บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน – บทที่ 665 น้ำศักดิ์สิทธิ์จากน้ำพุยมโลก

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บทที่ 665 น้ำศักดิ์สิทธิ์จากน้ำพุยมโลก

บทที่ 665 น้ำศักดิ์สิทธิ์จากน้ำพุยมโลก

เหวเงาทมิฬนั้นกว้างใหญ่ไพศาล และมันถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศและแสงที่แปลกประหลาด ความประมาทเลินเล่อเพียงเล็กน้อย อาจทำให้หลงทางและหาทางกลับไม่ได้

เว้นแต่จะมีสมบัติวิเศษหรือมีความรู้เกี่ยวกับเหวเงาทมิฬ ก็คงไม่มีใครกล้าเข้ามาที่นี่โดยพลการ เพราะเหวเงาทมิฬเต็มไปด้วยสถานที่ลึกลับและไม่อาจคาดเดา มันเต็มไปด้วยอันตรายและเสี่ยงที่จะหลงทาง ซึ่งการเดินทางแบบไร้ทิศทางจนอาจเสียชีวิตก็ไม่คุ้มค่าเลยสักนิด

แต่เฉินซีมีหม้อใบจิ๋วคอยนำทาง ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลว่าจะหลงทาง

ฟุ่บ!

ปีกกำราบผกผันกระพือขณะที่เฉินซีทะยานออกจากอาณาจักรเร้นลับเงาทมิฬเหมือนลำแสง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนทิศทางไปมา และผ่านสถานที่แปลกประหลาดอันมิอาจคาดเดามากมาย ชายหนุ่มเปลี่ยนเส้นทางหลายต่อหลายครั้ง ราวกับว่าเขาหลุดเข้าไปในเขาวงกตขนาดใหญ่

ถ้าไม่ใช่เพราะคำแนะนำของหม้อใบจิ๋ว เขาคงเกือบจะคิดว่าตนเองมาผิดทางเสียแล้ว

“ผู้อาวุโส ผนึกแก้วศักดิ์สิทธิ์โกลาหลถูกซ่อนอยู่ที่ใดกันหรือ?” เฉินซีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม

“ตามที่ข้าคาดเดา มันน่าจะอยู่ที่ดินแดนรังสรรค์กระบี่และซุกซ่อนอยู่ภายในด่านแห่งความลึกล้ำ” หม้อใบจิ๋วไม่ได้เงียบอีกต่อไป และดูจะตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพเหล่านั้น

“ด่านแห่งความลึกล้ำ?”

เฉินซีตกตะลึง เพราะเขาไม่เคยคาดคิดว่าสถานที่ลึกลับในตำนานจะมีอยู่จริง! ว่ากันว่ามันมีสมบัติลับที่น่าอัศจรรย์ถูกซ่อนอยู่ภายในนั้น หรือว่ามันจะเป็นผนึกแก้วศักดิ์สิทธิ์โกลาหล?

สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือตามที่หม้อใบจิ๋วกล่าวมา ด่านแห่งความลึกล้ำนั้นไม่แน่นอนและยากที่จะเสาะหา และที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือมันซุกซ่อนอยู่ภายในดินแดนรังสรรค์กระบี่!

ตัวเขาเองก็ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่า หากมีคนรู้เรื่องนี้เข้า มันจะต้องเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม มหาสมุทรก็ปรากฏขึ้นในระยะสายตาของเฉินซี ซึ่งสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือมหาสมุทรแห่งนี้ลอยอยู่กลางอากาศ และเป็นโลกแห่งน้ำทั้งหมด

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความชื่นชมในใจ เพราะนี่เป็นเหมือนทวยเทพผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีพลังเหนือธรรมชาติ ได้วางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไว้บนท้องฟ้า

“ระวัง! นี่คือน้ำจากน้ำพุยมโลก หากถูกมันแม้เพียงหยดเดียว สติก็จะถูกกลืนกิน เลือด เนื้อและกระดูกจะถูกละลาย ทำให้กลายเป็นวิญญาณที่ขาดสติสัมปชัญญะ!” หม้อใบจิ๋วโพล่งขึ้นมา

“น้ำจากน้ำพุยมโลก?” เฉินซีตกตะลึง และใช้จิตสัมผัสเทพตรวจสอบน้ำในบริเวณนั้นอย่างระมัดระวัง เขาจึงได้พบว่า มหาสมุทรได้เปล่งกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของยมโลก ซึ่งเย็นทิ่มแทงถึงกระดูกและผิดปกติเป็นอย่างมากออกมา

หลังจากนั้น รอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเฉินซี

“น้ำจากน้ำพุยมโลกหรือ? ตัวข้าได้หยั่งถึงมหาเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาและการลืมเลือน ซึ่งเป็นเต๋ารู้แจ้งขั้นสูงสุดของยมโลก น้ำจากน้ำพุยมโลกนี้ย่อมไม่อาจทำร้ายข้าได้แม้แต่น้อย”

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ในขณะนั้นเอง จู่ ๆ ร่างสองร่างก็พุ่งทะยานมาจากระยะไกล และพวกเขาก็มาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว

ร่างทั้งสองนี้มีทั้งสูงและเตี้ย อ้วนและผอม เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาจากนิกายเดียวกัน เพราะมีการแต่งกายที่คล้ายกัน และกลิ่นอายของพวกเขาก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง

เมื่อเห็นเฉินซียืนอยู่ที่หน้ามหาสมุทรที่ก่อตัวจากน้ำพุยมโลกเพียงลำพัง ทั้งคู่ก็ผงะเล็กน้อย และต่างแสดงท่าทีระวังตัวออกมาทันที

เฉินซีเกาจมูกขณะหันกลับมา และชายหนุ่มเข้าใจปฏิกิิริยาของคนทั้งสอง เพราะตราบใดที่คนแปลกหน้าเผชิญกันในเหวเงาทมิฬ การต่อสู้ที่รุนแรงก็อาจจะเกิดขึ้นได้

ในหมู่ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่มาถึงเหวเงาทมิฬในครั้งนี้ ย่อมไม่ขาดแคลนคนที่โหดเหี้ยมและเลวทราม คนเหล่านี้ไม่คิดที่จะสำรวจดินแดนเร้นลับ แต่ตั้งใจที่จะคอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของคนอื่น และคนเหล่านี้มักซ่อนตัวอยู่ในเงามืด คอยลอบทำร้ายและปล้นชิงผลประโยชน์ของคนอื่น ทั้งน่ารังเกียจและโหดเหี้ยมยิ่งนัก!

เมื่อเห็นว่าเฉินซีหันกลับมาและไม่แสดงท่าทีเป็นปรปักษ์ สีหน้าของคนทั้งสองจึงผ่อนคลายลง

ชายร่างผอมมองไปยังมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง และอดไม่ได้ที่กล่าวเบา ๆ ออกมา “มหาสมุทรแห่งน้ำพุยมโลก เป็นที่แห่งนี้จริง ๆ เราต้องข้ามมหาสมุทรนี้ไปเท่านั้น จึงจะไปถึงผู้สร้างได้…”

ชายร่างอ้วนที่อยู่อีกฝั่ง พลันกระแอมไอขัดจังหวะขึ้นมา “เป็นเรื่องดีที่เจ้ารู้ว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่ ดังนั้นหยุดทำเรื่องไร้สาระ แล้วไปกันเถอะ!”

หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและพุ่งไปยังมหาสมุทรแห่งน้ำพุยมโลก แล้วพวกเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว

“ผู้อาวุโส หรือว่าดินแดนรังสรรค์กระบี่จะอยู่ที่อีกฝั่งของมหาสมุทรแห่งน้ำพุยมโลก?” เฉินซีนั้นหูไวมาก เขาจึงจับบทสนทนาระหว่างคนทั้งสองได้ทันที ชายหนุ่มจึงเอ่ยถามหม้อใบจิ๋วด้วยความประหลาดใจ

“ถูกต้อง” มันตอบ

“ดูเหมือนว่าจะมีคนจำนวนมากมุ่งหน้าไปที่นั่นแล้ว” เฉินซีพึมพำอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พุ่งไปยังมหาสมุทรแห่งน้ำพุยมโลกโดยไม่ลังเลอีกต่อไป

ฟุ่บ!

ในระหว่างทาง เฉินซีรู้สึกเบื่อหน่าย เขาจึงยื่นมือออกไปและปลดปล่อยพลังใส่มหาสมุทรเบื้องล่าง จากนั้นก็คว้าก้อนน้ำพุยมโลกขึ้นมา

“มันช่างหนักยิ่งนัก!” ทันทีที่คว้ามันไว้ในมือ เฉินซีก็รู้สึกว่าแขนของเขาหนักอึ้ง ทำให้ชายหนุ่มจำต้องปล่อยมือ ด้วยน้ำเพียงหยดเดียวจากน้ำพุยมโลก กลับมีน้ำหนักไม่น้อยกว่าหมื่นจิน ยิ่งกว่านั้น เมื่อเขาคว้ามันเอาไว้ในมือ มันก็เริ่มกัดกร่อนเนื้อหนัง แต่เพราะเขาเตรียมตัวป้องกันมาตั้งแต่เนิ่น ๆ เฉินซีจึงเริ่มโคจรเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตา และสยบน้ำพุยมโลกในมือทันที

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจะมีปัญหาในการกักเก็บน้ำพุยมโลก เพราะมันมีพลังกัดกร่อนที่รุนแรงเกินไป ทำให้ภาชนะทั่วไปไม่อาจกักเก็บมันเอาไว้ได้โดยไม่สึกกร่อน

แม้แต่สมบัติวิเศษคลังสมบัติกึ่งอมตะก็ยังสึกกร่อนจนเสียหาย หลังจากที่ผ่านไปสักระยะหนึ่ง

“น้ำจากน้ำพุยมโลก สามารถนำมาใช้หลอมโอสถได้ อีกทั้งยังเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์อันดับต้น ๆ ของโลก มันสามารถชำระล้างสิ่งเจือปนในโอสถและเพิ่มคุณภาพของโอสถได้มากขึ้น นับตั้งแต่สมัยโบราณ มีผู้ยิ่งใหญ่มากมายใช้มันเพื่อหลอมโอสถ” หม้อใบจิ๋วกล่าวแนะนำ

“ข้าจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาปิดผนึกให้แก่เจ้า โดยสามารถกักเก็บน้ำพุยมโลกเอาไว้ได้ เจ้าจะได้เก็บมันไว้ใช้ในภายหลัง เพราะนอกจากแดนยมโลกแล้ว น้ำจากน้ำพุยมโลกสามารถพบได้ในเหวเงาทมิฬนี้เท่านั้น”

เฉินซีรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าน้ำจากน้ำพุยมโลกจะให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ และเขาก็นึกไม่ถึงว่าหม้อใบจิ๋วจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้กับตัวเขาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งเรื่องนี้อยู่เหนือความคาดหมายสำหรับชายหนุ่ม

“เคล็ดวิชานี้เรียกว่า ‘ผนึกมิติจองจำ’ ซึ่งหมายถึงการใช้มิติเพื่อทำหน้าที่เป็นคุก เอาล่ะ เจ้าจงฟังให้ดี…”

ภายในเวลาไม่นาน หม้อใบจิ๋วก็ถ่ายทอดเคล็ดวิชาที่ลึกล้ำเสร็จสิ้นและให้คำแนะนำบางอย่างแก่เฉินซี ทำให้เขาเข้าใจความลึกล้ำของมันในทันที พร้อมกับอุทานด้วยความชื่นชม

เคล็ดวิชาผนึกมิติจองจำนี้ไม่ใช่แค่เคล็ดวิชาปิดผนึกเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างที่หม้อใบจิ๋วกล่าว แต่มันสามารถเทียบได้กับศาสตร์เต๋าระดับสูงสุด ซึ่งทั้งลึกล้ำและยากหยั่งถึง อีกทั้งยังสามารถปิดผนึกและกักขังทุกสิ่งในโลกได้ ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ทำร้ายเป้าหมายแม้ว่าจะใช้กับศัตรูก็ตาม ทำให้มันทรงพลังเป็นอย่างมาก

ซึ่งแตกต่างจากศาสตร์เต๋ามหาพันธนาการและเคล็ดวิชาแสงแห่งการทำลายล้าง เคล็ดวิชาผนึกมิติจองจำส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการปิดผนึก ซึ่งเมื่อบ่มเพาะมันจนถึงระดับสูงสุด มันจะสามารถปิดผนึกการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาได้!

ฟุ่บ!

ในเวลาไม่นาน เฉินซีก็ลงมือ มือของเขาโบกไปมา และตักน้ำจากน้ำพุยมโลกขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นเขาก็ใช้เคล็ดวิชาผนึกมิติจองจำเพื่อปิดผนึก ก่อนที่จะโยนมันเข้าไปในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงทะยานไปข้างหน้าในขณะที่รวบรวมไปด้วย และในเวลาไม่ถึงหนึ่งเค่อ เฉินซีก็รวบรวมน้ำจากน้ำพุยมโลกได้มากมายมหาศาล

“เรามาถึงแล้ว!” หม้อใบจิ๋วเตือนทันที

เฉินซีตกตะลึงและหยุดสิ่งที่เขากำลังทำทันที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นว่ามีหลุมดำขนาดมหึมาลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือมหาสมุทรแห่งน้ำพุยมโลก

หลุมดำดูเหมือนจะลอยอยู่กลางอากาศ มันลึกจนดูไร้ก้นบึ้ง มีสีดำสนิท อีกทั้งยังปกคลุมไปด้วยเงาอันน่าสะพรึงกลัว ดูเหมือนประตูที่นำไปสู่ดินแดนลึกลับ!

“นั่นใช่ประตูที่นำไปสู่ดินแดนรังสรรค์กระบี่หรือไม่?”

จิตวิญญาณของเฉินซีเบิกบาน และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกคาดหวังในใจ เพราะเท่าที่เขารู้มา มรดกของสุดยอดผู้เยี่ยมยุทธ์ถูกซ่อนอยู่ภายในที่แห่งนี้ และตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ผู้ยิ่งใหญ่ของทั้งสามภพต่างถูกดึงดูดให้เข้ามาเพื่อค้นหามัน

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้รับมรดกเหล่านั้นมาจวบจนถึงปัจจุบัน ทำให้ที่แห่งนี้ลึกลับยิ่งขึ้นและเต็มไปด้วยสีสันของตำนานที่เล่าขาน

เฉินเองซีก็อยากรู้จริง ๆ ว่า มรดกที่สามารถสั่นคลอนหัวใจของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามภพนั้น จะมีอยู่จริงหรือไม่ และถ้ามันมีอยู่จริง มันจะน่าอัศจรรย์เพียงใด?

แต่เมื่อเขาตั้งใจจะก้าวเข้าไปใน ‘ประตู’ ที่มืดสนิท ทันใดนั้นชายหนุ่มก็สังเกตเห็นอะไรบางสิ่ง และสายตาของเขาก็ราวกับสายฟ้าฟาด จดจ้องไปยังด้านข้างอย่างรวดเร็ว!

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

Status: Ongoing
เกิดมาถูกตราหน้าเป็นตัวซวยประจำเมือง แต่พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมตัวไว้ ข้าเฉินซีผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าก้มหัวศิโรราบภายใต้มหาเต๋ายันต์อักขระที่ข้าสร้าง!รายละเอียด เรื่องย่อ เฉินซี เด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา ‘ตัวซวยสุดขีด’ ประจำเมืองสนหมอก เขาคือผู่ที่ไม่ว่าเดินไปทางใดก็มีแต่ชาวบ้านหลีกทางให้เนื่องจากกลัวติดความโชคร้าย ยามเมื่อกำเนิดลืมตาดูโลกตระกูลเฉินของเขาที่เคยยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองสนหมอกถูกสังหารหมู่ตายไปนับพันจนเหลือคนแค่เพียงหยิบมือ จากนั้นไม่นานต่อมาบิดาและมารดาหายสาปสูญ ถัดมาเมื่อเติบโตจนรู้ความ สัญญามั่นหมายถูกฉีกต่อหน้าผู้คนทั้งนคร เหตุใดชีวิตข้าจึงเป็นเช่นนี้? หรือสวรรค์เกลียดชังเคียดข้า? ทว่าใยไม่ลงโทษข้าเพียงผู้เดียวแต่กลับดลบรรดาลให้เกิดหายนะแก่ผู้คนรอบข้างข้าด้วย ไม่ยุติธรรม! ข้าไม่ยินยอม! คอยดูเถิดสวรรค์ ข้าจะบรรลุเต๋ายันต์สาปส่งเจ้า ข้าจะทำลายผู้คนที่ย่ำยีตระกูลข้าให้สิ้น ข้าจะทำให้สรรพสิ่งทั้งสามโลกก้มกราบกรานข้า ประสานเสียงแซ่ซ้องเทิดทูนข้า ‘มหาจักรพรรดิอักขระยันต์’ นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามเฉินซี ผู้ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ไม่อาจบ่มเพราะได้เฉกเช่นผู้คนทั่วไปแต่ต้องศึกษาวิชาเขียนยันต์อักขระ เพื่อขายประทังชีพให้แก่ครอบครัว ทว่าในยามดิ้นรนนั้นมันกลัยทำให้เขารู้แจ้งพื้นฐานในแขนงยันต์ยิ่งกว่าผู้ใดในเมืองซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขากลับกลายเป็นมหาจักรพรรดิยันต์ผู้อยู่เหนือสามโลกเก้าสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท