเห็นร่างของเสวียนซวิ่นซึ่งปรากฏเป็นวิญญาณสมบัติอันสูงตระหง่าน เสียงอึกทึกทั่วทั้งนครหลวงธารสายไหมก็พลันเกิดขึ้น สายตาของทุกคนเผยความตื่นเต้นและเคารพ

เสวียนซวิ่นยืนอย่างสง่าผ่าเผยอยู่บนท้องนภา มือของเขาดูราวกับกำลังโอบกอดโลก ปราณเซียนรอบกายพลุ่งพล่าน ทันใดนั้นเขาก็สร้างผนึกอันล้ำลึกนับไม่ถ้วนขึ้นมา

โครม!

ลำแสงศักดิ์สิทธิ์อันแพรวพราวส่องประกายไปทั่วทั้งนครหลวงธารสายไหม ลำแสงดุจเสาค้ำฟ้าทิ่มแทงเข้าไปในหมู่เมฆ จากนั้นเสียงคำรามของมังกรจำนวนมหาศาลก็พลันปรากฏขึ้น สั่นสะเทือนไปทั่วสวรรค์และปฐพีขณะที่แสงสีทองส่องสว่างไปทั่วทั้งโลกา

ในจังหวะนี้ นครหลวงธารสายไหมสาดส่องไปด้วยลำแสงศักดิ์สิทธิ์ สายฟ้าฟาดที่ประสานกันคลื่นแห่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และเสียงคำรามของมังกรที่สั่นสะเทือนราวกับพายุ เกิดภาพมังกรขนาดมหึมาจำนวนเหลือคณานับบินวนเวียนอยู่ใต้ท้องฟ้า เสียงคำรามอันดุดันดังก้องไปทั่วสารทิศจนกระทั่งท้องนภาสั่นสะท้าน

“ปราณมังกรกำลังขึ้นรูป! ในที่สุดสระมังกรแปลงก็กำลังจะปรากฏขึ้นแล้ว!” ดวงตาของเหล่าตัวตนอาวุโสเบิกกว้างพลางจ้องมองด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดูท่าว่าพวกเขาจะระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ถูกผนึกไว้ในความทรงจำมานานหลายปี

โฮก! โฮก! โฮก!

เสียงคำรามของเหล่ามังกรที่ทำให้หัวใจสั่นคลอนพลุ่งพล่านออกมา ขณะที่มังกรทั้งเก้าตัวควบแน่นเป็นรูปเป็นร่าง ทะยานไปรอบ ๆ สระน้ำโบราณที่มีขนาดมหึมาซึ่งลอยอยู่กลางอากาศเหนือนครหลวงธารสายไหม

บรรดามังกรทั้งเก้าตัวนี้เปล่งแสงสีทองวูบวาบ แผ่อำนาจแห่งมังกรอันไร้ขอบเขต พวกมันเหมือนกับบรรพชนของทุกสรรพสิ่ง ทันทีที่ปรากฏกายก็ทำให้หัวใจของผู้คนแห่งนครหลวงธารสายไหมเกิดความเลื่อมใส และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการคุกเข่าสักการะ

ในทางกลับกัน เหล่าสัตว์วิญญาณ สัตว์ที่โบยบิน และอสูรต่างหวาดกลัวจนตัวสั่นจนถึงขั้นต้องหมอบลงกับพื้น

หวืด!

สระโบราณซึ่งล้อมรอบด้วยมังกรทั้งเก้าตัวนั้นมีขนาดใหญ่โตมโหฬารราวกับทวีปโบราณที่ล่องลอยอยู่ มันมีสีดำสนิทและมืดสลัว เปล่งกลิ่นอายโบราณและลี้ลับ ขณะที่ภายในสระนั้นมีของเหลวสีทองพลุ่งพล่านดั่งคลื่น ควบแน่นจนเป็นไข่มุกสีทองที่ฝังแน่นทุกเม็ด ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายที่กว้างใหญ่ของมังกรได้แผ่กระจายไปทั่วหล้านภาลัย

นี่คือสระมังกรแปลงที่ของเหลวสีทองอุดมไปด้วยแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกร มันสร้างขึ้นจากเส้นเลือดมังกรใต้ปฐพีซึ่งไม่อาจประเมินค่าได้!

เพราะตามคำร่ำลือนั้น เพียงหนึ่งหยดของแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรก็เปรียบได้กับสมบัติวิเศษระดับสวรรค์แล้ว มันเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งโลกาที่ไม่อาจประเมินค่าได้ ต้องมีโชคเท่านั้นถึงจะได้รับแก่นแท้นี้มา

“ในที่สุดสระมังกรแปลงก็ปรากฏขึ้น…” ขณะที่จ้องมองไปยังสระโบราณอันกว้างใหญ่ซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ ผู้คนในนครหลวงธารสายไหมไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นไว้ได้ ความปรารถนาอันไร้ขอบเขตเผยออกมาผ่านแววตาของพวกเขา

สำหรับผู้บ่มเพาะนั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสมบัติที่ช่วยในการบ่มเพาะได้ ยิ่งไปกว่านั้น แก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรยังเป็นที่สุดแห่งสมบัติล้ำค่า มีสรรพคุณอันน่าอัศจรรย์และยอดเยี่ยมสำหรับผู้บ่มเพาะ ดังนั้นจึงไม่มีใครสงบสติอารมณ์ได้เมื่อเผชิญหน้ากับมัน แม้แต่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีก็ไม่เว้น

“สระมังกรแปลงได้เปิดออกแล้ว ณ บัดนี้ พวกเจ้าทั้งสิบคน ตามข้ามา” จักรพรรดิซ่งยืนขึ้น แสงสีทองทั้งสิบดวงพวยพุ่งออกมาหลังจากที่เขาโบกมือ แสงนั้นปกคลุมเฉินซีและคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นสิบอันดับแรกในการชุมนุมดาวรุ่ง

ฟิ้ว!

หลังจากที่มิติฉีกขาด จักรพรรดิซ่ง เฉินซี และคนอื่น ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนท้องนภาเหนือสระมังกรแปลง

“หากยิ่งสามารถบ่มเพาะในสระมังกรแปลงได้นานเท่าไร ก็จะยิ่งได้รับผลประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น จงจำไว้ว่า พวกเจ้าทั้งสิบคนจะต้องคว้าโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้อย่างคุ้มค่าและใส่ให้สุดแรง แต่ว่าพวกเจ้าห้ามบรรลุสู่ขอบเขตจุติโดยเด็ดขาด!” จักรพรรดิซ่งกวาดตามองเฉินซีและคนอื่น ๆ พลางออกคำสั่งก่อนจะโบกมืออย่างไม่แยแส “ไปเสีย นี่เป็นลาภอันประเสริฐ พวกเจ้าจะได้รับประโยชน์ขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของพวกเจ้าเอง”

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ ฝ่าบาท!” ดวงตาของผู้บ่มเพาะทั้งสิบคนฉายแววกระตือรือร้น ก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปยังสระมังกรแปลงโดยไม่ลังเล ท่ามกลางสายตาริษยาของผู้คนนับไม่ถ้วน

“เหอะ น่าอิจฉาเสียจริง ข้าสงสัยว่าพวกเขาจะยังฝืนอยู่ในสระมังกรแปลงได้นานเท่าไรกันเชียว?”

“อย่าอิจฉาไปเลย หากไม่มีพละกำลังระดับนั้น การเข้าไปในสระมังกรแปลงมีแต่จะเป็นอันตรายต่อตัวเจ้าเอง ครั้งหนึ่งข้าเคยได้ยินมาว่าแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรนั้นสุดแสนจะอันตรายและคงไว้ได้ยาก หากไม่มีการบ่มเพาะที่น่าเกรงขามและดวงจิตแห่งเต๋าเป็นที่พึ่งพา เส้นลมปราณและรากฐานแห่งเต๋าของผู้นั้นจะถูกแก่นแท้บดขยี้จนแตกเป็นเสี่ยง ๆ และอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน”

“ถูกต้อง นั่นเป็นเพราะแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรนั้นดุดันเกินกว่าที่จะรับไหว ยิ่งผู้ใดคงอยู่และบ่มเพาะอยู่ภายในนั้นนานเท่าใด รากฐาน พลังใจ ดวงจิตแห่งเต๋า และการบ่มเพาะของผู้นั้นย่อมหนาแน่นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเท่านั้น”

“ตามคำเล่าขานที่บรรพชนของข้าเล่าสืบต่อกันมา หลายปีที่ผ่านมานั้น มีผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ใช้เวลายืนหยัดอยู่ในสระมังกรแปลงนานที่สุดถึงห้าวันเต็ม ไม่มีผู้ใดสามารถทำลายสถิตินี้ได้จนถึงทุกวันนี้”

ผู้คนในนครหลวงธารสายไหมมองดูสระมังกรแปลงที่อยู่กลางเวหาด้วยความริษยา ขณะสนทนากันอย่างแผ่วเบาและต่างสงสัยว่าเฉินซีและคนอื่น ๆ จะทนอยู่ได้กี่วัน

“พี่ใหญ่ย่าชิง มีอันตรายขณะบ่มเพาะในสระมังกรแปลงด้วยหรือ?” เมื่อนางได้ยินบทสนทนารอบตัว อวิ๋นน่าอดไม่ได้ที่จะซักถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และไม่เพียงแค่นางเท่านั้น เหยียนเยียน ตู้ชิงซี และคนอื่น ๆ ก็สงสัยเช่นกัน

“แก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรคือพลังแก่นแท้สสารแห่งโลกา ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการมีอยู่สูงสุดท่ามกลางพลังงานต่าง ๆ ในสวรรค์และปฐพีไม่แพ้กับปราณเซียนเลยแม้แต่น้อย” ย่าชิงมาจากหอขุมทรัพย์สวรรค์ นางเป็นผู้รอบรู้และทราบเกี่ยวกับเรื่องราวตำนานที่น่าอัศจรรย์มากมาย ดังนั้นจึงรู้จักแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรโดยไม่ต้องสงสัย นางค่อย ๆ กล่าวว่า “นอกจากนั้น ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าทุกคนทราบดีว่ายิ่งพลังแก่นแท้สสารแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากที่จะดูดซับและขัดเกลามากขึ้นเท่านั้น สำหรับเฉินซีและคนอื่น ๆ การขัดเกลาแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรนั้นถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง”

เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ ย่าชิงกวาดสายตามองทุกคนพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเจ้าทุกคนไม่ต้องกังวลไป ฝ่าบาทอยู่ที่นี่ในวันนี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย อย่างมากที่สุดก็คงจะไม่อาจต้านทานไหวและได้รับการช่วยเหลือ”

“เป็นอย่างนี้นี่เอง” อวิ๋นน่าและคนอื่น ๆ เข้าใจแจ่มแจ้ง ทว่าพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะซักถามต่อไป “แล้วผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่เพียงใดที่การขัดเกลาแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรมอบให้?”

“มีมากมายจนข้าไม่อาจอธิบายได้หมดทุกอย่าง ตัวอย่างเช่นในตอนนี้ เฉินซีและคนอื่น ๆ อยู่เพียงขอบเขตแกนทองคำเท่านั้น เมื่อพวกเขาขัดเกลาและดูดซับแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องหาปราณดาราหยินหยางแห่งโลกาอีกต่อไปเมื่อก้าวสู่ขอบเขตจุติ ก่อนที่จะสามารถควบแน่นกงล้อสังสารวัฏในท้องทะเลแห่งลมปราณของพวกเขา เพราะอย่างไรแล้ว แก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรนั้นได้บรรจุปราณดาราหยินหยางอันน่าตกตะลึงยิ่งนักไว้ภายใน”

“และมียิ่งแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรที่ถูกขัดเกลาและดูดกลืนมากเท่าไหร่ในขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง คุณภาพของกงล้อสังสารวัฏที่ควบแน่นออกมาจะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อันมากล้นต่อผู้บ่มเพาะในวันข้างหน้า”

“มีผลประโยชน์เยี่ยงนี้จริง ๆ หรือ?” เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ แม้แต่นักพรตเต๋าเหวินเสวี่ยนยังขนลุก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าแก่นแท้ต้นกำเนิดมังกรนั้นมีฤทธิ์เดชอันน่ามหัศจรรย์เยี่ยงนี้

การควบแน่นกงล้อสังสารวัฏคือช่วงเวลาการแปลงกายสำหรับผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติ การครอบครองกงล้อสังสารวัฏนั้นจึงเท่ากับการเปิดส่วนที่เหลือของแก่นวิญญาณ ฉะนั้นตราบใดที่กงล้อสังสารวัฏยังคงอยู่ในสภาพดี แม้กายหยาบจะสลายหายไป ทว่าก็ยังสามารถคว้าร่างกายของผู้อื่นเพื่อจุติได้!

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

Status: Ongoing
เกิดมาถูกตราหน้าเป็นตัวซวยประจำเมือง แต่พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมตัวไว้ ข้าเฉินซีผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าก้มหัวศิโรราบภายใต้มหาเต๋ายันต์อักขระที่ข้าสร้าง!รายละเอียด เรื่องย่อ เฉินซี เด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา ‘ตัวซวยสุดขีด’ ประจำเมืองสนหมอก เขาคือผู่ที่ไม่ว่าเดินไปทางใดก็มีแต่ชาวบ้านหลีกทางให้เนื่องจากกลัวติดความโชคร้าย ยามเมื่อกำเนิดลืมตาดูโลกตระกูลเฉินของเขาที่เคยยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองสนหมอกถูกสังหารหมู่ตายไปนับพันจนเหลือคนแค่เพียงหยิบมือ จากนั้นไม่นานต่อมาบิดาและมารดาหายสาปสูญ ถัดมาเมื่อเติบโตจนรู้ความ สัญญามั่นหมายถูกฉีกต่อหน้าผู้คนทั้งนคร เหตุใดชีวิตข้าจึงเป็นเช่นนี้? หรือสวรรค์เกลียดชังเคียดข้า? ทว่าใยไม่ลงโทษข้าเพียงผู้เดียวแต่กลับดลบรรดาลให้เกิดหายนะแก่ผู้คนรอบข้างข้าด้วย ไม่ยุติธรรม! ข้าไม่ยินยอม! คอยดูเถิดสวรรค์ ข้าจะบรรลุเต๋ายันต์สาปส่งเจ้า ข้าจะทำลายผู้คนที่ย่ำยีตระกูลข้าให้สิ้น ข้าจะทำให้สรรพสิ่งทั้งสามโลกก้มกราบกรานข้า ประสานเสียงแซ่ซ้องเทิดทูนข้า ‘มหาจักรพรรดิอักขระยันต์’ นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามเฉินซี ผู้ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ไม่อาจบ่มเพราะได้เฉกเช่นผู้คนทั่วไปแต่ต้องศึกษาวิชาเขียนยันต์อักขระ เพื่อขายประทังชีพให้แก่ครอบครัว ทว่าในยามดิ้นรนนั้นมันกลัยทำให้เขารู้แจ้งพื้นฐานในแขนงยันต์ยิ่งกว่าผู้ใดในเมืองซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขากลับกลายเป็นมหาจักรพรรดิยันต์ผู้อยู่เหนือสามโลกเก้าสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท