บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน – บทที่ 721 ทำให้ทั้งเมืองตกตะลึง

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บทที่ 721 ทำให้ทั้งเมืองตกตะลึง

บทที่ 721 ทำให้ทั้งเมืองตกตะลึง

ตราคำสั่งผลึกหยกดำนี้เป็นผลึกแก้วและเย็นเยียบโดยสมบูรณ์ มันส่องประกายแวววาว ดูโบราณและเรียบง่าย

ตามคำบอกเล่าของปรมาจารย์ยง ตราคำสั่งนี้เรียกว่า ‘ตราคำสั่งเก้าลึกล้ำ’ ซึ่งผู้ใดก็สามารถใช้มันเพื่อเข้าร่วมในงานครั้งใหญ่ของเต๋าแห่งการปรุงอาหาร ‘การจัดอันดับพ่อครัววิญญาณทองคำ’ ซึ่งจะจัดขึ้นในเมืองเทาเที่ย!

ในเวลานั้น พ่อครัววิญญาณชั้นหนึ่งทุกคนในแดนภวังค์ทมิฬจะเข้าร่วมเพื่อแสดงทักษะการทำอาหารของพวกเขา จากนั้นจึงตัดสินและจัดอันดับ ซึ่งพ่อครัววิญญาณที่ติดอันดับหนึ่งในสิบจะได้รับผลประโยชน์ที่แตกต่างกันไป

ในเวลานั้น เผ่าเทาเที่ยจะอัญเชิญ ‘กระทะเซียนเก้าลึกล้ำ’ ซึ่งเป็นสมบัติเทวะของเผ่าพวกเขา เพื่อมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับผู้ได้สามอันดับแรก!

เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า เผ่าเทาเที่ยอาจกล่าวได้ว่าเป็นเผ่าที่มีความรู้ด้านอาหารรสเลิศมากที่สุดในภพทั้งสาม พวกเขาไม่เพียงมีพละกำลังที่น่าเกรงขามเท่านั้น ศิษย์ของพวกเขายังเป็นพ่อครัววิญญาณที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

กองกำลังที่ไม่ธรรมดาบางแห่งมักจะแสดงความโปรดปรานและดูแลศิษย์ของเผ่าเทาเที่ยเป็นอย่างดี เพราะพวกเขาต้องการจะให้ศิษย์ของเผ่าเทาเที่ยปรุงอาหารที่ยอดเยี่ยมมากมาย เพื่อปรับปรุงผลประโยชน์ที่ศิษย์ของพวกเขาจะได้รับ

สถานะของพวกเขาจึงนับว่าพิเศษมาก จนเป็นที่ต้องการยิ่งกว่านักเล่นแร่แปรธาตุบางคนเสียอีก

ในขณะเดียวกัน กระทะเก้าเซียนล้ำลึกก็ถือเป็นสมบัติอมตะที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่ง และเป็นสมบัติเทวะที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคบรรพกาลของเผ่าเทาเที่ย ว่ากันว่าสมบัติชิ้นนี้เคยปรุงอาหารให้กับเทพเจ้าที่สั่นสะท้านทั้งสามภพมาแล้ว และเป็นสมบัติล้ำค่าที่หายากอย่างแน่นอน!

มันจึงพอจะจินตนาการได้ว่า ของขวัญที่ฟ้าประทานมาให้อย่างสมบัติอมตะชิ้นนี้จะน่าอัศจรรย์เพียงใด

ข้อกำหนดเพียงอย่างเดียวในการเข้าร่วมงานครั้งใหญ่นี้ก็คือ จะต้องมีตราคำสั่งเก้าลึกล้ำ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันคุณสมบัติและการรับรองในฐานะของพ่อครัววิญญาณที่ออกโดยเผ่าเทาเที่ย

เมืองหลีหั่วนั้นใหญ่โตและเต็มไปด้วยพ่อครัววิญญาณ แต่มีเพียงปรมาจารย์ยงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับตราคำสั่งเก้าลึกล้ำ

ดังนั้นเมื่อทุกคนเห็นว่า ชายชราตั้งใจจะมอบตราคำสั่งเก้าลึกล้ำนี้ให้แก่เฉินซีในตอนนี้ พ่อครัววิญญาณทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้นก็พลันตกใจและรู้สึกไม่เชื่อ

นี่ไม่ใช่แค่การชดเชยความผิดพลาด แต่เป็นการมอบโชคลาภครั้งใหญ่!

ทุกคนต่างจ้องมองไปที่เฉินซีด้วยความอิจฉาในทันที เพราะพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า ชายหนุ่มจะได้รับการยอมรับจากปรมาจารย์ยงเช่นนี้

ไม่ต้องกล่าวถึงพวกเขา แม้แต่เฉินซีเองก็ประหลาดใจอย่างมาก ถึงอย่างไร ทัศนคติของปรมาจารย์ยงที่มีต่อเขานั้นไม่ได้ให้เกียรติเลยแม้แต่น้อย ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับมอบสมบัติล้ำค่าให้แก่เขาจริง ๆ แล้วจะไม่ให้ชายหนุ่มแปลกใจได้อย่างไร?

“ท่านอาจารย์ นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรือขอรับ..” พ่อครัววิญญาณคนหนึ่งฝืนกัดฟันแน่นและกล่าวเสียงทุ้มต่ำออกมา

“อะไร? เจ้าสงสัยในการตัดสินใจของข้าหรือ?” ปรมาจารย์ยงตอบกลับ

พ่อครัววิญญาณคนนั้นรีบส่ายศีรษะ เขาเป็นศิษย์ที่ปรมาจารย์ยงเลี้ยงดูมาด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจะกล้าขัดการตัดสินใจของอาจารย์ได้อย่างไร?

ปรมาจารย์ยงมองไปที่เฉินซี ในขณะที่ใบหน้าซูบตอบของเขาปรากฏความเคร่งขรึมและจริงจัง “เฉินซี พรสวรรค์ในเต๋าแห่งการปรุงอาหารของเจ้านั้นสูงมาก จนข้าไม่เคยเห็นใครที่ทัดเทียมกับเจ้าได้เลยในตลอดชีวิตของข้า และมีไม่กี่คนในโลกที่สามารถเทียบเคียงกับเจ้าได้”

ชายชราหยุดชั่วขณะก่อนจะถอนหายใจ “ตัวข้านั้นแก่แล้ว และศิษย์ทั้งหมดที่ข้ารับมาก็ไร้ความสามารถ ความปรารถนาเดียวของข้าก็คือ การติดอันดับในการจัดอันดับพ่อครัววิญญาณทองคำ และข้าหวังเพียงว่าเจ้าจะสามารถเติมเต็มความปรารถนานี้ของข้าได้ ซึ่งนั่นจะถือว่าข้าติดหนี้เจ้าไปชั่วนิรันดร์”

พ่อครัววิญญาณทั้งหมดก้มหน้าลงด้วยความละอายใจ ถ้าให้ถามตัวเอง พวกเขาย่อมรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าเฉินซีในเต๋าแห่งการปรุงอาหารอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากได้เห็นเฉินซีกำลังปรุงธารสายรุ้ง ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งมากขึ้น

ทว่าชายหนุ่มกลับนิ่งเงียบ และในขณะที่เขามองไปที่ปรมาจารย์ยงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มพลันหวนนึกถึงบางสิ่งที่ผู้เฒ่าหม่าเคยสอนไว้ “เจ้าหนู หากเจ้ามีโอกาส จงเข้าร่วมการจัดอันดับพ่อครัววิญญาณที่จัดขึ้นในราชวงศ์ซ่งทุก ๆ สิบปี เช่นนั้นก็ถือว่าเติมเต็มความปรารถนาของข้าแล้ว…”

เฉินซีไม่เคยตระหนักถึงความปรารถนานี้ของผู้เฒ่าหม่า และเขามักจะรู้สึกผิดในใจ…

ปรมาจารย์ยงที่เขาได้พบเพียงครั้งเดียวกลับเสนอความต้องการที่คล้ายกันในตอนนี้ นอกจากจะทำให้เฉินซีมึนงงสับสนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ชายหนุ่มยังยอมรับคำขอนี้ในใจด้วย

ไม่ว่ามันจะเป็นเพราะความปรารถนาของผู้เฒ่าหม่าหรือความปรารถนาของปรมาจารย์ยง เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธในเวลานี้

หลังจากเห็นเฉินซีเก็บตราคำสั่งเก้าลึกล้ำไปแล้ว แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้กล่าวอะไรสักคำหรือรับปาก ปรมาจารย์ยงก็ยังคงยิ้มด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง

และแม้ผู้จัดการหวงจะรู้จักปรมาจารย์ยงมาหลายปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นปรมาจารย์ยงยิ้มอย่างมีความสุข

ที่ชั้นบนสุดของโรงเตี๊ยมเซียนระเริง ‘ปาฏิหาริย์เฉิดฉาย’ ถาดแล้วถาดถูกยกขึ้นมาและวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเด็ก ๆ จากเผ่านรกขุมที่เก้า

นี่เป็นความตั้งใจของปรมาจารย์ยง และเขาได้ละเว้นกฎประจำตัวเพื่อทำอาหารให้แก่เฉินซีและคนอื่น ๆ

สิ่งนี้ทำให้ลูกค้าทุกคนในโถงตกใจอย่างมาก เพราะพวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เฉินซีจะสามารถจัดการกับปรมาจารย์ยงที่ดื้อรั้น เพียงแค่เดินไปที่ห้องครัวในระยะเวลาสั้น ๆ!

ส่วนเฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม ขณะที่เขามองไปยังสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของพวกเด็ก ๆ จากนั้นเขาก็กล่าวเพียงว่า “เอาล่ะ กินกันก่อนเถอะ แล้วเราค่อยออกไปจากที่นี่”

ขณะที่กล่าว เขาก็ได้เปิดคู่มือแดนภวังค์ทมิฬ จากนั้นจึงเริ่มศึกษาแผนที่ระหว่างเมืองหลีหั่วกับนิกายกระบี่เก้าเรืองรองอย่างระมัดระวัง

เมืองหลีหั่วตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแดนภวังค์ทมิฬ ในขณะที่นิกายกระบี่เก้าเรืองรองตั้งอยู่ทางตอนเหนือ มันอยู่ห่างกันคนละโยชน์ และคงเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะเดินทางได้ถึงหนึ่งในสิบของระยะทางตลอดช่วงอายุขัย

แต่เฉินซีไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ และเขากำลังศึกษาเมืองเทาเที่ยแทน

เมืองนี้เป็นที่ตั้งของเผ่าเทาเที่ย ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งอาหารอันโอชะ และมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งแดนภวังค์ทมิฬ

ยิ่งกว่านั้น เมืองนี้ยังตั้งอยู่ระหว่างนิกายกระบี่เก้าเรืองรองและเมืองหลีหั่ว อีกทั้งเป็นเมืองที่น่าอัศจรรย์ที่สร้างขึ้นท่ามกลางทะเลเมฆ!

เนื่องจากตำหนักสำนึกสวรรค์เปิดประตูรับสมัครศิษย์เมื่อเร็ว ๆ นี้ จึงทำให้ทั่วทั้งเมืองคึกคักไปด้วยผู้คน เหล่าสาวงามมารวมตัวกันที่นี่ราวกับมวลเมฆบนท้องฟ้า ในขณะที่เหล่าศิษย์ที่โดดเด่นจากทั่วทุกสารทิศรีบเข้ามาด้วยความชื่นชม

และหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดบนท้องถนน ย่อมไม่พ้นเรื่องหญิงงาม!

สำนักหรือนิกายเล็ก ๆ บางแห่งได้รวบรวมข้อมูลและจัดทำ ‘คู่มือร้อยบุปผา’ โดยอ้างอิงจากหญิงงามทุกคนที่มายังเมืองหลีหั่วจากทั่วทุกสารทิศ โดยจัดอันดับตามรูปร่างหน้าตา พรสวรรค์ ชาติกำเนิด ลักษณะนิสัย และอื่น ๆ

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นงานที่ไร้ค่า แต่ก็มีหญิงงามนับไม่ถ้วนที่เป็นเหมือนดอกไม้บานสะพรั่ง และแต่ละคนก็มีจุดเด่นของตนเอง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหามาตรฐานที่สอดคล้องกันเพื่อจัดอันดับของพวกนาง

สิ่งนี้ทำให้เกิดการโต้เถียงอย่างรุนแรง และมันก็ดังก้องไปทั่วท้องถนนอยู่บ่อยครั้ง ผู้คนต่างแบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ พวกเขาพากันโกรธเกรี้ยวจนหน้าแดง และเกือบจะต่อสู้เพื่อเทพธิดาที่งดงามที่สุดในหัวใจของพวกเขา

หลังจากนั้น ท่ามกลางบรรยากาศอันคึกคักนี้ที่ล้อมรอบทั่วทั้งเมือง ข่าวที่น่าตกใจพลันแพร่สะพัดไปทั่วเมืองราวกับว่ามันมีปีกงอกออกมา “อัจฉริยะเฉินซีที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งหายตัวไปนานหลายเดือน จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาและสังหารเยี่ยนสือซานอย่างโกรธเกรี้ยวในโรงเตี๊ยมเซียนระเริง!

ข่าวครั้งใหญ่ดังกล่าวได้แพร่กระจายออกไปราวกับพายุ ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ใด บรรยากาศที่ครึกครื้นจะถูกแทนที่ด้วยความแปลกประหลาดและความเงียบสนิท

ในเวลาไม่นาน ความเงียบนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วเมือง และทั่วทั้งเมืองหลีหั่วก็ตกตะลึงจนกล่าวอะไรไม่ออกเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ

ทุกคนล้วนหยุดกล่าวถึงหญิงสาวที่บอบบาง งดงาม และน่ารัก จนหญิงสาวเหล่านั้นถึงกับแสดงสีหน้าตกตะลึงและตกใจจนกล่าวไม่ออก

…ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะข่าวนี้น่าตกใจเกินไป! ในช่วงไม่นานมานี้ ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเฉินซีได้ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากในโลกแห่งการบ่มเพาะ และแทบทุกคนต่างทราบดีว่า อัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้คนนั้นมาจากนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง!

ยิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์อันน่าตกใจที่เกิดขึ้นในเหวเงาทมิฬยังทำให้ชื่อของเฉินซีดูเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน และมันก็ได้สร้างเงาในใจให้กับผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวนมาก!

นอกจากนั้น ข่าวการหายตัวไปในเหวเงาทมิฬเมื่อก่อนหน้า ก็ได้ทำให้ทุกคนต่างสงสัยยิ่งว่า อัจฉริยะที่โดดเด่นและน่าทึ่งคนนั้นจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?

มาตอนนี้ ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่แพรวพราวเช่นนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลีหั่วจริง ๆ อีกทั้งยังสังหารเยี่ยนสือซาน คนคลั่งที่มีชื่อเสียงของนิกายวิถีกระแสสวรรค์ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว มันจึงเป็นดั่งเสียงฟ้าร้องที่ระเบิดข้างหูของพวกเขา และทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก!

หลังจากเงียบไปชั่วครู่ ทุกคนก็เริ่มไม่อาจยับยั้งความตื่นเต้นในใจของพวกเขาได้และพากันตื่นเต้น ขณะที่พวกเขาเริ่มกล่าวคุยเกี่ยวกับข่าวที่แพร่กระจายไปทั่วนี้

ในชั่วพริบตา แม้แต่หญิงสาวที่บอบบางและงดงามดั่งหยกก็ไม่มีใครสนใจ และบางคนถึงกับเริ่มพุ่งเข้าหาโรงเตี๊ยมเซียนระเริงด้วยความตั้งใจที่จะได้เห็นบุคลิกที่สง่างามของเฉินซี

ทว่าน่าเสียดายที่ชายหนุ่มได้จากไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทุกคนอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น โรงเตี๊ยมเซียนระเริงถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนมากมายจนแม้แต่หยดน้ำก็ไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้ ในขณะที่ผู้ดูแลที่เคยรับใช้เฉินซีและคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางความสนใจของทุกคนแทน

บางคนถึงกับเสนอค่าตอบแทนจำนวนมากเป็นสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ให้แก่ผู้ดูแลคนนั้น เพื่อเปิดเผยทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเตี๊ยมเซียนระเริง!

แน่นอนว่า ผู้ดูแลคนนั้นย่อมไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น และเรื่องตลกนี้จะสงบลงได้ ก็ต่อเมื่อผู้จัดการหวงออกมาจัดการเท่านั้น

สรุปแล้ว ทุกคนเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า จากวันนี้ไป ข่าวการปรากฏตัวในโลกอีกครั้งของเฉินซีจะแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมของแดนภวังค์ทมิฬด้วยความเร็วสูง และจะก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่

เฉินซีไม่ทราบว่ามีเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้น

ในขณะนี้ เขาได้ออกจากเมืองหลีหั่วกับเหมิงเหวยและคนอื่น ๆ ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองเทาเที่ย

พวกเขาเลือกที่จะไม่บิน แต่เลือกนั่งเกวียนที่ลากโดยสัตว์ร้ายแทน เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้พวกเด็ก ๆ จากนรกขุมที่เก้าได้ทำความเข้าใจต่อโลกนี้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ดังคำกล่าวที่ว่า อ่านหนังสือพันเล่มไม่สู้เดินทางพันลี้ แทนที่จะอธิบายมากเกินไป พวกเด็ก ๆ ควรไปสัมผัสด้วยตัวเองจะดีกว่า เพราะวิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด

ท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง เกวียนสิบคันที่ถูกลากโดยกวางกีบขาวห้อตะบึงเป็นระยะไกลภายใต้ดวงอาทิตย์สีแดงเลือดนก

ภายในเกวียน เฉินซีถือหนังสัตว์และกำลังศึกษาคัมภีร์กำเนิดเต๋าแห่งนรกขุมที่เก้าที่เขียนด้วยลายมือของเทพอสูร เคล็ดวิชาการบ่มเพาะกายานี้ที่สืบทอดมาจากเผ่าเทพอสูรในยุคบรรพกาล มันทั้งลึกซึ้งและคลุมเครืออย่างยิ่ง อีกทั้งต้นกำเนิดของมันก็เก่าแก่ยิ่งกว่าวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพของเขาเสียอีก

ถึงอย่างไร เคล็ดวิชาขัดเกลากายาก็ถูกบัญญัติขึ้นโดยเทพอสูรที่แท้จริง และคัมภีร์กำเนิดเต๋าแห่งนรกขุมที่เก้านั้นมาจากการสืบทอดของเทพอสูร ดังนั้นมันจึงถือได้ว่าเป็นเคล็ดวิชาขัดเกลากายาที่ถูกต้องที่สุด

ในขณะที่วิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพนั้นได้รับการบัญญัติโดยฝูซี ผู้เป็นปรมาจารย์แห่งเคหาบ่มเพาะ โดยยึดตามการทำงานของกลไกสวรรค์ และอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาขัดเกลากายาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภพทั้งสาม

หนึ่งในสองเคล็ดวิชาบ่มขัดเกลากายานี้มาจากแหล่งกำเนิดดั้งเดิม ในขณะที่อีกเคล็ดวิชาหนึ่งถูกสร้างขึ้นจากผลงานของบรรพชนรุ่นก่อน ดังนั้นเฉินซีจึงได้รับประโยชน์จากการอ้างอิงเคล็ดวิชาทั้งสองอย่างมาก และมันได้เปิดโลกทัศน์ของเขาให้กว้างขึ้น

สิ่งที่ทำให้เขาดีใจมากที่สุดก็คือ ชายหนุ่มได้ค้นพบวิธีที่จะทำให้การขัดเกลากายาของเขาบรรลุไปสู่ขอบเขตสถิตกายาจากคัมภีร์กำเนิดเต๋าแห่งนรกขุมที่เก้านี้!

วิธีนี้มาจาก ‘กำเนิดเต๋า’ ซึ่งอธิบายไว้ในเคล็ดวิชาการบ่มเพาะนี้!

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน

Status: Ongoing
เกิดมาถูกตราหน้าเป็นตัวซวยประจำเมือง แต่พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมตัวไว้ ข้าเฉินซีผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าก้มหัวศิโรราบภายใต้มหาเต๋ายันต์อักขระที่ข้าสร้าง!รายละเอียด เรื่องย่อ เฉินซี เด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา ‘ตัวซวยสุดขีด’ ประจำเมืองสนหมอก เขาคือผู่ที่ไม่ว่าเดินไปทางใดก็มีแต่ชาวบ้านหลีกทางให้เนื่องจากกลัวติดความโชคร้าย ยามเมื่อกำเนิดลืมตาดูโลกตระกูลเฉินของเขาที่เคยยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองสนหมอกถูกสังหารหมู่ตายไปนับพันจนเหลือคนแค่เพียงหยิบมือ จากนั้นไม่นานต่อมาบิดาและมารดาหายสาปสูญ ถัดมาเมื่อเติบโตจนรู้ความ สัญญามั่นหมายถูกฉีกต่อหน้าผู้คนทั้งนคร เหตุใดชีวิตข้าจึงเป็นเช่นนี้? หรือสวรรค์เกลียดชังเคียดข้า? ทว่าใยไม่ลงโทษข้าเพียงผู้เดียวแต่กลับดลบรรดาลให้เกิดหายนะแก่ผู้คนรอบข้างข้าด้วย ไม่ยุติธรรม! ข้าไม่ยินยอม! คอยดูเถิดสวรรค์ ข้าจะบรรลุเต๋ายันต์สาปส่งเจ้า ข้าจะทำลายผู้คนที่ย่ำยีตระกูลข้าให้สิ้น ข้าจะทำให้สรรพสิ่งทั้งสามโลกก้มกราบกรานข้า ประสานเสียงแซ่ซ้องเทิดทูนข้า ‘มหาจักรพรรดิอักขระยันต์’ นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มนามเฉินซี ผู้ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ไม่อาจบ่มเพราะได้เฉกเช่นผู้คนทั่วไปแต่ต้องศึกษาวิชาเขียนยันต์อักขระ เพื่อขายประทังชีพให้แก่ครอบครัว ทว่าในยามดิ้นรนนั้นมันกลัยทำให้เขารู้แจ้งพื้นฐานในแขนงยันต์ยิ่งกว่าผู้ใดในเมืองซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้เขากลับกลายเป็นมหาจักรพรรดิยันต์ผู้อยู่เหนือสามโลกเก้าสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท